ใครสักคน 2/2
“ไม่ว่างเลยครับหม่าม๊า วันอาทิตย์มีอบรมตัวแทนใหม่ครับ”
เขารีบยกธุระขึ้นมาอ้างทันที ดีนะที่บอกเลขาไปแล้วว่าจะไป จะได้ไม่เข้าข่ายโกหก
“อบรมตัวแทนใหม่ประธานบริษัทต้องไปด้วยเหรอติณห์”
คุณพรศรีเอ่ยถามลูกชายอย่างรู้ทันว่าตั้งใจจะหลบเลี่ยง
“ไปสิครับหม่าม๊า โปรเจคนี้สำคัญนะครับถ้าทำสำเร็จยอดขายของพิริยะจะโตขึ้นมากเลย”
ขืนไม่ไปต้องไปดูตัวกับสาวๆที่หม่าม๊าหาไว้ให้แน่ๆ
“งานมีกี่โมง”
จริงๆงานมีทั้งวัน แต่ตั้งใจจะไปแค่ครึ่งวัน
“ทั้งวันเลยครับหม่าม๊าเก้าโมงเช้าถึงหกโมงเย็นเลยครับ”
อยู่ทั้งวันก็ได้วะ ตอนแรกช่วงบ่ายตั้งใจจะไปไดรฟ์กอล์ฟเสียหน่อย ไม่ไปแล้วก็ได้
“ติณห์นะติณห์ หม่าม๊าอยากจะให้ติณห์ได้รู้จักกับสาวๆสวยๆลูกของเพื่อนหม่าม๊า ติณห์ก็เลี่ยงตลอดเลย ไม่ชอบใครบ้างเหรอลูก อายุก็สามสิบห้าแล้วนะ หม่าม๊าจะมีวาสนาได้เห็นหน้าหลานไหม”
ชอบน่ะชอบ แต่ยังไม่ได้ทำอะไรเลยจะขยับตัวก็ลำบากเพราะเธอดันทำงานอยู่บริษัทคู่แข่ง กลัวเธอจะหาว่าจีบเพราะผลประโยชน์
เพราะก่อนหน้านี้จีบเธอมาทำงานด้วยแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่ติด ถ้าเปลี่ยนมาจีบมาเป็นแฟนก็กลัวเธอจะมองไม่ดี
แต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาสาวเจ้าก็เพิ่งประกาศว่าโสดออกสื่อในงานแถลงข่าวเปิดตัวพรีเซนเตอร์ของบริษัทไป ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะจีบเหมือนกันแหละ
“เอาไว้ถ้ามีแล้วจะบอกนะครับ หม่าม๊า”
เขาได้ยินเสียงมารดาถอนหายใจเฮือกใหญ่
“อาติณห์หม่าม๊าอยากมีหลาน เพื่อนๆของหม่าม๊าก็มีหลานกันเกือบหมดแล้ว เมื่อไหร่ติณห์จะมีแฟนกับเขาเสียทีล่ะลูก จะยากดีมีจนหม่าม๊าก็ไม่ว่า ขออย่างเดียว ขอให้รักติณห์จริงหม่าม๊าก็โอเคแล้ว”
ติณห์ยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงคนที่เขาชอบถ้าได้คนนั้นมาเป็นลูกสะใภ้ เขามั่นใจว่าหม่าม๊าต้องถูกใจแน่นอน
“หม่าม๊าจะได้มีหลานแน่นอนครับเมื่อถึงเวลา รอหน่อยนะครับ"
คุณพรศรีถอนหายใจเฮือกรอจนแก่แล้ว ก็ยังไม่มีวี่แวว
ติณห์ได้ยินเสียงถอนหายใจชัดเจน ก่อนที่หม่าม๊าจะวางสายไปพร้อมคำพูดสั้นๆว่าให้รีบหาเมีย
เฮ้อ! ถ้าแค่ผู้หญิงที่เอามานอนด้วยชั่วคราวน่ะไม่เคยขาดหรอก เขาเป็นผู้ชายและยังโสดก็มีความต้องการบ้างเป็นธรรมดา
แต่ผู้หญิงที่นึกชอบถึงขนาดอยากจะได้มาเป็นคนรัก ก็เพิ่งรู้ตัวว่าถูกใจเมื่อไม่นานมานี้ ยังไม่มีเวลาได้สานสัมพันธ์เลย
เห็นทีอาจจะต้องเร่งสปีดแล้ว เดี๋ยวหม่าม๊าจะไม่ทันใจหาเมียให้เสียก่อน ล่ะยุ่งเลย
“น้องบลูคนสวย วันนี้ทำไมกลับดึกนักล่ะจ๊ะ”
เสียงแซวของเด็กแว้นที่อยู่ปากซอยบ้าน ทำเอาบุรฉัตรต้องถอนหายใจมาเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันไปส่งยิ้มหวานหยดย้อยให้ ตามด้วยน้ำเสียงหวานใสว่า
“แล้วมันหนักหัวพ่อมึงเหรอคะ”
“ฮิ้ววววว”
เสียงโห่แซวดังสนั่นหลังจบคำด่าแบบสุภาพพร้อมรอยยิ้มหวานๆของเธอ สาบานได้ว่ายิ้มหวานหยด และตอบด้วยน้ำเสียงหวานใสจริงๆ
อีพวกแก๊งค์นี้มันแซวเธอได้ทุกวัน หลายคนในที่นั้นเคยเป็นเพื่อนที่เรียนมัธยมกับเธอมาก็มี เป็นรุ่นพี่ก็มีเป็นรุ่นน้องที่โรงเรียนเธอก็มี แซวมาตั้งแต่เธออายุสิบสี่สิบห้า จนตอนนี้อายุยี่สิบก็ยังชอบแซวอยู่แบบนั้น
โอเคเธอเข้าใจได้ว่าเธอสวยนมใหญ่หุ่นดี แต่ถ้าแซวแล้วเธอจะชอบ เธอชอบไปตั้งนานแล้วไหมวะ โดนด่าเกือบทุกวันก็ไม่เข็ดกันสักที
ไม่มีเสียล่ะที่จะสลด ไอ้พวกนี้มันโรคจิต วันไหนอีบลูไม่ด่าพ่อ มันคงจะนอนไม่หลับ
“เฮ้ยพวกมึงน่ะไสหัวไปสิ มาแซวบลูอะไรทุกวันวะ เดี๋ยวกูจัดการรายตัวเลย”
เฮียมิกซ์ขาใหญ่ประจำซอย เพราะเป็นลูกชายเจ้าของค่ายมวยชื่อดังค่ายส.ไพรวัลย์ ตะโกนด่าแก๊งค์เด็กแว๊นที่นั่งตั้งวงกันอยู่แถวหน้าค่ายมวย ซึ่งหลายคนในนั้นก็เป็นนักมวยประจำค่ายด้วย
***