บท
ตั้งค่า

บทที่ 10

“ผู้กล้า! เจ้าทำอะไรท่านจอมมาร!”

“เจ้ามอมเหล้าท่านจอมมารแล้วคิดจะทำร้ายท่านใช่ไหม ตอบ!”

“ไอ้พวกบ้านี่! ถ้าข้าคิดจะทำร้ายไนจี้ ข้าไม่แบกเขากลับมาหรอก หลีกหน่อย ๆ ข้าจะพาไนจี้ขึ้นห้อง” ผู้กล้าสาวตะโกนไล่ปีศาจน้อยใหญ่ที่ออกมาโวยวายหลังเห็นเธอแบกจอมมารลำดับที่สิบหกในสภาพหลับไม่รู้เรื่องกลับมาที่ปราสาท

ตาบ้านี่กินอะไรเป็นอาหาร ทำไมตัวหนักอย่างนี้เนี่ย! เจ้าของเสียงหวานสบถในใจพลางใช้เวทลอยตัวเหาะขึ้นไปบนห้องที่อยู่ชั้นบนสุดของปราสาท โดยเข้าไปทางระเบียงหลังห้อง ใช้เท้าเปิดประตูก่อนจะลากฝ่ายชายเข้าไปด้านในแล้วพาขึ้นไปนอนบนเตียง

“ผู้กล้า เจ้าทำอะไรท่านจอมมาร”

“!!!” เสียงของใครคนหนึ่งดังขึ้นจากทางด้านหลังทำให้โรซาเลียถึงกับหลุดสะดุ้ง เมื่อหันไปดูก็พบว่าเป็นเด็กหนุ่มผมสีฟ้าและมีเขาคล้ายแพะบนศีรษะ

“ข้าคือโมรอส เป็นภูตประจำดินแดน ข้ามาหาท่านจอมมารแล้วรู้ว่าท่านออกไปข้างนอกกับเจ้า” โมรอสเบนสายตามามองไนเจลลัสที่หลับไม่ได้สติ พลันแววตาของคนพูดก็ฉายแววแข็งกร้าว “บอกมา เจ้าทำอะไรท่านจอมมาร”

“ข้าชวนเขาไปกินเหล้า แต่แค่แก้วเดียว เขาก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว”

“อะไรนะ! ชวนไปกินเหล้าเหรอ!” เด็กหนุ่มเบิกตากว้างก่อนจะยกมือกุมหน้าราวกับคนปวดหัว “ท่านจอมมารไม่ดื่มของมึนเมา เจ้าไม่รู้หรือไง!”

“หา!” โรซาเลียรู้แล้วว่าทำไมเขาทำท่าเหมือนไม่เคยดื่มของพวกนี้มาก่อน ตอนแรกเธอคิดว่าเขาแค่คออ่อนเฉย ๆ แต่ใครจะไปนึกว่าจริง ๆ แล้วไนเจลลัสจะเป็นคนไม่ดื่มพวกเหล้าเบียร์ “ไม่เคยกินมาก่อนเหรอ”

“ก็ไม่เคยน่ะสิ”

“...”

'เดี๋ยวนะ! เอ็งเป็นจอมมารไม่ใช่เหรอ ไหงของพวกนี้ถึงไม่เคยดื่มเลย แต่ผู้กล้าอย่างข้ากลับดื่มได้ดื่มดี พิลึกเกินไปแล้ว!' โรซาเลียไม่รู้ว่าควรจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี ขึ้นชื่อว่าเป็นจอมมาร อะไรที่มันเกี่ยวกับด้านลบ เธอคิดว่าไนเจลลัสน่าจะผ่านมาหมดแล้ว แต่ใครจะไปนึกว่าแม้แต่เหล้า เขาก็ไม่เคยดื่ม

“ถ้าเจ้าสลับมาเป็นผู้กล้า ส่วนข้าเป็นจอมมารยังน่าเชื่อกว่าอีกนะ” คนพูดเกาหัวยิก ๆ ก่อนจะขึ้นไปนั่งบนเตียงในพื้นที่ยังว่างอยู่ เนื่องจากเตียงใหญ่ แต่มีคนนอนแค่คนเดียว ที่ว่างจึงมีพอให้คนอื่นขึ้นมานั่งได้

“เจ้าจะทำอะไร” โมรอสถามอย่างสงสัย

“ก็นั่งเฝ้าไง คนเมาทั้งทีจะปล่อยให้อยู่คนเดียวเหรอ เป็นอะไรขึ้นมาจะทำยังไง ไม่รู้ล่ะ ข้าจะเฝ้าเขาจนกว่าเขาจะตื่นแล้วสร่างเมา ข้าถึงจะกลับ” ทว่าโมรอสกลับมองเธออย่างไม่ไว้ใจ มีที่ไหนผู้กล้ามาเฝ้าจอมมาร เกิดปล่อยให้อยู่กันสองคนแล้วหญิงสาวฆ่าเจ้านายของเขาขึ้นมาจะเป็นเรื่องใหญ่ “วางใจเถอะ ข้าไม่ทำอะไรเขาหรอก”

“ข้าจะแน่ใจได้ยังไง”

“งั้นก็มาเฝ้าด้วยกันสิ” โรซาเลียกลอกตามองบนก่อนจะหยิบถุงใส่ถั่วลิสงคั่วที่ซื้อก่อนกลับมากินเป็นของว่าง แต่สายตากลับเฝ้ามองไนเจลลัสอยู่ตลอด

โมรอสสังเกตเห็นแววตาของอีกฝ่าย ไม่รู้เขาคิดไปเองหรือเปล่า แววตาของเธอดูเป็นห่วงเจ้านายของเขาจริง ๆ ทั้งที่เธอเป็นผู้กล้าและควรสู้กับจอมมารจนตายกันไปข้าง แต่การที่เธอมาเป็นห่วงเป็นใยไนเจลลัส ภูตประจำดินแดนจึงรู้สึกไม่ชิน

กลับมาที่ปัจจุบัน ยามเช้าวันใหม่เป็นวันออกเดินทางของทั้งสามซึ่งคนหนึ่งถูกบังคับให้กลับบ้าน ส่วนอีกสองคนนั้นคือผู้บังคับให้ลูเซียนกลับเนื่องจากจะได้ติดตามอีกฝ่ายไปตามหาเจ้าของพลังศักดิ์สิทธิ์ที่ตกค้างในสุสานจอมมารด้วย เรเนสซ่าออกมาส่งทั้งสองโดยไม่ลืมนำขนมมาให้น้องสาวด้วย

“พี่ทำคุกกี้ไส้วานิลลา ถ้ายังไงก็เอาไปกินด้วย”

“ท่านพี่ใจดีที่สุดเลย” โรซาเลียสวมกอดพี่สาวอย่างรักนักรักหนา คุณหนูรองของบ้านจึงกอดตอบและลูบหลังเบา ๆ ทว่าพอหันไปเห็นสายตาของไนเจลลัส เธอจึงยิ้มฝืด ๆ แล้วผละออกจากน้องสาว

“ไปที่นั่นก็ระวังตัวดี ๆ อย่าดื้อ อย่าซนล่ะ”

“ข้าไม่ใช่เด็กนะคะ”

“ก็เจ้าซุกซนผิดวัยนี่” เรเนสซ่าหัวเราะเบา ๆ พลางลูบศีรษะคู่สนทนาก่อนจะปล่อยเธอให้กลับไปหาไนเจลลัสที่ทำหน้าเหมือนอิจฉาริษยาเพราะโรซาเลียไปสนใจคนอื่นมากกว่าเขา “ลูเซียน”

“เอ่อ...” เจ้าของชื่อทำตัวไม่ถูก

“เจ้าหายเป็นปกติก็ดีแล้ว กลับบ้านไป ไม่ว่าใครก็ตามที่คิดร้ายต่อเจ้า เจ้าก็ระวังตัวด้วยนะ ถ้าเจ้าอยู่ที่แมนไคน์ไม่ได้ก็มาอยู่ที่ซาตาน่า คฤหาสน์เบอร์นาเด็ทยินดีต้อนรับเสมอ” หญิงสาวนำจี้ห้อยคอสีดำมันวาวออกมาแล้วยื่นให้อีกฝ่าย “สีดำเป็นสีโชคดีสำหรับชาวซาตาน่า ข้าก็เลยหาเครื่องประดับสีดำมาให้เจ้าพกติดตัวไว้ เผื่อว่าความโชคดีจะทำให้เจ้าปลอดภัย”

“ขอบคุณมาก ถ้ามีโอกาส ข้าจะกลับมาตอบแทนเจ้า” ลูเซียนนำจี้ไปคล้องคอตัวเองพลางค้อมศีรษะขอบคุณหญิงสาวที่ช่วยชีวิตเขาก่อนจะเดินจากไปโดยมีโรซาเลียกับไนเจลลัสตามไปด้วย

“แล้วข้าจะส่งข่าวมานะคะ” สาวผมแดงโบกมือให้เรเนสซ่าก่อนที่เธอจะหายลับสายตาไป ทางด้านคนยืนส่งก็ถอนหายใจยาว รู้สึกเป็นห่วงน้องสาวอย่างบอกไม่ถูกแต่ก็ทำอะไรไม่ได้เพราะอีกฝ่ายไม่ใช่น้องสาวคนเดิมที่เหมือนตุ๊กตา แต่เธอเป็นใครสักคนที่มีภารกิจต้องทำให้สำเร็จ

“โชคดีนะ โรซาเลีย”

การเดินทางไปแมนไคน์ด้วยวิธีที่เร็วที่สุดคือการใช้เวทลอยตัวบินข้ามเหวกั้นชายแดนไปลงบนพื้นดินในเขตฝั่งแดนมนุษย์ ระหว่างข้ามเหว ไนเจลลัสมองสิ่งที่หลงเหลือจากการทำลายล้างเมื่อสองพันปีที่แล้ว หากเป็นเมื่อก่อนต้องมีร่องรอยของพลังตกค้าง แต่หลังโอดิสเซียสขึ้นจากเหวและกลับไปที่ซาตาน่า พลังจอมมารที่ตกค้างก็ไม่มีอีกแล้ว เหวที่ทอดยาวไปไกลนี้จึงเป็นแค่เหวธรรมดาที่ไม่มีอะไรซ่อนอยู่อีก

“เหวนั่นมีอะไรน่าสนใจเหรอ” ลูเซียนถามหลังจากร่อนลงมาเหยียบแผ่นดินแมนไคน์ เขาสังเกตมาสักพักแล้วว่าไนเจลลัสมองเหวกั้นชายแดนอย่างสนใจ

“ไนจี้ก็แค่นึกถึงพ่อของเขาน่ะ” โรซาเลียตอบแทนเพราะแน่ใจว่าอีกฝ่ายไม่คุยกับลูเซียนแน่ ๆ จนถึงตอนนี้เจ้าตัวก็ยังไม่ค่อยเปิดใจคุยกับใครนอกจากพ่อ แม่ และโรซาเลียเท่านั้น นอกจากจะมีเรื่องอื่นทำให้เขายอมคุยกับคนรอบตัว

“จริงสิ ตอนนี้ที่ซาตาน่ามีจอมมารตนแรกพำนักอยู่ด้วย ข้าเคยได้ยินว่าเขาเป็นคนเริ่มสงคราม นิสัยบ้าอำนาจ ในยุคของเขา แมนไคน์เสียดินแดนให้เขาไปครึ่งหนึ่งแต่ยึดคืนมาได้หลังการปะทะครั้งสุดท้ายระหว่างเขากับผู้กล้าเลโอนาร์ด” ลูเซียนไม่อยากให้ทั้งกลุ่มเอาแต่เงียบจึงชวนคุยระหว่างเดินผ่านเส้นทางในป่าไปหาตัวเมืองที่อยู่ใกล้ที่สุด “ว่าแต่เขาเป็นอย่างที่ประวัติศาสตร์บอกไว้หรือเปล่า”

“สมัยก่อนเป็นยังไง ข้าก็ไม่รู้นะ ตอนนั้นข้ายังไม่เกิดเลย แต่ปัจจุบัน ท่านโอดิสเซียสก็ทำตัวดี ไม่ได้ไประรานใคร เห็นบอกว่าเข็ดแล้ว ไม่เอาอีกแล้ว ตอนนี้เขาเป็นนักทดลองสติเฟื่อง ชอบทดลองโน่นนี่นั่นจนเกิดระเบิดแทบทุกสัปดาห์ก็เลยโดนท่านป้าด่าเอาบ่อย ๆ” โรซาเลียอธิบายพลางชำเลืองมองไนเจลลัสเพื่อสังเกตดูว่าเขาคิดยังไงเกี่ยวกับพ่อตัวเอง

“ตอนแรกที่แมนไคน์รู้ว่าจอมมารตนแรกยังมีชีวิตอยู่ ทุกคนกลัวมาก คิดว่าเขาจะยึดอำนาจคืนจากจอมมารลำดับที่สิบห้าแล้วก่อสงครามอีกครั้ง แต่พอได้ยินว่าไม่เอาตำแหน่งคืนแถมมีลูกกับจอมมารลำดับที่สิบห้า วิหารศักดิ์สิทธิ์ก็ถึงกับไปไม่เป็นเลยล่ะ” ลูเซียนได้ยินเรื่องพวกนี้มาจากแม่จึงเอามาเล่าให้โรซาเลียฟัง หญิงสาวหัวเราะเหอ ๆ แล้วกล่าวในใจ

'ขนาดผู้กล้ายังได้กับจอมมาร แล้วทำไมจอมมารกับจอมมารจะไม่ได้กันเองบ้างล่ะ' สาวผมแดงรู้สึกเครียด ถ้าไม่ติดว่าในโลกเก่า เธอคือผู้กล้าคนสุดท้าย ไม่อย่างนั้นสักช่วงเวลาหนึ่งก็อาจมีผู้กล้าแต่งงานกับผู้กล้าด้วยกันก็ได้

“เมืองที่อยู่ใกล้ที่สุดอยู่ไม่ไกลจากที่นี่ ก่อนอื่นข้าขอถาม พวกเจ้าจะตามหาคนที่ว่าจากที่ไหน ในวิหารศักดิ์สิทธิ์หรือว่าในวังก่อน” ลูเซียนวกกลับมาเข้าประเด็นที่ต้องคิดกันจริง ๆ เพื่อเป็นการวางแผนก่อนจะเดินทางไปยังเมืองหลวงของอาณาจักรซิเดร่า

“ข้าคิดว่าจะเข้าไปหาในวิหารศักดิ์สิทธิ์ก่อน ระหว่างนี้เจ้าก็ซ่อนตัวซะ ถ้าตอนนี้ราชินีกำลังมีอำนาจ ไม่แน่ว่าคนของนางอาจกระจายอยู่เต็มเมืองก็ได้ เอาไว้ถ้าพวกข้าจะเข้าวัง ถึงตอนนั้นจะขอให้ช่วยละกัน” โรซาเลียตบบ่าอีกฝ่ายเบา ๆ เป็นการปลอบใจว่าไม่ต้องกลัว “กล้า ๆ หน่อย ถึงในโลกเก่า เจ้าจะเป็นผู้กล้าก่อนหน้าข้า แต่โลกนี้ข้าแก่กว่าเจ้า ข้าก็เลยเป็นพี่ ไม่ต้องกังวลนะน้อง รุ่นพี่อยู่นี่แล้ว”

“ข้ายอมรับว่ากลัวราชินี ผู้หญิงคนนั้นมันนางมาร ถ้าเพื่อให้ได้สิ่งที่ต้องการ ต่อให้มีใครตาย นางก็ไม่สนใจหรอก” ลูเซียนไม่อยากเผชิญหน้ากับราชินี เพราะอย่างนี้เขาถึงไม่อยากกลับบ้าน แต่กลัวไนเจลลัสมากกว่าถึงจำใจพาทั้งสองมาที่แมนไคน์

“งั้นเรารีบไปที่เมืองกันเถอะ รีบหารถม้าโดยสารไปที่เมืองจะได้รีบทำงานให้เสร็จ ๆ” ในแดนมนุษย์ หากใช้เวทลอยตัวเดินทางทางอากาศในเวลากลางวันก็สะดุดตาเกินไป ดังนั้นเดินทางไปแบบชาวบ้านธรรมดาคงไม่มีใครสงสัย

ในที่สุดการตามหาคนบุกสุสานจอมมารก็เริ่มต้นขึ้น!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel