ใครสักคน 2/1
“คุณติณห์คะ มีเอกสารด่วนที่ต้องเซ็นนะคะ ทางบัญชีต้องใช้ช่วงบ่ายค่ะ”
ติณห์ พิริยะกุล ชายหนุ่มวัยสามสิบห้าปีในชุดสูทคัตติ้งเนี๊ยบนั่งอยู่บนเก้าอี้ทำงานราคาหกหลักที่ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษสมฐานะผู้บริหารสูงสุดของพิริยะประกันชีวิตบริษัทที่มีมูลค่าเป็นหมื่นล้าน
เขาเงยหน้ามามองเลขาหน้าห้อง
“เดี๋ยวผมเซ็นให้เลย”
ติณห์หยิบแฟ้มที่เลขาวางไว้บนโต๊ะขึ้นมาพิจารณา
“เช็คค่าจัดงานสัมมนาของตัวแทนใหม่วันอาทิตย์นี้ใช่ไหม”
ติณห์ดูรายละเอียดคร่าวๆ
“ใช่ค่ะเป็นเช็คที่ต้องจ่ายมัดจำค่าห้องประชุมและค่าอาหารให้กับทางไดมอนด์แบงคอกค่ะ”
ติณห์พยักหน้ารับทราบก่อนจะตวัดปากการาคาแพง เซ็นลายเซ็นลงบนเอกสารอย่างรวดเร็ว
“งานนี้มีคนคอนเฟิร์มเข้าร่วมกี่คนแล้วคุณรัตน์”
แคมเปญชวนเพื่อนมาเป็นตัวแทนที่ทางฝ่ายการตลาดคิดขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขายโดยการเน้นการรับสมัครตัวแทนใหม่เข้ามาในองค์กรให้ได้จำนวนมากที่สุด
ก่อนที่จะปล่อยโฆษณาตัวใหม่ที่ทางนิด ชนิดาจะมาเป็นพรีเซนเตอร์ให้ งานนี้ต้องการตัวแทนรุ่นใหม่ไฟแรง จำนวนมากที่จะเอามาปั้นเพื่อให้ทันกับโฆษณาที่กำลังจะออก
ทางฝ่ายการตลาดเสนอแคมเปญการอัดฉีดตัวแทนมาหลายอย่างมาก ทั้งรางวัลเล็กๆอย่างพวกแทปเลต โทรศัพท์มือถือ สร้อยคอทองคำ เมื่อทำยอดเล็กๆน้อยได้
และรางวัลท่องเที่ยวทั้งภายในภายนอกประเทศก็จัดมาให้เต็มที่ เพื่อให้ตัวแทนมีกำลังใจ
“รอบแรกของเดือนนี้น่าจะถึงห้าร้อยคนค่ะ เพราะตอนนี้มีรายชื่อคอนเฟิร์มมาสี่ร้อยกว่าแล้วค่ะ กว่าจะถึงวันศุกร์น่าจะได้ถึงห้าร้อยคน เท่ากับจำนวนการันตีที่เราแจ้งทางโรงแรมไว้พอดีค่ะ”
สุดารัตน์รายงานข้อมูลกับบอสได้ทันที เพราะเตรียมข้อมูลไว้อยู่แล้ว ทำงานด้วยกันมาปีนี่เข้าปีที่สิบ เรียกได้ว่ารู้ใจกันทุกอย่าง
“โอเค คอนเฟิร์มกับทางทีมจัดงานว่าผมไปเปิดงานและจะอยู่ร่วมด้วยครึ่งวันนะ”
“ได้ค่ะ อ้อแล้วนัดเย็นนี้ที่ร้านอาหารอิตาเลี่ยน รัตน์คอนเฟิร์มเรียบร้อยนะคะคุณติณห์"
สุดารัตน์รับแฟ้มไปจัดการต่อและออกไปอย่างรวดเร็วเมื่อเห็นว่าโทรศัพท์ของบอสสั่น ติณห์หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูแล้วกดรับสาย
“ครับหม่าม๊า”
เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยออกไปตามสาย
“อาติณห์งานยุ่งไหมลูก”
หม่าม๊าโทรมาแบบนี้ต้องมีอะไรแน่ๆ สังหรณ์ใจแปลกๆ ว่าคงไม่พ้นเรื่องเดิมๆ
“นิดหน่อยครับหม่าม๊า”
ต้องบอกว่านิดหน่อยไว้ก่อน เพราะถ้าบอกว่าไม่ยุ่ง หม่าม๊าจะชวนคุยไม่เลิก
“ติณห์วันอาทิตย์นี้ว่างไหม”
ติณห์ขมวดคิ้วขึ้นมาทันทีเมื่อหม่าม๊าถามว่าว่างไหม
พักนี้หม่าม๊าของเขา ชอบนัดบอดให้ไปเจอกับสาวๆอยู่บ่อยๆ บ่นว่าอยากมีหลานแล้ว อยากให้เขาแต่งงานเสียที
หลังจากนั้นก็มีสาวๆมากมายมานำเสนอ
ลูกหลานคนที่รู้จักของหม่าม๊าทั้งนั้น
ไม่รู้ไปหาสาวๆมาจากไหน มีมาให้ดูทุกอาทิตย์ ส่งมาเป็นรูปถ่ายบ้าง แกล้งให้เขาพาไปทำธุระแล้วนัดสาวมาให้เจอบ้าง ซึ่งเขาไม่ได้ต้องการเลย
เพราะมีคนที่เล็งๆไว้ว่าอยากได้มาเป็นแฟนอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่กล้าจีบ มัวแต่รีๆรอๆอยู่
เขาเป็นคนชอบคนยากจะชอบใครสักคนมันจะมีจุดบางอย่างที่ทำให้ประทับใจ ซึ่งต้องเกิดจากการรู้จักกันมาพอสมควร ไอ้ประเภทรักแรกพบ ใช้กับเขาไม่ได้
อย่างศศินา เก่งการค้า ผู้หญิงที่เขาแอบปลื้ม ก็เคยเจอกันมาสามสี่ปีแล้ว แต่เพิ่งรู้สึกว่าคลิกจนอยากจีบมาเป็นแฟนก็เมื่อไม่นานมานี้เอง
แล้วพอชอบคนนี้ เธอดันเป็นผู้จัดการฝ่ายการขายและการตลาดของบริษัทคู่แข่งเสียอย่างนั้น ดูท่าเส้นทางรักของเขาคงจะไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบแน่ๆ
“ไม่ว่างเลยครับหม่าม๊า วันอาทิตย์มีอบรมตัวแทนใหม่ครับ”
***