[4] ทางที่เลือก
เตยหอมข่มตานอนไปทั้งที่ยังคงคิดฟุ้งซ่านภายในหัวเต็มไปหมด จนกระทั่งเวลาตีสี่ร่างผอมเพรียวลืมตาตื่นขึ้นมาเข้าห้องน้ำด้านล่าง บ้านของเธอเป็นบ้านสองชั้นครึ่งไม้ครึ่งปูน
สภาพทรุดโทรมปลวกแทะไร้ซึ่งการดูแล ทว่าลินดาผู้เป็นพี่สาวที่อยู่บ้านก็พยายามอย่างเต็มที่ในส่วนนี้อยู่
เสียงก๊อกๆแก๊กๆดังขึ้นมาจากด้านล่าง ในขณะที่เตยหอมก้าวขาลงบันได หลอดไฟส่องแสงสว่างจ้าเมื่อยามตาเป้กขี้เหล้าจำต้องตื่นขยันไปขายกับข้าว
(ประทังค่าเหล้า)พ่อมักจะเป็นความหวังของวงเหล้าเสมอๆ เป็นความหวังของตาดอนพ่อเรนเดียร์และพ้องเพื่อน
พ่ออายุห้าสิบห้าปีแต่ใบหน้าเกินวัยไปแล้วเพราะสุราที่โปรดปราน เตยหอมไม่ได้เอ่ยปากว่าพ่อมากนักเพราะเกินจะเยียวยา มีเพียงคำเตือนและขอร้องให้ช่วยเก็บเงินไว้สักนิดเผื่อหลานตัวน้อยๆที่ไม่มีที่พึ่งก็ยังดี
"ขับรถขับราดีๆนะพ่อ ขายได้ก็เก็บเงินไว้ให้มะลิมันหน่อยไม่ใช่ลงขวดหมดนะ!"
ใบหน้าเหี่ยวย่นก้มๆเงยๆอยู่ที่พวงถุงอาหารสดหรืออาหารสำเร็จผักปลาทั้งหลายบนรถซาเล้ง พ่อขายกับข้าวแค่วันจันทร์ถึงวันศุกร์ บางวันหายต๋อมเพราะยังไม่ส่างเมา
"อย่าหามาว่าพ่อนะเว้ยไอ่เตย ด่าพ่อมันบาปนะ!!"
ผู้เป็นพ่อชะงักในทันทีเพราะมือกำลังล้วงเข้าไปข้างในกระเป๋ากางเกงเอาขวดแก้วขนาดเล็กที่เรียกว่าขวดกั๊ก กำลังจะกึบก็ตกใจเสียงของลูกสาวคนเล็กซะก่อน
ทว่าก็นึกว่าเป็นผีที่ไหนตื่นตั้งแต่ตีสี่มาทักทายกัน ไม่ได้เกรงกลัวบุตรสาวจะตำหนิให้เลยสักนิด ฉบับไม่รู้ร้อนรู้หนาวอะไร คำบ่นไปเข้าที่หูซ้ายทะลุออกหูขวาทำนองนั้นเลยจริงๆ
"หนูไม่ได้ว่า แค่เตือนสติที่ไม่ค่อยจะมีของพ่อเฉยๆ"
เตยหอมไม่เคยเเบเงินขอค่าเทอมจากคุณพ่ออันเป็นที่รักเลย ที่ยังมีหน้าเรียนได้ทุกวันนี้เพราะกู้เรียนและทำงานพาร์ทไทม์ล้วนๆ บางสิ่งบางอย่างบังคับกันไม่ได้ พ่อไม่ต้องการส่งเตยหอมเรียน เตยหอมจึงไม่ได้ว่าอะไรท่านมากนัก
เคยยุ่งเรื่องส่วนตัวแล้วท่านก็ดักเอาไว้ว่าห้ามด่าเฉกเช่นครั้งนี้ 'ดีชั่วรู้หมดแต่อดไม่ได้' ตาเป้กได้กล่าวไว้
"ถ้าลูกโตขึ้นมากกว่านี้จะเข้าใจพ่อเองแหล่ะ พ่อไปละนะ"
ข้อดีของตาเป้กคือไม่มีเมียใหม่ ไม่เคยตีลูกหรือด่าเลยสักแอะ ความสัมพันธ์พ่อลูกจึงไม่เหินห่าง
ทว่าชายโสดเมียตายเพราะโรคร้ายและวิกฤตในตอนเอาเงินไปลงทุนแต่โดนโกงเมื่ออดีตที่พ่อต้องล้มลุกคุกคลานเลี้ยงดูลูกสาวทั้งสองมา ทำให้พ่อใช้เหล้าเพื่อปลอบประโลมความเสียใจ จนติดเหล้างอมแงมในตอนนี้
"ตอนนี้หนูก็เข้าใจพ่อแล้วนะ แต่พ่อไม่เข้าใจสถานการณ์การเงินในบ้านเลยเหรอ?"
พ่อยังคงคิดถึงแม่ในทุกๆวันอย่างไม่เคยลืมเลือน
สำหรับเตยหอมนั้นเข้าใจว่าทุกเรื่องที่พ่อเสียใจและไม่เคยลืมนั้นควรแยกแยะตรงที่ ทุกเรื่องที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ล้วนผ่านมาแล้วก็ผ่านไป
เศร้าโศกเพราะคนรักจากไปก็เป็นเพียงช่วงเวลาหนึ่งของชีวิตที่ควรต้องเดินหน้าต่อ เรื่องที่ไม่ประสบความสำเร็จหรือผิดหวังนั้นก็เป็นเรื่องราว เป็นประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาแล้วก็ผ่านไปเท่านั้น ควรทำใจและเดินหน้าต่ออย่างมีสติให้ได้
หากทำไม่ได้ก็ต้องตกเป็นทาสของบางสิ่งบางอย่างตลอดชีวิต เหล้าเป็นเพียงส่วนหนึ่ง เพราะขึ้นอยู่กับว่าพ่อจะเลือกตกเป็นทาสความเสียใจ ความผิดหวังไปอีกนานตลอดชีวิตหรือไม่นั้น ทุกคนสามารถเลือกเองได้ทั้งนั้น
"พ่อเลิกเหล้าไม่ได้เลยเหรอ?"
ใช่ว่าลูกสาวคนนี้จะไม่อยากเห็นพ่อมีความสุข แต่ก็เข็นพ่อตื่นจากความทุกข์ไปครั้งที่เท่าไหร่แล้วก็คร้านจะนับ
"เออๆพ่อจะพยายามลดหน่า เอ็งรีบขึ้นไปนอนเถอะยังเช้าอยู่เลย มีธุระไปไหนแต่เช้าหรือไงหล่ะ ไปนอนอีกสักงีบก่อนก็ได้นะลูกสมองจะได้ปลอดโปร่งพร้อมไปเรียนได้"
"เงินจะไปเรียนยังไม่มีสักบาทเลยพ่อ ชั่งสมองมันเถอะ!!"
"พ่อก็จะออกไปหาเงินมาให้เอ็งอยู่นี่ไง!!!"
"เหรอ?"
"ไปละๆ ไอ่เตยนี่ยิ่งโตยิ่งขี้บ่นจริงๆเลยลูกสาวคนนี้นี่!!" สิ้นเสียงพ่อก็คร่อมมอเตอร์ไซค์แล้วกระทืบสตาร์ทรถออกไปเลย
"..." เตยหอมทำได้เพียงมองตามแผ่นหลังพ่อและควันเขม่าที่ออกมาจากท่อรถมอเตอร์ไซค์คันเก่งของท่าน ด้วยความรู้สึกสิ้นหวังอีกครั้ง
ร่างผอมเพรียวเพราะช่วงเดือนนี้อดอาหารบวกกับกินไม่ลงเพราะกลัวไปหมด เครียดเรื่องเงิน คิดหนักทุกวันจนสมองตื้อไปหมด
ปล่อยวางได้นั้นก็ดี แต่เรื่องเรียนนั้นจะเอายังไง ปล่อยวางก็แปลว่าไม่เรียนต่อ
แม้มีเงินจ่ายค่าเทอม ทว่าเงินค่ากินและค่าใช้จ่ายทุกประการก็ต่อคิวมาแล้วจริงๆ
"เฮ้อ~ หมดทางเลือกแล้วสินะ"
หากได้เรียนสำหรับเตยหอมนั้นสามารถต่อยอดได้ เป็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งที่ต้องการความรู้ ชอบอ่านหนังสือมากๆ ใฝ่เรียนอยู่ตลอดเวลา จำต้องคิดหนักและดิ้นรนเพื่อการเรียนเอามากๆ
มือเรียวผอมเอื้อมไปเปิดตู้เย็นเก่าๆด้วยหัวใจที่ห่อเหี่ยว หยิบขวดน้ำเปล่าเทใส่แก้วแล้วดื่ม จากนั้นเข้าห้องน้ำและอาบน้ำไปเลยทีเดียว
เนื่องจากวันนี้ไม่มีเรียนจึงต้องไปทำงานที่ร้านพรีเวดดิ้ง อีกอย่างพี่ผึ้งเจ้าของร้านก็สนิทสนมกับพี่มะนาว เตยหอมจะปรึกษาเปรยๆเอาไว้ ทว่าจะไม่ยอมบอกจุดประสงค์ของตนเองออกไปให้ตนเองเขินอาย
อีกอย่างคนดีๆที่ไหนจะสนับสนุนกันไปในทางนั้นหล่ะ ไม่นับเรนเดียร์เพราะรายนั้นรับรู้เรื่องราวของเตยหอมดี รู้นิสัยใจคอหากตัดสินใจอะไรไปแล้ว
ชีวิตของเตยหอมไม่ได้มาถึงทางตันเลยสักนิด เพราะเตยหอมเลือกที่จะเรียนต่างหาก จึงดิ้นรนไปเอง เธอเลือกแล้ว...