บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 เผ่นเถอะ (1)

เช้าวันรุ่งขึ้นฉันลืมตาตื่นพร้อมด้วยอาการหนักอึ้งที่ศีรษะ ครั้นหันไปมองด้านข้างก็พบกับชายคนหนึ่งที่กำลังนอนเปลือยท่อนบนสบายใจเฉิบ แผงอกกำยำขยับขึ้นลงตามลมหายใจที่ดังเข้าออกสม่ำเสมอ บ่งบอกชัดเจนว่าเขายังคงหลับสนิท

สิ่งที่เห็นพานทำให้ดวงตากลมโตเบิกกว้าง ความตกอกตกใจนั้นส่งผลให้ฉันสร่างเมาแทบจะในทันทีโดยไม่มีอะไรกั้น ขณะเดียวกันนั้น ภาพทุกอย่างพลันไหลเวียนเข้ามาในหัวเป็นช็อต ๆ

หากเวลาสามารถสั่งให้หยุดได้เหมือนส้ม ฉันคงไม่รีรอที่จะทำ…

ทุกความรู้สึก และทุกการสัมผัสยังคงเด่นชัดราวกับเหตุการณ์เร่าร้อนเพิ่งเกิดเมื่อครู่ ไหน ๆ ก็เสียตัวแล้ว เพราะงั้นเผ่นเถอะ อย่ารอให้เขาลุกขึ้นมาตอกย้ำอะไรอีกเลย

ครั้นคิดได้ดังนั้นฉันจึงลนลานลงจากเตียงกว้างด้วยการค่อย ๆ ย่องแบบแผ่วเบาที่สุดเท่าที่จะทำได้ ทว่าพอสายตาเห็นชุดของตนเองที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้นก็แทบอยากจะทึ้งหัวตัวเอง

ทำไมถึงได้ขาดสติขนาดนี้!

ก่นด่าตัวเองในใจไปหนึ่งยก แล้วจึงรีบคว้าชุดเหล่านั้นขึ้นมาหอบเอาไว้ในวงแขน สองเท้ารีบก้าวพุ่งตรงไปที่ห้องน้ำ แน่นอนว่าฉันจะไม่ทำอะไรนอกเหนือจากสวมใส่เสื้อผ้า เพราะมันจะเสียเวลามากเกินไป

ฉันไม่มีกะจิตกะใจแม้แต่จะสำรวจร่างกายตนเองด้วยซ้ำ หลังแต่งตัวเรียบร้อยก็รีบนำพาร่างที่ปวดระบมเดินออกมาจากห้องทันที

ทว่าก่อนจะเผ่นหนีฉันไม่ลืมที่จะหันไปทิ้งทวนสายตาด้วยการดูหมายเลขห้อง จำได้ราง ๆ ว่าเมื่อคืนผู้ชายคนนั้นบอกว่าฉันเข้าห้องผิด

เหอะ! อยากจะหัวเราะให้ฟันร่วง ใช่...ฉันเข้าห้องผิดจริง ๆ อย่างที่เขาว่ามา

ตัวเลขที่ปรากฏตรงบานประตูนั้นคือเก้าศูนย์หนึ่ง ส่วนห้องพักของฉันคือเก้าศูนย์เจ็ด คนเมาอะเนอะ มันก็ต้องมีพลาดกันบ้างแหละ เลขสองตัวนี้ก็ยิ่งคล้าย ๆ กันอยู่ด้วย

แต่ในเมื่อพลาดไปแล้วก็ต้องยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้น ฉันไม่เรียกร้องอะไรหรอก ต่อให้ถูกคนแปลกหน้าพรากความบริสุทธิ์ไปแล้วยังไงคุณค่าในตัวฉันก็ยังมีเหมือนเดิม อีกอย่างฉันก็สมยอมเอง ดังนั้นช่างมันเถอะ

คิดซะว่าก็แค่สัมพันธ์ลึกซึ้งชั่วข้ามคืนเท่านั้น ยังไงเราสองคนคงไม่มีโอกาสได้หวนกลับมาเจอกันอีก…

ฉันรีบกลับไปเก็บกระเป๋าที่ห้องพักของตนเอง และจัดการอาบน้ำเปลี่ยนชุดใหม่ ก่อนจะโทรให้พนักงานขึ้นมาช่วยขนของลงไปด้านล่าง เนื่องจากว่ามีกระเป๋าโบว์วี่ด้วยฉันจึงไม่สามารถแบกลงไปคนเดียวได้จริง ๆ

ระหว่างทางที่กำลังย้ายสัมภาระกันอยู่นั้น ดวงตากลมโตภายใต้กรอบแว่นสีดำก็กวาดมองรอบ ๆ อย่างหวาดระแวง แน่นอนว่าฉันเซฟตัวเองด้วยการแต่งตัวมิดชิด เหมือนดาราที่กำลังหนีปาปารัสซี่อย่างไรอย่างนั้น

หากเขาเปิดประตูออกมาเห็นคงไม่มีทางจำฉันได้แน่ ๆ อาจารย์เทียนหอมฟันธง!

แกร๊ก…

แอบสะดุ้งเล็กน้อย หลังได้ยินเสียงปลดล็อกประตูแว่วเข้ามาในหู ไม่คาดคิดว่าแค่นึกถึงเขาก็เปิดประตูโผล่หน้าออกมาทันที

สภาพที่เห็นชวนให้คนมองอย่างฉันถึงกับหน้าร้อนผ่าว แม้ว่าเขาจะใส่ชุดคลุมอาบน้ำ กระนั้นแผงอกแกร่งขาวเนียนก็ยังโผล่พ้นออกมาให้เห็นวับ ๆ แวม ๆ

“อรุณสวัสดิ์ครับคุณซีน” พนักงานที่ช่วยขนกระเป๋าให้ฉันเอ่ยทักทาย สงสัยคงเป็นลูกค้าประจำ

โอเค งั้นต่อไปนี้ฉันจะไม่มาที่นี่อีกแล้ว

“ครับ” ร่างสูงตอบรับเพียงสั้น ๆ ด้วยวาจาสุภาพ พร้อมรอยยิ้มที่ผุดขึ้นตรงมุมปาก

ดวงตาของเราเกือบสบประสานกัน แต่ด้วยความที่ฉันมีไหวพริบที่ดีก็เลยรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาทำท่าเหมือนกำลังถ่ายคลิปลงยูทูป

“คุณซีนมีอะไรให้ผมช่วยมั้ยครับ” พ่อคนมีเมตตา พ่อมหาจำเริญ ได้โปรดเถอะ ช่วยขนกระเป๋าฉันไปจากตรงนี้เร็ว ๆ ได้ไหมพี่จ๋า หนูไหว้ล่ะ อย่าไปอาสาทำอะไรให้ใครเลยถ้าตัวเองยังมีหน้าที่อยู่ทนโท่

“เห็นผู้หญิงที่เดินออกไปจากห้องของผมหรือเปล่า” ทันทีที่ได้ยินประโยคคำถามนั้นลอยมาเข้าหู ฉันก็รีบแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทว่าก็ยังคอยฟังบทสนทนาเหล่านั้นตลอด

“ไม่เห็นเลยครับ” อืม ฉันก็ไม่เห็นเหมือนกัน แต่ถ้าไปส่องกระจกดูน่าจะเจอ

“โอเค งั้นผมไม่รบกวนแล้ว” ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าที่เห็นสีหน้าผิดหวังปรากฏขึ้น ทว่าเพียงพริบตาเดียวมันก็จางหายไป

เขาคงรู้ตัวว่ากำลังถูกมอง ถึงได้หันมาทางฉัน และนั่นก็ทำให้เราสบสายตากันเข้าอย่างจัง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel