บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ผลการตัดสิน (1)

[บันทึกพิเศษ: เอวา]

หลังจากซ้อมเสร็จก็ได้เวลาที่ฉันต้องแข่งรถกับเจ้าของสนามอย่างคุณแซ้งค์ ท่าทีของเขาที่แสดงออกมาให้เห็นนั้นดูไร้ความกังวล หนำซ้ำยังเหมือนพกความมั่นใจมาเต็มเปี่ยม จนฉันนึกหวั่นใจกับสิ่งเดิมพันที่คุณแซ้งค์จะขอ

หากชนะขึ้นมาจริง ๆ เขาจะไม่รังแกฉันเหมือนอย่างที่บอกเอาไว้ใช่ไหม?

ทำไมฉันถึงรู้สึกไม่ไว้ใจเขาเอาเสียเลย…

“คุณหนูโอเคใช่มั้ยครับ”

ฉันแสดงอาการอะไรออกไปเหรอ ทำไมพี่กัสถึงได้ตั้งคำถามนี้

“โอเคสิคะ” ริมฝีปากบางรับคำอย่างหนักแน่น แม้หัวใจดวงน้อยกำลังเต้นกระหน่ำเนื่องจากตื่นเต้น

บอกตามตรงว่าฉันไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ในการแข่งขันแต่ละครั้งฉันไม่เคยรู้สึกไม่มั่นใจเหมือนอย่างตอนนี้เลย

“ยังไงคุณหนูก็ชนะอยู่แล้วครับ” พี่กัสเอ่ยพูด เพื่อให้ฉันคลายความกังวล

“พี่กัสมั่นใจในตัววาขนาดนั้นเลยเหรอ”

“ผมเชื่อว่ามันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วครับ”

“วาจะไม่ทำให้พี่กัสผิดหวังนะคะ” ฉันฉีกยิ้มกว้าง ก่อนจะเดินไปยังจุดสตาร์ท สูดลมหายใจเข้าปอดลึก ๆ แล้วผ่อนลมหายใจ ก่อนเปิดประตูขึ้นไปนั่งบนรถแข่งสุดรักสุดหวง

ดวงตากลมโตภายใต้หมวกกันน็อคใบใหญ่หันไปเหล่มองคู่แข่งที่กำลังเปิดประตูขึ้นรถ ซึ่งคุณแซ้งค์ก็หันกลับมามองฉันเช่นกัน สายตาของเราสบประสานกัน ก่อนที่ร่างสูงจะไหวไหล่ ครั้นเห็นดังนั้นฉันจึงหันหน้าหนีพร้อมด้วยอาการฮึดฮัด

ท้าฉันแข่งไม่พอยังจะมากวนบาทาฉันก่อนแข่งอีก ตัดสินใจแล้วว่าวันนี้ฉันต้องชนะให้ได้!

ไม่ปล่อยให้เวลาต้องสูญเปล่า ขณะที่นั่งอยู่ภายในรถฉันก็พยายามรวบรวมสติเพื่อให้มีสมาธิต่อการแข่งขัน ระหว่างนั้นคุณเจียงได้ขึ้นไปทำหน้าที่พิธีกรโดยการรายงานสถานการณ์แบบคร่าว ๆ ให้ผู้ชมได้รับรู้

“วันนี้ถือว่าเป็นการแข่งขันที่พิเศษสุด ๆ เพราะเป็นการแข่งรถประเภทดริฟต์ ระหว่างคุณเอวานักแข่งสาวสุดฮอตกับคุณแซ้งค์ หรือก็คือเจ้าของสนามนั่นเอง”

เสียงโห่ร้องและเสียงปรบมือดังขึ้นเกรียวกราว สองมือของฉันจับพวงมาลัยเอาไว้แน่น ขณะที่สายตามองแน่วแน่ไปด้านหน้า ปลายเท้าเหยียบที่คันเร่งอย่างเตรียมพร้อมเพื่อออกตัว

เสียงกระหึ่มของรถยนต์ทั้งสองคันดังขึ้นราวกับขู่ขวัญกันและกัน ตอนนี้ฉันแทบจะไม่ได้ยินแล้วว่าคุณเจียงพูดอะไรบ้าง

“ดูเหมือนว่านักแข่งของเราจะพร้อมแล้ว งั้นเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เริ่มได้เลยครับ!”

ทีมงานที่มีหน้าที่ให้สัญญาณการออกตัวเดินไปหยุดยังจุดตรงด้านหน้า แล้วยกธงขึ้นเหนือศีรษะ ฉันเพ่งสายตามองที่ธงนั้นอย่างรอคอยการให้สัญญาณ ครั้นธงถูกสะบัดลงปลายเท้าก็เหยียบคันเร่งจนมิด

ตัวรถพุ่งไปด้านหน้าด้วยความเร็ว แม้ตอนนี้ฉันยังขับนำคุณแซ้งค์อยู่ทว่าจะประมาทไม่ได้ เพราะรถยังขับไปไม่ถึงโค้ง ซึ่งเป็นจุดที่ต้องมาวัดกันว่าใครจะดริฟต์ได้สวยงามที่สุด

ปลายเท้าผ่อนความเร็วลงเล็กน้อยเพื่อควบคุมให้ความเร็วคงที่ ขณะสองมือเริ่มทำการหมุนพวงมาลัยอย่างพลิ้วไหวเมื่อถึงจุดโค้ง เสียงยางรถยนต์บดไปกับถนนจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว ท่วงท่าการดริฟต์ที่เพิ่งโชว์ไปเมื่อครู่เป็นที่น่าพอใจ

รอดไปหนึ่งจุด แต่ยังมีอีกหลายโค้งกว่าจะถึงเส้นชัย ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะมีอะไรผิดพลาดระหว่างทางหรือเปล่า แน่นอนว่าฉันกำลังภาวนาไม่ให้มีอะไรเกิดขึ้น วันนี้ทุกอย่างต้องราบรื่น

ฉันไม่รู้ว่าคุณแซ้งค์ดริฟต์รถเป็นยังไงบ้าง เพราะโฟกัสแค่ตนเองเท่านั้น ไว้แข่งเสร็จค่อยไปดูคลิปเอาแล้วกัน รู้เพียงแต่ว่าเขาตามหลังฉันมาติด ๆ

อย่างที่บอกไว้ว่าใครถึงเส้นชัยเป็นคนแรกไม่มีผล เพราะวัดกันที่การดริฟต์ แต่พอได้มาอยู่ด้านหน้ามันก็ทำให้ฉันอุ่นใจขึ้นมาได้บ้าง ยิ่งรู้สึกฮึกเหิมมากกว่าเดิมเสียด้วยซ้ำ

ถ้าฉันดริฟต์ได้ดี หนำซ้ำยังเข้าเส้นชัยเป็นอันดับแรก บอกเลยว่านี่คือที่สุดของความปัง

สายตาจดจ้องไปที่โค้งด้านหน้า พร้อมตั้งท่าหมุนพวงมาลัยเพื่อทำการดริฟต์อีกครั้ง เนื่องจากท้องฟ้าเริ่มมืดมากแล้ว ดังนั้นจึงต้องใช้สายตาเพ่งเล็งมากกว่าปกติ

“ฉันต้องชนะคุณให้ได้!” ปลุกกำลังใจตนเองเล็กน้อย ก่อนจะโชว์ดริฟต์ไปอีกหนึ่งสเต็ปด้วยลูกเล่นที่สวยงามไร้ที่ติ มุมปากบางยกยิ้มอยู่ภายใต้หมวกกันน็อคอย่างภาคภูมิ

บึ้ม!...เอี๊ยดดดดด!

เสียงนั้นที่ดังขึ้นไม่ได้เกิดจากรถของฉัน หากแต่เป็นรถของคนที่ขับตามหลังมาต่างหาก…

หางตาเหลือบมองกระจกส่องหลัง ซึ่งเห็นว่ารถของคุณแซ้งค์ได้เกิดอุบัติเหตุจนทำให้เสียหลักพุ่งชนกับขอบข้างสนาม กระนั้นก็ไม่ได้รุนแรงมากนัก เนื่องจากเขาสามารถควบคุมรถยนต์เอาไว้ได้ เพราะไม่อย่างนั้นแรงกระแทกคงหนักหนาสาหัสมากกว่าที่เป็นอยู่ อาจจะทำให้ตัวรถพังยับเยินทั้งคันเลยด้วยซ้ำ แต่นี่มีแค่ช่วงท้ายเท่านั้นที่ได้รับผลกระทบ

แม้จะเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้น กระนั้นการแข่งขันก็ยังต้องดำเนินต่อไป ทีมแพทย์ประจำสนามพากันวิ่งกรูเข้าไปดูอาการของคุณแซ้งค์ ร่างสูงเปิดประตูลงมาจากรถ ไร้วี่แววว่าได้รับบาดเจ็บ

เขาคงไม่ได้เป็นอะไรมากหรอกมั้ง ทีมแพทย์ก็ช่วยกันตรวจดูอาการอยู่ ดังนั้นฉันควรหันกลับมาโฟกัสในการแข่งรถอีกครั้ง

โดยปกติแล้วหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นจะมีทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ข้างสนามคอยให้ความช่วยเหลือ ส่วนนักแข่งคนอื่น ๆ ต้องดำเนินการแข่งต่อไปจนกว่าจะสิ้นสุด…

เสียงกองเชียร์ดังขึ้นเกรียวกราวหลังพิธีกรประกาศผลการตัดสิน ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความโชคดีของฉัน หรือเพราะความโชคร้ายของเขา จึงทำให้ท้ายที่สุดฉันกลายเป็นผู้ชนะในการแข่งขันในวันนี้

“ยินดีด้วยนะครับคุณเอวา สงสัยวันนี้ผมคงดวงไม่ดี”

พอเปิดประตูก้าวลงจากรถ ร่างสูงก็เดินตรงเข้ามาหาพร้อมเอ่ยแสดงความยินดี

“บาดเจ็บตรงไหนหรือเปล่าคะคุณแซ้งค์” มือบางถอดหมวกกันน็อคออก พลางเสยผมที่กำลังเปียกชื้นไปด้วยหยาดเหงื่อ

“เป็นห่วงหรือว่าถามตามมารยาทเหรอครับ?” คิ้วเข้มเลิกขึ้นสูง แม้ใบหน้าจะถูกปกปิดด้วยแมสก์ ทว่าฉันกลับรับรู้ได้ว่าคนตรงหน้ากำลังยียวน

“ถามไปตามมารยาทค่ะ” โกหกไม่เป็นเสียด้วยสิ คิดอะไรอยู่ในหัวเลยพูดออกไปตามที่คิด

“ร่างกายไม่เป็นอะไรมากครับ แต่เจ็บที่ใจมากกว่า”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel