ตอนที่2 พบกันครั้งแรก
แต๊ก!! แต๊ก!!
เสียงรองเท้าส้นสูงกระทบกับพื้นปูนดังถี่ ๆ
ลินดาวิ่งหอบจนมาถึงหน้าตึกสูงที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางเมืองหลวง
“อิ๋บอ๋าย…จะสายไหมเนี่ย!!” ฉันจะสายตั้งแต่วันสอบสัมภาษณ์ไม่ได้นะลินดา
ถ้าพลาดงานนี้ไปคงเสียดายโอกาสที่จะได้ทำงานดี ๆ พอร์ตที่ยื่นสมัครไปผ่านฉลุย แค่สอบสัมภาษณ์ให้ผ่านโอกาสได้งานก็แค่เอื้อม!!
แต่รถเพราะติดจนแทบจะจอดสนิททำให้เกือบจะมาสาย ทั้ง ๆ ที่เผื่อเวลาไว้ล่วงหน้าตั้งสองชั่วโมง!!
ลินดารีบวิ่งเข้าไปที่ตึกและมองหาลิฟต์ทันที
“พระเจ้า!!”
ลินดาอุทานออกมาเบาๆ เมื่อเห็นกลุ่มคนที่กำลังยืนรออยู่หน้าลิฟต์
ใครมันช่างกล้านัดสัมภาษณ์งานตอนเที่ยงนะ!!
กว่าจะได้เข้าลิฟต์คงจะไม่ทันเวลานัดแน่!!
ไม่ว่ายังไงก็จะไม่ยอมพลาดโอกาสที่จะได้งานนี้เด็ดขาด เธอกวาดสายตามองหาบรรได และตัดสินใจที่จะวิ่งขึ้นไปแทน
ลินดาวิ่งขึ้นมาจนถึงชั้นสามสิบซึ่งเป็นชั้นบนสุด เธอหยุดก้มหน้าหอบหายใจถี่ ๆ
ขาเรียวที่อยู่บนรองเท้าส้นสูงสีดำสั่นกระจนได้ยินเสียงกึก ๆ ของส้นรองเท้าที่กระทบพื้น
แต่ไม่มีเวลาให้พักเหนื่อย ลินดาตั้งสติยืดตัวตรงเก็บอาการหอบ แล้วตรงไปติดต่อพนักงานที่นั่งอยู่หน้าเคาน์เตอร์ทันที
“สวัสดีค่ะ…มาสัมภาษณ์งานค่ะ” ลินดายิ้มและยืนเอกสารที่ถือมาในมือให้พนักงานคนสวยทันที
“นั่งรอสักครู่ค่ะ เอกสารไว้ไปยื่นตอนสัมภาษณ์นะคะ”
ลินดาเดินมานั่งรอที่โต๊ะตามคำแนะนำ เธอกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ชั้นนี้มีพนักงานไม่กี่คน แต่ทุกคนล้วนหน้าตาดีมาก
บริษัทใหญ่เลือกได้ยันหน้าตาพนักงานเลยหรอ?
เพียงครูเดียวก็มีชายร่างสูงใส่ชุดสูทสีดำเดินตรงมาที่เธอ ลินดาหันมองใบหน้าดุนิ่งขรึมของเขาก็ลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่!!
“คุณคือคนที่จะมาสมัครเป็นเลขาใช่ไหมครับ?”
“ค่ะ” ลินดาโค้งหัวให้ด้วยท่าทางสุภาพ
“เชิญตามผมมาครับ” พูดจบเขาก็หันหลังเดินนำไป
ลินดาที่ยังรู้สึกเหนื่อยไม่หายแต่ก็รีบลุกตามไป ใจแอบหวั่นเพราะความกดดันจากสีหน้ารียบเฉยไร้อารมณ์ของคนตรงหน้า
เขาพามาหยุดที่หน้าห้องหนึ่ง ก่อนจะเคาะประตูและเปิดให้เธอเข้าไปข้างไป
ลินดาสูดหายใจเข้าเต็มปอดและเดินผ่านประตูเข้ามาในห้อง แต่ก็ต้องชะงักหันไปมองหน้าคนที่พามา แต่เขาก็ปิดประตูใส่เธออย่างไร้เยื่อใย
สัมภาษณ์งานกับประธานบริษัท?
“จะยืนงงอีกนานไหม?”
เสียงเข้มดุดันของมาร์ตินพูดขึ้นทำให้ลินดาที่ยืนอยู่สะดุ้งเล็กน้อย
เธอเดินเขาไปแนะนำตัวด้วยความกล้า ๆ กลัว ๆ
“สวัสดีค่ะชื่อลินดานะคะนี่เอกสารค่ะ” ลินดายืนสั่นเกร็งแต่ก็พยายามควบคุมน้ำเสียงให้เป็นปกติ ก่อนจะวางแฟ้มเอกสารบนทำงาน
เขาไม่แม้แต่จะละสายตาจากเอกสารขึ้นมามองเธอสักนิด!!
ผ่านไปสักพักเขาถึงจะหยิบแฟ้มเอกสารเธอขึ้นไปเปิดดูแบบผ่าน ๆ ก่อนจะเหลือบสายตาจ้องมาที่เธอ
ทันทีที่สบตากันลินดารีบก้มต่ำมองเอกสารในมือเขาทันที ใบหน้าเขาหล่อเหลาสไตล์ลูกครึ่ง แต่ดวงตาเขากลับเย็นชาราวกับหิมะที่หนาวเหน็บ รอบตัวเขามันมีรังสีบางอย่างที่ทำให้ลินดา รู้สึกกดดันจนจะหายใจไม่ออก
เขาน่ากลัวเกินไป!!
“รู้กฎของที่นี่รึยัง?”
“พอรู้บางอย่างค่ะ”ลินดาตอบแต่พยายามเลี่ยงไม่สบตาเขาโดยตรง
“อ่านแล้วเซ็นซะ” เขายืนกระดาษแผ่นนึงมาตรงหน้า
“เอ่อ…ขอนั่งได้ไหมคะ?”
“แล้วใครห้าม?”
“…” เอ๊า!! อีตานี่
ลินดาเก็บสีหน้าเอาไว้แต่ก็แอบด่าออกมาในใจ และพอเห็นสายตาดุของเขาที่เหมือนจะรู้ เธอจึงก้มหน้าอ่านสัญญาในมือทันที
“สิ่งที่เธอต้องรู้ ฉันไม่ชอบคนโง่…และเกลียดคนตีสองหน้า”
“ค่ะ”
น้ำเสียงเย็นยะเยือกของมาร์ตินทำเอาลินดาขนลุกซู่ เธออ่านสัญญาโดยละเอียดก่อนจะจรดปากกาเซ็นชื่อตัวเองลงไปบนกระดาษ
มีเจ้านายดุก็ดีกว่ามีเจ้านายหื่นแหละนะ!!
“คินต์จะพาเธอไปที่โต๊ะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้นลินดาจึงเดาว่าผู้ชายหน้านิ่งคนนั้นน่าจะชื่อคินต์ เธอจึงโค้งให้เขาและขอตัวออกจากห้องทันที
“เชิญทางนี้ครับ”
คินต์เดินนำไปแค่เพียงไม่ไกลก็เจอกับโต๊ะทำงานขนาดใหญ่ เขาหยุดและหันมาพูดกับเธอเสียงเรียบ
“นายไม่ค่อยเข้าบริษัท ปกติผมจะเป็นคนเข้ามาตรวจงานแทนนาย หากมีอะไรสำคัญให้ติดต่อผ่านผม” ลินดารับนามบัตรที่คินต์ยื่นให้เอาไว้ทันที
“ขอบคุณค่ะ”
“ที่สำคัญ อย่าทำงานพลาดเด็ดขาด”
“ค่ะ”
พูดจบคินต์ก็เดินจากไป ลินดาถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เพราะอย่างน้อยก็ไม่ต้องเจอท่านประธานบ่อย ๆ
เจอคินต์ก็ยังดีกว่าเยอะ…-_-
ถึงจะกลัวเจ้านายคนนี้มาก ๆ แต่ก็แอบชื่นชมเขาอยู่ไม่น้อย เพราะเท่าที่หาข้อมูลมา มาร์ตินเป็นผู้บริหารที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เขาฉลาดและเนี้ยบเรื่องงานสุด ๆ
ถ้าอยากเก่งก็ต้องอยู่กับคนเก่งจริงไหม!!
จะมุ่งมั่นตั้งใจทำงานสุดชีวิตเพื่อให้สมกับเงินเดือนที่ได้รับ เธอตรวจเอกสารทุกชิ้นอย่างละเอียดรอบคอบ เพื่อไม่ให้มีอะไรผิดพลาดสักอย่าง
แม้ว่าทำงานที่นี่เธอจะต้องตื่นเช้าและใช้เวลาเดินทางนานกว่าปกติ แต่ค่าตอบแทนที่ได้รับมันก็คุ้มที่จะเหนื่อย!!
เคยมองหาห้องเช่าราคาถูกในย่านนี้ แต่ถูกที่สุดก็ยังแพงเกินไป สำหรับคนจนที่มีหนี้สินอย่างฉันอยู่ดี เพราะฉะนั้นฉันจึงยอมเบียดกับคนบนรถไฟฟ้า ดีกว่ายอมเสียตังจ่ายค่าเช่าราคาแพงไปฟรี ๆ
ความฝันของเด็กผู้หญิงที่ชื่อลินดาคือหมดหนี้และมีบ้านเป็นของตัวเอง…
ไม่ต้องง้อใคร ไม่ต้องพึ่งพาใคร แค่อยากจะยืนด้วยขาของตัวเองอย่างภาคภูมิใจเท่านั้น!!
สักวันมันจะต้องเป็นจริง อดทนหน่อยนะตัวฉัน. . .