บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 10 : บางอย่างเปลี่ยนไป

          อากาศยามเช้าในสวนหย่อมขนาดกว้างบริเวณรอบคฤหาสน์ตระกูลสึซึมิยะช่างสดชื่น ต้นไม้น้อยใหญ่ถูกจัดตกแต่งอย่างเป็นระเบียบตามสไตล์ญี่ปุ่นผสมตะวันตก แต่ยังคงความงามแบบดั้งเดิม ผมเดินออกมานอกระเบียงพร้อมกับกาแฟแก้วหนึ่งในถ้วย ความร้อนของมันทำให้รู้สึกดีทุกครั้งที่ยกดื่ม

          นานแค่ไหนที่ไม่ได้ผ่อนคลายอย่างนี้

          ตั้งแต่ผมลาออกจากหน่วยฝึกก็มีเรื่องเกิดขึ้นมากมาย สาเหตุของการลาออกเพราะผมรับไม่ได้กับการใช้อำนาจในทางที่ผิด ผมรับไม่ได้ที่ถูกสั่งให้ทำในสิ่งไม่ควร และผมรับไม่ได้กับระบอบของผู้ใต้บังคับบัญชาต้องถูกข่มเหง และทุกๆ อย่างที่เป็นการฝืนความรู้สึกตัวเอง ทางเลือกดีที่สุดคือการเดินออกมาจากแหล่งอโคจรเหล่านั้น แต่ก็อย่างว่า มันต้องแลกกับความเสี่ยงหลายอย่าง เมื่อศัตรูรู้ถึงการบั่นทอนอำนาจในมือ พวกมันย่อมเล็งเป้าหมายได้ง่าย

          ผมถูกลอบฆ่าทุกวัน ถึงกับต้องพาพ่อแม่บุญธรรมหนีหลบซ่อนตัว แต่สุดท้ายพวกท่านก็ต้องตาย อำนาจแห่งกฎหมายทำอะไรพวกสัตว์นรกนั่นไม่ได้ ถามว่าแค้นมั้ย...ตอบได้อย่างเดียว แค้นจนไม่อยากหายใจร่วมโลกกับพวกสวะนั่น แถมผู้หญิงที่ผมรักที่สุดก็ปันใจให้ชายอื่นเพียงเพราะผมไม่มียศไม่มีตำแหน่ง ไม่มีเกียรติคอยเชิดหน้าชูตาให้กับเธอ

          "คิดอะไรอยู่เหรอครับ"

          มือสองข้างค่อยๆ สอดเข้ามาใต้วงแขนของผมก่อนรัดเข้าหาตัว อันที่จริงถ้าเป็นคนอื่นคงตกใจจนแทบอยากถีบไอ้เด็กมาเฟียนี่ออก แต่ผมในเวลานี้คิดว่าการที่มีอ้อมกอดที่อบอุ่นจากเด็กคนหนึ่งยังดีกว่าไม่มีใครเลย

          "คิดถึงอดีต"

          "อดีตอะไร"

          "จะไม่รู้สักเรื่องได้มั้ย"

          "ทุกการเรียนรู้คือประสบการณ์ คุณครูพะพายไม่เคยได้ยินเหรอ"

          เฮ้อ...ทำไมลูกศิษย์ของผมถึงเป็นประเภทเถียงคำไม่ตกฟาก

          "ที่ผมจะสอนคุณไม่ใช่วิชาสอดรู้เรื่องชาวบ้าน และมือเนี่ยจะปล่อยได้รึยัง"

          "ไม่ใช่ว่าชอบเหรอ"

          ก็ไม่ได้จะปฏิเสธอะไรหรอก แค่เริ่มรู้สึกหน้าบางขึ้นมา ถ้ากอดแป๊บเดียวมันก็ไม่อะไร แต่เขาเล่นกอดแล้วซบหน้าลงด้วยนี่สิ

          "รู้ใช่มั้ยผมเคยเป็นครูฝึกหน่วยรบมาก่อน"

          "ทำไม คุณครูจะใช้มันกับผมเหรอ"

