TRICK 4
“ยัยทิชาวันนี้แกไม่มีสอน ไปช่วยน้องเฝ้าซุ้มกันดีปะ”
“อ๋อ ไปสิ”
“หลานรหัสฉันบอกว่าหนุ่มคณะแพทย์มาเปิดซุ้มข้างๆ คณะเราด้วย…” ท่าทางตื่นเต้นของบีน่าที่จะได้พบกับกลุ่มนักศึกษาแพทย์ที่มีความหล่อเหลาเกินมนุษย์มนาก็ไม่ได้ทำให้ทิชาตื่นเต้นตามไปด้วย
“แล้ว?”
“แกอย่ามาทำไม่รู้ก็แปลว่าหมอไมล์ก็มาด้วยไงคะ” ทิชาไม่สนใจสายตาหยอกล้อของเพื่อนเลยสักนิด ถึงแม้จะได้ยินชื่อของคนที่ขายขนมจีบให้เธอมาตั้งแต่ปีหนึ่งอย่างพันไมล์ก็ตาม
“อ่าฮะ”
“ยัยทิชาแกจะมีรีแอคชันกับการที่รู้ว่าจะเจอผู้ชายที่ตามจีบแกมาสี่ปีแบบนี้ไม่ได้นะยะ”
“ฉันกับไมล์เป็นเพื่อนกันเฉยๆ”
“เพื่อน? อย่าคิดว่าฉันไม่รู้นะ ว่าแกเคยแอบดอดไปกินข้าวกับหมอไมล์ทั้งที่ไม่เคยไปกับใครเลย”
“ก็ฉันบอกแล้วว่าเป็นเพื่อนกัน” ระหว่างเธอกับพันไมล์ที่บีน่าพูดถึงมีความสัมพันธ์เป็นเพื่อนกันจริงๆ ต่อให้เขาจะพยายามจีบเธอ แต่ความรู้สึกของเธอมันก็ได้แค่นั้น ถึงแม้ว่าพันไมล์จะไม่เคยมีข่าวเสียหายคั่วกับผู้หญิงไปทั่วเธอก็คิดกับเขาแค่เพื่อนจริงๆ
“เปิดใจให้หมอไมล์สุดหล่อของฉันหน่อยเถอะ เห็นสายตาเวลาเขามองแกแล้วสงสารอะ”
“ฉันแนะนำไมล์ให้แกเอาปะ”
“ฉันไม่เอา”
“ฉันก็ไม่อะ…” ยังไม่ทันที่ทิชาจะได้พูดจนจบประโยคเสียงเอนจอยกรี๊ดกร๊าดของเอนจอยก็ดังขึ้นมาเสียก่อน
“กรี๊ดดดด~ นั่นลูแปงนี่มาทำอะไรที่คณะเราแต่เช้าเนี่ย” ดวงตากลมโตเลื่อนสายตามองตามนิ้วของเพื่อนที่ชี้ไปทางหน้าคณะทำให้ได้เห็นผู้ชายที่ถูกพูดถึงยืนอยู่คนเดียว โดยที่สายตาของเขากำลังมองมายังโต๊ะที่พวกเธอนั่งอยู่
“…”
“นั่นหลานรหัสแกนี่มุก ฟ้าใสรู้จักกับลูแปงด้วยเหรอ”
“ฉันไม่แน่ใจนะ หรือว่าสองคนนี้จะมีซัมธิงกันวะ” ไข่มุกเอ่ยขึ้นมาเสียงเรียบ พยายามมองปากของหลานรหัสว่าพูดคุยอะไรกับหนุ่มหล่อของคณะนิเทศ แต่สักพักเดียวฟ้าใสก็เดินคอตกออกมาสีหน้าไม่สู้ดีนัก หลังจากที่อีกฝ่ายนึงเอ่ยพูดตอบกลับไป
“ฉันว่าไม่ใช่ละ ไม่ใช่หลานแกเข้าไปจีบเขาเหรอ”
“เออ เดี๋ยวฉันค่อยถาม ตอนนี้ขึ้นเรียนกันเถอะ ใกล้ถึงเวลาละ” สิ้นเสียงของไข่มุก ทุกคนก็หยัดตัวลุกจากเก้าอี้แล้วเดินขึ้นมาบนตึกเรียนทันที
หลายชั่วโมงผ่านไป…
MILE : ทิชามาที่งานหรือเปล่าครับ
TICHA : ไปค่ะ
MILE : เราอยู่แถวๆ คณะบริหาร เดินไปด้วยกันไหมครับ
TICHA : เดี๋ยวเรารอพวกเพื่อนๆ น่ะ ไมล์ไปก่อนก็ได้ค่ะ
MILE : พวกบีน่าใช่ไหม เราเห็นเขาเดินไปกันแล้วนะเลยฝากให้เราพาทิชาไปด้วยกัน
ทิชาที่กำลังเดินออกมาจากห้องพักครูหยุดชะงัก เพื่อนคงใช้ช่วงเวลาที่เธอต้องมาพูดคุยกับอาจารย์เรื่องลงแข่งกีฬาว่ายน้ำของคณะนัดแนะให้พันไมล์มารับเธอเพื่อนจับคู่อีกแน่ๆ
TICHA : อ๋อ งั้นเดี๋ยวเราลงไป
MILE : ครับ เรารออยู่แถวๆ หน้าคณะนะ
“พันไมล์” ทิชาเอ่ยเรียกคนที่ยืนรออยู่ด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ก่อนจะเดินตรงเข้าไปหาเขาทันที
“เราช่วยถือ”
“ไม่เป็นไร เราถือได้”
“เอามาให้เราช่วยถือเถอะ เดินจากตรงนี้ไปตั้งไกลนะ” ร่างเล็กไม่อยากทำลายน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ของคนตัวสูงจึงส่งของในมือให้เขาถือทั้งที่มันเป็นเพียงกระเป๋าผ้าไว้ใส่ของเรียนและแมคบุ๊กเท่านั้น
“ช่วงนี้ทิชาเรียนหนักเหรอ”
“ก็หนักนะ ปีสี่แล้ว”
“หนักจนไม่มีเวลาตอบไลน์เราเลยเหรอ” น้ำเสียงตัดพ้อปนหัวเราะไม่ได้จริงจังมากนักของพันไมล์ทำให้ทิชาหันไปมองเขาเล็กน้อย
“สงสัยแชตมันโดนดันลงไปข้างล่างมั้ง” เนื่องจากเป็นไอดีไลน์เดียวกันกับที่เธอใช้ทำงานจึงมีผู้ปกครองหลายคนทักมาปรึกษาหรือสมัครคอร์สเรียน
“อ๋อ นึกว่าเมินแชตเราซะอีก”
“แล้วไมล์ล่ะ เรียนหนักหรือเปล่า”
“เปลี่ยนเรื่อง” พันไมล์แซวพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนจะยกมือดันศีรษะทุยเล็กเบาๆ ด้วยความหมั่นไส้ แต่ทิชาก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะมันเป็นสิ่งที่อีกฝ่ายชอบทำกับเธออยู่แล้ว โดยเฉพาะการลูบหัวจนบางครั้งเผลอใจเต้นแรงก็มี
“ปีสี่หมอเรียนหนักใช่ไหม”
“ก็หนักนะ ยิ่งปีหน้ายิ่งหนักเลย” ชายหนุ่มพึมพำขึ้นมาเสียงเบาราวกับกำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ในหัว ก่อนที่เขาจะพูดสิ่งที่คิดออกมาตรงๆ “แต่หนักที่สุดก็คงจะไม่ได้เจอทิชาแล้วมั้ง”
“เผื่อเราไม่สบายไง”
“ถ้าเราอยากเจอบ่อยๆ ล่ะ”
“…” ทิชาเงียบไปกับคำพูดที่แสนจะคล้ายการขอร้องของคนข้างๆ
“ลองเปิดใจให้เราดูสักครั้งได้ไหม”
“ไมล์…”
“ไม่ต้องตอบตอนนี้ก็ได้ครับ แต่เดี๋ยวเราจะมาเอาคำตอบอีกสองเดือนนะก่อนที่จะจบมหาลัย” เธอกลัวว่าวันนั้นจะยังเป็นเธอที่ทำร้ายเขาอีกครั้ง…เหมือนทุกๆ ปี แต่ทว่าเธอไม่ใช่คนใจร้ายมากมายขนาดนั้น
“เราไม่แน่ใจนะไมล์ แต่ว่าลองคุยกันก่อนก็ได้”