C H A P T E R 1 Harlan Gun (2)
หลบ ?
ฉันมุ่นคิ้ว พลางเค้นคำตอบจากตัวเองว่าทำอย่างนั้นจริงไหม
ก็เปล่านะ...ไม่ได้หลบสักหน่อย
มันไม่มีจังหวะให้ทักเลยทำเหมือนไม่เห็นก็เท่านั้นเอง ถ้าเออมีจังหวะให้สบตา หรือเดินผ่านกันแล้วเขาเองก็เห็นฉันด้วยฉันก็อาจจะยิ้ม ซึ่งเรื่องที่ฉันคิดแน่นอนว่าไม่อาจเปิดเผยออกไปได้ เพราะฉะนั้นแล้ว...
Alinda : ไม่ได้หลบนะ
ฉันพิมพ์ตอบกลับปืนไปหลังทิ้งช่วงห่างไปราวสามถึงสี่นาที ถามตัวเองว่าคาดหวังข้อความต่อจากนี้ไปของปืนไหม คำตอบก็คือไม่จนผ่านไปหลายนาทีก็ยังนิ่งสนิท เหมือนก่อนหน้านี้ไม่ได้มีข้อความส่งเข้ามา ผิดจากที่เดาไว้ว่าน่าจะออกแนวรวนหน่อย ๆ แต่นี่อ่านข้อความแล้วคือหายไปเลย ฉันจึงมั่นใจว่าเขาน่าจะทักให้รู้สึกตัว
ไปอย่างนั้นแหละ
อารมณ์ประมาณว่าฉันเห็นเธอนะ
ไม่ได้จงใจจะชวนคุยอะไรหรอก
อย่ามโนว่าฉันสนใจเธอ
จบปิ๊ง
และระหว่างรอข้าวที่ไม่รู้จะมาเสิร์ฟเมื่อไร เพราะคิวน่าจะยาวเป็นหางว่าว หลายโต๊ะที่มาก่อนพวกฉันยังไม่ได้กินกันเลย ฉันปวดเบาอยากเข้าห้องน้ำแม้จะไม่อยากลุกจากที่นั่งเดินไปเข้าก็ตาม ถามเบลกับแจนว่าใครจะไปบ้างยัยสองคนนั้นก็พร้อมใจกันส่ายหน้าปฏิเสธ
คำชวนของฉันอย่างหนักแน่น
“ไม่ไปก็ไม่ไป”
ฉันไหวไหล่แล้วก้มหน้าก้มตาค้นกระเป๋าสะพายใบโปรด
เพื่อหยิบกระดาษทิชชู่ของตัวเองติดมือไปด้วยเผื่อในห้องน้ำหมดจะได้มีใช้ และตอนขยับเก้าอี้เตรียมจะลุกขึ้นยืนเท่านั้นแหละ ยัยแจนเอื้อมมือมาจับแขนฉันไว้ นัยน์ตานี่เต้นระริกเชียว
“ไปด้วย!”
ฉันว่าฉันรู้สาเหตุของการเปลี่ยนใจกะทันหันนี้นะ
ยัยตัวแสบเอ๊ย!
“ไม่ต้องมาทำหน้ารู้ทันเลยยัยพริกเน่า”
“แกร้อนตัวไปไหม ฉันยังไม่ทันพูดอะไรเลยนะ” ฉันหรี่ตา
“ปากไม่ขยับแต่สายตาแกนี่มาเต็ม!”
“ไม่เห็นรู้ตัวเลย”
ฉันทำทีเป็นกระหยิ่มยิ้มย่องแกล้งยัยแจนตัวแสบแอบร้าย พลางยักคิ้วให้ยัยเบลที่นั่งเท้าคางทำหน้าตูมสนิทเพราะสุดท้ายต้องเฝ้าโต๊ะคนเดียว ชวนแต่แรกไม่ยอมไปก็งี้แหละ พอยัยแจนมันเกิดเปลี่ยนใจขอตามไปด้วยกะทันหันเท่านั้นแหละ คำว่า เสียดาย แปะบนหน้าผากตัวโตเชียว
“เดี๋ยวแกค่อยไปหลังจากฉันกับพริกหวานกลับมาละกัน”
“เชอะ!”
ฉันหัวเราะแล้วเดินตามแรงฉุดของแจน
แล้วยัยเพื่อนตัวแสบของฉันก็เก็บอาการแทบไม่อยู่เมื่อตอนกำลังจะเดินผ่านโต๊ะชายหนุ่มใส่เสื้อช็อปสีกรมนับสิบคนที่นำโต๊ะมาต่อกันยาวเหยียดเพื่อนั่งด้วยกัน จริง ๆ ก็ไม่ได้มีแค่ก๊วนนี้หรอกที่
ยกโขยงกันมากินข้าว เพียงแค่จุดสนใจกลุ่มอื่นไม่ดึงดูดสายตาได้มากเท่าหนุ่ม ๆ ที่มีดีทั้งรูปร่างหน้าตาและคณะที่เรียนไง ขอวงเล็บว่า
บางคนนะที่มีดีทั้งรูปร่างหน้าตาอะ
แล้วนี่ยังไม่นับรวมโต๊ะยิบย่อยที่นั่งกระจายกันไปอีกนะ และไม่ใช่แค่ที่นี่เท่านั้นนะจ๊ะ คือไปกินร้านไหนในพิกัดรอบ ๆ มหา’ลัยก็เจอแต่กลุ่มก๊วนของพวกวิศวฯ เขาแหละ ให้ความรู้สึกคล้ายอยู่ในดินแดนที่มีแต่คนห้าวหาญ และดิบเถื่อนตลอดเวลา
ฉันคลี่ยิ้มให้ปืนจาง ๆ ด้วยความจริงใจเมื่อสายตาของเรา
ทั้งสองคนบังเอิญประสานกันเข้าในจังหวะหนึ่ง เขามองฉันด้วยสายตาเรียบเฉยอยู่แป๊บนึงก่อนที่จะหันหน้าไปคุยกับเพื่อนตัวเองต่อแบบธรรมชาติมาก จะพยักหน้าให้สักนิดก็ไม่ได้ ฉันก็ยิ้มเก้อไปสิ
แต่ฉันก็ไม่โกรธหรือเก็บเอามาเป็นอารมณ์ให้ตัวเองหงุดหงิดอะไรหรอกนะ คิดแต่ว่าเมื่อเขาแสดงออกแบบนี้ ฉันว่าตัวฉันเองก็ควร
วางเฉยให้ได้อย่างเขาบ้าง เผื่อวันไหนเดินไปเจอคนที่ไม่ชอบหน้าเข้าจะได้เก็บอาการอยู่หมัด
“ปืนหยิ่งเหรอวะแก ฉันเห็นแกยิ้มให้ แต่เขาเหมือนจงใจเมิน”
“ก็อย่างที่แกเห็น” ฉันยักไหล่
ไม่รู้จะพูดอะไร ของมันเห็น ๆ กันอยู่
เพิ่งจะเคยถูกใครสักคนเมินจริงจังก็วันนี้นี่แหละ ก็ได้แต่ปล่อยเลยตามเลยไปเพราะฉันคงไม่เดินดุ่มสุ่มสี่สุ่มห้าเข้าไปหาแล้วถามว่ามีปัญหาอะไรกับเรารึเปล่าหรอก ส่วนเรื่องหยิ่งหรือไม่นั้น ฉันคนเดียวคงตัดสินไม่ได้
“ถ้าอย่างที่ฉันเห็นด้วยสองตาก็คือเขาเป็นคนหยิ่งคนหนึ่ง
นั่นแหละว่ะพริกหวาน หยิ่งมากเลยด้วย” แจนคิดแบบนั้นฉันจะว่าอะไรได้นอกจากพยักหน้าเห็นด้วย วันแรกที่เจอกันเขาไม่ได้ดูหยิ่งอะไรแบบนี้ เพียงแค่ประหยัดคำพูด แล้วฉันก็ไม่ได้คุ้นเคยอะไรกับเขา จะออกตัวแทนว่าไม่ใช่อย่างที่แกคิด มันก็ไม่ใช่
“แล้วแกยังจะขอสมัครเป็นเอฟซีเขาอยู่ไหมล่ะ” ฉันถามกึ่งกระเซ้า ยัยแจนเม้มปากทำหน้าคิดหนัก ก่อนจะพูดในสิ่งที่อาจไม่ตรงกับใจเท่าไรออกมา
“ขอเปลี่ยนใจเป็นชื่นชมอยู่ห่าง ๆ ดีกว่า ไม่อยากถูกแช่แข็ง”
ฉันหลิ่วตาครางอืมในลำคอยาวล้อเลียนยัยแจนตัวแสบ ขณะเดียวกันก็คิดว่าคำว่าหยิ่งกับเย็นชามันมีเส้นบาง ๆ กั้นอยู่แค่นิดเดียวเท่านั้นเอง
โชคดีที่แถวรอเข้าห้องน้ำฝั่งผู้หญิงมีไม่เยอะอย่างที่คิดไว้ รอต่อคิวอีกประมาณสามสี่คนฉันก็ได้เข้าแล้วล่ะ แต่กว่าจะได้เข้าก็ยืนดมกลิ่นบุหรี่วนไป เคยถามเพื่อนผู้ชายสายควันอยู่เหมือนกันว่าไม่เหม็นบ้างเหรอที่สูบกันอยู่น่ะ
แล้วคำตอบที่ได้ก็คือ...
แรกเริ่มเลยมันก็เหม็นเหมือนกันนั่นแหละ แต่เป็นความเหม็นที่สามารถอดทนกับมันได้ จนนานวันเข้าจากที่เหม็น ๆ ก็กลายเป็นความเคยชินกับกลิ่นในที่สุด ส่วนฉันที่ได้กลิ่นอยู่บ่อย ๆ น่ะเหรอ
ไม่เห็นจะชินได้สักที