บทที่ 4
เสียงระเบิดดังสนั่นก่อนที่คลื่นพลังจะแผ่ขยายออกไปทุกทิศทางและกระทบกับกำแพงสุดเขตแดนของมิติที่สร้างขึ้นเพื่อให้ประลองโดยเฉพาะ ไนเจลลัสยืนมองด้วยสีหน้าเรียบเฉยโดยมีเรเนสซ่ายืนอยู่ด้านหลัง เพราะถ้าหากมีลูกหลงบินมา นายน้อยแห่งซาตาน่าจะช่วยรับมือให้ เธอจะได้ไม่เป็นอันตราย
“ท่านไนเจลลัส ไม่เป็นอะไรแน่นะคะ”
“ปกติดี” เจ้าตัวกล่าวสั้น ๆ แต่สายตายังคงมองสองผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์กำลังต่อสู้กัน แม้ลูเซียนจะยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บแต่ก็ไม่ได้ไร้น้ำยา ส่วนใหญ่เจ้าตัวมักเป็นฝ่ายพุ่งเข้าโจมตีโรซาเลียมากกว่า
กลับมาที่เขตการประลอง หนุ่มผมสีทองพุ่งไปหาคู่ต่อสู้ตามด้วยซัดพลังศักดิ์สิทธิ์เข้าใส่แต่กลับทำลายสนามพลังซึ่งเป็นเกราะป้องกันเข้าไปเล่นงานสาวผมแดงไม่ได้ หญิงสาวยืนยืดเส้นยืดสายอยู่ข้างในก่อนจะพึมพำกับตัวเองเมื่อนึกถึงโลกเก่า
“ตอนที่ข้าเพิ่งย้ายมาอยู่ที่วิหารศักดิ์สิทธิ์ ครูที่สอนประวัติศาสตร์เคยให้ข้าอ่านเรื่องผู้กล้าคนที่ยี่สิบสาม เพราะเป็นเจ้าชาย เจ้าก็เลยมีพื้นฐานมาก่อน ทั้งความรู้และการต่อสู้ก็เลยเป็นคนที่เรียนรู้เร็ว ข้าล่ะอิจฉาจริง ๆ ผู้กล้าทุกคนมีแต่ชนชั้นสูง พื้นฐานเลยดี ในขณะที่ลูกชาวบ้านอย่างข้าต้องเริ่มต้นจากศูนย์” กล่าวจบ ม่านพลังก็ขยายตัวแล้วซัดลูเซียนจนกระเด็นถอยหลังออกไปไกล ทว่านั่นก็ทำให้บาเรียสลายและไม่มีอะไรป้องกันให้โรซาเลียอีกแล้ว
'ตอนนี้ล่ะ!' ชายหนุ่มพุ่งไปหาหญิงสาวด้วยความเร็วสูงเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรขวางเขา
“อินโนเซนเทีย” สาวผมแดงเรียกดาบศักดิ์สิทธิ์คู่ใจออกมา “เรามาแกล้งเจ้าชายกันเถอะ” สิ้นคำพูดกับอาวุธประจำตัว เจ้าของเสียงหวานก็สะบัดดาบออกไป ลูเซียนมองไม่เห็นสายลมแต่อาศัยการได้ยินแล้วเอี้ยวตัวหลบจากนั้นเข้าประชิดฝ่ายตรงข้าม
“ข้าไม่แพ้ง่าย ๆ หรอกนะ คุณผู้กล้า”
“แหม มั่นใจเหลือเกิน” พริบตานั้นโรซาเลียก็ดีดตัวถอยหลังตามด้วยสะบัดดาบชี้ไปทางเป้าหมาย ดาบศักดิ์สิทธิ์นับสิบเล่มปรากฏขึ้นกลางอากาศแล้วพุ่งไปหาลูเซียน ชายหนุ่มทำท่าเหมือนใช้ดาบปัดป้องทั้งที่มือของเขาว่างเปล่า แต่สาวผมแดงกลับเห็นว่ามีบางอย่างแปลก ๆ
เขาใช้ดาบแน่ ๆ แต่ซ่อนเอาไว้ไม่ให้ใครเห็น โรซาเลียเห็นคลื่นพลังจาง ๆ ที่ก่อตัวเป็นรูปดาบอยู่ในมือขวาของคนตรงหน้า คนอื่นคงมองไม่เห็นแต่ผู้กล้าย่อมมองเห็นอยู่แล้ว
“คิดว่าตัวเองจะได้เปรียบฝ่ายเดียวหรือไง!” หนุ่มผมสีทองสะบัดมือส่งสายพลังออกไปไล่โจมตีคู่ต่อสู้ทำให้เธอวิ่งหลบสลับกับสะบัดดาบปัดป้อง
ช่วงที่ทางนั้นสู้กำลังวุ่นวายกับพลังโจมตีชนิดอื่น ลูเซียนก็อาศัยจังหวะนี้ใช้ดาบล่องหนวาดวงเวทขึ้นกลางอากาศตามด้วยกล่าวภาษาที่มีแค่ผู้ใช้พลังศักดิ์สิทธิ์เท่านั้นที่เข้าใจ ก่อนที่วงเวทนั้นจะยิงลำแสงสีขาวออกมา โรซาเลียหันไปเห็นลำแสงแต่ยังไม่ทันจะสร้างเกราะป้องกัน พลังนั้นก็พุ่งใส่เธอเต็ม ๆ ส่งผลให้มันลากเธอไปแล้วระเบิดอัดกำแพงเขตแดนทันที
“โรซาเลีย!” เรเนสซ่าหน้าซีดเผือดเมื่อเห็นน้องสาวถูกทำร้าย
“...” ไนเจลลัสยังคงหน้านิ่งแต่เริ่มขมวดคิ้วก่อนจะชำเลืองมองชาวแมนไคน์ด้วยสายตาอาฆาต ซึ่งคนถูกมองก็รู้สึกเสียวสันหลังอย่างบอกไม่ถูกเช่นกัน
ลูเซียนรู้ว่าแค่นั้นยังทำให้โรซาเลียล้มลงไม่ได้ เขาจึงส่งพลังไปที่ดาบคู่ใจแล้วอาศัยจังหวะนี้พุ่งไปหาคู่ต่อสู้ ทันทีที่เห็นเงาคนปรากฏในหมอนควันหลังการระเบิด ชายหนุ่มก็กระโดดแล้วฟาดดาบลงไปสุดแรงส่งผลให้เกิดระเบิดตูมใหญ่ คลื่นพลังศักดิ์สิทธิ์ถูกซัดออกมาเป็นวงคลื่นและพุ่งผ่านไนเจลลัสไป ใบหน้าของเขาปรากฏรอยแผลไฟไหม้แต่เจ้าตัวแค่เอามือลูบ บาดแผลก็หายไปแล้ว
ทางด้านลูเซียนที่อยู่ในท่าฟาดดาบลงมาก็กัดฟันกรอดเมื่อเห็นว่าคู่ต่อสู้หยุดเขาได้ แต่นั่นไม่เท่ากับภาพที่โรซาเลียใช้มือเดียวรับดาบของเขา สภาพเธอไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วนแถมยังส่งยิ้มให้อีก
“อัศวินแห่งแสงที่ข้าเคยรู้จัก ขนาดบาดเจ็บยังทำได้ดีกว่านี้อีก” พริบตานั้นม่านพลังที่อำพรางดาบก็แตกเป็นเสี่ยง ๆ ลูเซียนเบิกตากว้างเพราะไม่นึกว่าหญิงสาวจะทำให้ดาบที่เขาซ่อนไว้แสดงตัวได้ “คิดว่าซ่อนดาบศักดิ์สิทธิ์ไว้แล้วจะไม่มีใครรู้เหรอ ผู้กล้าลูเซียน”
“เจ้าทดสอบข้า” ชายหนุ่มกล่าวขึ้นหลังจากดีดตัวถอยหลังออกมาห่าง ๆ
“ข้าไม่เชื่อว่าเจ้าชายเฮเลนนัสจะเป็นผู้กล้า ถึงจะไม่เคยเจอตัวแต่ข้ามั่นใจว่าระดับพลังศักดิ์สิทธิ์ไม่สูงเท่าเจ้าแน่ ไม่อย่างนั้นราชินีจะเล่นงานเจ้าทำไม” โรซาเลียเก็บดาบศักดิ์สิทธิ์ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ทำเอาลูเซียนเผลอถอยหลังไปก้าวหนึ่ง “วางใจเถอะ ข้าไม่ทำร้ายผู้กล้าด้วยกันหรอก นอกจากเจ้าจะประกาศเป็นศัตรูกับข้า”
“ไปได้แล้ว จูปิเตอร์” กล่าวจบ ดาบสีทองสวยงามก็จางหายไป และจะกลับออกมาอีกครั้งก็ต่อเมื่อเจ้านายกำลังตกอยู่ในอันตราย
“เจ้ามีดาบศักดิ์สิทธิ์ได้ยังไง ทางวิหารยังไม่ได้ทำพิธีเรียกดาบศักดิ์สิทธิ์ให้เจ้าเลย” โรซาเลียรู้สึกแปลกใจที่อีกฝ่ายมีอาวุธราวกับเป็นผู้กล้าเต็มตัวแล้ว
“แม่ข้าทำพิธีให้”
“หา?”
“ท่านแม่ของข้าเคยเป็นนักบวชศักดิ์สิทธิ์ ท่านรู้ว่าอนาคตข้าจะเป็นผู้กล้าและท่านแม่ก็รู้ด้วยว่ามีคนคิดจะทำร้ายข้า ท่านแม่ก็เลยแอบทำพิธีเรียกดาบศักดิ์สิทธิ์ให้ข้าตั้งแต่เด็กเพื่อให้ข้าใช้ปกป้องตัวเอง แต่ข้าไม่อยากให้ใครเห็นก็เลยสร้างม่านอำพรางไว้”
“แล้วอดีตราชินีรู้ได้ยังไงว่าเจ้าเป็นผู้กล้าคนที่ยี่สิบสาม” โรซาเลียไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าอดีตราชินีจะมีพลังล่วงรู้อนาคตเหมือนพวกนักทำนาย
“ท่านแม่บอกว่าเทพีเทรเวน่ามาพบในความฝันและบอกเรื่องนี้กับท่าน”
“ท่านเทรเวน่าอีกแล้วเหรอ” สาวผมแดงถึงกับพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ ปกติผู้สร้างโลกจะไม่เข้ามายุ่งนอกจากเฝ้ามองความเป็นไปของโลก สงสัยเพราะไม่อยากให้โลกนี้เป็นเหมือนโลกโน้นถึงเข้ามาแทรกแซง
“ว่าแต่เจ้าเถอะ ถึงจะบอกว่าเป็นผู้กล้า แต่การจะเป็นผู้กล้าเต็มตัวต้องผ่านการฝึกฝนและทำพิธีจากวิหารศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น แล้วทำไมเจ้าถึงใช้พลังได้ราวกับเป็นผู้กล้าเต็มตัว” ลูเซียนสังเกตมาหลายครั้งแล้ว เขาไม่เคยได้ยินชื่อผู้กล้าโรซาเลียมาก่อนจนกระทั่งมีข่าวผู้กล้าวิปลาสให้ความช่วยเหลือซาตาน่า ช่วงนั้นทางวิหารศักดิ์สิทธิ์แทบจะรื้อตำราเก่า ๆ มาอ่านเพื่อสืบหาว่าเธอคือผู้กล้าคนไหนกันแน่ถึงทรยศไปอยู่ฝ่ายนั้น
“ความจริงข้ายังใช้พลังได้ไม่เต็มที่หรอก นี่ไม่ใช่ร่างของข้า”
“อ้าว”
“เคยได้ยินเรื่องโลกคู่ขนานหรือเปล่า”
“ก็เคยได้ยินเรื่องเล่านี้มาบ้าง แต่ยังไม่มีใครพิสูจน์ได้ว่ามีจริง”
“ถ้าข้าบอกว่ามีจริงล่ะ” ลูเซียนเงียบไปชั่วขณะก่อนจะเบิกตากว้างอย่างตกใจ “อย่างที่เจ้าคิด ข้ามาจากโลกอื่น แต่มาแค่วิญญาณ ส่วนร่างนี้ ท่านเทรเวน่าเลือกให้ข้ามาอาศัยอยู่”
“เจ้าเป็นผู้กล้าจากอีกโลกจริง ๆ เหรอ”
“ข้าชื่อโรซาเลีย โอเฟลี ผู้กล้าคนที่ยี่สิบสี่แห่งแมนไคน์ ยุคของข้าเริ่มขึ้นหลังจากที่ตัวเจ้าในโลกนั้นตายไปแล้วร้อยกว่าปี คู่ต่อสู้ของข้าคือจอมมารลำดับที่สิบหกหรือก็คือนายน้อยแห่งซาตาน่าที่กำลังมองเจ้าจนแทบจะกินหัวอยู่ตอนนี้”
“...” ลูเซียนหันหลังไปมอง แล้วก็เห็นสายตาของไนเจลลัสที่มองมาจนแทบจะกินหัวเขาอย่างที่โรซาเลียบอกไว้จริง ๆ ยิ่งรู้ว่าสองคนนี้เป็นอะไรกัน เขาก็พอจะรู้ว่าอีกฝ่ายอารมณ์ไม่ดีที่เขาเล่นงานสาวผมแดง
“ในโลกนั้น คู่ต่อสู้ของเจ้าคือจอมมารลำดับที่สิบห้า แต่ตอนบุกปราสาท จอมมารไม่อยู่ แต่เขาอยู่ เขาก็เลยฆ่าเจ้า”
“มิน่าล่ะ ทำไมข้ารู้สึกกลัวเขาอย่างบอกไม่ถูก” ชายหนุ่มเข้าใจแล้วว่าทำไมเห็นหน้าอีกฝ่ายทีไรถึงขนลุกทุกที ที่แท้ก็เป็นคนที่ส่งตัวเขาในโลกนั้นไปที่ชอบนี่เอง “แล้วคู่ปรับเจ้าล่ะ”
“ผัวข้าเองแหละ” ลูเซียนถึงกับยกมือกุมอกด้วยความตกใจ เรื่องภาษาก็ทำให้เขาตกใจมากพอแล้ว ยิ่งมารู้ว่าผู้กล้ากับจอมมารได้กันเอง เขาก็ยิ่งรู้สึกเหมือนสติตัวเองบินหลุดไปต่างแดน “จอมมารลำดับที่สิบหกเป็นพวกคุยได้ ถ้าเราไม่ทำอะไรเขา เขาก็ไม่ทำอะไรเรา เห็นครั้งแรก ข้าชอบเขาเลย หลังจากนั้นข้าก็ไปวอแวเขาบ่อย ๆ แต่ไม่รู้ว่าทำยังไง ข้าถึงตกจอมมารได้โดยไม่รู้ตัว”
“...”
“ข้าลืมบอกไป จอมมารที่ว่าก็ข้ามโลกมาเหมือนกัน”
“นั่นเหรอ!” ลูเซียนชี้ไปทางไนเจลลัสที่ตอนนี้เริ่มถกแขนเสื้อแล้ว
“วางใจเถอะ ถึงภายในจะเป็นจอมมารลำดับที่สิบหก แต่ภายนอกก็แค่นายน้อยนุ่มนิ่มน่ารัก ตราบใดที่ข้ายังอยู่ เจ้าไม่ต้องกลัวว่าจะโดนฆ่าหรอก แค่อย่าทำอะไรขัดหูขัดตาเขาก็พอ” จากนั้นโรซาเลียก็วิ่งไปหาไนเจลลัสตามด้วยหยิกแก้มอย่างมันเขี้ยว “ไนจี้ ๆ ไนจี้สุดที่รักของข้า”
'น่ารักกับเจ้าแต่กับข้า เขาแทบจะกินหัวอยู่แล้ว' หนุ่มผมสีทองเดินกลับมาหาเรเนสซ่าด้วยสายตาหวาดระแวงขณะมองไปทางปีศาจหนุ่ม
“ลูเซียน น้องสาวข้าไม่ได้ทำให้เจ้าบาดเจ็บมากใช่ไหม”
“ก็ไม่เป็นไร” เขารู้สึกแปลกใจที่หญิงสาวไม่ไปถามน้องสาวเลยว่าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ เหมือนเรเนสซ่าจะรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ เธอจึงกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“โรซาเลียไม่เป็นอะไรหรอก ข้ารู้ว่านางเจอเรื่องแบบนี้มาบ่อยแล้ว”
“อ้อ”
“ท่านพี่เรเนสซ่า ข้ากับไนเจลลัสขอกลับไปที่ปราสาทนะคะ มีเรื่องด่วนต้องไปจัดการ” ความจริงแล้วโรซาเลียแค่จะกลับไปบอกผลการทดสอบให้จอมมารทั้งสองรับทราบ
“ไปดีมาดีนะ”
“งั้นไปก่อนนะคะ” สาวผมแดงลากไนเจลลัสวิ่งออกจากสนามหญ้าโดยไม่ลืมหันมาโบกมือให้พี่สาวด้วย เมื่อน้องสาวไปแล้ว เรเนสซ่าจึงชวนลูเซียนกลับไปนั่งที่ศาลาชมสวนตามเดิม
คุกกี้ที่เหลือ เขาได้กินคนเดียว!