ตอนที่ 5 : ศัตรูปริศนา
ฉึก!
เหมือนมีอะไรบางอย่างปัดเฉียดหน้า
ขณะที่เหล่าสักขีพยานงานแต่งเข้าหอต่างเหลียวหาที่มาที่ไปของเจ้าสิ่งน่าสงสัยอยู่นั้น สายตาของผมกลับเหลือบไปเห็นเงาจำนวนหนึ่งเป็นสายกำลังมุ่งตรงมาทางพวกเรา
ยังไม่ทันที่ผมจะถูกไป่เยว่อุ้มขึ้นเกี้ยว กลับมีลูกธนูปริศนาพุ่งเป้าเข้ามา และมันไม่ใช่แค่ดอกเดียว แต่มีเป็นร้อยดอก!
อะไรกันอีกวะเนี่ย!
"ผู้ใดบังอาจลอบสังหารข้า!"
เสียงคำรามเกรี้ยวกราดของราชามารดังสะท้านสะเทือนกึกก้องจนลูกธนูเหล่านั้นถูกแรงสะท้อนกลับลับหายไป บางทีสมองของราชามารคงเข้าใจผิดอะไรหลายอย่าง นี่ไม่ใช่การลอบสังหาร เจตนาชัดเจนขนาดนี้พวกมันมุ่งเอาชีวิตเขาตรงๆ เลยต่างหาก!
"วางข้าลงก่อน!"
มือข้างตัวรีบกระตุกชายเสื้ออีกฝ่าย ในขณะที่ไป่เยว่กำลังวางผมให้ยืนทรงตัว ลูกธนูก็พุ่งมาทางนี้อีกระลอกหนึ่ง
ไวเท่าใจนึกผมรีบผลักไป่เยว่ไปอีกทาง ตัวเองก็กระโดดหลบไปอีกทางเช่นกัน ยังดีที่กระบี่ข้างกายยังอยู่ในมือจึงนำมาใช้ปัดป้องลูกธนูปริศนานั้นไว้ทัน
"อี้หลิน เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง!"
"ข้าไม่เป็นไร!"
ให้มันได้อย่างนี้สิ เพิ่งเข้าภพมารก็เจอคนดักฆ่าอีก วันทั้งวันจะไม่ปล่อยให้ว่างเว้นเลยรึไง ไม่เคยทำอะไรให้สบายใจเลยไอ้พวกนี้ เหตุผลตามฆ่าก็ไม่มี ตำแหน่งเมียราชามารนี่ก็สุดแสนอันตราย แถมต้องมาหนีหัวซุกหัวซุน พวกแกจะเอาอะไรกับทหารยศผู้กองนักหนาวะ!
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
บ่นไม่ทันขาดคำลูกธนูทั้งหลายก็พุ่งมาทางนี้อีก ผมกลิ้งตัวหลบหลังต้นไม้ใหญ่ เงามืดช่วยอำพลางได้บ้างเล็กน้อย แต่ศัตรูเหมือนมีตาทิพย์ พวกมันรู้ว่าผมหลบอยู่ตรงนี้
เดิมทีสายลมเย็นเอื่อยเฉื่อยเป็นแค่อากาศสบายผ่อนคลาย แต่กลับกลายเป็นว่าเริ่มก่อตัวและแรงขึ้นจนกลายเป็นพายุพวยพุ่งจากอากาศลงสู่พื้นดินคล้ายกับพายุหมุนในทะเลทราย
พระเจ้า! ไม่เคยเห็นก็ได้เห็น ไม่เคยเจอก็ได้เจอ เกิดใหม่ทั้งทีก็ให้อยู่ที่ดีๆ กว่านี้หน่อยสิเว้ย!
"แน่จริงก็แบ่งวรยุทธ์ให้กันก่อนสิ!"
ไม่มีเสียงตอบรับจากฝ่ายตรงข้าม มีเพียงกระแสลมจากพายุหมุนลูกนั้นที่ดูรุนแรงขึ้น
บ้าเอ้ย! อย่าให้เก่งบ้างก็แล้วกัน!
"อี้หลิน!"
หากจะได้ยินเสียงใครชัดเจนก็มีแต่เพียงราชามารผู้นั้น สามีกระทันหันที่ใจผูกพันราวกับรักกันมากว่าร้อยชาติ ไม่ว่าสถานการณ์ไหนเสี่ยงตายยังไงจะมีเขาอยู่ด้วยเสมอ
ไป่เยว่กำลังมุ่งตรงมาทางผม เขาเดินฝ่าพายุหมุนอย่างไม่เกรงกลัว แต่เพราะใจคิดแต่ห่วงหาจนไม่ทันระวังเผลอปล่อยให้ศัตรูยิงลูกธนูฝ่าพายุหมุนพุ่งปักอกอย่างจัง นาทีนั้นร่างกายของผมกลับสั่นสะท้าน ชาหนึบทั่วทั้งร่างและรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ต่อมาถึงรู้สึกเจ็บคล้ายตัวเองถูกยิง
"อึก!"
ในใจยังคงสับสนและมึนงง เหตุใดความเจ็บนั่นต้องมาตกอยู่ตรงนี้ มือข้างหนึ่งซึ่งว่างเปล่าค่อยๆ ยกขึ้นคลำอก อย่างที่คิด...ไม่มีเลือดเลยสักหยด
เข่าทั้งสองข้างพลันทรุดลง การทรงตัวเมื่อครู่ต้องใช้กระบี่เล่มยาวช่วยค้ำยันไม่ให้ทรุดตัวลงแนบพื้น
"อี้หลิน!"
ไป่เยว่พุ่งเข้ามาพร้อมกลับตวัดแขนเสื้อครั้งเดียว ลูกธนูพวกนั้นกลับย้อนศรพุ่งทำร้ายคนยิงทั่วสารทิศ
เสียงโหยหวนระคนเจ็บปวดดังระงม นั่นหาได้ทำให้ราชามารสนใจไม่ เขาเข้าประชิดตัวผมและประคองร่างกายแสนเจ็บปวดไว้ในอ้อมแขน
"เซี่ยงเฉียง หลู่หลัน ฆ่าพวกมันทิ้งให้หมด!"
"ขอรับ นายท่าน!"
เงาดำสองสายม้วนเกลียวไปยังจุดต่างๆ นั่นยิ่งทำให้เสียงกรีดร้องดังมากกว่าเดิม กว่าทุกอย่างจะสงบ หูของผมก็แทบไม่ได้ยินอะไร
"อี้หลิน ข้าขอโทษ เป็นเพราะข้าเจ้าถึงต้องเจ็บตัวเยี่ยงนี้"
ถึงจะงงแต่ก็อดไม่ได้ที่จะปล่อยให้ไป่เยว่โทษว่าเป็นความผิดของเขา
"คนที่เจ็บคือเจ้าต่างหาก"
ผมว่าก่อนใช้มือสั่นเทาค่อยๆ เอื้อมไปยังลูกธนูที่คงปักอกไป่เยว่ไว้ ความชื้นจากเสื้อคลุมตัวนอกทำให้รู้ว่าอีกฝ่ายเลือดออกมาก
"สองจิตวิญญาณเชื่อมกันแล้วอย่างไร เหตุใดคนเจ็บถึงเป็นอี้หลินของข้า!"
ไม่รู้ว่าราชามารพูดอยู่กับใคร รู้แต่เพียงว่าเขาโกรธจนเนื้อตัวสั่น
เขาค่อยๆ อุ้มผมขึ้นจากพื้น ทันทีที่ลุกขึ้นยืนไม่รู้ว่าเราสองคนเข้ามานั่งในเกี้ยวตั้งแต่เมื่อไหร่ และไม่รู้ว่าเกี้ยวหยุดเดินทางตอนไหนเช่นกัน
ให้ตายเถอะ คนถูกยิงไม่ใช่ผมซะหน่อย ทำไมถึงเจ็บอย่างกับถูกยิงซะเอง แล้วดูราชามารสิ สบายดีทุกอย่าง โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย!
เปลือกตาทั้งสองข้างค่อยๆ ปิดลง ภาพเหตุการณ์ครั้งก่อนตอนร่วมยินดีกับชัยชนะสิ้นสุดสงครามผ่านเข้ามาในหัว ตอนนั้นทุกคนกำลังกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ เพื่อนทหารบางคนถึงกับร่ำไห้กอดกันเอาเป็นเอาตาย
"ผู้กอง! เราชนะแล้ว พวกเราชนะแล้ว!"
ลูกน้องคนสนิทยิ้มร่าวิ่งไปกอดเพื่อนอีกคน พวกเขาต่างตะโกนโห่ร้องกันกึกก้อง
แต่แล้วทุกอย่างกลับหยุดชะงัก เมื่อเสียงกระสุนปริศนาดังขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวเงียบลงแบบนัดหมายไว้ล่วงหน้า มือที่ถือปืนอยู่นั้นร่วงลงพื้นเสียงไม่ดังนัก แต่มันกลับสะท้อนในหูแทบทำให้ต่อมรับเสียงพัง ร่างของผมซวนเซคุกเข่าลงต่อหน้าเพื่อนทหาร ความรู้สึกเจ็บปวดทรมานแล่นเข้าสู่สมอง รับรู้ถึงนาทีสุดท้ายของชีวิต
_____________________________________
เฮือก!
ทันทีที่ร่างกายรู้สึกถึงการมีอยู่ มันตอบสนองโดยการผวาขึ้นอัตโนมัติ สองมือว่างเปล่ารีบจับสะเปะสะปะตรงตำแหน่งที่รู้สึกเจ็บราวถูกของมีคมปักคาไว้ แต่คลำจนแล้วจนรอดก็ไม่พบสิ่งใดผิดปกติและความเจ็บปวดในตอนแรกก็หายไปเช่นเดียวกัน
หรือทุกอย่างคือความฝัน?
ผมใช้มือตบๆ ขมับเพื่อเรียกสติ ทุกอย่างมันเหมือนจริงเกินกว่าจะเป็นความฝัน และความรู้สึกนั่นมันก็ดูสมจริง
แล้วถ้านั่นคือความฝันล่ะ ทุกอย่างตั้งแต่ตอนเจอพวกคนชุดขาวรวมทั้งมีราชามารเป็นสามีก็ไม่ใช่เรื่องจริงน่ะสิ!
นี่มันสุดยอด ในที่สุดก็ตื่นแล้วโว้ย!
"เหตุใดเจ้าถึงดีใจเช่นนี้ หรือเพราะพึงใจที่เราสองได้ 'บรรเลงเพลงรัก' ร่วมกัน"
เหมือนภาพที่เห็นเบื้องหน้าแตกร้าวออกเป็นเสี่ยงๆ เลือดในกายอย่างกับถูกแช่แข็งไม่ให้ไหลเวียน ผมค่อยๆ เอี้ยวคอหันไปมองที่มาของเสียง ผลการประมวลภาพกลับเห็นชายหนุ่มรูปงามปรากฏในสายตา และยิ่งตกใจมากกว่าคือเขาไม่มีอาภรปกปิดเลยสักชิ้น
คำอธิบาย ผมต้องการคำอธิบาย!
"ไป่...ไป่เยว่"
การตอบสนองอึกอักทำเอาอีกฝ่ายฉีกยิ้มกว้าง ไม่รู้หรอกว่าราชามารกำลังคิดอะไร แต่เหมือนหัวใจของผมจะหยุดเต้นในคราวนั้น
"หืม...เจ้ายังอยาก 'คราง' ชื่อข้าอยู่อีกหรือ ฮิๆ อี้หลินของข้าช่างน่ารักเสียจริง"
เอาเชือกมา...ผมจะผูกคอตาย!