(YAOI) Sweet dream. สามีผมเป็นเจ้าพ่อมาเฟีย

30.0K · จบแล้ว
moodang_lovely
19
บท
12.0K
ยอดวิว
7.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ไม่ว่าเพราะ 'ความบังเอิญ' หรือ 'พรหมลิขิต'โชคชะตาชีวิต ผมขอกำหนดเอง#ออเนส : เจ้าพ่อมาเฟียจอมเผด็จการ มีทั้งอำนาจ ชื่อเสียงและเงินทอง #ใบชา : เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี เพิ่งเรียนจบ ม.ปลาย เป็นเด็กกำพร้า ทำงานพิเศษอยู่ร้านกาแฟ***ติดตามความเคลื่อนไหวที่เพจ นิยาย moodang_lovely นะจ๊ะ ;)

นิยายแอคชั่นมาเฟียนิยายรักโรแมนติกนิยายYaoiนิยายรัก

ตอนที่ 1 : เรื่องไม่คาดฝัน

          "พี่ธันย์ ผมกลับแล้วนะครับ"

          ผมบอกลาพี่ธันย์เจ้าของร้านกาแฟซึ่งผมทำงานด้วยตั้งแต่เข้าเรียน ม.ปลาย ก่อนจะเดินไปหยิบกระเป๋าหลังตู้ล็อกเกอร์มาสะพายข้าง เตรียมเดินทางกลับห้องพักที่ผมใช้เป็นที่อาศัย

          "ใบชาจะกลับแล้วเหรอ มันดึกแล้วนะ ให้พี่ไปส่งมั้ย"

          ผมส่ายหัวรัวด้วยความเกรงใจ พี่ธันย์จึงเดินมาส่งแค่หน้าประตูร้าน สีหน้าอ่อนโยนบ่งบอกว่าเขาเป็นห่วง

          "ไม่ล่ะครับ กลับดึกแค่วันเดียว ไม่ต้องเป็นห่วงครับ ผมไปนะ"

          ผมเดินออกจากร้านโดยไม่รอให้พี่ธันย์เอ่ยอะไรอีก ไม่มีอะไรมากหรอก ผมเกรงใจพี่เขา แค่เขาให้ผมทำงานด้วย ให้ความเมตตารับเด็กกำพร้าอย่างผมเข้าทำงานก็มากพอแล้ว ผมไม่อยากเพิ่มภาระให้ใครทั้งนั้น ในเมื่อผมอยู่ตัวคนเดียว ผมก็ควรยืนหยัดด้วยลำแข้ง พึ่งพาตนเอง ไม่มีใครอยู่กับใครได้ตลอดชีวิต นั่นคือสิ่งที่ผมเรียนรู้ตั้งแต่แม่จากโลกใบนี้ไป

          ตามท้องถนนยามค่ำคืนเวลาสองสามทุ่มเริ่มเงียบสงบสำหรับทางกลับนอกเมือง หลังลงจากรถแท็กซี่ผมก็เดินเท้าไปตามทางเข้าซอยเล็กๆ ซึ่งจะมีอาคารไว้เช่าอีกหลายหลัง เดินไปอีกไม่กี่สิบเมตรก็จะถึงห้องพักที่ผมทำงานหาเงินเช่ามันตั้งแต่สมัยเรียน ม.ต้น จนกระทั่งจบ ม.ปลาย

          เมื่อผมกำลังจะเดินผ่านซอยเพื่อเลี้ยวไปยังหน้าห้องพัก ตรงนั้นกลับมีชายชุดดำสองคนยืนพิงรถคันหรูอยู่ใกล้ๆ กับทางผ่าน บริเวณรอบทางเดินจะมีแสงไฟจากอาคารสาดลงมาจนมองเห็นว่าพวกเขาถือรูปใบหนึ่งไว้ในมือ เสียงสนทนาไม่หนักเบากำลังเอ่ยอย่างมีความหวัง

          "ใช่คนเดียวกันรึเปล่าวะ"

ชายคนที่ถือรูปไว้ในมือเอ่ยขึ้นก่อนจะหันมาสบตากับผมขณะกำลังจะเดินผ่าน นั่นทำให้เท้าของผมชะงักจนเผลอมองตอบอีกฝ่าย

          "นั่นสิ เหมือนกันอย่างกับแกะ"

ชายอีกคนที่ยืนอยู่ด้วยกันเอ่ยตอบอย่างเห็นด้วย ผมชักสังหรณ์ใจไม่ดีแล้วสิ เหมือนจะมีบางอย่างเกิดขึ้น

          "ฉันว่าใช่..."

          "จะช้าทำไมล่ะ..."

          พอคิดดูแล้ว พวกเขาจะคุยเรื่องอะไรก็ช่างในเมื่อมันไม่ใช่เรื่องของผม ผมควรจะพาตัวเองออกจากจุดนี้แล้วกลับห้องพักให้เร็วที่สุด

          "นี่น้อง ช่วยไปกับพวกพี่ได้มั้ย"

          ผมสะดุ้งสุดตัวเมื่อคนที่คิดว่าไม่น่าเกี่ยวข้องกลับคว้าไหล่ผมหันไปเผชิญหน้า ชายชุดดำที่ถือรูปในมือเลิกคิ้วขึ้นสูง เขายิ้มออกมาเหมือนเจอสมบัติล้ำค่า

          "ผมไม่ไปหรอก ผมไม่รู้จักพวกพี่ขอตัว"

          สองคนนั้นมองหน้ากันแล้วพยักหน้าเป็นเชิงบอกว่า 'จัดการ'

          "ถ้าไม่ไป พี่คงต้องใช้กำลัง"

          เท่านั้นแหละ สองคนนั้นเข้ามาประชิดตัวผมแล้วจับแขนผมคนละข้างไว้แน่น สัญชาตญาณของผมร้องบอกว่าภัยอันตรายกำลังคุกคาม

          พลั่ก ปึก!

          ผมผลักชายสองคนนั้นออกห่างด้วยความเร็ว จนพวกเขากระแทกกับผนังหน้าห้องพักคนละทาง จากนั้นผมจึงตั้งการ์ดเตรียมโต้กลับ

         "ไปกับพวกพี่ดีๆ เถอะจะได้ไม่เจ็บตัว พี่ไม่อยากใช้กำลังถ้าไม่จำเป็น"

          หึ ใช้กำลังถ้าไม่จำเป็นงั้นเหรอ ใบชาคนนี้ไม่มีทางยอมให้ตัวเองเจ็บตัวง่ายๆ หรอก

          "ผมว่าพวกพี่ถอยไปดีกว่า คิดจะจับตัวคนอื่นโดยไม่มีเหตุผล คุกนะครับ"

สองคนนั้นแสยะยิ้มให้กันก่อนจะส่งรอยยิ้มแบบเดียวกันนั้นให้ผม

           "ถ้าพี่กลัวคงไม่มาหรอก พี่ยอมให้นายใหญ่ซ้อมดีกว่าถูกฆ่า"

           ไม่เข้าใจหรอกว่าพวกเขาพูดอะไร มัวแต่คิดคงไม่ได้เมื่อสองคนนั้นบุกจู่โจมเข้ามาพร้อมกัน

          เอาจริงเหรอเนี่ย!

          ผมหันหลังออกตัววิ่งไปอีกทางทันที สองคนนั้นก็วิ่งตามหลังมาเช่นกัน ดูท่าจะสลัดตัวยากซะด้วย

          ผมวิ่งผ่านซอยเล็กๆ หลายซอยและหลบเข้ามุมมืดมุมหนึ่ง พอได้จังหวะที่อีกฝ่ายโพล่มา ผมเลยเหวี่ยงตัวเตะกลับหลัง ส่งผลให้โดนปลายคางคนที่วิ่งถึงตัวก่อนเป็นคนแรก

          สองคนนั้นช่วยกันประคองกันลุกขึ้น ถึงแม้พวกเขาจะหยุดไล่ตาม แต่ก็ไม่มีอะไรรับประกันว่าผมจะปลอดภัย

          "พี่ไม่อยากใช้กำลังจริงๆ นะ ถึงแม้พี่จะพาตัวน้องไปได้ แต่ถ้าน้องมีรอยขีดข่วน พวกพี่ก็มีสิทธิ์ถูกฆ่าตายได้เหมือนกัน"

พวกเขาพูดเรื่องอะไร แต่สถานการณ์แบบนี้คงไม่มีใครใจดีพอมานั่งอธิบายให้ฟัง

          "นั่นมันเรื่องของพวกพี่ไม่เกี่ยวกับผม"

พวกเขามองหน้ากันเลิกลั่ก ดูลำบากใจอยู่ไม่น้อย

          "งั้นช่วยปรานีชีวิตสองคนนั้นได้มั้ย ถ้าไม่ไป ฉันคงไม่เลี้ยงพวกมันไว้เสียข้าวสุก"

          ผมหันไปมองข้างหลังทันทีตามเสียงปริศนา ไม่สิ ผมทำได้แค่เอี้ยวตัวเล็กน้อยเท่านั้น เมื่อคนข้างหลังเข้าประชิดตัวผมโดยไม่ทันตั้งตัว แขนข้างหนึ่งของเขาโอบเอวผมไว้แน่น ส่วนอีกข้างถือปืนเล็งไปทางชายชุดดำสองคนข้างหน้า ใบหน้าของเขาก้มลงมาใกล้จนจมูกของเราแทบชนกัน

          ตั้งแต่เมื่อไหร่?!

          "!!!"

          "ไม่เจอกันนานเลยนะครับ ที่รัก..."