บท
ตั้งค่า

ชา(ม)รัก : 2

“งั้น เอาชามะนาวเย็นๆ มาแก้วหนึ่ง” น้ำเสียงไม่สบอารมณ์เอ่ยสั่งสิ่งที่สายตาเห็นบนใบเมนูนั้นไปแบบลวกๆ ก่อนจะเดินมาเลือกที่นั่ง เอาเป็นด้านหน้าแล้วกันจะได้มองเห็นช่างที่นัดมาไปในตัว

แกร๊ง!

นั่งรอราวๆ ห้านาที เสียงชามกระเบื้องเคลือบสีขาวลายดอกซากุระสีชมพูอ่อนก็ถูกวางลงตรงหน้าชายหนุ่มที่เป็นลูกค้าคนแรกในเช้านี้

“นี่มันชานี่!?” ชลศึกษ์ขมวดคิ้วมุ่นเมื่อเห็นสิ่งที่สาวเจ้าเอามาเสิร์ฟ

เส้นเลือดตรงขมับกระตุกยิกๆ เอ๊ะ! พนักงานคนนี้มันยังไง เขาสั่งชามะนาวเย็นๆ แต่กลับเอาชาอะไรไม่รู้มีดอกไม้สีขาวๆ โรยหน้ามาเสิร์ฟแทน

หงึก หงึก หญิงสาวตรงหน้าพยักหน้ารับคำพูดของชายหนุ่มด้วยใบหน้าแย้มยิ้มเมื่อชลศึกษ์เข้าใจถูกแล้วว่านี่คือน้ำชา

“เธอนี่มันยังไง หรือว่าหูไม่ดี?”

“ฉันสั่งชามะนาวแต่ดันเอาชาอะไรไม่รู้มาเสิร์ฟ รีบไปเอาชามะนาวมาเปลี่ยนให้ฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ! ไม่งั้นก็ไปเรียกเจ้าของร้านมาคุยกับฉันเลย”

คนยิ่งหงุดหงิดอยากกินกาแฟเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว พอสั่งอย่างหนึ่งได้อย่างหนึ่งเลยทำให้อารมณ์เดือดหนักกว่าเก่า พูดจาตะคอกใส่สาวเจ้าอย่างไม่ห่วงความรู้สึกคนฟังสักนิด

หมับ...

ชาวิมลที่ถูกบ่นถูกสบประมาทไม่ได้เก็บคำพูดชายหนุ่มมาใส่ใจ เธอเลื่อนชาอุ่นๆ ถ้วยนั้นไปตรงหน้าชายหนุ่มอีกครั้ง ก่อนที่จะใช้สายตาบอกชายหนุ่มให้ลองดื่มชาถ้วยนั้นดูก่อนค่อยมาโวยวายทีหลังก็ไม่สาย

“นี่เธอ!” ชลศึกษ์ที่อารมณ์บูดอ้าปากเตรียมจะบ่นคนที่ฟังไม่รู้ความอีกครั้ง

แต่พอได้สบเข้ากับนัยต์ตาสีน้ำตาลอ่อนที่เหมือนมีมนต์สะกดบางอย่างแผ่รังสีออกมาทำให้ต้องกลืนคำพูดทุกอย่างลงคอ

“ได้! อยากให้ฉันบ้าตายกว่านี้ก็เอาเลย”

ประโยคนี้ชลศึกษ์ไม่ได้บ่นเสียงดัง เขาแค่พึมพำกับตัวเองก่อนจะหยิบถ้วยชาตรงหน้าขึ้นมาจิบหนึ่งอึกเป็นการประชดสาวเจ้าที่ยืนคุมตนเหมือนนักโทษ

อึก...

ความรู้สึกแรกที่เขากลืนชาอุ่นๆ นั้นลงคอมันไม่ได้เป็นอย่างที่เขาเคยคิดไว้

ชาที่เขาเคยลองจิบจากนักชงชาสิบกว่าคนที่เขาตะลอนหาส่วนมากจะออกแนวขมเฝื่อนติดลิ้น

แต่ชาแก้วนี้ในมือเขากลับมีความหอมลอยเตะจมูก พอลิ้นได้แตะเข้ากับน้ำชาสีใสนั้นรู้สึกถึงเลือดไหลพล่าน

อึก อึก...

จิบที่สอง ที่สามตามมา

ชลศึกษ์ไม่เคยดื่มชาได้เกินสองคำต่อครั้งแต่กับชาถ้วยนี้ทำไมเขายิ่งดื่มกลับรู้สึกยิ่งกระหาย อยากจะกินมันให้หมดถ้วยเพื่อเติมแก้วใหม่แบบนี้

“นี่ชาอะไร”

ครั้นได้สติแล้วว่าตัวเองเผลอดื่มชาแก้วนั้นจนค่อนแก้วจึงวางมาด เอ่ยถามสาวเจ้าที่ยืนอมยิ้มอย่างมีความสุขเสียงดัง

คนถูกถามไม่ได้เอื้อนเอ่ยใดๆ เธอหยิบแผ่นเมนูขึ้นมาก่อนจะใช้นิ้วเรียวสวยชี้ลงไปยังชื่อเมนูชื่อหนึ่งที่เขียนเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชายหนุ่มเจ้าของคำถามอ่าน

“ชาคาโมมายล์”

ชลศึกษ์อ่านเมนูที่สาวเจ้าชี้ให้ดูพร้อมคิ้วที่ขมวดมุ่นเล็กน้อย

ชาชื่อนี้เขารู้จักแถมยังเหมือนจะเคยลองจิบตอนที่นักชงชาที่เขาสรรหามาประจำโรงแรมเคยชงให้ชิม แต่ทำไมรสชาติของที่นี่ถึงได้แปลกล้ำ ไม่เหมือนทุกครั้งที่เขาชิมกันนะ

“คุณใส่ส่วนผสมอะไรเพิ่มลงไปหรือเปล่า” เพื่อให้หายคลางแคลงใจ

ชลศึกษ์จึงตัดสินใจถามคนที่ยืนเงียบออกไป

“...” ชาวิมลส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะฉีกยิ้มหวาน วางมือบอบบางแนบอกข้างซ้าย

“คุณหมายถึงใช้ใจงั้นเหรอ” ชลศึกษ์ค่อนข้างเป็นคนฉลาด เขาเดาได้แม่น ทำให้ชาวิมลพยักหน้ายิ้มๆ

“ถ้าไม่ว่าอะไร ผมขอชานี้กลับบ้านได้ไหม” จู่ๆ ชลศึกษ์ก็คิดถึงคนเป็นมารดาขึ้นมา รายนั้นท่านชอบดื่มชาเป็นชีวิตจิตใจ ถ้าหากได้ชารสเลิศนี้ไปให้มารดาลองดื่ม คงจะช่วยให้เขาตัดสินใจอะไรๆ ได้มากขึ้น

“มีลูกค้าเหรอคะคุณน้ำชา”

ในระหว่างการเจรจาขอซื้อชาคาโมมายล์กลับบ้าน เสียงผู้ช่วยร้านทีไทม์อย่างแต้มดังขัดขึ้นเสียก่อน

ชาวิมลที่ถูกถามพยักหน้ายิ้มให้ผู้ช่วยที่อายุมากกว่าเธอไม่กี่ปี ก่อนจะส่งสายตาให้แต้มเดินตามไปที่หลังร้านเพื่อเตรียมสิ่งที่ลูกค้าหนุ่มต้องการ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel