ฝันสลาย 5/1
หลังจากวันนั้น บุรฉัตรก็ได้แต่เตือนตัวเองว่าอย่าฝันเฟื่องให้มันมากนัก ในงานวันนั้นแม้เธอจะพยายามเอาตัวไปให้เขาเห็นสักแค่ไหน ติณห์ พิริยะกุลก็ไม่มีสายตาไว้มองเธอเลยสักนิด
เขาปฏิบัติต่อเธอเหมือนตัวแทนประกันชีวิตคนอื่นๆ ถ่ายรูปด้วยอย่างยินดีเหมือนที่ที่ทำกับตัวแทนทุกคน ทักทายอย่างมีไมตรีแต่ก็เป็นไปตามมารยาท ไม่มีอะไรมากกว่านั้น
แม้แต่หางตาเขายังไม่เหลือบแลมาทางเธอสักนิด ทั้งที่เธอพยายามยิ้มก็แล้ว อ่อยก็แล้ว แต่เขาก็ไม่หันมามอง
ไม่มีสัญญาณตอบรับใดใดจากเลขหมายที่คุณเรียก เขาไม่ได้มีท่าทีใดๆที่จะให้เธอนำไปเพ้อต่อได้เลย
ไม่มีแม้แต่นิดเดียว
เฮ้อ!เรื่องรักแรกพบแบบในนิยายที่พระเอกเห็นนางเอกครั้งแรกแล้วจะตกหลุมรักจนเอาตัวเข้ามาใกล้ชิด ไม่มีอยู่จริง
มันคือเรื่องหลอกลวงประโลมโลกสำหรับคนชอบมโนทั้งนั้น
ในนิยายพระเอกนางเอกเจอกันครั้งแรกต้องตกหลุมรักมองตากันหวานซึ้ง แต่ครั้งแรกของเธอกับเขา เธอดันอยู่ในอาการปวดขี้
เห็นไหม ว่ามันฉีกกฎนิยายที่เคยอ่านขนาดไหน
แล้ววันนั้นเธอก็นั่งรถเมล์กลับบ้านเหมือนตอนขาไปประชุม กลับมาใช้ชีวิตแบบปกติที่ต้องตื่นเช้าไปเรียนตอนเย็นกลับบ้านและไม่มีเส้นทางไหนในชีวิตที่จะมาบรรจบกับคนแบบเขาได้เลย
สิ่งเดียวที่ทำให้เธอเข้าใกล้เขามากขึ้น ก็คงจะเป็นการเซฟรูปของเขาจากอินเตอร์เน็ตมาเก็บเอาไว้ในโทรศัพท์และนอนฝันถึงเขาทุกคืน
'หวานขึ้นตา ติณห์ พิริยะกุล นั่งสบสายตาหวานซึ้งกับศศินาSMสยามพาณิชย์ งานนี้อาจมีย้ายค่าย GM คนใหม่ของพิริยะประกันชีวิตจะใช่คนนี้ไหม หรือนี่คือนัดเดทธรรมดา เพราะเห็นจับมือสบตาหวานซึ้ง'
เนื้อหาของข่าวออนไลน์ที่เป็นภาพของติณห์ พิริยะกุลนั่งกุมมือผู้หญิงคนหนึ่ง บนโต๊ะมีกุหลาบขาวช่อใหญ่วางอยู่ ทำให้บุรฉัตรรู้สึกสั่นไหวแปลกๆ
คุณติณห์มีแฟนแล้วงั้นเหรอ ตามเนื้อข่าวแล้วผู้หญิงคนนั้นเป็นถึงผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาดของบริษัทคู่แข่ง คงไม่ใช่แค่นัดคุยทางด้านธุรกิจธรรมดา เพราะจากภาพข่าวจับมือกันด้วย
เฮ้อเจ็บที่ใจไปหมด ผู้หญิงอย่างเธอจะเอาอะไรไปสู่กับสาวไฮโซคนนั้น
“บลู บลูเอ้ย อยู่ไหม”
เสียงอีแนทตี้ร้องตะโกนอยู่หน้าบ้าน บุรฉัตรเปิดประตูออกไปดู
“อยู่ มึง เข้ามาก่อน”
แนทตี้เปิดประตูรั้วเข้าไปในบ้าน แล้วเดินตามเพื่อนเข้าไปนั่งที่โต๊ะสารพัดประโยชน์ที่กลางบ้าน
“เอาบัตรตัวแทนประกันชีวิตมาให้ แล้วก็นี่แผนความคุ้มครองที่จะเสนอให้เฮียมิกซ์ ลองทำความเข้าใจดูก่อนว่ามีตรงไหนไม่เข้าใจบ้างไหม”
บุรฉัตรรับมาดู
“ถ้าไม่เข้าใจให้ถามมึงใช่ไหม”
บุรฉัตรเอื้อมมือออกมารับเอกสารจากเพื่อน ท่าทางหงอยๆ
“เปล่าถ้าไม่เข้าใจตรงไหนโทรไปถามเจ๊พราวเลย กูก็ยังไม่รู้พอกันกับมึงนั่นแหละ แล้วเป็นอะไรทำไมถึงทำหน้าเศร้าแบบนั้น พ่อกับแม่ทะเลาะกันอีกแล้วเหรอ”
แนทตี้มองเพื่อนอย่างเป็นห่วง พ่อกับแม่อีบลูทะเลาะกันบ่อยจนคนแถวนี้เขารู้กันทั่ว
“เปล่า มึงเห็นข่าวนี้หรือยัง”
บุรฉัตรยื่นโทรศัพท์ที่มีข่าวของติณห์ให้แนทตี้ดู
“โอ๊ยอีดอก ที่นั่งเศร้านึกว่ามีปัญหาครอบครัวที่แท้ก็ปัญหาหัวใจ มึงนี่เป็นเอามากกว่าที่คิด อีกนะบลู”
แนทตี้ถอนหายใจ