บทที่ 7
'หุ่นเจ้าก็ยังเหมือนเดิม กินอะไรก็ไม่อ้วนหรอก'
“ไนจี้บอกว่าข้ากินอะไรก็ไม่อ้วน งั้นต่อให้กินโดนัทหมดจาน พุงข้าก็คงไม่ออกสินะ” โรซาเลียนึกถึงคำพูดของไนเจลลัสเมื่อตอนกลางวันแล้วก็รู้สึกสบายใจก่อนจะกินโดนัทเคลือบน้ำตาลอย่างเอร็ดอร่อย
ตอนนี้เป็นเวลากลางคืน ช่วงเช้าเธอจะกลับไปที่บ้าน แต่ระหว่างพักอยู่ปราสาท หญิงสาวที่รู้สึกอยากกินโน่นอยากกินนี่ขึ้นมาก็ไม่ได้มีแค่โดนัท แต่ยังมีคุกกี้ น้ำผลไม้ และขนมปังอบใส่นมกับเนยด้วย แถมยังนำมานั่งกินบนเตียงอีก นัยน์ตาสีเขียวชำเลืองมองเจ้าของห้องซึ่งอาบน้ำเสร็จแล้ว เจ้าตัวสวมเสื้อสีดำเรียบ ๆ และกำลังใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมที่เปียกน้ำอยู่ เมื่อรู้สึกว่าถูกมองจึงหันมา
“???”
“ไม่มีอะไร แค่คิดว่าผมเจ้าสวยมาก” ไนเจลลัสใช้มือจับเส้นผมตัวเองขึ้นมาดูทันที “เป็นผู้ชายแท้ ๆ แต่ผมสวยกว่าผู้หญิงอีก ถ้าข้าผมสวยเหมือนเจ้าก็คงจะดี”
“ให้ข้าตัดผมไปต่อให้เจ้าเอาไหม”
“ไม่เอา ๆ ใจคอจะยกโน่นยกนี่ให้ข้าหมดเลยหรือไง” ไม่ว่าจะมีอะไร หากเธอต้องการ ขอแค่พูดออกมา เขาก็พร้อมจะทำให้ทุกอย่าง ตั้งแต่ช่วยเธอจากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ไม่ให้ถูกเผาทั้งเป็นในโลกเก่า ไนเจลลัสก็ตามใจเธอตลอดและไม่เคยขัดใจเลยสักครั้ง “กินไหม” เธอชวนเขากินขนม
“ไม่” เจ้าของห้องปฏิเสธ
“ถ้าข้าอยากให้เจ้าช่วยกินล่ะ”
“ได้” อีกฝ่ายขึ้นมานั่งข้าง ๆ บนที่นอนแล้วหยิบโดนัทมากินชิ้นหนึ่ง จากนั้นก็ขมวดคิ้วตามด้วยมองน้ำตาลที่เคลือบขนมก่อนจะชำเลืองมองสาวผมแดง “หวานเกินไป”
“อร่อยจะตาย”
“...”
“ช็อกโกแลตก็อร่อย” คราวนี้โรซาเลียหยิบช็อกโกแลตที่มีลักษณะคล้ายผลมะกอกและมีไม้เสียบราวกับลูกชิ้นปิ้ง เมื่อเห็นแล้วก็ทำให้นึกถึงเรื่องในโลกเก่าขึ้นมาอีก “นึกถึงตอนที่ข้าท้องได้สามเดือนกว่า ๆ เลย ช่วงนั้นแมนไคน์เพิ่งล่มสลายและเจ้ากลับมาที่ปราสาทพอดี จำได้ไหม อยู่ดี ๆ ข้าก็อยากกินมะกอกขึ้นมากลางดึก”
“ช่วงนั้นเจ้ากินเยอะมาก”
“สงสัยตอนอยู่ในคุก ข้าได้กินข้าวนิดเดียว ลูกก็เลยหิว” ทั้งที่เรื่องนั้นเป็นเรื่องเศร้า แต่โรซาเลียกลับยังทำหน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสได้ ทว่าไนเจลลัสกลับไม่ได้รู้สึกดี เขารู้ว่าเธอเป็นคนแบบนี้ ต่อให้มีปัญหาในใจ บางครั้งก็ไม่อยากให้คนอื่นเป็นห่วงถึงทำตัวร่าเริงปกปิด
“หรือว่าตอนนั้น มะกอกที่เจ้ากินยังไม่ทำให้เจ้าอิ่ม”
“อิ่ม ๆ ข้ากินไปตั้งเยอะ สงสารแต่คนครัว ต้องตื่นมาอบมะกอกให้ข้า” ตอนนั้นเธออยากกินก็จริงแต่ต้องอบร้อน ๆ ด้วย ไม่อย่างนั้นเธอจะไม่เอาเข้าปากเด็ดขาด
อย่าหาว่าโรซาเลียเรื่องมากเลย ที่เธออยากกินเพราะเฟลิคต่างหาก!
ในโลกเดิมหลังแมนไคน์เพิ่งล่มสลายมาหมาด ๆ ผู้กล้าคนที่ยี่สิบสี่ก็กลายเป็นมนุษย์คนสุดท้ายแต่เธอไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะเป็นตัวการที่ขอให้จอมมารทำลายทุกสิ่งทุกอย่างสาสมกับที่คนพวกนั้นทำกับเธอจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด โรซาเลียคงไม่ต้องกลัวว่าจะมีใครมาทำร้ายเธออีก เมื่อได้รักษาตัว เธอก็อาการดีขึ้น ยิ่งตอนนี้ท้องได้สามเดือน เธอก็ได้รับการดูแลอย่างดี
แต่ดูเหมือนคืนนี้จะมีเรื่องรบกวนทำให้ต้องตื่นมากลางดึก!
'อยากกินมะกอกจังเลย' ร่างบางในสภาพที่มีผ้าพันแผลพันแทบทั้งตัวก้าวลงจากเตียงแล้วเดินผ่านทางออกที่มีม่านกั้นไปยังห้องนั่งเล่น แม้ตอนนี้สภาพร่างกายจะยังเจ็บไปทั้งตัวแต่ความหิวมีมากกว่า ถ้าไม่ได้กินมะกอก เธอจะไม่กลับไปนอนพักแน่
“ไปไหน” เสียงเจ้าของห้องดังมาจากทางด้านหลัง โรซาเลียหันไปมองแล้วก็เห็นไนเจลลัสเดินตามมาด้วยสีหน้าเหมือนคนง่วงนอนเต็มทน แต่เพราะห่วงเธอ กลัวว่าถ้าปล่อยให้ลับสายตาแล้วจะเกิดเรื่องอะไรอีก เจ้าตัวจึงไม่เคยหลับสนิทสักครั้ง จึงไม่แปลกหากร่างบางจะลุกไปไหนกลางดึกแล้วเขาจะรู้ตัว
“ข้าอยากกินมะกอก”
“ตอนตีสอง?”
“ใช่”
“...”
“ข้าไม่อยากรบกวนเจ้า ข้าก็เลยจะออกไปหากินเอง ถึงข้าจะอยู่ในสภาพยับเยิน ข้าก็ยังเดินไปไหนมาไหนได้นะ” โรซาเลียปั้นหน้ายิ้มสดใสทั้งที่ความจริงแล้วเธอเจ็บขามากเนื่องจากบาดแผลที่ถูกเพลิงศักดิ์สิทธิ์เผายังไม่หาย แถมยังถูกตีขาจนแทบหักก่อนโดนจับโยนใส่กองไฟอีก แต่ในเมื่อคนมันอยากกิน เธอก็ต้องกินให้ได้
ไนเจลลัสรู้ว่าอีกฝ่ายโกหกจึงเดินเข้ามาอุ้มแล้วพากลับไปนั่งที่เตียงตามเดิม สาวผมแดงทำท่าจะโวยวาย แต่เขาใช้มือปิดปากไว้จากนั้นก็รีบอธิบาย
“ข้าจะจัดการให้”
“ขอเป็นมะกอกอบร้อนด้วยนะ”
“ได้” คนรับปากเดินหายออกจากห้องไปเงียบ ๆ ปล่อยคนบาดเจ็บนอนรอของกินยามดึกต่อไป
ระหว่างนอนรอ โรซาเลียก็คิดอะไรเรื่อยเปื่อย ตั้งแต่ครั้งแรกที่รู้ว่าตัวเองเป็นผู้กล้าจากนั้นก็เข้ามาใช้ชีวิตในวิหารศักดิ์สิทธิ์ คนที่นั่นสอนให้เธอเป็นผู้กล้าที่ต้องกำจัดจอมมารให้ได้ แต่ลูกชาวบ้านที่ชอบวิ่งเล่นอย่างอิสระแบบเธอย่อมดื้อและไม่ฟัง ดังนั้นเมื่อได้เจอจอมมารเข้าจริง ๆ แทนที่จะเอะอะก็ฆ่าเหมือนผู้กล้ารุ่นก่อน ๆ เธอกลับไม่ทำอะไรแถมยังมาทำตัวสนิทสนมด้วยอีก แต่ดูเหมือนเพื่อนในวันนั้นจะกลายเป็นคนรักในวันนี้แล้ว
“ของที่เจ้าอยากได้” ไนเจลลัสกลับมาแถมยังยกจานใส่มะกอกอบร้อนมาให้ด้วย คาดว่าเมื่อกี้เจ้าตัวคงไปเร่งให้พวกข้ารับใช้ทำมาให้แน่ ๆ
“ขอบคุณ ข้าอยากกินมากเลย”
“ระวังร้อน” พูดไม่ทันขาดคำ โรซาเลียก็เผลอปล่อยมะกอกอบลงบนจานตามเดิมก่อนจะรีบเป่ามือตัวเอง “ข้ารู้ว่าเจ้าอยากกินมาก แต่ควรใจเย็น ๆ บ้าง รู้ทั้งรู้ว่าร้อน เดี๋ยวก็เจ็บกว่าเดิม” มือสองข้างของเธอมีบาดแผลไฟไหม้จากเพลิงศักดิ์สิทธิ์ พอจับของร้อน ๆ จึงมีเลือดซึมออกมาจากผ้าพันแผล
“สอนข้าซะเหมือนพี่สอนน้องเลย”
“เจ้าเคยบอกว่าอยากมีพี่ชาย”
“งั้นข้าคงเป็นน้องสาวที่ดื้อพี่ชายสินะ เป็นทั้งเพื่อน พี่ชาย และคนรักของข้ามันก็เหนื่อยใจแบบนี้แหละ”
“มะกอกเย็นแล้ว กินได้” ไนเจลลัสเป่าของกินให้เย็นลงแล้วป้อนคนนั่งข้าง ๆ ขืนให้กินเองเดี๋ยวก็ใจร้อนอีก “จริง ๆ แล้วที่อยากกินคือเจ้าเด็กนั่นใช่มั้ย”
“คงใช่มั้ง แต่ก็ดี ข้าจะกินอะไรก็ไม่มีใครห้าม ถ้าเจ้าห้ามก็ไม่ต้องมาคุยกันอีก”
“ข้าเคยขัดใจเจ้าด้วยเหรอ” ไนเจลลัสป้อนมะกอกอีก โรซาเลียก็กินแล้วกินอีกราวกับคนไม่เคยกินแต่ติดใจมาก “อยากได้อะไรก็บอกข้า อย่าไปทำเอง เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ ยิ่งท้องด้วยก็ควรอยู่เฉย ๆ”
“ข้าออกจะแข็งแรง โดนขังคุกสามเดือนยังไม่ตายเลย”
“อย่าดื้อได้ไหม” เขาอยากจะลงไปกราบแทบเท้าเสียเดี๋ยวนี้ถ้ามันช่วยให้เธอหยุดดื้อสักวัน “อยู่นิ่ง ๆ สักวันสองวันเถอะ” จอมมารอุตส่าห์ขอร้องทั้งที เธอจะหยุดดื้อตามที่เขาต้องการก็ได้
“งั้นข้าจะทำตัวดี ๆ ไม่ให้เจ้าเครียดสักวันสองวันก็ได้”
หลังจากนั้นสองวัน โรซาเลียก็กลับมาดื้อเหมือนเดิม