2 ในวันที่ไร้ที่ไป
“แม่เธอบอกว่าเธอกำลังมีปัญหากับคนของเธอ แต่ฉันรู้ว่าเธอมีปัญหานานแล้ว เธอเล่าให้ฉันฟังหมดแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น บอกตามตรง ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมเธอถึงยังทนอยู่อีก”
เสียงเขาฉุนเฉียวขึ้นในตอนท้ายแม้ว่าจะพยายามสะกดกลั้นอารมณ์ไว้มากแค่ไหนก็ตาม แต่พอมาเป็นเรื่องของเด็กสาวตรงหน้า เขาไม่เคยปล่อยผ่านได้เลย และมันเป็นแบบนี้มานานแล้ว จนกระทั่ง…
“ขอโทษค่ะ”
แอลลี่หน้าเจื่อน พูดเสียงสั่น เสหลุบตามองพื้นอย่างสำนึกผิด
“หยุดพูดแต่คำว่าขอโทษได้แล้วแอล เธอไม่ได้ผิดอะไรเลย แล้วเธอก็ไม่ได้มารบกวนฉัน เข้าใจมั้ย”
ฮิวโก้ถอนใจ ปรับเสียงให้อ่อนลงเพื่อยืนยันให้หญิงสาวสบายใจ ใช่เขากำลังโมโหไอ้คนที่เธอเลือกและทำให้เธอตกอยู่ในสภาพนี้
เธอยิ้มให้เขา แต่เขากลับยิ่งโมโห มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นที่ทำให้เธอออกจากบ้านกลางดึกเช่นนี้ เขาไล่สายตาสำรวจ ไม่มีร่องรอยของการถูกทำร้าย ทำให้โล่งใจไปได้เปลาะหนึ่ง
“แม่เธอคุยเรื่องเธอให้ฉันฟัง วีณาเป็นห่วงเรื่องชีวิตคู่เธอแต่ไม่เคยพูดว่าร้ายเธอเลยสักครั้ง หล่อนแค่หวังว่าสักวันเธอจะตาสว่างเห็นว่าผู้ชายคนนั้นเลวชั่วแค่ไหนและเมื่อไหร่เธอจะเห็นคุณค่าในตัวเองซะที”
ได้ฟังแบบนี้แอลลี่ไม่รู้ว่าเธอใส่ใจความจริงที่ว่ากำลังนั่งคุยอยู่กับเพื่อนแม่หรือไม่ บางทีเขาอาจคิดว่านี่เป็นหน้าที่สมควรกระทำเพื่อช่วยเหลือลูกสาวเพื่อน หรือไม่แม่อาจให้เขาให้จับตาดูเธอไว้เพราะเธอเคยหลุดเล่าให้แม่ฟังว่าเจอเขา ถ้าอย่างนั้นเขาอาจไม่เต็มใจต้อนรับเธอก็ได้แต่ต้องจำใจเพราะเกรงใจแม่เธอ
“แม่เป็นผู้หญิงแกร่ง ฉันดีใจที่ตอนนี้แม่มีความสุข ในที่สุดแม่ก็หลุดพ้นจากชีวิตคู่ห่วย ๆ เลยไม่อยากให้แม่ไม่สบายใจเพราะปัญหาฉันอีก”
เธอยอมรับว่าพ่อเธอไม่ใช่หัวหน้าครอบครัวที่ดีเท่าไหร่นัก พ่อติดเหล้าและมีผู้หญิงอื่น ซึ่งแม่เธอต้องทนมาหลายปี และเธอไม่เสียใจเลยที่แม่ตัดสินใจเลิกกับพ่อ อยู่เป็นโสดเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวมาหลายปีก่อนที่จะมาเจอแจ็คคนรักใหม่เมื่อปีที่แล้ว
ฮิวโก้จ้องตาเด็กสาวข้างกายเขม็ง “เคยคิดมั้ยว่าแม่เธอคงไม่อยากให้เธอทำผิดพลาดเหมือนกับตัวเอง”
“ดูเหมือนว่าคุณจะเป็นวงในนะคะ ฉันรู้ว่าแม่ไม่เคยห้ามปากตัวเองได้หรอก”
เธอไม่ค่อยชอบที่เขาพูดถึงแม่ มันยิ่งตอกย้ำว่าที่เขาต้อนรับเธอในฐานะลูกสาวของเพื่อนร่วมงานที่ไม่อาจไม่ดูดำดูดีได้
“แอล แม่เธอช่างพูดก็จริง แต่เพราะเป็นห่วงเธอ อยากเห็นเธอมีความสุขกับชีวิต ไม่ใช่ติดอยู่กับปัญหาเดิม ๆ แบบนี้ เธอเข้าใจมั้ย”
“แต่ฉันไม่ใช่เด็กเล็ก ๆ แล้วนะ คุณก็น่าจะรู้”
ชายหนุ่มยิ้มแล้วกรอกตาใส่
“แอล ฉันรู้ ฉันแค่บอกเธอเฉย ๆ” เขาพึมพำเบา ๆ แล้วเหยียดตัวไปด้านหลังนั่งในท่าผ่อนคลาย
“ฉันเลิกกับเขาแล้วค่ะ” เธอโพล่งขึ้นหลังจากที่เงียบไปพักหนึ่ง ทำให้คิ้วเข้มเลิกขึ้นด้วยความประหลาดใจ
“เธอหมายความว่าครั้งนี้เธอจะเลิกจริง ๆ ใช่มั้ย แล้วเธอทำใจและพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงได้แล้วเหรอ” ชายหนุ่มดีดตัวผึงขึ้นจากโซฟา
แอลลี่ยกมือขึ้นปิดหน้า เธอกำลังอดกลั้น แต่แผ่นหลังบางกำลังสั่นไหวอย่างชัดเจน
“ครั้งนี้ฉันทนไม่ไหวอีกต่อไปแล้ว ฉันมองไม่เห็นอนาคตของตัวเอง มันมืดมนไปหมดหากยังขืนปล่อยให้คาราคาซังอยู่อย่างนี้ ฉันอยากเริ่มต้นชีวิตใหม่ ไม่ใช่ฉันคนเดียวที่มีปัญหาแบบนี้ ดูอย่างแม่สิ ตอนนี้แม่อายุห้าสิบแล้วแต่มีความสุขกว่าเมื่อก่อนมาก”
เธอพูดสิ่งที่ตัวเองก็เคยคิดมานานแต่ไม่เคยมีความกล้าพอที่จะตัดสินใจขั้นเด็ดขาด
“ใช่แอล ไม่มีอะไรที่สายเกินไปที่จะเริ่มต้นชีวิตใหม่ และเธอก็ยังสาว อย่าทนอยู่กับความสัมพันธ์ที่หมดรักกันไปแล้วเลย มันทำให้เธอไม่มีความสุข ยิ่งไปกว่านั้น เธอสมควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้ เธอควรเจอผู้ชายคนอื่นที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างเธออย่างแท้จริง” ฮิวโก้หวังว่าเธอจะทำได้อย่างที่พูด
แอลลี่รู้สึกแปลก ๆ เมื่อได้ฟังเขาพูดแบบนี้ ตอนที่เขาพูดประโยคสุดท้าย ภาพเขาปรากฏขึ้นในใจ และเธอรู้ว่ามันเป็นอย่างนี้มาสักพักแล้ว เธอหลับตาลง สะกดกลั้นความรู้สึกที่ตีตื้นขึ้นมา
“ฉันคิดว่าฉันควรกลับก่อนดีกว่า นี่ก็ดึกมากแล้ว พรุ่งนี้คุณต้องตื่นไปทำงานแต่เช้าด้วย แล้วฉันกำลังรบกวนเวลาคุณอยู่ ฉันขอ…” เธอกระแอมไอและหยุดคำที่ต้องการจะพูด แต่ฮิวโก้สังเกตเห็นเลยหลุดยิ้ม
“เด็กดี”
เขาจะรู้สักนิดบ้างหรือไม่ว่าเสียงทุ้มนุ่มกับนัยน์ตาสีเขียวเปล่งประกายทำให้หัวใจของเธอแทบละลาย
“แอลคืนนี้เธอจะไม่ไปไหนที่ทั้งนั้น เธอต้องอยู่ที่นี่”
ตาของแอลลี่เบิกโตกับเสียงวางอำนาจ
“แล้วสเตลล่าจะไม่ว่าอะไรเหรอคะถ้ามีผู้หญิงอื่นมาค้างบ้านคุณ” มันคือความจริงที่ตอกย้ำหัวใจเธอให้รู้สึกเจ็บจี๊ด ๆ ในอก
“ช่างหัวสเตลล่าเถอะ! แล้วอีกอย่าง หล่อนไม่มีสิทธิ์ว่าอะไรในเรื่องนี้ นี่เป็นบ้านฉัน ฉันจะให้ใครมาค้างก็เป็นสิทธิ์ของฉัน”
“เอ่อ…ทางคุณก็ไม่ค่อยจะดีเหรอ”
“อืม ไม่ได้เจอกันสองอาทิตย์แล้ว และฉันรู้มาว่าหล่อนไปค้างคืนที่บ้านเพื่อนร่วมงานสองวันเต็มโดยไม่โทรหาหรือแม้แต่ส่งข้อความถึงฉัน” ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย “ฉันรู้ว่าฉันร้างมือไปนานเรื่องพวกนี้ ฉันไม่ได้คบใครมาสิบสองปีเต็ม แต่ฉันก็ไม่ใช่ไอ้งั่งที่ไม่เข้าใจเรื่องแบบนี้”
“สิบสองปีเลยเหรอคะ? คือ…นานมาก”
แอลลี่ไม่อยากจะเชื่อ เขาอยู่คนเดียวโดยไม่คบใครมาถึงสิบสองปีได้ยังไง
“ฉันทำงานหนัก แล้วก็ไม่ใช่คนที่อบอุ่นอะไร และไม่คิดจะมองหาใครด้วยเหมือนกัน กับสเตลล่าเหมือนเป็นเรื่องหลวมตัวมากกว่า ฉันไม่ได้ตั้งใจจะคบแต่ถูกวางแผนไว้”
“วางแผน?”
“เธอกินอะไรมารึยัง” ฮิวโก้ถามเพื่อเปลี่ยนเรื่อง แอลลี่เลยเข้าใจได้ว่านี่คงเป็นหนึ่งในหัวข้อที่ห้ามถาม แต่เธออยากแย้ง เขาเป็นผู้ชายที่อบอุ่นที่สุดเท่าที่เธอเคยรู้จักมา
“ยังค่ะ”
“โอเค งั้นฉันไปหาอะไรมาให้เธอกินดีกว่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่หิว”
“ชู่ว์! แอล เธอผอมจนเห็นกระดูกแล้ว เธอผอมลงกว่าครั้งที่แล้วที่ฉันเจอเธออีก”
แอลลี่หน้าร้อนเมื่อถูกสายตาคมกวาดมองทั่วร่าง ไม่คิดว่าชายหนุ่มจะเผด็จการแบบนี้ แต่ก็ยอมเดินตามร่างสูงเข้าไปในครัวด้วยความเต็มใจอย่างยิ่ง