บท
ตั้งค่า

บท 3 (1)

3

“ส—สวัสดีครับ ผมมาซื้อที่ตรวจครรภ์ครับ”

“เอาเป็นยี่ห้อไหนดีคะ?” หลังถูกเภสัชกรถามกลับมาเช่นนั้น จานินก็รีบไล่สายตามองไปยังชั้นวางขายที่ตรวจครรภ์ที่ตั้งเรียงรายกันอยู่ทันที ก่อนที่เขาจะสุ่มเลือกยี่ห้อที่ราคากลาง ๆ ไม่ถูกหรือแพงจนเกินไป

“แล้วรับกี่ชิ้นดีคะ?”

“ห้าครับ… ห้าชิ้น” จานินตอบแล้วในหลังจากนั้นเขาก็ยื่นเงินจำนวนหนึ่งให้กับเภสัชกร โดยเมื่อรับถุงยากลับมาแล้ว จานินก็รีบเดินออกมาจากร้านขายยา เพื่อมุ่งหน้ากลับไปยังบ้านของคุณชินกรทันที

“เฮ้อ” ขณะที่กำลังเดินทอดน่องไปยังป้ายรถเมล์ จานินก็ถอนหายใจออกมาอย่างแรง หลังเขากำลังนึกถึงบทสนทนาระหว่างคุณหยาดกับตัวเอง หลังเธอบอกให้เขาหาโอกาสไปมีอะไรกับลูกชายของตัวเองอีก

เพราะไม่ได้ป้องกันเพียงแค่ครั้งเดียว มันไม่ได้หมายความว่าเขาจะท้องเสียหน่อย

ก็ค่าจ้างตั้งห้าล้านนี่เนอะ เขาเลยต้องทำให้คุ้มหน่อย จานินได้แต่นึกในใจ ก่อนที่ในเวลาต่อมาเขาจะเริ่มออกแรงวิ่งเล็กน้อย เมื่อรถเมล์ใกล้จะมาจอดเทียบป้ายแล้ว แต่เขายังเดินไม่ถึงป้ายเสียที

“เอ่อ ขอโทษนะครับ ผมขอถามอะไรหน่อยได้ไหม”

“ได้ค่ะ คุณจานินอยากรู้อะไรเหรอคะ?” เมื่อกลับมาถึงบ้านและเห็นป้าแม่บ้านกำลังยืนรดน้ำต้นไม้อยู่ จานินก็ได้เดินเข้าไปหาเธอทันที หลังเขามีความใคร่รู้อะไรบางอย่าง

“ปกติแล้วคุณชินเขากลับบ้านช้าไหมครับ?”

“อ๋อ เอาแน่เอานอนไม่ได้หรอกค่ะ แต่ส่วนใหญ่คุณชินจะกลับบ้านตอนหนึ่งทุ่ม แล้วถ้าวันไหนมีประชุมหรือต้องเคลียร์งานที่บริษัทและไม่ได้ไปที่ไหนอีก เธอก็จะกลับบ้านประมาณสองถึงสามทุ่มค่ะ”

“อ๋อ งั้นก็ขอบคุณมากนะครับ” เมื่อได้รับคำตอบกลับมาแล้ว จานินก็ระบายยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเดินเข้าไปในบ้านทันที ซึ่งเขาก็ตั้งใจจะขึ้นไปบนห้องของตัวเองเลย เพราะจะไปคิดแผนการว่าจะทำยังไงให้เขาได้มีอะไรกับคุณชินกรบ่อย ๆ

อ่า…พอเขาต้องมานั่งคิดแผนการอะไรแบบนี้ จานินก็รู้สึกแปลก ๆ แฮะ

“ตอนนี้มันก็ห้าโมงเย็นแล้วนี่ แล้วเขาจะมากินข้าวที่บ้านไหมนะหรือจะกินข้าวจากข้างนอกเลย? และนี่เราต้องรอกินข้าวเย็นพร้อมเขาหรือเปล่า” เมื่อเดินขึ้นมาบนห้องนอนแล้วจานินก็พึมพำกับตัวเองทั้งคิ้วขมวด เพราะเมื่อวานนี้เขาเองก็ไม่ได้กินข้าวเย็นเนื่องจากไม่รู้สึกหิว ซึ่งนั่นก็ทำให้เขาไม่ได้รู้เลยว่าการใช้ชีวิตของคุณชินกรเป็นอย่างไรบ้าง

“งั้นเดี๋ยวเราไปอาบน้ำก่อนดีกว่า แล้วค่อยลงไปถามแม่บ้าน” หลังเวลาผ่านไปได้หนึ่งนาที เมื่อตกลงกับตัวเองได้แล้ว จานินก็รีบเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าห้องน้ำไปทันที โดยเขาก็ได้ใช้เวลาอาบน้ำเพียงแค่สิบนาทีเท่านั้น ก่อนจะเดินลงมายังชั้นล่างเพื่อทานข้าวเย็น

“เอ่อ…ขอโทษนะครับ ปกติแล้วคุณชินเขากินข้าวเย็นที่บ้านไหมครับ?” จานินเอ่ยถามคุณป้าแม่บ้าน เมื่อเธอเดินเข้ามาถามเขาว่าเขาอยากจะทานอะไรเป็นมื้อเย็นของวันนี้

“แล้วแต่วันค่ะ แต่ถ้าวันไหนคุณชินจะกินข้าวมาจากด้านนอกเลย ก็จะโทรมาแจ้งก่อนว่าไม่ต้องเตรียมอาหารไว้ให้”

“….”

“แต่วันนี้ป้ายังไม่เห็นคุณชินจะว่าอะไรเลยนะคะ เพราะงั้นเขาน่าจะกลับมากินข้าวที่บ้านค่ะ ไม่ทราบว่าคุณจานินจะรอกินข้าวพร้อมคุณชินเลยไหมคะ?” เธอถามกลับมา

“ไม่ดีกว่าครับ แล้วผมก็ขอเป็นข้าวไข่ดาวได้ไหมครับ”

“คะ? คุณจานินจะกินแค่ข้าวไข่ดาวเหรอคะ” แม่บ้านถามต่อทั้งหน้างง ซึ่งจานินก็ยังคงพยักหน้ายืนยันคำเดิม

“ใช่ครับ ผมกินแค่ข้าวไข่ดาวก็พอ”

หลังได้ข้าวไข่ดาวพร้อมด้วยซอสแม็กกี้จากคุณป้าแม่บ้านมาแล้ว จานินก็ได้พาตัวเองมานั่งกินข้าวที่โต๊ะทานอาหารประจำบ้านต่อ โดยในขณะที่เขากำลังนั่งกินข้าวอยู่นั้น จานินก็ได้ใช้ความคิดไปด้วยว่าจะทำยังไงให้ตัวเองได้เงินสิบล้านบาทจากคุณหยาด

“อันนี้น้ำนะคะ”

“ขอบคุณมากครับ” จานินเอ่ยขอบคุณคุณป้าแม่บ้านพร้อมผงกหัวให้เธอเล็กน้อย เมื่อเธอนำน้ำเปล่ามาให้เขา โดยในจังหวะเดียวกันนั้นเสียงเปิดประตูรั้วและเสียงรถก็ได้ดังขึ้น นั่นจึงทำให้จานินรีบเงยหน้าขึ้นมองคุณป้าแม่บ้านอย่างตั้งคำถาม

“สงสัยคุณชินน่าจะกลับมาแล้วค่ะ” เธอบอกเขาแล้วเดินออกไปดูด้านหน้าทันที ทิ้งให้จานินนั่งกินข้าวอยู่เพียงลำพัง จนกระทั่งเจ้าของบ้านที่แท้จริงเดินเข้ามาในบ้าน

“ส—สวัสดีครับ” หลังจานินเผลอสบตากับคุณชินกรอย่างไม่ได้ตั้งใจ เขาก็ได้พูดขึ้นเสียงแผ่วเพื่อทักทายตามมารยาท ซึ่งคุณชินกรเองก็มีมารยาทมากพอที่จะผงกหัวเชิงทักทายเขากลับมาเช่นกัน แล้วในหลังจากนั้นความเงียบก็เข้าปกคลุมทั้งคู่

เพราะคุณชินกรเคยบอกกับจานินว่าอย่าไปยุ่มย่ามกับอีกฝ่าย ต่างคนต่างอยู่ซะ…

“กินข้าวกับอะไร” ขณะที่จานินกำลังเร่งมือกินข้าวของตัวเองอยู่นั้น คุณชินกรก็ได้ถามขึ้นอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย โดยนั่นก็ทำให้จานินเผลอสะดุ้งเล็กน้อย เพราะเขาไม่นึกว่าอีกฝ่ายจะชวนคุย

“ก—กินข้าวไข่ดาวครับ”

“แม่บ้านเขาทำเมนูนี้ให้กินเหรอ” คราวนี้คุณชินกรถามต่อทั้งคิ้วขมวด

“อ๋อ เปล่าหรอกครับ… แต่ผมขอเอง”

“….”

