บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 : คำท้าทาย

          ไอ้มาเฟียสมองพัง!

          ผมพยายามดันมือที่ถูกผสานกันไว้แน่นออก ความร้อนจากฝ่ามือทำให้ความเย็นลดลง อุณหภูมิร่างกายอุ่นขึ้นเพราะร่างของคนด้านบนค่อนข้างแนบชิด

          "ชู่~ อย่างเสียงดังสิ เดี๋ยวสัตว์ป่าแถวนี้ก็แตกตื่นหรอก"

          แตกตื่นก็ช่างมัน รึจะนอนอยู่แบบนี้ทั้งคืน!

          สายตาตอนนี้เห็นเพียงแสงสีส้มปนแดงขนาดใหญ่เคลื่อนไหวไม่คงที่ คอนแท็กเลนส์ในดวงตาทำให้เห็นสิ่งมีชีวิตจากรังสีความร้อน เนื่องจากลูก้าเปิดการทำงานของอินฟราเรด

          "ลูก้า ปิดอินฟราเรด"

          [ระบบปิดการทำงาน]

          ทุกอย่างคืนสู่ปกติ ความดำมืดของต้นไม้เข้าปกคลุม ไม่มีแม้กระทั่งแสงจันทร์ส่องถึงพื้น มีเพียงแสงไฟฉายสว่างข้างศีรษะ และกำลังเห็นว่าเงาดำขนาดใหญ่เคลื่อนเข้าใกล้ใบหน้า

          "ชูเซย์!"

          "ครับ~"

          เสียงยียวนนั่นได้ยินกี่ทีก็หมั่นไส้ สมองพังไม่เท่าไหร่ เป็นบ้าไม่ทันไร ความโรคจิตก็ตามมา!

          "ออกไป"

          น้ำเสียงกดต่ำในลำคอแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ฉุนเฉียว ไอ้มาเฟียทำแค่กรอกตาไปมา เหมือนไม่เข้าใจความหมายในคำพูด

          "ทำไมล่ะ อยู่อย่างนี้อุ่นดีออก อากาศข้างนอกมันหนาว ดูสิ...เสื้อตัวบางนิดเดียวจะพออะไร"

          ก็เพราะรีบมาช่วยชีวิตไอ้บ้าบางคนแถวนี้ไงวะ ถึงไม่ได้เตรียมอะไรมาสักอย่าง คว้าได้แต่เซรุ่มโง่ๆ หลอดหนึ่งซึ่งไม่รู้จะได้ใช้งานรึเปล่า แล้วดู! ไอ้มาเฟียนี่สบายดีทุกอย่าง แถมมีกำลังมากพอจะทับติดพื้น!

          "ออกไป!"

          ประโยคเดิมถูกกล่าวเป็นครั้งที่สอง แต่คนตรงหน้ากลับทำทีไม่สนใจ

          "อย่างอนสิ ดูนี่ๆ ถึงอากาศข้างนอกจะหนาว แต่ท้องฟ้าวันนี้ปลอดโปร่ง แถมเป็นคืนข้างแรมด้วยนะ"

          แล้วไงวะ ข้างขึ้นข้างแรมมันเรื่องของดวงจันทร์ จะเอามาพูดให้ได้อะไร

          "ต้องบอกด้วยมั้ยอุณหภูมิจะลดอีกสองถึงสามองศา"

          "ไม่ลดหรอก มีแต่ทำให้อุ่นขึ้น หากได้แนบเนื้อยิ่งรู้สึกดี~"

          "ไอ้!"

          "พระจันทร์คืนนี้สวยดีว่ามั้ย"

          เมฆขนาดใหญ่เคลื่อนตัวออกห่าง แสงจันทร์อันน้อยนิดเลือนลางแทบมองไม่เห็นผ่านช่องแคบของต้นไม้ใหญ่ ผมแหงนหน้ามองดูท้องฟ้ายามราตรี ดวงจันทร์คืนนี้ดำมืดเกือบบอดสนิท แต่ก็ดูแปลกตาไปอีกแบบ นานแล้วเหมือนกันที่ไม่ได้ออกมาข้างนอกยามค่ำคืน

          ถ้าไม่ต้องนอนในสภาพชวนอ้วกแบบนี้

          "แต่บรรยากาศจะเน่าก็เพราะใครบางคน"

          รอยยิ้มจางๆ ผุดขึ้นกลางความมืด แสงสลัวจากไฟฉายขับเน้นเส้นผมที่ปรกลงมาของคนด้านบน

          "แต่เพราะคนแถวนี้เลยทำให้อีกคนได้เห็นอะไรดีๆ"

          อะไรดีๆ ที่ว่าคือการคร่อมอีกฝ่ายไว้ว่างั้น จะโรแมนติกกว่านี้หากมีงูเงี้ยวเขี้ยวขอโพล่หัวมา

          "หวังว่าผู้นำสาขาใหญ่จะไม่เอาเวลามาทำเรื่องไร้สาระ"

          เสียงหัวเราะเบาๆ หลุดมาจากคนด้านบน เขาค่อยๆ คลายมือที่ผสานกันไว้และฉุดผมดึงให้ลุกนั่ง

          "ก็แค่คิดถึง เลยอยากมาหา"

          "..."

          "...ไม่ได้เหรอ?"

          รนหาที่ตาย...

          อย่างเขาต้องรู้ที่นี่เป็นเขตหวงห้าม อาณาเขตโดยรอบผืนป่ากลางวันอันตราย กลางคืนยิ่งน่ากลัว ผมเองถ้าไม่พลีพลามตามคนบ้า ก็ใช่จะออกมาข้างนอกอย่างไร้หัวคิด ทำอะไรไม่ผ่านเซลล์สมองกลั่นกรองถึงผลกระทบในหลายด้าน

          ผมเป็นเจ้าของพื้นที่ก็จริง แต่ทุกอย่างมีข้อจำกัด ทำได้เพียงควบคุมระบบฮาร์ดแวร์และซอร์ฟแวร์หรือจำพวกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เท่านั้น แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถควบคุมระบบนิเวศน์ของป่าทั้งหมด

          คอมพิวเตอร์กับสัตว์มันต่างกัน

          "ประสาท..."

          "...เป็นองค์ประกอบส่วนหนึ่งซึ่งอยู่ภายในร่างกายมนุษย์ หน้าที่หลักๆ คือสั่งการอวัยวะต่างๆ ให้ทำงานและประมวลผลข้อมูล...แบบนี้ถูกต้องมั้ย"

          หึ...อยากได้ความรู้ก็เสิร์ชเน็ตเอา

          ผมทำเป็นหูทวนลม ไม่สนใจเสียงนกเสียงกา สองมือช่วยกันปัดเนื้อปัดตัวไล่เศษใบไม้และเศษฝุ่น คนตรงหน้าทำท่าเอื้อมมือเข้ามาจึงถูกปัดออก

          "ทำอะไร!"

          "อยากช่วย...ตรงนั้นก็มี ตรงนี้ก็ด้วย เอางี้...ถอดออกดีมั้ย"

          "ชูเซย์!"

          "ครับ~"

          สมองผู้นำคิดได้แค่นี้เรอะ!

          "ถ้ายังพล่ามไม่เลิกก็นอนตายอยู่ในป่าคนเดียวเลยไป!"

          ว่าจบสองขาลุกขึ้นอย่างไม่รอให้อีกฝ่ายตอบกลับ มือใหญ่รีบคว้าข้อมือเล็กตรงหน้าทันที

          "ไม่อยากนอนคนเดียว หนาว..."

          โดยปกติเส้นแบ่งความอดทนของผมก็น้อยอยู่แล้ว ตอนนี้ไม่ต้องพูดถึง มันไม่เหลือสักนิด!

          "ปล่อย!"

          ข้อมือถูกสะบัดอย่างแรงและเต็มกำลัง ปัดเฉียดใบหน้าของอีกฝ่าย หากไม่ก้าวถอยหลังคงโดนและเจ็บไม่น้อย

          ขาทั้งสองก้าวออกห่างเตรียมพร้อมจะกลับฐาน แต่เสียงจากด้านหลังดังขัดขึ้น กระแสกดดันและอำนาจแผ่ขยาย

          "ผมว่าคุณเป็นคนฉลาด หากทำเรื่องตื่นเต้นคงสนุกน่าดู" 

          ถึงสมองนั่นจะพังไปแล้ว แต่ไอ้หมอนี่ไม่ใช่คนโง่ และผมก็ไม่เคยประมาทคนจำพวกประเภทอ่อนนอกแข็งใน สิ่งที่เขาจะพูดต้องไม่ใช่เรื่องอย่างการ 'ถูกเอาเปรียบ' แน่นอน

          ตำแหน่งหัวหน้าแก๊งไม่ได้มาง่ายๆ เพราะคนที่จะขึ้นเป็นผู้นำต้องได้รับการยอมรับ สำคัญต้องมีความสามารถรอบด้าน

          ไม่เว้นแม้กระทั่งหนึ่งในสี่สาขาหลักอย่างตระกูลโออิมิยะ

          "หึ..."

          คำสบถเล็กๆ ออกจากลำคอ ผมหันกลับไปปะทะกับแววตาเปล่งประกายของอีกฝ่าย ดวงตานั่นสว่างวาบอย่างคนมากเล่ห์ร้อยกล ดูก็รู้...ไอ้มาเฟียนี่มีแผนบางอย่างในสมอง และคงไม่ใช่เรื่องดี

          "เอางี้มั้ย...เรามาเล่มเกมสักหน่อยเป็นไง"

          "..."

          ชูเชย์ลุกขึ้นปัดฝุ่นตามเนื้อตามตัว เขาก้าวมาข้างหน้าอย่างใจเย็น เงาดำมืดผสมผสานกับแสงไฟฉายยิ่งทำให้ใบหน้านั่นลึกลับน่าค้นหา

          "ถ้าชนะ...ผมจะยกตำแหน่งผู้นำสาขาตะวันออกเฉียงเหนือให้คุณ"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel