[10] เหมือนตุ๊กตายางพอจะเข้าใจไหม?
ติ๊งงง!!!
แฮมและไส้กรอกชั้นดีถูกนำออกจากเตาไมโครเวฟโดยที่เตยหอมไม่ลืมใส่ถุงมือกันความร้อนก่อน กลิ่นหอมตลบอบอวล เตยหอมเลือกทำอาหารง่ายๆเพราะหิวมากๆแถมยังต้องรักษาเวลา
"หื้มอร่อย!!"
คนไม่เคยได้กินของดีๆ พอกัดเข้าไปเต็มคำนั้นดวงตากลมโตลุกวาวขึ้นมาในทันที ถึงแม้จะไม่ใช่เวลามาดีอกดีใจกับของกินก็ตาม
แต่นี่คือสิ่งที่ตนเองเลือกก็ต้องยอมรับผลที่จะตามมา เตยหอมจะพยายามมีความสุขกับเรื่องเล็กๆน้อยๆในแต่ละวันให้ได้
แถมอีกสองวันก็ต้องจ่ายค่าเทอม ค่าใช้จ่ายพุ่งเข้ามาตู้มเดียว คนหมดปัญญาแทบอกแตกตายในแต่ละวันเลยจริงๆ
Hrrrrr!
เมื่อมีเสียงโทรเรียกเข้าเตยหอมจึงหยิบทิชชูเช็ดมือลวกๆแล้วควานหามือถือในกระเป๋ากางเกงยีนส์ตัวโปรดอย่างลุกลี้ลุกลน คิดว่าพี่มะนาวโทรมาในตอนนี้
"ฮัลโหลเตย มึงอยู่ไหนกูไปส่งตาดอนที่บ้านมึง เข้าไปหา ตาเป้กบอกว่ามึงยังไม่กลับบ้าน อยู่ที่ไหน?"
เรนเดียร์มักจะเป็นห่วงเสมอ เป็นห่วงมากกว่าคนในครอบครัวเลยด้วยซ้ำไป เตยหอมอมยิ้มให้กับน้ำเสียงร้อนรนของแม่สาวลูกครึ่งเพื่อนรัก
"เมื่อกี้กูไปผับ จะเริ่มวันนี้ไงมึงจำไม่ได้เหรอ?"
"เออลืมเลย มัวแต่หัวเสียกับเรื่องไอ่เกื้อกูลอยู่ แล้วนี่เป็นยังไงบ้าง เจอเสี่ยเสือเจ้าของผับยังอะ?"
น้ำเสียงฉุนไม่หายเพราะพักหลังๆนี้เรนเดียร์มีปากเสียงกับแฟนหนุ่มบ่อยครั้ง
"เจอแล้วๆ อยู่ที่คอนโดของเขาเนี้ย ที่นี่สวยหรูมากๆอะเดียร์ บุญตากูสุดๆ เหมือนยกบ้านทั้งหลังมาไว้บนตึกเลย"
"เขาเรียกว่าเพนท์เฮ้าส์ป่าว ถ้าหรูและกว้างมากๆอะ!"
"เออแล้วไวไปไหนอะ รวดเร็วทันใจกูแท้ ดีใจหว่ะที่มึงเจอเสี่ยรูปหล่อเเล้ว"
เรนเดียร์รัวบทสนทนา น้ำเสียงตื่นเต้นระคนลุ้นสุดตัว
"กูก็ยังงงๆอยู่เลย เดี๋ยวกลับไปจะเล่าให้ฟัง แต่มึงไม่ต้องห่วงกูนะ เขาไม่ป่าเถื่อนเลยมึงโครตใจดีอะ"
อย่างน้อยๆเสี่ยก็ใจดี เตยหอมเชื่อว่าเขาจะไม่ทำร้ายร่างกายผู้หญิง คาดหวังเพียงเรื่องเดียวเลยจริงๆ
"จริงดิ โชคดีหว่ะ พรหมลิขิตป่าวเนี้ย?"
"เพ้อเจ้ออีกละกูลิขิตเองนี่แหล่ะ แค่นี้ก่อนนะ เขารอคุยกับกูอยู่"
"จ่ะเพื่อนรัก"
ติ๊ดดด!!
"อิ่มยัง ฉันรีบ?"
