Tequilla Love 3 : เพื่อนบ้าน
“อือ” เจ้าของชื่อขานรับในลำคอ สายตาไล่มองของในตะกร้า ก่อนจะก้มมองไปยังปลายเท้าและขากางเกงที่เปียกชุ่มของตัวเอง
เหมือนจะตัวสูงขึ้นหรือเปล่า แต่ที่แน่ ๆ เมื่อมายืนเทียบกับเตกีลาตอนนี้ ฉันสูงแค่ไหล่เขาเองเหรอเนี่ย หายไป 2 ปีรู้สึกว่าเปลี่ยนไปเยอะและที่สำคัญเด็กนี่หล่อมาก ดีเอ็นเอเดียวกับมาร์ฉันยอมรับว่าพี่น้องหล่อทั้งคู่!
“ขอโทษ...ขอโทษนะคะ ฉันจะชดใช้ค่าเสียหายและค่าทำความสะอาดทั้งหมดเอง” เสียงกล่าวขอโทษคนตรงหน้าอีกครั้งก่อน แล้วหันไปพูดกับพนักงานที่วิ่งเข้ามาดูเราทั้งคู่ ตอนนี้ไม่ใช่แค่ความวุ่นวายเรื่องของที่เสียหายแล้ว เพราะ....
“พี่ยี่หวา...ขอถ่ายรูปหน่อยค่ะ ค่าทำความสะอาดคือรูปของพี่ยี่หวากับหนูค่ะ ~” ไม่ได้สนใจพื้นที่เลอะน้ำเลย แต่สนใจอยากถ่ายรูปฉัน
“ได้เลยค่ะ! ถ่ายสิบรูป ร้อยรูปก็ได้เลย แต่คิดค่าทำความสะอาดกับพี่ด้วยนะ เลอะกระจกเลยเดี๋ยวพี่รับผิดชอบทุกอย่างเอง”
“นี่แหละค่ะที่พี่ต้องรับผิดชอบ ถ่ายรูปกับหนูก่อน ~” ถึงปากจะพูดกับฉันแบบนั้น แต่สายตาของพนักงานกลับไปมองยังผู้ชายที่ยืนหน้านิ่งอยู่
“มาค่ะ มาถ่ายรูปกัน ~” อย่าไปมองผู้ชายคนนั้น! ไม่รู้ว่าความปากดี ปากร้ายลดลงไปบ้างหรือยัง แต่เด็กนี่เป็นแค่กับฉันมาตั้งแต่อยู่โรงเรียนเดียวกันแล้ว
10 นาทีผ่านไป
“ให้พี่ได้...” ค่าทำความสะอาดและค่าเหนื่อยพนักงานถูกยื่นไปตรงหน้าพวกเธอ แต่มันกลับถูกดันกลับมาให้ฉันตามเดิม
“ไม่ได้ค่ะ กฎของร้านเราห้ามรับเงิน พี่ยี่หวาชดใช้แล้วด้วยการถ่ายรูปกับพวกหนู พี่รู้มั้ยว่าหนูชอบพี่มาก ๆ ดีใจที่วันนี้เข้ากะดึกแล้วเจอพี่นะคะ ~”
“แต่ว่าพี่รู้สึกผิด เอาไป...”
“ไม่ค่ะ หนูจะไม่รักพี่นะคะ” พนักงานกอดอกอย่างไม่ยอม ซึ่งนั้นทำให้ฉันยอมแพ้ในที่สุด
“โอเคยอมแพ้แล้วค่ะ รักพี่ต่อนะคะ”
“พี่ยี่หวาน่ารักที่สุด ~”
“ขอบคุณมากนะคะ สู้ ๆ นะ ไว้พี่จะมาหาอีก ~” มือเล็กยกขึ้นโบกลาพักงาน ซึ่งทุกคนต่างโบกมือกลับให้ฉันด้วยรอยยิ้ม ฉันเดินออกจากร้านพร้อมถุงขนมในมือหลายใบ และทันทีที่ก้าวพ้นประตูออกมาเจอเข้ากับร่างสูงที่ยืนสูบบุหรี่อยู่ริมฟุตบาท
สายตาทั้งสองคู่จ้องมองกัน ริมฝีปากแดงพ่นควันบุหรี่ออกลอยขึ้นกลางอากาศ แล้วจัดการดับสิ่งที่อยู่ในมือก่อนโยนก้นบุหรี่ทิ้งถังขยะ จริงสิ...ฉันทำขากางเกงเขาเปียก แค่คำกล่าวขอโทษต้องไม่พอแน่ ๆ คนอย่างเตกีลาพร้อมมีปัญหากับฉันทุกเมื่ออยู่แล้ว
“ขอโทษที่ทำ...”
“จะรับผิดชอบทุกอย่างเองไม่ใช่เหรอ ถึงตาผมยัง?” นัยน์ตาคมจ้องมองมา หายไป 2 ปีนิสัยไม่ได้ดีขึ้นเลย แต่ฉันก็ทำกางเกงเขาเปียกจริง ๆ อีกนั่นแหละก็ต้องรับผิดชอบ
ไม่มีคำกล่าวทักทายระหว่างเรา มันก็คงไม่จำเป็นเท่าไหร่ ยังไงเราไม่ได้สนิทกันมีแค่ฉันที่สนิทกับพี่ชายเขา
“กางเกงตัวนี้เท่าไหร่ เดี๋ยวชดใช้ให้”
“เดี๋ยวนี้ใช้เงินแก้ปัญหา? เป็นเด็กกำพร้าที่ไม่ต้องประหยัดแล้วสินะ” ร่างสูงเดินเข้ามาหยุดยืนตรงหน้า นัยน์ตาคมก้มมองลงมาซึ่งฉันก็มองเขาอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน
ปากไม่ลดลงแล้วยังร้ายกว่าเดิมด้วย...
“จะชดใช้ให้ไงอย่างที่พูดไว้ กางเกงตัวนี้ต้องแพงอยู่แล้วใช่มั้ยล่ะ ระดับคุณเตกีลา”
“....” บทจะไม่พูดก็ไม่พูด ให้พี่เด็กนี่มาเก็บไปได้มั้ย!
“เดี๋ยวซื้อมาคืน บอกไซซ์กางเกงมา แล้วแบรนด์อะไรยี่ห้ออะไร” พรุ่งนี้ฉันว่างพอดี จะไปเดินซื้อให้เองกับมือเลย
“เอาไปซัก” อะไรของเขา ไม่ให้ซื้อคืนแต่ให้ซัก
“...ได้ เดี๋ยวจัดการให้” ยังไงก็ต้องได้ไว้ก่อน แล้วจะถอดเอาไปให้แม่บ้านซักยังไงหรือเขาจะถอดตรงนี้?
“ซักเองตอนนี้และเดี๋ยวนี้”
“....” คิ้วเรียวขมวดเข้าหากัน มองตามร่างสูงที่เดินนำหน้าไป ซึ่งยังไงก็ต้องเดินตามเขาเพราะเป็นทางเดียวกันกับคอนโดฉัน
เอาแต่ใจตัวเองตั้งแต่เด็กจนโต ก็เหมือนพี่ชายอีกนั่นแหละ! เพราะเรารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กหรอกนะฉันเลยไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไร ถ้าเป็นคนอื่นคงได้เป็นบ้าไปแล้วเจอคนแบบนี้
ตลอดทางมีเพียงความเงียบฉันก็ไม่ถามว่าเขาจะไปไหน คิดว่าคงไปหาซื้ออะไรมาเปลี่ยนระหว่างรอฉันซักหรือเปล่าและแล้วเรื่องที่สงสัยก็ได้รับคำตอบ เมื่อเตกีลาเลี้ยวไปยังทางเข้าคอนโดที่ฉันอยู่
หมับ!
มือเล็กเอื้อมไปดึงเสื้อ ทำให้คนตัวสูงหันกลับมามองมือที่จับเสื้อ แล้วละสายตามาจ้องหน้าฉัน
“เดี๋ยว...ทำไมเข้ามาที่นี่” ทำไมเขารู้ว่าที่นี่คือคอนโดฉันหรือว่าแอบตาม?
“ทำไม”
“ให้ตอบไม่ได้ให้ถามกลับหรือว่าแอบตาม”
“สำคัญอะไรขนาดนั้นถึงต้องตาม คอนโดผมอยู่ที่นี่”
“ฮะ...” ไม่เห็นจะเคยรู้เลย แล้วจะรู้ไปทำไมฉันไม่ได้เป็นอะไรกับเขา
“มีปัญญาซื้อคนเดียวหรือไง”
“นี่...เฮ้อ ไม่อยากเถียงด้วยหรอกฉันเหนื่อย นายอยู่ที่นี่ก็ดีไปถอดกางเกงแล้วเอาลงมาให้ฉันที่ข้างล่าง จะนั่งรออยู่ตรงนี้”
“ไปซักที่ห้อง”
“จะบ้าเหรอ ไปถอดกางเกงแล้วเอาลงมา”
“....” ไม่มีคำพูดใดตอบกลับ มีเพียงสายตานิ่งเฉยที่มองมาเท่านั้น
“เข้าใจที่พูดใช่มั้ย”
“ทำคนอื่นเขาลำบาก แล้วยังสร้างความวุ่นวายให้อีกแทนที่จะได้พักผ่อน...น่ารำคาญ”
“....” ก็ไม่ได้ตั้งใจนี่!
ได้แต่ส่งเสียงกรีดร้องในใจ พูดอะไรก็ไม่ได้เพราะทุกอย่างที่เขาพูดออกมา เป็นเพราะฉันจริง ๆ
“ยังเป็นบุคคลที่สร้างความวุ่นวายให้กับพวกเราจริง ๆ นะ” คำนี้อีกแล้ว...ฉันได้รับมันมาตั้งแต่เด็กและตอนนี้มันก็กลับมาอีกครั้ง
“....”
“รับผิดชอบที่ว่านี่รับผิดชอบยังไง? ทำให้คนอื่นลำบากเพิ่มขึ้น”
“ไปสิ ไปที่ห้องนายฉันจะซักให้”
“ใครบอกจะไปที่ห้องผม เราจะไปห้องพี่ยี่หวา” ใช้คำว่าเราเหรอ ฟังดูน่าขนลุกชะมัด
“ได้ แต่ฉันขอแวะเอาขนมให้พวกพี่ที่ดูแลคอนโดก่อน” พูดจบก็เดินผ่านเตกีลาตรงไปยังคอนโด ซึ่งฉันรับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายเดินตามมาอย่างเงียบ ๆ เช่นกัน
หลังจากจัดการแจกจ่ายของที่ซื้อมาให้แก่ทุกคนเรียบร้อย ฉันกับเตกีลาก็ตรงขึ้นไปยังห้องของตัวเอง ตลอดทางไร้เสียงพูดคุย ไม่มีการถามไถ่ถึงชีวิตของกันและกัน ความห่างเหินไม่ใช่พึ่งเกิดขึ้นแต่เราไม่ลงรอยกันมานานแล้ว มันจึงถือว่าเป็นเรื่องปกติของเรา
ติ๊ด! กริ้ก!
“ปิดประตูให้ด้วย” เสียงหวานพูดขึ้นหลังจากเดินนำหน้าเข้ามา เป็นมารยาทที่ดีของเจ้าของห้องที่ไม่ควรทำกับคนอื่น เพราะฉันทำกับเขาคนเดียว
ปึง! กริ้ก!
“ยอมให้ผู้ชายเข้าห้องง่ายดี ดูทำบ่อย” ทันทีที่ประตูห้องปิดลงเตกีลาก็เปิดปากพูดทันที มือเล็กวางถุงของที่ซื้อมาลงบนโต๊ะ ก่อนจะหันไปสบตากับผู้ชายที่เดินเข้ามายืนตรงหน้า
“ก็บ่อย...เพราะมาร์ตินีมาบ่อย” ริมฝีปากแดงยกยิ้มหลังพูดจบ ยังไงเขาก็มีลูกตา ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาก็น่าจะเห็นข่าวของฉันกับมาร์ แต่แค่ไม่สามารถมาพูดอะไรกับฉันได้ก็เท่านั้นเอง
“สรุปว่าจะจับ ยอมรับมาตั้งแต่แรกก็จบ”
เตกีลาก็คิดแบบนี้มาตลอดนั่นแหละ ไม่ได้หวงพี่ชายหรอก แต่เพราะอะไรก็ไม่รู้เหมือนกันที่ทำให้มีปัญหาเรื่องนี้กับฉันอยู่เรื่อย