ตอนที่ 7 : รอยยิ้มท่านผู้นำ
เห็นคนอย่างพะนายเป็นอะไร หญ้าอ่อนที่วัวตัวไหนอยากกินก็กินได้งั้นสิ
ผมเอี้ยวคอมองโคแก่ๆ ไม่เจียมสังขารข้างตัว สายตาเปล่งประกายหึกเหิมของอีกฝ่ายทำให้รู้ว่าในสมองไอ้มาเฟียนี่ไม่เคยคิดเรื่องดีอย่างคนปกติทั่วไป
"ระวังจะติดคอตาย"
คำตอบที่ว่าทำเอาเจ้าพ่อไอทีถึงกับหัวเราะลั่น ยิ่งเป็นการเรียกสายตาตะลึงค้างของนักวิจัยมืออาชีพทั้งหลายจนแทบถลนออกจากเบ้า ปฏิกิริยาตอบสนองแบบแปลกๆ เหล่านั้นทำให้อดสงสัยไม่ได้...แค่ไอ้มาเฟียสมองกลวงหัวเราะทีนึงทำเอาพวกเขาหวาดกลัวกันไปหมด
ใช่...พวกเขามองนายใหญ่ของตนด้วยความหวาดกลัว สายตาเหล่านั้นกำลังหวั่นวิตก ทั้งที่หมอนี่หัวเราะอารมณ์ดีแท้ๆ แต่กลับสร้างความน่าสะพรึงในสายตาลูกน้องตัวเอง
ชูเซย์ตวัดหางตามองรอบตัว นักวิจัยทั้งหลายหลบตาเขาทันที ต่างคนต่างรีบทำหน้าที่ของตนโดยไม่ต้องเอ่ยปากออกคำสั่ง
"ถึงตายก็ยอม"
คำพูดของอีกฝ่ายขัดจังหวะขึ้นคล้ายจงใจเรียกร้องให้หันกลับ เสียงหัวเราะทุกอย่างหยุดลงเหลือเพียงรอยยิ้มกับดวงตาอ่อนแสง
"ไม่ลองตายดูล่ะ"
"ถ้าผมตายคุณต้องเสียใจแน่"
คิดว่าตัวเองสำคัญนักนี่ ถูกต้อง...ไอ้มาเฟียสมองกลวงเป็นบุคคลสำคัญ ผู้กุมอำนาจหนึ่งในมาเฟียสี่สาขาหลัก หากเขาตาย...ตำแหน่งว่างเว้นตรงนั้นคงโกลาหลน่าดู
ได้ยินว่ากว่าจะหาผู้เหมาะสมกับบรรดาผู้นำหลักได้ เข่นฆ่ากันตายไม่รู้เท่าไหร่
"หึ...ไว้จะลองเสียใจดูแล้วกัน"
ผมว่าก่อนจะหันเหความสนใจมองสิ่งแวดล้อมรอบตัว คฤหาสน์หลังนี้ถูกออกแบบให้กลายเป็นห้องแล็ป คอมพิวเตอร์หลายสิบหรืออาจจะหลายร้อยเครื่องเรียงรายตามโต๊ะของนักวิจัยจนสุดทางเดิน ทุกห้องเป็นกระจกนิรภัย คาดว่าน่าจะเป็นห้องเก็บเสียง กล้องวงจรปิดถูกติดตามมุมและทำการซูมภาพสิ่งมีชีวิตอัตโนมัติ จอแสดงผลขนาดใหญ่กำลังฉายภาพนอกตัวคฤหาสน์กินพื้นที่กว่าหมื่นไร่หรืออาจจะเป็นภูเขาทั้งลูก ทุกจุดเว้นระยะห่างของภาพแค่เพียงหนึ่งร้อยเมตร
เป็นการนำเทคโนโลยีล้ำหน้ามาใช้อย่างคุ้มค่าหรือสิ้นเปลืองดี
"น่าสนใจมั้ย"
เขาว่าพร้อมกับเผยรอยยิ้มขึ้น ผลงานเหล่านี้คงไม่ใช่แค่นักวิจัยในห้องแล็ปเป็นคนสร้าง แต่มีหัวเรือใหญ่ผู้คิดค้นการทำงานอยู่เบื้องหลังอย่าง โออิมิยะ ชูเซย์
"อืม..."
น่าสนใจกว่าที่คิดไว้หลายเท่า
คำตอบสั้นๆ ยิ่งทำให้คนตรงหน้าฉีกยิ้มเป็นบ้าเป็นหลัง ผมเริ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมลูกน้องเขามีปฏิกิริยาตอบสนองแปลกๆ ก็เพราะไอ้มาเฟียสมองกลวงเล่นยิ้มพร่ำเพรื่อ ยิ้มทุกครั้ง ยิ้มแม้กระทั่งไม่มีเรื่องให้ต้องยิ้ม
"งั้นอยู่ที่นี่นานๆ นะ"
"ทำไมต้องอยู่นาน ไม่ได้อยากอยู่"
ใบหน้านั้นบึ้งตึงเล็กน้อย แต่เพียงชั่วคราวกลับฉีกยิ้มกว้างดังเดิม
"เอาน่า...อยู่ๆ ไปเถอะ เห็นของพวกนี้มั้ย รางวัลของคุณทั้งนั้น ถ้าชนะผมยกให้หมดเลย"
"..."
"ยกให้หมดทุกอย่างจริงๆ นะ"
น่ากลัว...
มีคนอยู่สองประเภทที่ผมไม่ชอบและไม่อยากเข้าใกล้ คือหนึ่ง...คนที่แกล้งทำตัวโง่เขลาเบาปัญญา สอง...คนที่แกล้งยอมทุกอย่างเพื่อเอาชนะ และไอ้มาเฟียสมองกลวงนี่ก็เป็นทั้งสองแบบ
"ยังไม่มีใครแพ้หรือชนะ อย่ามาตัดสินเอาง่ายๆ"
ผมควรอยู่ให้ห่างหมอนี่บ้าง...
บรรยากาศเริ่มตึงเครียดมากขึ้น ชูเซย์เองเหมือนจะรับรู้ เขารีบเปลี่ยนสีหน้า ดวงตากะพริบรัวแกล้งทำลายความอึดอัดที่ก่อตัวขึ้น รอยยิ้มบางเบาจากริมฝีปากนั้นละมุนอ่อนโยน
"อย่ามองผมด้วยสายตาอย่างนั้นสิ ผมตกใจรู้มั้ย"
ใครกันแน่ที่ควรตกใจ
นอกจากอยู่ห่างไอ้หมอนี่...อีกเรื่องที่ต้องทำอย่างเร่งด่วนคือกลับฐานลับให้เร็วที่สุด ไม่ว่าผลจะออกมาในรูปแบบไหน ถึงแม้เขาจะเป็นฝ่ายแพ้หรือผมจะชนะก็ตาม
การเอาตำแหน่งผู้นำมาเดิมพันมันเป็นเรื่องไม่สมเหตุสมผล ของรางวัลล่อใจอย่างนั้นไม่ควรเกิดขึ้นตั้งแต่แรก
มีใครบ้างอยากเอาตำแหน่งผู้นำสี่สาขาหลักมาล้อเล่น เห็นก็แต่คนน่ากลัวอย่างตระกูลโออิมิยะ
"เลิกพูดจาไร้สาระ"
ประโยคตัดบททุกอย่างทำเอาชูเซย์ขมวดคิ้วมุ่น
"คุณกำลังระแวงผมอยู่ใช่มั้ย?"
เขาพยายามเดาความคิดและต่อไปก็คงพยายามเอาของที่ผมปฏิเสธไม่ลงมาต่อรอง
"ทำอย่างกับเป็นคนน่าไว้ใจ"
"คุณเห็นผมเป็นคนอย่างนั้นเหรอ ผมน้อยใจนะ"
"แล้วยังไง?"
เขานิ่งไป แต่เพียงชั่วครู่สายตาพร่างพราวราวกับมีดวงดาวนับร้อยปรากฏในดวงตาผสมกับริมฝีปากได้รูปยกขึ้น ใบหน้านั้นเอียงองศาเล็กน้อย
"เกมไม่ทันเริ่มคุณก็ทำท่าจะล้มเลิกซะแล้ว"
"..."
"ผมรู้ที่คุณยอมมาไม่ใช่เพราะอยากได้ตำแหน่งหรือของมีค่า แต่ผมยังยืนยันคำเดิม หากคุณชนะ ทุกอย่างของผมจะเป็นของคุณ"
รู้กระทั่งว่าผมคิดอะไร ถึงคู่ต่อสู้ตรงหน้าจะดูน่ากลัวราวปีศาจ แต่มันก็สมน้ำสมเนื้อ มีความท้าทาย ชวนให้ตื่นเต้น หากไม่มีความรู้สึกเหล่านี้ 'เกม' ที่ว่าคงน่าเบื่อเกินไป
"เตรียมหมดตัวได้เลย"
คำตอบโต้จากผมทำให้ชูเซย์ถึงกับระเบิดเสียงหัวเราะ บรรยากาศตึงเครียดหายไปในพริบตา เขายิ้มอย่างคนดีใจก่อนจะก้มหน้าเข้ามาเล็กน้อย
"งั้นพวกเราไปสำรวจห้องพักกันเถอะ รับรองว่าคุณต้องถูกใจมากแน่"
_____________________________________
คอมพิวเตอร์รุ่นใหม่ล่าสุดกว่าสิบเครื่องเรียงรายในห้องพักชั้นในสุดของคฤหาสน์โออิมิยะ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เครื่องไม้เครื่องมือ รวมไปถึงชิ้นส่วนสำคัญสำหรับประกอบยุทโธปกรณ์ก็ถูกจัดสรรอยู่ในห้อง
ไอ้มาเฟียสมองกลวงนี่จะให้ผมผลิตอาวุธให้งั้นเหรอ?
"เป็นไง...ของเล่นพวกนี้คุณชอบบ้างมั้ย?"
หากคนอายุรุ่นราวคราวเดียวกับผมมาได้ยินหมอนี่พูดถึง 'ของเล่น' ในห้องนี้ คาดว่าคงช็อกตายกันหมด
"ก็ดี"
ประโยคนั่นเรียกรอยยิ้มกรุ่มกริ่มจากชูเซย์ ถือว่าเขารู้ใจผมในระดับหนึ่ง คาดคะเนถึงความชอบส่วนตัว แต่ในเมื่อผมเป็นแฮ็กเกอร์เขาจะเดาออกว่าชอบคอมพิวเตอร์นั้นไม่ยาก
แต่เดาถูกว่าชอบผลิตอาวุธใช้เองคงไม่บังเอิญ
"ผมดีใจที่คุณชอบ"
"ก็แค่..."
ยังไม่ทันที่ผมจะพูดจบ สัญญาณเตือนภัยส่งเสียงดังทั่วคฤหาสน์ ใบหน้าชูเซย์เปลี่ยนเป็นเย็นชาขึ้นมาทันที ดวงตาคู่นั้นว่างเปล่าอย่างกับร่างไร้วิญญาณหรืออาจจะไร้ซึ่งความปรานี
ประตูห้องถูกเปิดออกโดยฝีมือนักวิจัยคนหนึ่ง เขาวิ่งเข้ามาหน้าตาตื่น
"ท่านโออิ...ข้างนอกมีวัตถุประหลาดกำลังมุ่งหน้ามาทางนี้ครับ!"
มีเรื่องให้สนุกแล้วสิ...