ร่างหนายืนพิงประตูรออยู่ก่อนแล้ว เห็นเด็กสาวกำลังนั่งหันหลังให้ จิ้มไส้กรอกเข้าปากแล้วคุยไปด้วยอย่างออกรส เสือจึงถือวิสาสะเเอบฟังทั้งๆที่เป็นเรื่องบังเอิญเพราะเขากำลังรีบร้อนมากจริงๆ
"..."
เด็กสาวอ้าปากหว๋อกลางอากาศ ดวงตากลมโตเลิกลั่ก 'เขาได้ยินเธอคุยโทรศัพท์ทั้งหมดเลยอย่างนั้นเหรอ'
"อิ่มๆแล้วค่ะ!"
เตยหอมดีดตัวลุกขึ้นยืน จากนั้นเดินตามร่างหนาที่เดินนำไปยังโซนห้องรับแขก
"ฉันไม่ใช่คนธรรมดาๆ ถ้าเธอเข้ามาเพื่อจุดประสงค์อื่น เธอศพไม่สวยแน่ เมื่อกี้ที่คุยโทรศัพท์ขอให้เธอไม่ได้คิดจะหักหลังฉันหรือปองร้ายนะ!?"
มหาเศรษฐีหนุ่มเดินไปหยุดอยู่กลางห้องรับแขกแล้วหมุนตัวหันมาเผชิญหน้ากับหล่อน
บนโต๊ะหน้าโซฟาบุนุ่มมีแผ่นกระดาษและเงินแบงค์เทาจำนวนหนึ่งปึกวางไว้
เตยหอมเปรยตามองเล็กน้อย แล้วหันมาเผชิญหน้าอย่างกล้าๆกลัวๆดังเดิม
"หนูไม่มีทางทำแบบนั้นแน่นอนค่ะ หนูแค่ต้องการเงินจริงๆ เมื่อกี้เพื่อนแค่โทรมาเฉยๆเองค่ะ!"
ใบหน้าจิ้มลิ้มส่ายหน้า เสียงใสออดอ้อนไม่แผลงฤทธิ์เดชใดๆ เพราะเสี่ยชอบให้พูดเพราะๆเอาใจ
"แล้วเธอต้องการเงินเท่าไหร่?"
"เอาจริงๆหนูแค่ต้องการเงินไปจ่ายค่าเทอมและค่าใช้จ่ายภายในบ้าน หนึ่งแสนบาทก็เพียงพอค่ะ"
"ไหนบอกว่าจะให้รับเลี้ยง?"
"หนูแล้วแต่เสี่ยจะกรุณาค่ะ ยังไงเป็นเด็กเสี่ยหนูก็ไม่อดตายอยู่แล้ว"
"เวลาพูดกับฉัน ก็มองหน้าฉัน!!"
"เอ่อ..ค่ะค่ะ"
ตอบแบ่งรับแบ่งสู้ ทั้งที่มันแทบทำไม่ได้เลย ร้อยทั้งร้อยผู้หญิงที่มายืนอยู่ตรงหน้าของเขาก็ต้องใจเต้นแรงให้กับเสี่ยทั้งนั้น เตยหอมขอเอาหัวเป็นประกันเลยจริงๆ
'หล่อจนไม่กล้ามองหน้ามีอยู่จริง สายตาคมดุแบบนี้ทำให้ใจสั่นอยู่เรื่อยเลยจริงๆ'
"แล้วนี่ฉันจะแน่ใจได้ยังไง ว่าเธอยังซิง?"
เสี่ยถอนมือหนาทั้งสองข้างออกจากกางเกง ขายาวก้าวมุ่งตรงมาหา นัยน์ตาคมดุจ้องมองมาอย่างไม่ละสายตา
มือหนาช้อนปลายคางจิ้มลิ้มขึ้นเพราะเตยหอมขัดคำสั่ง ก้มหน้ามองพื้นอีกแล้ว
"หนูยินดีให้เสี่ยพิสูจน์ค่ะ"
แน่นอนว่ามันต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้ว ในเมื่อนายจ้างพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ไม่พร้อมวันนี้วันหน้าก็ไม่รอดอยู่ดี
เตยหอมโดนไล่ต้อนจนแผ่นหลังกระทบเข้ากับผนังห้อง คนตัวโตเบียดกลางลำตัวเข้ามาแนบหน้าอกหน้าใจผ่านเนื้อผ้า ด้วยความสูงที่ต่างกันริบ เตยหอมเงยหน้าขึ้นมองก็เมื่อยคอ
ในตอนนี้ใจดวงเล็กเต้นระบำหนักกว่าเดิม แทบลืมหายใจเลยจริงๆ
"ตัวสั่นเป็นลูกนกเลยนะ?"
ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมา เอาสันจมูกโด่งเกลี่ยพวงแก้มนุ่มๆสีอมชมพู
"ก็หนูไม่เคย แต่หนูทำใจได้แล้วค่ะ"
คนตัวโตหยุดเขี่ยจมูก แต่กลับทิ่มลงให้ผิวแก้มนุ่มบุ๋มอยู่อย่างนั้น ยังคงพ่นลมหายใจอุ่นๆกระทบลงบนผิวแก้มเด็กสาว ดวงตาคมดุจ้องมองในระยะที่ใกล้กันมากๆ จนร่างเล็กตัวสั่น
"หึ!! ขนาดทำใจได้ เธอยังแทบจะล้มทั้งยืน"
"หนูแค่เขินเพราะเสี่ยหล่อมากเกินไป~" ถึงแม้จะเขินมากๆก็ไม่วายยิ้มตาหยี๋ให้กับเขา
"ปากดี!! เธอกลัวโดนเอาก็บอกมาเถอะ"
แม้เสือพึงพอใจความปากหวานของหล่อนจนมุมปากร้ายเผยยิ้มขึ้นมา แต่ก็ไม่หยุดเอ่ยแซวเด็กสาวอยู่ดี
"..."
"เอาหล่ะสิ่งที่เธอต้องรับรู้เอาไว้คือฉันมีโรคประจำตัวนั่นคือโรคติดเซ็กส์ ฉันป้องกันและตรวจโรคตลอด เธอจะยอมรับได้หรือป่าวนั่นเป็นปัญหาของเธอ"
นิ้วโป้งหนาคลึงริมฝีปากล่างที่อวบอิ่มของเด็กสาวเบามือ มองสำรวจดวงหน้าจิ้มลิ้มชัดๆอีกครั้ง สวยไม่มีที่ติเลยจริงๆ
"..." 'แต่เป็นปัญหาใหญ่สำหรับเตยหอม เสี่ยตรวจโรคก็เสี่ยงทุกๆครั้งนั่นแหล่ะ'
"เพราะเธอหลงเข้ามาที่นี่แล้ว ไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรทั้งนั้น!!"
"หนูก็ยอมรับชะตากรรมของตัวเองแล้วค่ะ หนูไม่ได้คิดมากอะไร"
'มันก็ถูกของเขา ในเมื่อเลือกแล้วก็ต้องยอมรับผลที่ตามมาให้ได้สินะ'
"ฉันไม่ได้ถามว่าเธอคิดยังไง ไม่ต้องบอกฉัน" เสือไม่ชอบให้ใครมาอารัมภบทกับตนเท่าไหร่นัก ยกเว้นบนเตียง
"เธอนอนห้องนั้น ห้องตรงข้ามกันกับฉัน"
"..."
"ขอย้ำอีกครั้งว่าอย่าคิดเกินเลยเพราะฉันแค่ต้องการที่ระบายอารมณ์ก็เท่านั้น คิดซะว่าเธอเป็นเหมือนตุ๊กตายางของฉัน พอจะเข้าใจใช่ไหม?"
"หนูเข้าใจ แล้วจะให้หนูนอนที่นี่กี่คืนคะ?" เสียงใสเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง รับเอกสารมาจากคนตัวโตแต่ยังไม่อ่าน
"เป็นไปได้ก็ทุกคืน ถ้ามีธุระหรือจะกลับไปนอนที่บ้านก็แค่บอกฉัน"
หนังสือว่าจ้างแผ่นนี้ก็เป็นการเจรจาธุรกิจกันอย่างชัดเจนแจ่มแจ้ง เมื่อเตยหอมเซ็นชื่อก็เป็นเพียงลูกจ้างคนนึงนั่นเอง เสี่ยไม่ได้เลื่อนลอยอย่างที่คิด
แสดงว่าเสี่ยกำลังหาผู้หญิงคอยมารองรับอารมณ์แบบจริงจังอยู่ก่อนแล้วแน่ๆ แล้วเป็นเธอที่เข้ามาในจังหวะเหมาะเจาะ
"โอเคค่ะ!"
"เงินเดือน...เดือนละแสน"
"อ้อฉันเป็นคนขี้เบื่อถ้าเกิดวันไหนฉันไม่อยากเห็นหน้าเธอขึ้นมาก็อย่ามาร่ำไรกับฉัน แล้วเธอจะได้เงินก้อนไปตั้งตัว"