[8] กฎการเป็นเด็กเสี่ย
รถสปอร์ตสีเทาคันหรูแล่นสู่ท้องถนนนานนับสิบนาที รถรุ่นนี้ที่เคยเห็นแค่ในทีวีไม่ก็ที่โรงจอดรถของมหาวิทยาลัยเท่านั้น
ทำเอาเตยหอมมีท่าทีเก้ๆกังๆกับความทันสมัยของรถราคาเท่าบ้านเป็นสิบๆหลังก็เห็นจะได้ ไหนจะนาฬิกาที่ข้อแขนของมหาเศรษฐีข้างกาย เตยหอมเคยรีเสิร์ชตามประสาเด็กการตลาด จึงพอมีความรู้เรื่องราคาสินค้าที่ติดเทรนด์
ภายในรถเย็นเยือกเสียจนขนแขนของเตยหอมลุกเรียงเป็นระเบียบ ใจดวงเล็กเต้นโครมๆจนเกิดความรู้สึกประหม่าขึ้นมาอีกครั้ง ทั้งที่ก็พยายามทำใจให้สบายแล้วก็ตาม
เหตุการณ์ไม่คาดฝันเมื่อครู่มันน่าเหลือเชื่อ คนที่หล่อและรวยสนใจเสวนากับเด็กกะโปโลคนหนึ่ง แม้คุณคนนี้ชื่อเสือและดูจะเป็นเสือร้ายๆคนหนึ่ง ทว่าเตยหอมก็ประทับใจเอาดื้อๆ
สเป็คเตยหอมนั่นคือไม่ถือตัว ไม่เหย่อหยิ่ง คนข้างๆก็กินขาดไปเลยจริงๆ
"แล้วคุณไม่ไปทำงานเหรอคะ?"
เตยหอมเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบ คนแปลกหน้าข้างๆที่กำลังจะเป็นผู้ชายคนแรกของเธอคนนี้ จะหยิบจับขยับนิดขยับหน่อยไปทางไหนก็ดูดีไปหมด
ในตอนนี้เขากำลังปรับแอร์ลดลงให้ราวกับรู้ใจ
"ไปสิ แต่เราต้องคุยกันให้รู้เรื่องก่อน!"
เสือชำเลืองมองหล่อนข้างๆอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้าเห็นเด็กสาวกอดตัวเองแล้วลูบๆที่แขน จึงเดาว่าคงเพราะกำลังรู้สึกหนาว
"กฎของการเป็นเด็กฉันมีอยู่สามข้อก็คือ หนึ่งห้ามคิดเกินเลยแสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของฉัน" เสือเกริ่นๆเพราะหากเด็กที่ดูไร้พิษสงคนนี้คิดเข้าข้างตนเองขึ้นมาว่าเขาพิศวาสจะเอาเป็นเมีย
ก็ขอให้เธอคิดมันเสียใหม่ เพราะเขาไม่เคยคิดจะหยุดที่ใครง่ายๆ
ยิ่งเด็กกะโปโลที่ไหนก็ไม่รู้ เมตตานี่ก็ดีเท่าไหร่แล้ว หากต้องให้พูดกันตามตรง
เสือ พยัคฆาเป็นผู้ชายที่ปากหวานกับมนุษย์ทุกคนบนโลก อีกคำนิยามของเขา เป็นมิตรใจดีมีเมตตาต่อเด็กตาดำๆ มานักต่อนัก ทว่าส่วนมากที่พบเจอก็ดีแตก
ทำเป็นใสๆงิ๋มๆไปก็เท่านั้น นี่ไม่รู้ว่าจะจริงอย่างที่พูดหรือเปล่าว่าเธอยังไม่เคยผ่านมือใครมา
"สอง ห้ามเธอมีแฟนหรือคบกับผู้ชายคนอื่น ตลอดการเป็นคู่นอนของฉัน"
"สาม อย่าขัดคำสั่ง แล้วฉันก็ชอบให้พูดเพราะๆ เอาใจ เข้าใจไหม เธอห้ามงี่เง้าถามคำตอบคำด้วยฉันไม่ชอบ"
ภายในใจของเสือพินิจพิจารณาอยู่ตลอดเวลานั่นแหล่ะ เพียงแค่กรณีของเด็กสาวคนนี้เว้นเอาไว้เป็นกรณีพิเศษ เพราะเขาจะเพลาๆเรื่องการเปลี่ยนคู่นอน
หากทำแค่กับผู้หญิงคนนี้เพียงคนเดียว หากเธอไว้ใจได้ ควบคุมได้นั่นก็คงจะดี
"ได้ค่ะ"
เสียงใสเอ่ยขึ้นแล้วขบเม้มริมฝีปากอย่างยากเกินจะคาดเดา แววตาเศร้าหมองสิ้นหวังสลับกับฮึดสู้แลดูมั่นใจแบบนั้น เหมือนคนเป็นไบโพล่า
"ต้องการเงินเดือนเท่าไหร่ เรียกมาได้เลย?"
เสือละสายตาจากหล่อนกลับไปมองท้องถนน ในเวลาหนึ่งทุ่มกว่าๆการจราจรก็ยังคงแออัดอยู่เป็นระยะ
"แล้วแต่คุณค่ะ"
น้ำเสียงสั่นเครือเพราะเอาตรงๆเหตุการณ์ทุกอย่างมันหุนหันพลันแล่นเสียจนตั้งรับไม่ทัน แล้วตอนนี้ก็มาอยู่ภายในรถของคนแปลกหน้าคนนี้แล้วจริงๆ
เตยหอมกำลังจะเสียตัวให้กับคนข้างๆมันไม่ได้รู้สึกดีที่เขาหล่อ แต่กลับรู้สึกระอายใจมากกว่า
ทำไมเตยหอมจะไม่นึกถึงหน้าพ่อหน้าแม่ หากแม่ของเธอยังอยู่แล้วต้องมารับรู้เรื่องแบบนี้ก็คงรับไม่ได้แน่ๆ ส่วนพ่อก็คงไม่ได้สนใจอะไรเลยนอกจากความต้องการของตนเอง แต่ด้วยความเป็นลูกยังไงเตยหอมก็รู้สึกผิด
"อืม แล้วชื่ออะไรนะ?"
เสือชวนคุยเพราะต้องการทำความรู้จักในฐานะที่เราต้องคบค้าสมาคมกันไปอีกนานก็เท่านั้น
"เตยหอมค่ะ!"
"ชื่อน่ารักดี ฉันเสือ พวกลูกน้องหรือคนรู้จักมักเรียกว่าเสี่ย!"
"เธอจะเรียกแบบนั้นก็ได้"
"ค่ะเสี่ย>