ขอแค่ได้รัก - 2
'ตาราชย์ มานี่มา'
'ฮะ แม่'
'นี่น้อง น่ารักไหม'
นิ้วชี้จากคนตัวโตกว่าฉันมากจิ้มลงมาบนพวงแก้มแดง ๆ เหมือนตุ๊กตา
'แก้มนิ่ม แต่ผมไม่ชอบอะไรนิ่ม ๆ'
คนตัวโตกว่ามองอย่างเรียบเฉยก่อนเดินจากไป
'นี่เธอน่ะ'
'คะ?'
'กระโปรงเปื้อนเมนส์'
ตอนนั้นฉันรู้สึกอายมาก จำได้ว่าน่าจะอยู่มัธยมปีที่หนึ่งซึ่งเป็นครั้งแรกที่ประจำเดือนมาแล้วไม่รู้ตัว
'อะ' เสื้อนักศึกษาสีขาวยื่นมาให้ฉัน
'ผูกไว้สิ!' เขาดุเมื่อฉันยืนเอ๋อทำอะไรไม่ถูก
'มานี่มา!' ตัวฉันถูกจับหมุนให้หันไปหาเขา
ใบหน้าเขาอยู่แถว ๆ หน้าอกเพราะเขาคุกเข่าลงไปมัดเสื้อตัวนั้นที่เอวเพื่อปิดสีแดงที่เลอะกระโปรงจีบรอบสีครีม
'เดี๋ยวเสื้อเฮียจะเลอะนะคะ' เสื้อตัวเองสีขาว ถ้าเลอะมาหนักกว่ากระโปรงฉันอีก
'เลอะก็ทิ้ง แต่เธอสิ ถูกคนหัวเราะไปไหนต่อไหนแล้ว'
สายตาฉันมองรอบ ๆ บริเวณที่ยืนอยู่
จุดนี้เป็นหน้าโรงเรียนกินนอนที่ฉันเรียนอยู่ และวันนี้เป็นวันศุกร์สุดสัปดาห์เลยรอคนมารับกลับบ้าน
ไม่รู้ทำไมคนที่มากลับเป็นผู้ชายหน้านิ่ง ดวงตาคมดุคนนี้ได้
แอ้ด.. ปึง!
"อ้ะ!" ฉันสะดุ้งหลุดจากภวังค์ในอดีต
"สำรวจหนำใจหรือยัง" คนที่ตอนแรกปฏิเสธการนำทางเปิดประตูเข้ามา เขาเอนตัวพิงขอบประตูไม่ได้ย่างกรายเข้ามาในห้องนี้
"ถ้าเฮียราชย์จะใช้ห้อง เดี๋ยวเจ้าจันทร์ออกไปใช้ห้องอื่นแทนก็ได้ค่ะ" ฉันรีบดึงหูกระเป๋าเตรียมลากกลับออกมา
"ฉันไม่เคยมาใช้ห้องนี้หลายปีแล้ว"
ขาฉันหยุดก้าวเดิน ดวงตาเรียวคมจากการกรีดอายไลเนอร์ตวัดขึ้นมองเขาอย่างไม่เข้าใจ
"ชอบไม่ใช่เหรอห้องใต้หลังคา?"
นี่คือสาเหตุที่เขาไม่เข้ามาอยู่บ้านตัวเองเพียงเพราะฉันเคยอยู่ร่วมห้องด้วย?
"เฮียราชย์รังเกียจเจ้าจันทร์ขนาดนั้นเลยเหรอคะ" เสียงฉันสั่น น้อยใจกับสายตาเย็นชาที่มองมา
"รังเกียจเธอ? อย่าสำคัญตัวมากไป" น้ำเสียงเขาเยียบเย็นตัดขั้วหัวใจคนฟังอย่างฉันมาก
"ฉันไม่เคยรู้สึกอะไรกับเธอด้วย แล้วจะให้รังเกียจเธอได้ยังไง" เขามองลึกเข้ามานัยน์ตาฉันอย่างไม่หลบหลีก
เป็นฉันเองที่ทนจ้องตาเขากลับไม่ไหวเลยเสมองไปทางอื่นแทนจนสายตาปะทะเข้ากับวัตถุบางอย่างที่มันหักครึ่ง
เป็นหินเซรามิคงานสั่งปั้นเองที่มีชิ้นเดียวในโลก เจ้าของรูปปั้นนั้นบอกจะเอามันไปมอบให้กับคนพิเศษของเขาเมื่อห้าปีก่อน
แต่เพราะมีเด็กมือบอนคนหนึ่งที่เกิดอิจฉาตาร้อนทำมันพังอย่างไม่เป็นท่า
"เฮียราชย์ยังเก็บมันไว้" ฉันถามเสียงสั่นเครือ ขาก้าวเดินไปที่รูปปั้นนางฟ้ากางปีกสยาย แม้ใบหน้าจะหักไปครึ่งหนึ่ง แต่ความงดงามของปูนปั้นนั้นยังมีความสวยในตัวของมันโดดเด่นออกมา
"อย่าแตะต้องมัน!" เสียงเขาข่มต่ำเมื่อฉันยื่นมือไปหวังจะสัมผัสส่วนที่แตกหัก
"ทำมันพังแค่นั้นยังไม่สะใจอีกใช่ไหม"
น้ำตาฉันรื้นขึ้นบนขอบตา เด็กมือบอนที่ว่าคือฉันนั่นเอง
ฉันคือคนที่ทำรูปปั้นนางฟ้าที่เขาบอกจะมอบให้เป็นของขวัญคนพิเศษพัง
และนับตั้งแต่วันนั้น เฮียราชย์ก็ไม่เคยมองฉันด้วยสายตาเป็นมิตรอีกเลย
"เจ้าจันทร์ ขอโท...ษ" เสียงขอโทษฉันไม่เคยไปถึงเขา เมื่อห้าปีก่อนเขาก็ไม่อยู่รอฟังคำขอโทษจากฉันเหมือนตอนนี้
ร่างสูงสมส่วนเดินออกไปจากห้องอย่างไม่ใยดี แผ่นหลังกว้างที่ฉันได้แค่มองค่อย ๆ ไกลออกไป อยู่ร่วมชายคาเดียวกันแต่เหมือนอยู่คนละซีกโลก เข้าใจความรู้สึกนี้ของฉันกันไหม?
"ฮึก ฮืออออ" สุดท้ายก็ปล่อยให้น้ำตาหลั่งรินออกมา
ความเจ็บจุกที่หน้าอกตีขึ้นจนฉันอยากจะควักมันออกมาทิ้ง
'เธอทำแผนฉันพัง ยังจะกล้ามาสารภาพรักกับฉันอีก?'
น้ำเสียงเจ็บปวดปนเกลียดชังในวันนั้นยังฝังลึกในจิตใจ ดวงตาวาวโรจน์ด้วยความโกรธฉันยังจำมันได้ดี
"อย่าร้องเจ้าจันทร์ อย่าร้อง" ตบหน้าอกตัวเองที่มันอัดอั้น ขมขื่นให้คลายลง
ยกสองมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากแก้มอย่างลวก ๆ อย่างน้อยวันที่ฉันให้คำมั่นสัญญากับตัวเองก็มาถึง
วันที่เฮียราชย์ครองโสดไร้คู่รัก เท่ากับวันที่ฉันจะหน้าด้านเดินหน้าขอสานความสัมพันธ์นั้นอย่างหน้าไม่อายอีกครั้ง
เจ็บแล้วจำคือคน(อื่น)น่ะใช่
แต่สำหรับเจ้าจันทร์เจ็บแล้วจำเพื่อนำมาปรับปรุงและเป็นกำลังให้เดินหน้าต่อไป
"ถ้าครั้งนี้ไม่สำเร็จ ถือซะว่าเราคงไม่ได้เกิดมาคู่กันกันจริง ๆ "
เลิกบั่นทอนกำลังใจตัวเองได้แล้วจันทรารัตน์ ของแบบนี้มันต้องใช้ใจล้วน ๆ ครั้งนี้เธอไม่ต้องกลัวว่าเขาจะตราหน้าว่าหน้าด้านจีบเขาอีกแล้ว เพราะอดีตของเขากับเธอคนนั้นจบไปนานแล้วและคงไม่อาจหวนคืน