“พอดีมันเป็นของโปรดผมน่ะครับ” จานินอธิบายต่อ เมื่อเห็นเจ้าของบ้านทำหน้างง ซึ่งเขาก็ไม่ได้โกหกแต่อย่างใด เพราะจานินชื่นชอบไข่ดาวกรอบ ๆ แบบไข่แดงไม่สุก พร้อมด้วยซอสแม็กกี้มาตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว

“ถ้าวันไหนอยากกินอย่างอื่นก็บอกแม่บ้านเขาแล้วกัน บอกเขาก่อนหนึ่งทุ่ม เพราะเขาจะอยู่ที่นี่ถึงแค่หนึ่งทุ่มครึ่งเท่านั้น” คุณชินพูดเสียงนิ่งพร้อมเดินเข้ามานั่งเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามจานิน เตรียมจะกินมื้อเย็นของตัวเองบ้าง

“คนเขาอุตส่าห์คุยด้วย ทำไมถึงไม่รู้จักตอบโต้ ไม่มีมารยาทหรือไง?” ระหว่างที่แม่บ้านกำลังช่วยกันนำกับข้าวมาเสิร์ฟให้อยู่นั้น คุณชินก็ได้พูดอีกครั้งและนั่นก็ทำให้จานินเงยหน้าขึ้นไปมองอีกฝ่ายโดยพลัน

“อ๋อครับ ผมรับรู้แล้วครับ และขอบคุณคุณชินมากนะครับที่อุตส่าห์บอก” แม้ในใจจะเริ่มรู้สึกโมโหคนตรงหน้าขึ้นมาเพราะถูกพูดจาไม่ดีด้วย แต่จานินก็ต้องข่มอารมณ์ของตัวเองเอาไว้ เพราะถ้าไม่อย่างนั้นตลอดทั้งสามเดือนนี้ เขาคงจะไม่ได้เข้าใกล้คุณชินกรอีกแน่

“วันนี้นายไปเจอแม่ฉันมาเหรอ?” คุณชินกรถามขึ้นอีก ซึ่งนั่นก็ทำให้จานินต้องเงยหน้าขึ้นมองอีกฝ่ายอีกครั้ง

“….”

“เพราะปกติแม่ฉันชอบเรียกคนของตัวเองเข้าไปถามความคืบหน้าอยู่แล้ว” ราวกับคุณชินกรรู้ว่าจานินกำลังสงสัยอะไรอยู่ อีกฝ่ายถึงได้พูดออกมาอีก

“อ๋อครับ วันนี้ผมไปเจอคุณหยาดมา” จานินพยักหน้ารับ

“แล้วได้บอกเธอไหมล่ะว่าเมื่อคืนนี้เรามีอะไรกันแล้ว” คุณชินกรถามกลับมาอีกครั้ง ซึ่งคราวนี้คำถามของอีกฝ่ายก็ทำให้จานินแอบชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมา

“บอกสิครับ” จานินว่าพลางเว้นวรรคไปครู่หนึ่งแล้วค่อยพูดต่อ โดยคำพูดถัดมาของเขานั้น ก็ทำเอาคนตรงหน้าถึงกับขมวดคิ้วคล้ายกับไม่ชอบใจ “ผมบอกหมดแหละครับว่าเมื่อคืนนี้เรามีอะไรกันท่าไหนบ้าง แล้วได้ป้องกันหรือเปล่า ซึ่งคุณหยาดก็ดูชอบใจมากเลยนะครับ”

“….”

“ที่เมื่อคืนนี้คุณชินแตกใน”

“ปากดี” อีกฝ่ายพูด

“อะไรกันครับ ก็เห็นคุณถามตรง ๆ ผมก็เลยตอบแบบตรง ๆ ไง” ว่าจบ จานินก็แสร้งทำหน้าสลดลงเล็กน้อย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel