ตอนที่ 3 : ออกนอกฐาน
พระอาทิตย์ยามเย็นต่ำคล้อยลงจนตกดิน อากาศบนเนินเขาสูงเย็นยะเยือก ลมหนาวพัดผ่านตลอดเวลา กลางวันร่มรื่นสบายเท่าไหร่ กลางคืนก็หนาวสะท้านเท่านั้น เสียงสัตว์ป่าดังระงมเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงเวลาออกล่าเหยื่อ
เมื่อช่วงพลบค่ำมาถึง...เวลาที่ดวงจันทร์ทำหน้าที่ส่องสว่างขึ้นมาแทน ต้นไม้ใหญ่ในป่าทึบมักบังแสงอันน้อยนิดไม่สามารถส่องลงถึงพื้นดินแคบใต้ร่มเงาไม้ใหญ่
ตามดาราศาสตร์วันนี้เป็นวันข้างแรม ดวงจันทร์บนท้องฟ้าเสี้ยวเล็กๆ ไม่อาจใช้แสงนำทางสิ่งใดให้มองเห็นในที่มืด ยกเว้นก็แต่สัตว์หากินเวลากลางคืน
สิบแปดนาฬิกา ห้าสิบเอ็ดนาที...
ผมมองตัวเลขแถบล่างขวาสุดหน้าคอมพิวเตอร์ กล้องวงจรปิดนับร้อยตัวยังฉายภาพตามมุมต่างๆ พวกมันกำลังทำหน้าที่อย่างเต็มประสิทธิภาพ สามารถจับความเคลื่อนไหวในที่มืดอย่างชัดเจน แม้เป็นเวลากลางคืนหรือที่ที่มีแสงสว่างส่องถึงน้อย
"ยังอยู่มั้ย?"
ผมพูดทั้งที่ไม่หันไป
ลูก้ากำลังทำการดาวน์โหลดไฟล์ข้อมูลสิ่งประดิษฐ์ชิ้นใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จสำหรับทดลองพรุ่งนี้ พอได้ยินเสียง...ลูก้าจึงสลายตัวจากจอโน๊ตบุ๊คเข้ามาอยู่หน้าคอมพิวเตอร์เครื่องที่ผมกำลังใช้งาน
[เห็นอยู่ไม่ใช่เหรอ ถามอะไรแปลกๆ มนุษย์ช่างเป็นสิ่งมีชีวิตเข้าใจยาก]
AI ก็เป็นชุดข้อมูลขี้สงสัย ก่อนหน้านี้ทำมาเป็นเข้าใจมนุษย์ ตัวเองก็เหมือนกันนั่นแหละ!
"ไปไหนก็ไป"
[เพียงเวลาไม่ถึงสามสิบวินาทีกลับไล่ให้ออกห่าง ถ้าไม่ใช่มนุษย์เข้าใจยาก งั้นผมจะวิเคราะห์จากคลื่นความถี่ของอารมณ์เป็นตัวเลขในเชิงนามธรรม ข้อมูลเหล่านี้ล้วน...]
หูผมตอนนี้อื้ออึงเพราะต้องรีบเอามือทั้งสองข้างอุดไว้ ลูก้าร่ายยาวตั้งแต่คลื่นความถี่ ความดัน สภาวะแวดล้อม ความเป็นอยู่และอื่นๆ จนหูดับหูชา หูไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น
นี่ผมสร้างปัญญาประดิษฐ์ขึ้นมาหรือสร้างคนขี้บ่นกันแน่!
"ไม่เหนื่อยรึไง!"
[นอกจากการวิเคราะห์ตัวเลข จิตวิทยาก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยวิเคราะห์การเกิดภาวะเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและอารมณ์ สิ่งนั้นเรียกว่า...]
"ลูก้า!"
[มีความเคลื่อนไหวผิดปกติข้างนอก]
ผิดปกติ?
ลูก้าฉายภาพไปยังกล้องวงจรปิดแถวต้นไม้ใหญ่ ในภาพ...ผู้ชายคนนั้นที่ผมหมั่นไส้กำลังทำอะไรบางอย่าง เมาส์ใกล้มือคลิกซูมภาพจากกล้องที่ใกล้ที่สุดขยายใหญ่ขึ้น
"ไอ้มาเฟียนั่นทำอะไร"
[ตรวจจับคลื่นความร้อนพบสัตว์เลือดเย็น คาดว่าสิ่งมีชีวิตออกหากินในเวลากลางคืนน่าจะเป็นงูมีพิษชนิดหนึ่ง]
ไอ้มาเฟียสมองกลวง! ไม่รู้จักเข้าไปหลบอยู่ในรถ มายืนเตร็ดเตร่นอกรถรับลมหนาวรึไงวะ!
"ระบบสมองคงล่มหมดแล้ว!"
[ในเชิงจิตวิทยา สิ่งนี้เรียกกันว่า...ความห่วงใย]
ยัง...ยังจะมาวิเคราะห์ข้อมูลตรรกะไร้สาระอยู่อีก
"ลูก้า ไปเตรียมเซรุ่ม"
[ปัญญาประดิษฐ์...รูปร่างเกิดจากชุดข้อมูล ไม่สามารถหยิบจับ...]
"เหรอ เป็นชุดข้อมูลสินะ...นึกกว่ายายแก่ข้างบ้านซะอีก"
ตู้แช่เย็นขนาดเล็กถูกเปิดออก กล่องเก็บหลอดเซรุ่มและเข็มฉีดยาถูกยัดใส่กระเป๋า ผมรีบคว้ามันและวิ่งเข้าลิฟต์เพื่อขึ้นไปชั้นบนสุดของฐานลับ
AI รูปร่างอย่างกับตัวการ์ตูนอนิเมะญี่ปุ่นถึงกับส่ายหัว
[มนุษย์ส่วนใหญ่มักปากแข็ง]
____________________________________
สองเท้าเร่งรีบออกจากลิฟต์เดินขึ้นบันไดไปยังด้านบน เมื่อเท้าก้าวถึงขั้นสุดท้าย ลมหนาวปะทะเข้าตัวอย่างจัง
ทำไมต้องมาทำเรื่องเสียเวลาด้วยวะ!
เพราะภาพจากกล้องวงจรปิดฉายความผิดปกติบางอย่าง ระบุแน่ชัดไม่ได้ว่าไอ้มาเฟียนั่นทำอะไร แต่การประมวลผลข้อมูลของลูก้าบอกว่าบริเวณนั้นมีสัตว์เลื้อยคลานมีพิษ
ไม่ใช่ไอ้มาเฟียนั่นถูกงูกัดให้แล้วรึไง!
"ลูก้า นำทาง"
หน้าจอมือถือแสดงภาพเส้นทางจับตำแหน่งจีพีเอสจากดาวเทียม สวิตซ์ไฟฉายถูกเลื่อนเปิด ผมใช้มันส่องนำทางเดินเท้าเข้าป่าลึก...ถึงจะเป็นเจ้าถิ่น แต่พื้นที่เนินเขามีหญ้ารก ต้นไม้เยอะและสูงใหญ่ ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน สัตว์ป่ามีพิษออกหากินค่อนข้างมาก ทั้งแมลง สัตว์สี่เท้าและสัตว์เลื้อยคลาน หากปะทะกันจะเป็นปัญหายุ่งยากตามมา
ความจริงจะใช้อินฟราเรดตรวจจับความร้อนสิ่งมีชีวิตก็ได้ แต่ทำแบบนั้นจะเห็นสัตว์ป่าน้อยใหญ่มากเกินไป อาจทำให้สับสนระหว่างสัตว์กับมนุษย์ ยากต่อการสังเกตแถมเป็นอุปสรรค วิธีที่ดีที่สุดคือให้ลูก้านำทาง เพื่อเลี่ยงเหตุไม่คาดฝันและลดความเสี่ยงจากเส้นทางอันตราย
[เดินตรงไปหกเมตรเลี้ยวซ้าย ก้าวเท้าสี่สิบห้าองศาตรงไปอีกแปดเมตรจะพบแมลงมีพิษ ให้เลี่ยงการสัมผัสกับต้นไม้ขวามือ]
"เข้าใจแล้ว"
ผมเดินไปเรื่อยๆ ตามการนำทางของลูก้า แต่พอเดินได้ครึ่งทางกลับต้องหยุดเท้ากะทันหัน
เสียงฝีเท้าบางอย่างใกล้เข้ามา เป้าหมายมุ่งหน้าเป็นจุดที่ผมยืนอยู่
[มีความเคลื่อนไหวของมนุษย์ จะถึงนี่ในอีกสิบเมตร...เก้าเมตร...แปดเมตร...]
ผู้บุกรุก? ไม่ใช่...หรือจะเป็น!
"ลูก้า เปิดการทำงานอินฟราเรด!"
[อินฟราเรดพร้อมทำงาน...]
ปึก!
ร่างทั้งร่างถูกบางอย่างโถมใส่ ส่งผลให้ล้มนอนราบกับพื้น ร่างกายด้านบนค่อมไว้ไม่ให้หนีออกได้ ผมพยายามลุกขึ้นแต่ฝ่ามือจากนิ้วทั้งสิบกลับสอดประสานกันไว้แน่น
"กว่าจะได้ตัวไม่ง่ายเลยนะ"