          ก็ถ้านายไม่ปล่อย ฉันก็จะจับทุ่มลงพื้นต่อด้วยหักแขนขาแยกส่วนแถมให้ด้วย

          ฮิโรชิค่อยๆ คลายอ้อมกอด แต่เขายังคงยืนอยู่ข้างหลังผมแบบนั้น ทั้งที่ผมพยายามหนีความยุ่งยากของชีวิตจนถ่อมาถึงญี่ปุ่น แต่เรื่องพวกนี้ก็ไม่เคยจางหายไปสักที และมันยิ่งกลายเป็นเงาตามตัวผมทุกเวลา

          "คุณมีเหตุผลใช่มั้ยเรื่องครูสอนพิเศษ ผมคิดว่าคุณไม่ได้เล็งผมตั้งแต่ทีแรก"

          ผมหันไปมองเขา ฮิโรชิเองก็มองอยู่ก่อนเช่นกัน

          "ใช่ ผมเปล่าเล็งคุณ ผมไม่คิดด้วยซ้ำว่าต้องเป็นคุณ"

          "ทำไมถึงรู้ชื่อผม ทั้งที่ไม่รู้ข้อมูล"

          "มีคนแนะนำมา"

          แนะนำ? ผมมาไกลถึงญี่ปุ่นยังมีคนรู้จักอีกงั้นเหรอ

          "จากลูกศิษย์?"

          "เปล่า...จากคนๆ หนึ่ง เขาบอกเพียงว่า ขอแค่มีคุณ ผมก็เหมือนติดปีก"

          ฟังดูยิ่งใหญ่เนอะ คาดหวังกันมากไปเปล่า ผมไม่ใช่นก ไม่มีปีก และไม่สามารถติดปีกให้ใครได้

          "แล้วไงต่อ"

          "เพื่อเป็นข้อยืนยันว่าคุณติดปีกให้ผมได้จริงๆ ผมควรพาคุณไปหาผู้นำอีกสามคน"

          ทำไมต้องทำอย่างนั้น คนที่เฉลยฐานะของตัวเองก็คือผม เกี่ยวอะไรกับผู้นำอีกสามคน

          "แล้วหลังจากนั้น..."

          "เพื่อเป็นการตอบแทน ผมต้องปกป้องคุณ"

          ฮ่าๆๆ อย่าพูดให้ขำ จริงอยู่ที่ผมถูกตามล่าเอาชีวิตบ่อยๆ จากศัตรูในไทย มิหนำซ้ำ พอมาเป็นครูสอนพิเศษให้ไอ้เด็กมาเฟียนี่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ถูกโจมตีแบบไม่รู้ที่มา แม้จะบอกว่าอย่าประมาทศัตรูในที่ลับก็เถอะ แต่ผมก็ไม่คิดดูถูกฝีมือตัวเอง

          "คุณก็รับข้อเสนอว่างั้น"

          "ใช่"

          "ไม่ลังเลสักนิด"

          "ผมไม่มีเวลามากขนาดนั้น"

          แสดงว่าการมีครูสอนพิเศษเป็นเรื่องสำคัญจริงๆ ถึงขั้นเลือกคนด้วยความจำเป็น

          "งั้นเหตุผลในการมีครูสอนพิเศษล่ะ เพราะอะไร"

          "มันเป็นกฎของผู้นำอายุน้อยอย่างผม เพื่อเป็นเครื่องยืนยันว่าผมสามารถมีคนคอยชี้นำให้เติบโตได้จึงจำเป็นต้องมีคนคอยดูแล และคนๆ นั้นก็คือคุณ"

          "กฎนี่ไม่มั่วหน่อยเหรอ แค่เป็นใครก็ได้ว่างั้น ถ้าอย่างนั้นคุณจะมีคนชี้นำที่ดีได้ไง"

          "แน่นอนว่ามันไม่ง่าย คุณสมบัติ...หนึ่ง ต้องไม่ใช่คนในแก๊ง สอง...ต้องไม่ใช่ผู้หญิง สาม...ต้องไม่ใช่คนสนิท และสี่...ต้องไม่ใช่มาเฟีย"

          "..."

          "บังเอิญด้วยสิที่คุณผ่านคุณสมบัติครบทั้งสี่ข้อ"

          ดูยังไงก็เป็นการจงใจ บางทีมาเฟียพวกนี้ก็เยอะไป หัดทำตัวง่ายๆ ซะบ้าง ชีวิตจะได้ไม่ยุ่งเหยิง

          แต่ดันรู้สึกเหมือนถูกประเคนตัวให้ยังไงยังงั้น   

          "แล้วที่คุณบอกว่าไม่ได้เล็งผม งั้นก็มีคนที่เลือกไว้"

          "อังกฤษ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ทั้งสามเชื้อชาติคือคนที่ผมคัดไว้ และพร้อมจะทำข้อตกลงว่าจ้าง"

          "มีแล้วนี่ ทำไม..."

          "ตาย..."

          อย่าบอกนะ ถูกฆ่าตายหมด จะเป็นไปได้ไง อย่างน้อยๆ คนของตระกูลสึซึมิยะก็ต้องดูแลคุ้มครองอย่างดี 

          "ทำไมไม่ส่งคนคอยปกป้องพวกเขา"

          "ไม่ใช่ไม่อยากทำ แต่ทำไม่ได้ ตราบใดที่พวกเขายังไม่ใช่ครูสอนพิเศษ ผมก็ไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของพวกเขา"

          เพราะอย่างนี้สินะ เขาถึงชอบก้าวก่ายชีวิตส่วนตัวของผมนัก ต้องอยู่ด้วยกันแม้กระทั่งแบ่งเตียงกันนอน

          "ผมต้องเป็นครูสอนพิเศษนานแค่ไหน"

          "สามเดือน ถ้าคุณรอดภายในสามเดือน ผมจะผ่านการทดสอบ และกลายเป็นที่ยอมรับของแก๊งมาเฟียที่อายุน้อยที่สุดในบรรดาสี่สาขาหลัก"

          "ถ้าเกิดผมอยู่ไม่ครบสามเดือน หรือตายไปก่อน...จะมีผลยังไง"

          "จะเกิดการคัดเลือกผู้นำสาขาคนใหม่ขึ้นมาแทน และผมจะหมดสิทธิ์ในฐานะตำแหน่งผู้นำสาขาตะวันออก โดยไม่มีข้อโต้แย้งใดๆ ทั้งสิ้น"

          เดิมพันด้วยตำแหน่งผู้นำ ไม่โหดก็ไม่ใช่หนึ่งในสี่สาขาหลักล่ะนะ แต่เขาก็ใจถึง อายุแค่นี้คิดจะขึ้นเป็นใหญ่ ถือว่ามีแนวคิดกว้างไกล ดีกว่าผู้ใหญ่ในกรมหลายคนที่ผมรู้จักซะอีก พวกนั้นขี้ขลาดตาขาว เกรงอำนาจที่สูงกว่า และเห็นเงินไม่ได้เป็นต้องตาลุกวาว 

          หึ...ขยะสังคม

          "คุณวางใจเถอะ ถึงผมจะเป็นแค่อดีตครูฝึก แต่ผมเชื่อในทักษะความสามารถและประสบการณ์ของตัวเอง ต่อให้คุณไม่ปกป้องผม ผมก็ปกป้องตัวเองได้"

          ผมตบบ่าไอ้เด็กมาเฟียนี่หนักๆ ยืนหยัดได้เลย ผมงัดทุกความรู้ทั้งวิชาการและภาคปฏิบัติมาใช้งานจริง ไม่ว่าสถานการณ์จะย่ำแย่สักแค่ไหน อดีตครูฝึกพะพายคนนี้จะไม่ทำให้ผิดหวัง

          "จริงอยู่...ตอนแรกผมจำเป็นต้องเลือกคุณ"

          ฮิโรชิดึงมือผมที่อยู่บนบ่ามากำไว้แน่น น้ำหนักจากฝ่ามือคล้ายกำลังยืนยันคำตอบบางอย่างจากเขา

          "..."

          "...แต่ที่ผมอยู่กับคุณตอนนี้ มันไม่เหมือนเดิมอีกต่อไปแล้ว"

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel