บท
ตั้งค่า

5 นอนเกือบไม่หลับ

หลังจากบอกราตรีสวัสดิ์กับฮิวโก้ แอลลี่ก็ตรงเข้าห้องน้ำ เธอไม่คิดที่จะอาบน้ำตอนนี้ แค่ต้องการล้างหน้าล้างตาเพื่อความสดชื่น แต่พอเห็นสภาพตัวเองในกระจกก็แทบจะลมจับ ผมยุ่ง ตาบวม หน้ามันเยิ้ม ดูไม่ได้เลยสักนิด แล้วเธอปล่อยให้เขาเห็นเธอในสภาพนี้เนี่ยนะ นึกอยากจะมุดดินหนีเพราะทำใจไม่ได้

พอล้างหน้าล้างตาเสร็จก็เปลี่ยนเสื้อผ้า โชคดีที่เสื้อเขาตัวใหญ่กว่าเธอมากและเนื้อผ้าก็ทิ้งตัวเลยก้นของเธอลงมาพอดี เลยดูเหมือนว่ากำลังใส่ชุดนอน เธอพับเสื้อยืดและแจ็กเก็ตของตัวเองวางไว้บนชั้นวางของข้างเคาน์เตอร์ เสร็จแล้วก็ออกมาด้านนอก คลานขึ้นเตียงอย่างหมดแรง สัมผัสเย็นเฉียบของผ้าปูที่นอนทำให้ขนลุกชันในตอนแรก แต่ก็เปลี่ยนเป็นอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว เธอจึงเข้าใจแล้วว่าทำไมคนถึงนิยมผ้าปูที่นอนซาตินแพง ๆ แบบนี้

ชุดเครื่องนอนยังคงมีกลิ่นใหม่ที่บ่งบอกว่าเพิ่งผ่านการซักมาผสมกับกลิ่นเจ้าของเตียงจาง ๆ น่าจะเป็นกลิ่นครีมอาบน้ำ เพราะเธอได้กลิ่นเดียวกันนี้จากตัวเขา มันหอมสดชื่นเย็น ๆ เหมือนเมนทอล เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อซึมซับกลิ่นที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและสงบใจ

แอลลี่เปิดประตูห้องนอนแง้มไว้ เพราะเผื่อว่าชายหนุ่มอาจต้องการอะไรหากเธอหลับไป และเธอไว้ใจผู้ชายคนนี้ ไม่จำเป็นที่จะต้องกลัวว่าเขาจะมาทำมิดีมิร้าย เสียงของทีวีดังลอดเข้ามา แม้ว่าเจ้าของเตียงกว้างจะอยู่ที่ห้องนั่งเล่น แต่แอลลี่กลับรู้สึกเชื่อมถึงกันได้อย่างประหลาด

เธอหยิบมือถือขึ้นมาปิดเครื่องเพื่อตัดขาดจากสิ่งที่รบกวน แล้วก็หลับตานอน แต่ว่าทำอย่างไรก็นอนไม่หลับ พลิกตัวไปมา ลืมตามองเพดาน คิดเรื่องต่าง ๆ ให้ยุ่งไปหมด หนึ่งในนั้นคือเรื่องของเจ้าของเตียงกว้างนี้ และในหัวก็มีแต่คำว่าถ้าเต็มไปหมด ในที่สุดด้วยความอ่อนล้าเธอก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว

ทว่าหลังจากที่เผลอหลับไปไม่นานนัก ราว ๆ ตีสามเธอก็รู้สึกตัวตื่น สะลืมสะลือในตอนแรกก่อนที่จะระลึกได้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่บ้านของฮิวโก้ กอนซาเลซ ยิ่งไปกว่านั้น เธอกำลังอยู่บนเตียงของเขา!

ลำคอเธอแห้งผากขึ้นมาฉับพลัน เลยคิดจะลุกไปหาน้ำดื่มที่ห้องครัว ระหว่างทางต้องเดินผ่านห้องนั่งเล่น ทีวียังคงถูกเปิดทิ้งไว้อยู่ ส่วนเจ้าของบ้านกำลังนอนหลับสนิทบนโซฟา

ภาพตรงหน้าทำให้แอลลี่หยุดนิ่งราวถูกมนตร์สะกด ชายที่กำลังหลับอยู่ดูอ่อนเยาว์กว่าอายุจริงมาก ใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาตามแบบฉบับคนที่มีเชื้อสายละติน ผ้าห่มผืนใหญ่พันอยู่รอบขาและแขน แต่กลับเปิดตรงช่วงลำตัวไว้อย่างน่าหวาดเสียว เขานอนในท่าตะแคงข้าง เธออดไล่สายตาไปตามกล้ามเนื้อบนแผ่นหลังแกร่งที่โค้งเว้าสู่บั้นท้ายเฟิร์มแกร่งไม่ได้จริง ๆ ใบหน้าของแอลลี่ร้อนผ่าวเมื่อระลึกได้ว่าเขาภายใต้ผ้าห่มที่หมิ่นเหม่เป็นร่างเปลือยเปล่า

ตาย ๆ ๆ แอล เธอตำหนิตัวเอง

พอรู้ดังนั้นจึงคิดจะออกไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด เธอย่องไปห้องครัวโดยพยายามให้เงียบที่สุดเพื่อที่จะไม่รบกวนคนหลับให้ตื่นขึ้น แต่ว่าพอจะหยิบแก้วมารินน้ำดื่ม เสียงแก้วดันกระทบกันจนเกิดเสียงดังกว่าที่ควรจะเป็นเพราะเธอไม่ได้เปิดไฟทำให้มองเห็นไม่ชัด

“แอลเหรอ” เสียงแหบห้าวถามขึ้นทำให้หัวใจหญิงสาวแทบหยุดเต้น

“ขอโทษที่ทำเสียงดัง พอดีฉันหิวน้ำเลยออกมาหาน้ำดื่ม” เธอตอบออกไป

หลังจากที่ได้ดื่มน้ำดับกระหายแอลลี่กลับไม่กล้าเดินกลับออกไปทางห้องนั่งเล่นที่มีเจ้าของบ้านนอนเปลือยอยู่บนโซฟา แต่เธอได้ยินเสียงเขาร้องเหมือนได้รับบาดเจ็บจากอะไรสักอย่างก็เลยรีบวิ่งออกไปดูโดยพยายามทำใจสงบให้มากที่สุด

“เป็นอะไรรึเปล่าคะ”

เมื่อได้ยินเสียงหญิงสาวพร้อมร่างบางที่ปรากฏกาย ฮิวโก้รีบคว้าผ้าห่มมาพันร่างตัวเองอย่างรวดเร็วแล้วค่อยลุกขึ้นนั่ง ไม่คิดว่าหญิงสาวจะลุกขึ้นมาจนกระทั้งถึงเช้าที่เขามั่นใจว่าตัวเองจะตื่นก่อนเธอแน่ ๆ

“ฉันไม่เป็นไร แค่ปวดหลังนิดหน่อย ไม่คิดว่าโซฟานี่จะเล็กเกินไปสำหรับฉัน” ท่าทางงัวเงียบ่นของชายหนุ่มไม่น่าเชื่อว่าจะดูเซ็กซี่มากในสายตาแอลลี่

“งั้นเปลี่ยนกับฉันสิคะ” เธอบอก ลังเลและประหม่าเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “หรือไม่ก็กลับมานอนที่เตียงด้วยกัน ฉันไม่ถือ เอ่อ…ฉันหมายถึง…เตียงคุณกว้าง นอนสองคนยังมีที่เหลือเฟือ”

เกิดความเงียบขึ้นชั่วขณะ คนที่เป็นฝ่ายชวนรู้สึกทำตัวไม่ถูก ในขณะที่คนถูกชวนกำลังมองเธอด้วยสายตาครุ่นคิด ระหว่างรอเขาตัดสินใจแอลลี่รู้สึกลุ้นระทึกจนหัวใจแทบหยุดเต้น สาบานอีกรอบก็ได้ว่าตอนเอ่ยปากชวนเธอบริสุทธิ์ใจจริง ๆ

“แน่ใจเหรอแอล” ถามพร้อมมองหน้าหญิงสาวนิ่งจนเธอประหม่า

“ฮิวโก้คะ เราสองคนเป็นผู้ใหญ่กันแล้ว ฉันไม่คิดอะไรถ้าจะนอนเตียงเดียวกับคุณ ฉันว่าคุณอาจจะไม่รับรู้ก็ได้ว่ามีฉันนอนอยู่ด้วย” เธอพูดรัว ๆ แต่ชายหนุ่มยังจ้องเธอไม่วางตาจนเธอชักไม่แน่ใจ

“มาสิคะ” ตัดสินใจจับมือใหญ่ให้เดินมาด้วยกันโดยลืมเสียสนิทว่าภายใต้ผ้าห่มที่พันกายอยู่เขาไม่มีอะไรติดตัวอยู่เลย

“เดี๋ยวก่อนแอล ฉันจะไปนอนที่เตียงก็ได้ แต่ขอฉันไปตรวจดูบางอย่างก่อน”

เธอพยักหน้าแล้วปล่อยมือ เดินกลับไปยังห้องนอนชายหนุ่มก่อน เธอกำลังประหม่า เขาจะคิดว่าเธอกำลังอ่อยเขาอยู่หรือไม่ แต่เธอไม่ได้มีเจตนาแบบนั้น เธอแค่อยากให้เขาได้นอนสบาย ๆ ไม่ต้องทนหลังขดหลังแข็งอยู่บนโซฟา เห็นอยู่ชัด ๆ ว่ามันทำให้เขาปวดหลัง และเธอพยายามเมินข้อเท็จจริงที่ว่าเธอไม่เคยนอนร่วมเตียงกับผู้ชายคนอื่นเลยนอกจากไอเดนมาห้าปีแล้ว นี่เป็นครั้งแรก และเป็นฮิวโก้ เธออดตื่นเต้นและประหม่าไม่ได้

เจ้าข้องบ้านหนุ่มเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมกับสวมบ็อกเซอร์เพียงตัวเดียว ภายในห้องมืดแอลลี่เลยไม่ได้เห็นอะไรมากนัก แต่แสงไฟจากด้านนอกได้สะท้อนเรือนร่างแกร่งที่สมบูรณ์ไปด้วยมัดกล้าม หัวใจของเธอเต้นเร็วมาก ไม่คิดว่าเขาจะมาในสภาพนี้ซึ่งไม่ต่างจากการเอาผ้าห่มพันกายสักเท่าไหร่

“เป็นไรมั้ยถ้าฉันจะสวมแค่บ็อกเซอร์ตัวเดียวนอน”

ชายหนุ่มถามขณะนั่งลงบนเตียง ก่อนหน้าเขาชั่งใจอยู่นานเหมือนกัน แต่จิตใจด้านมืดสั่งให้เขาทำแบบนนี้ เขาแสร้งทำเป็นไม่เห็นสายตาที่เธอใช้มองเขา ชื่นชมร่างกายเขาไม่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เห็นร่างกายที่เขาดูแลเป็นอย่างดีนี้ ทว่าพอเป็นเธอมองกลับรู้สึกพิเศษ

“ปกติฉันไม่ใส่อะไรนอน ติดนิสัยน่ะ ไม่งั้นจะนอนไม่หลับ” พูดติดตลกแต่เป็นเรื่องจริง แล้วยกมือเกาท้ายทอยเขิน ๆ ทำให้รู้ว่าเขาเองก็ประหม่าที่จะได้นอนร่วมเตียงกับเธอเช่นกัน

“มะ ไม่เป็นไรค่ะ” แอลลี่ตอบเสียงสั่น ไม่ได้กลัวเขาแต่กลัวใจตัวเอง

ฮิวโก้ล้มตัวลงนอน จัดผ้าห่มให้ปิดร่างกายท่อนล่างไว้ ยกมือประสานรองไว้หลังศีรษะ ลืมตามองเพดาน แผงอกเปลือยที่มีไรขนปกคลุมสะท้อนขึ้นลงตามจังหวะหายใจ

แอลลี่นอนนิ่ง ๆ พยายามชิดขอบเตียงก้านตัวเองให้มากที่สุด ไม่กล้าขยับตัวตามสบายจนตัวเกร็ง

“อย่าบอกแม่เธอเรื่องนี้นะ” เสียงทุ้มแหบเล็กน้อยบอก

แอลลี่จินตนาการได้เลยว่าการที่มีลูกสาวเพื่อนร่วมงานอยู่บนเตียงคงไม่ใช่เรื่องน่าภูมิใจเท่าไหร่ แล้วก็จะทำให้เข้าหน้ากันไม่ติดได้ง่าย ๆ

“แม่ยังไม่รู้เลยว่าคืนนี้ฉันหนีออกจากบ้าน ฉันไม่ได้บอกใคร และฉันจะไม่ยอมให้แม่รู้เด็ดขาดอย่างน้อยก็ไม่ใช่ในเวลาดึกดื่นขนาดนี้”

ฮิวโก้ขยับหันข้าง สายตาคมจ้องมองหญิงสาวข้างกาย แก้มขาวจึงแดงเรื่อเพราะเขาใกล้ชิดเธอมาก

“แอล ฉันรู้จักเธอตั้งแต่เธอยังเป็นเด็ก แต่ขอให้เชื่อฉันว่าชีวิตเธอมีค่ามากกว่าผู้ชายคนนั้น”

ทำไมเธอจะไม่รู้

“คุณรู้มั้ย ฉันอยากกลับไปเป็นเด็กอีกครั้ง ตอนนั้นฉันไม่ต้องคิดอะไรมากมาย แล้วก็ไม่มีอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายตลอดเวลาเหมือนตอนนี้” เธอยอมรับ แล้วพลิกตัวหันหน้าเข้าหาเขาเช่นกัน

“แอล เธอไม่ใช่คนขี้วีนและหวาดระแวง เชื่อฉันสิ แต่เป็นเพราะสิ่งที่เธอเจอ ต่อไปอย่าโทษตัวเองอีก”

“ค่ะ ขอบคุณที่พูดให้ฉันรู้สึกดีนะคะ”

ขี้วีน ขี้ระแวงเหรอ คำพูดพวกนี้ไอเดนมันจะนำมากล่าวโทษเธอ ซึ่งเธอได้เคยระบายให้ฮิวโก้ฟัง

“แอล พวกเราต่างผ่านเรื่องแย่ ๆ มาทั้งนั้น แต่ตอนนี้เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ดังนั้นเธอจะต้องแก้ปัญหาต่าง ๆ และเผชิญหน้ากับมันให้ได้ ฉันเชื่อว่าเธอทำได้”

สายตาคมไล่มองใบหน้าสวย ก่อนที่จะเลื่อนลงมาตามลำคอ หยุดลงที่ปกเสื้อ

“คุณยังไม่รู้จักฉันดีพอหรอกฮิวโก้” เธอไม่มั่นใจตัวเองเท่าที่เขาบอก

“ฉันรู้จักเธอมากเกินไปด้วยซ้ำ” เสียงทุ้มย้ำหนักแน่น

มีอะไรบางอย่างทำให้แอลลี่รู้สึกว่าเธอสามารถเชื่อมต่อกับเพื่อนแม่คนนี้ได้อย่างประหลาด เธอจ้องเขากลับ แม้ว่าจะอยู่ในความมืด แต่เธอยังมองเห็นนัยน์ตาสีเขียวกระจ่างที่ดูลึกล้ำของเขาได้ เธอสำรวจใบหน้าชายหนุ่ม เขามีสันจมูกตรงโด่ง โครงหน้าเข้ารูป สันกรามแกร่ง กอปรเป็นใบหน้าที่หล่อเหลาที่สุดที่เธอเคยเจอมา

“เราควรจะนอนกันได้แล้วค่ะ” จู่ ๆ เธอก็ตัดบท

ชายหนุ่มหัวเราะรู้ทัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel