บทที่ 8
กลับมาที่ปัจจุบัน ช่วงเช้าวันใหม่ สาวผมแดงก็รีบตื่นก่อนจะจัดการธุระส่วนตัวแล้วเดินกลับคฤหาสน์พลางยืดเส้นยืดสายไปตลอดทาง ไนเจลลัสก็ยังคงตามติดเธออยู่เหมือนเดิม บางครั้งระหว่างผ่านตลาด เจ้าตัวก็ยังแวะไปซื้อของกินแก้หิวมาให้เธอ แม้ไม่มีคำพูดแต่ก็รู้ว่าเขากลัวเธอจะหิว
“กล้วยปิ้งอร่อยดีนะ เจ้าก็กินบ้างสิ” อีกฝ่ายอุตส่าห์ไปซื้อมาให้ โรซาเลียก็เลยแบ่งเขาไปครึ่งหนึ่ง “รู้สึกปวดเมื่อยชะมัด เมื่อคืนไม่น่าเล่นจ้ำจี้กับเจ้าเลย”
“ข้าก็นอนอยู่เฉย ๆ เจ้าไม่ใช่เหรอที่เข้ามาเกาะแกะข้าเอง” ไนเจลลัสเถียงกลับ
“ข้าก็แค่หนาว อยากหาหมอนข้างอุ่น ๆ มากอด เจ้านั่นแหละ จับข้ากินเฉยเลย” เจ้าของเสียงหวานพ่นลมหายใจพรืดใหญ่แล้วบ่นต่อ “คลอเคลียกับเจ้าตั้งหลายครั้ง ข้าจะท้องไหมเนี่ย ตอนนี้ยังไม่พร้อมนะ จัดการศัตรูให้ได้ก่อนแล้วค่อยมีเถอะ”
'ถ้าข้าป่องขึ้นมา มีหวังพาลูกไปลำบากเหมือนโลกเก่าแหง ๆ ตอนนั้นถูกขังคุกสามเดือนไม่ใช่เรื่องตลกนะ!' โรซาเลียบ่นในใจพลางขยี้หัวตัวเอง พลันสายตาก็หันไปเห็นพี่สาวคนรองกำลังพาลูเซียนเดินอยู่ที่สนามหญ้าหน้าคฤหาสน์พอดี
“ท่านพี่!” สาวผมแดงกระโดดข้ามรั้วเข้าไปข้างในก่อนจะวิ่งไปหาเรเนสซ่า
“กลับมาแล้วเหรอ” หญิงสาวอ้าแขนรับน้องเล็กของบ้านที่วิ่งมากอดอย่างคิดถึงเหลือหลาย “ตอนนี้ลูเซียนหายดีแล้ว พี่ก็เลยพาเขาออกมาเดินสูดอากาศข้างนอก จะได้ไม่อุดอู้อยู่ในห้อง”
“อ้อ เจ้าหายดีแล้วงั้นเหรอ”
“คิดว่าตอนนี้ไม่เป็นไรแล้ว” ชายหนุ่มรู้สึกแปลก ๆ เมื่อเห็นสายตาที่มองมาของผู้กล้าจากโลกเก่า ในใจก็เริ่มสังหรณ์ว่าอาจมีเรื่องตามมา “มีอะไรหรือเปล่า”
“ข้ามีเรื่องอยากให้เจ้าช่วย” จากนั้นโรซาเลียก็เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทั้งสองฟังตั้งแต่มีรายงานว่าสุสานจอมมารถูกบุกรุกจนกระทั่งแผนการที่วางไว้ว่าจะเอายังไงต่อไป
“...อะไรนะ จะให้ข้าพาพวกเจ้าไปแมนไคน์เหรอ”
“ใช่ คนร้ายที่ขโมยร่างของจอมมารทาลอเรียนไปใช้พลังศักดิ์สิทธิ์ได้ ทุกคนที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์เป็นคนที่น่าสงสัยถ้าไม่นับข้ากับเจ้า ข้าอยากไปที่วิหารศักดิ์สิทธิ์และที่พระราชวังเพื่อดูว่าใครเข้าข่ายคนร้ายมากที่สุด” โรซาเลียรู้สึกคุ้นเคยพลังนั้น และเธอก็จำกลิ่นอายได้ ต่อให้ไม่เจอตัวแต่ถ้ารับรู้ได้ว่ามาจากใคร เธอก็ชี้ตัวคนร้ายถูกเหมือนกัน “ที่วิหารไม่เท่าไหร่ แต่ข้าต้องการคนของพระราชวังช่วยด้วยนั่นก็คือเจ้า”
“ข้าอุตส่าห์รอดตายจากราชินีมาแล้ว ยังจะกลับไปเพื่อให้นางฆ่าทิ้งอีกเหรอ ล้อเล่นหรือเปล่า!” ให้ตายเขาก็ไม่กลับบ้านเด็ดขาด “ตอนนี้พ่อข้าล้มป่วย ราชินีกุมอำนาจทั้งวัง หลังจากที่ข้าหายไป คงมีศพอื่นเพิ่มขึ้นแล้วล่ะ”
“แต่...”
“ผู้กล้าโรซาเลีย ข้าขอโทษ ข้าช่วยเจ้าไม่ได้จริง ๆ” ลูเซียนตัดบทก่อนจะรีบเดินหนี
“เดี๋ยวก่อน...อะไรอีกล่ะ!” พอกำลังจะตามไป ไนเจลลัสก็ดึงแขนเธอไว้พลางส่ายหน้าเล็กน้อย “เจ้าจะห้ามข้าหรือไง ลูเซียนเป็นคนเดียวที่รู้จักพระราชวัง ในสมัยข้า ข้าก็ไม่ได้เข้าวังบ่อย เพราะงั้นข้าไม่รู้ทาง คนที่พึ่งได้ก็มีแค่ลูเซียนเท่านั้น”
“ข้าจะคุยกับเขาเอง”
“เชิญจ้ะที่รัก คุยเลย ลากคอมันมาด้วยก็ดี”
'ส่งผัวไปคุย ได้เรื่องชัวร์' โรซาเลียกล่าวในใจพลางหลีกทางและผายมือเชิญให้นายน้อยแห่งซาตาน่าเดินตามหลังลูเซียนที่กำลังเดินหนี
“ท่านไนเจลลัสจะทำอะไรลูเซียนหรือเปล่า” เรเนสซ่ารู้สึกระแวงเพราะรู้ดีว่าชาวมนุษย์คนนั้นกลัวไนเจลลัส เห็นหน้าทีไรขนลุกทุกที
“ไนจี้ไม่ฆ่าเขาหรอกค่ะ เชื่อข้าเถอะ” สาวผมแดงปลอบใจพี่สาวก่อนจะมองตามหลังปีศาจผมสีขาว ตอนนี้เจ้าตัวตรงไปลากคอเสื้อลูเซียนให้หันกลับมาแล้ว
“อะไรอีกล่ะ!”
“เจ้าต้องพาพวกข้าไปที่พระราชวัง”
“ก็บอกว่าไม่ไปไง!”
“อกตัญญู”
“ฮะ?” ลูเซียนทำหน้าไม่ถูกเมื่ออยู่ ๆ นายน้อยแห่งซาตาน่าก็ด่าเขาเสียอย่างนั้น “อกตัญญูอะไร พูดบ้าอะไรของเจ้าเนี่ย!”
“ได้ยินว่าพ่อป่วย แต่เจ้ากลับไม่ไปดูดำดูดี ยิ่งตอนนี้ราชินีมีอำนาจ ทุกอย่างในอาณาจักรอยู่ในกำมือนาง เจ้าไม่คิดจะกลับไปช่วยพ่อเจ้าหรือไง”
“กลับไป ข้าก็เอาชีวิตไปทิ้งเปล่า ๆ ราชินีอยากฆ่าข้า ข้าก็บอกไปแล้วนี่”
“เจ้าเป็นรัชทายาท ทุกสิ่งทุกอย่างในอาณาจักรเป็นของเจ้าไม่ใช่ราชินี ถ้าเจ้าช่วยพวกข้า ซาตาน่าก็จะช่วยเจ้าด้วย ข้อเสนอนี้ พ่อกับแม่ข้าต้องทำตามที่ข้าบอกแน่ คิดว่าไม่ดีเหรอ ถ้าซาตาน่าจะหนุนหลังเจ้า” ไนเจลลัสยื่นข้อเสนอ ถ้าลูเซียนยอมพาโรซาเลียกับเขาไปยังพระราชวังเพื่อสืบหาเจ้าของพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ตกค้างในสุสานได้ เขาก็จะช่วยอีกฝ่ายกลับไปสู่ตำแหน่งและได้ครอบครองสิทธิ์ที่ควรจะได้
“ถ้าร่วมมือกับซาตาน่า ข้าจะกลายเป็นศัตรูของแมนไคน์ทันที”
“งั้นซาตาน่าจะประกาศว่าช่วยชีวิตเจ้าชายเอาไว้ จากนั้นขุดคุ้ยความชั่วของราชินีมาแฉเพื่อเอาหน้า” ไนเจลลัสจ้องเข้าไปในดวงตาสีฟ้าของอีกฝ่ายจนลูเซียนรู้สึกขนลุก “ถ้ายังจะเถียงอีก ข้าคงต้องทำอะไรสักอย่าง”
“เจ้าจะฆ่าข้าเหรอ”
“ข้าไม่จำเป็นต้องฆ่าเจ้า เพราะสำหรับข้า เจ้าก็แค่มนุษย์ไร้ค่าพอ ๆ กับเศษดินใต้รากมะม่วง นอกจากจะขี้ขลาดแล้วยังอกตัญญู ไม่ยอมกลับบ้านไปดูพ่อที่กำลังป่วย ไม่รู้ว่าตอนนี้ราชินีอะไรนั่นจะทำอะไรบ้าง เจ้าเป็นลูกราชา เคยสำนึกถึงหน้าที่ของลูกหรือเปล่า ไหนจะฐานะเจ้าชายรัชทายาทอีก ดูตอนนี้สิ อาศัยบ้านคนอื่นแล้วยังกิน ๆ นอน ๆ ไปวัน ๆ หัดทำอะไรให้เป็นประโยชน์ซะบ้าง”
“ด่าขนาดนี้ เจ้าเป็นพ่อข้าเหรอ” ลูเซียนรู้สึกหงุดหงิดที่อยู่ ๆ นายน้อยแห่งซาตาน่าก็มาบังคับขู่เข็ญแล้วยังต่อว่าเขาอีก พลันไนเจลลัสก็เหยียดยิ้มชวนขนลุกออกมา
“ถ้าข้าเป็นพ่อเจ้า ข้าจะไม่ยืนด่าเฉย ๆ ข้าจะลากเจ้าไปนั่งคุกเข่าใกล้ ๆ ภูเขาไฟที่กำลังปะทุ ถ้ายังไม่สำนึก ข้าจะจับเจ้าโยนลงปากปล่องภูเขาไฟ”
“เจ้าไม่กล้าทำหรอก”
“...” ไนเจลลัสไม่พูดอะไรนอกจากมุมปากกระตุก คำพูดของลูเซียนเหมือนเป็นการพูดว่าเขาแค่ขู่ พริบตานั้นปีศาจหนุ่มก็คว้าคอเสื้อลูกหลานผู้กล้าเลโอนาร์ดจากนั้นก็บินขึ้นฟ้ามุ่งหน้าไปยังทิศที่ตั้งของภูเขาไฟด้วยความเร็วสูง
“เดี๋ยว ๆ เอาจริงเหรอเนี่ย!”
“โรซาเลียน่าจะเคยบอกเจ้าแล้ว ในโลกเก่า ข้าเป็นคนฆ่าเจ้า ถ้าในโลกนี้ต้องฆ่าเจ้าอีกครั้ง ข้าก็ไม่ขัด” พริบตานั้น คนพูดก็โยนชาวแมนไคน์ลงไปข้างล่างโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทางด้านลูเซียนก็ตั้งสติแล้วดึงพลังศักดิ์สิทธิ์มาใช้ทว่ากลับไม่มีอะไรออกมาเลย
“ทำไมข้าใช้พลังไม่ได้!!!”
“บริเวณนี้เป็นเขตอาถรรพ์ ถ้าไม่ใช่สายเลือดจอมมารก็อย่าหวังว่าจะรอดออกไปได้!!!” คำประกาศของไนเจลลัสที่ดังก้องฟ้าทำให้ชายหนุ่มผมสีทองแหกปากลั่น
“ยอมแล้ว ๆ ช่วยข้าที!!!”
“ยอมตั้งแต่แรกก็จบเรื่อง” เจ้าของเสียงหายแวบมาโผล่ใกล้ ๆ ก่อนจะกระชากคอเสื้อแล้วลากลูเซียนกลับไปยังเมืองหลวงเกเดียนซึ่งตอนนี้ที่สนามหญ้าหน้าคฤหาสน์เบอร์นาเด็ท เรเนสซ่ากำลังกระวนกระวายเพราะกลัวว่าไนเจลลัสจะฆ่ามนุษย์จริง ๆ
“ลูเซียน” หญิงสาวรีบวิ่งไปหาเมื่ออีกฝ่ายกลับมาแล้ว
“ทำยังไงก็ได้ให้สติมันกลับมา” ปีศาจผมสีขาวทิ้งอีกฝ่ายลงพื้นจากนั้นก็เดินกลับไปหาโรซาเลียที่กำลังมองเขาด้วยสีหน้าแปลก ๆ
“เมื่อกี้เจ้าลากเขาไปไหน”
“โยนลงปากปล่องภูเขาไฟ”
“ไม่ทำเกินไปหน่อยเหรอ” สาวผมแดงชี้ไปที่ผู้เคราะห์ร้ายที่ตอนนี้นั่งเหม่อลอยเหมือนคนขวัญบิน เรเนสซ่าเขย่าเรียกเท่าไหร่ก็ไม่มีการตอบสนองกลับมาเลย
“ขอดี ๆ แล้วไม่ช่วย ข้าก็เลยต้องใช้ความรุนแรง” ไนเจลลัสไม่ได้แสดงออกว่ารู้สึกผิดแม้แต่น้อย ฆ่าคนทั้งดินแดนก็ทำมาแล้วในโลกเก่า แค่ข่มขู่มนุษย์โดยการโยนลงปากปล่องภูเขาไฟทำไมเขาจะทำไม่ได้
“ปกติเขากลัวอยู่แล้ว ทำแบบนี้คงกลัวเจ้ามากกว่าเดิม”
“ข้าต้องสนใจด้วยเหรอ” เดิมทีเขากับลูเซียนควรเป็นศัตรูกัน ดังนั้นใครจะดีกับอีกฝ่ายก็ดีไป แต่เขาไม่เอาด้วย “ข้าไม่ชอบเจรจา รำคาญ เสียเวลา”
“แล้วในโลกเก่า ที่ข้าวอแวเจ้าบ่อย ๆ เจ้ารำคาญหรือเปล่า”
“รำคาญ”
“เอ่อ...” พอได้ยินอีกฝ่ายตอบอย่างไม่ลังเล โรซาเลียก็ถึงกับสะท้าน
“แต่น่ารัก ข้าชอบ ข้าให้อภัย”
“...”