Time & Lalin 2 - มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ
Time & Lalin 2 - มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ
“ครั้งแรกเลยนะคะที่เราได้มาดื่มกันแบบนี้” เสียงหวานสดใสในคราแรกของหมิวหมิวกลับกลายเป็นยานยืดด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์ตะโกนพูดคุยแข่งกับเสียงพร้อมกับเต้นส่ายไปมา
“แก้มพี่ลลินแดงมากเลยค่ะ” ลลินรีบแตะหน้าตัวเองเมื่อโดนน้อง ๆ ชี้และหัวเราะให้กับเธอ
“พี่ไม่เคยดื่มเลยเมาง่ายหนะ” ลลินที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เอ่ยบอกกับน้อง ๆ ที่กำลังส่ายสะโพกโยกกันไปมาอย่างสนุกสนานและสุดเหวี่ยง
อย่าว่าแต่เครื่องดื่มแอลกอฮอล์เลยแม้แต่ที่แบบนี้เธอก็ไม่เคยมาสักครั้ง
นี่เป็นครั้งแรกของเธอที่มาที่แบบนี้
“คนแรกเลยนะคะ ที่คนเมาแล้วจะยอมรับว่าตัวเองเมา...” สายป่านพูดขึ้นด้วยเสียงยานยืดเช่นกัน
“…ไม่เหมือน” ก่อนจะหันไปจ้องอีกสองหนุ่มกำลังคล้องคอกอดกันเต้นอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย
“อะไร มองมาทางนี้ทำไม” รุกที่เห็นสายตาของสายป่านหันไปมองยังพวกเขาก็โพล่งพูดอย่างกับจะเอาเรื่องกัน
“ใช่ พวกฉันยังโอเค” สกายก็พูดเสริม
“สภาพ นี่เรียกโอเคแล้วเหรอ แน่ใจนะ” สายป่านยืนเท้าสะเอวชี้หน้าทั้งสองอย่างเอาเรื่อง
“นั่นสิ ยืนยังไม่ตรงเลย” ตามด้วยหมิวหมิว
“พวกเราไม่ได้ยืนเฉย ๆ เว้ย พวกเราเต้น” พูดจบทั้งรุกและสกายก็เต้นด้วยท่าทางกวน ๆ ใส่เพื่อนสาวทั้งสองที่กำลังยืนสบประหม่าอยู่ตรงหน้า
ลลินส่ายหน้าหัวเราะยิ้มให้กับเด็ก ๆ ทั้งสี่ มีบ้างบางครั้งที่จะรู้สึกเอือมระอาเบื่อกับการชอบทะเลาะกันของพวกเขา แต่เห็นอย่างนี้เมื่อถึงโหมดการทำงานทุกคนก็จริงจังมากอย่างกับเป็นคนละคนเลยก็ว่าได้
อึก! มือเรียวยกเครื่องดื่มขึ้นดื่ม
“อื้อ” ดูเหมือนแก้วนี้มือชงจะเริ่มเมาแล้วจริง ๆ เพราะชงเข้มอย่างกับให้เธอดื่มเหล้าเพียว ๆ เลย
“พี่ลลินโอเคไหมคะ” สายป่านที่เห็นสีหน้าของลลินก็เอ่ยถามขึ้น
“พี่ว่าพี่ไปเข้าห้องน้ำก่อนดีกว่า รู้สึกจะมึน ๆ แล้ว” จากที่แค่เริ่มมึน แต่พอดื่มแก้วเมื่อกี้เข้าไป เธอก็ถึงกับต้องก้มหน้าแทบจะฟุบลงกับโต๊ะ เพราะรู้สึกจะวิ๊งลมพับไปให้ได้เสียดื้อ ๆ ทั้งแสบคอ แถมร่างกายก็ร้อนวูบวาบอยากจะอ้วกขึ้นมาทันที
“สายป่านไปเป็นเพื่อนค่ะ”
“ไม่เป็นไร พี่ไปเองได้ ลุกไปเดี๋ยวขาดตอนหมดสนุกนะ” แม้ตัวเองจะเอาตัวไม่รอดแต่ก็กลัวห่วงน้องจะหมดสนุกเพราะตัวเอง
“เอางั้นก็ได้ค่ะ” แม้จะเป็นห่วงพี่สาวอยู่บ้างแต่ก็ยังอยากสนุกต่อ
“ดูแลตัวเองด้วยนะคะ” หมิวหมิวหันมาโบกมือไล่ลลินตามประสาอย่างคนไม่มีสติ
“ดูแลกันดี ๆ ละ” ลลินเอ่ยบอกทั้งสี่ที่ดูแล้วน่าเป็นห่วงมากกว่าเธอเสียอีก
เมื่อบอกกับน้อง ๆ เสร็จ ขาเรียวในรองเท้าส้นสูงก้พยายามประคองตัวเองเดินออกมาจากโต๊ะเพื่อตามหาห้องน้ำ
“ห้องน้ำอยู่ไหนละเนี่ย” ลลินมึนเมาจนตาพร่ามัวแทบจะมองอะไรไม่เห็น เมื่อไม่รู้ว่าควรไปทางไหน เธอจึงเดินย้อนไปที่ทางเข้าเพราะหวังว่าที่นั่นน่าจะมีห้องน้ำบ้างล่ะ
เมื่อเดินมาถึงเสียงดังของเพลงที่กระหึ่มก็ลดลงบ้าง มือเรียวค้ำกำแพงเอาไว้เพื่อหยัดตัวยืนตรงเพราะแทบจะไม่มีแรงเดินต่อแล้ว
เธอเมาและมึนหัวมากอยากจะนอนลงให้รู้แล้วรู้รอด
“สาบานเลยว่าจะเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิต” ลลินพยายามประคองสติพร้อมกับเอ่ยบอกกับตัวเองว่าเธอนั้นเข็ดหลาบแล้วจริง ๆ จะไม่แตะต้องมันอีกแล้วในชีวิตนี้
ก่อนจะส่งมือเรียวลูบแขนเรียกสติตัวเพราะเธอรู้สึกร้อนกายทั้งข้างในและข้างนอกเป็นอย่างมาก
และในตอนนั้นเอง...
“มีอะไรให้ผมช่วยไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามดังมาจากด้านหลัง ทำคนตัวเล็กต้องเอี้ยวตัวหันไม่มองยังเขา
“เอ่อ คือฉัน...” เมื่อหันกลับมามองยังเจ้าของเสียง จากที่แทบจะทรงตัวไม่อยู่เพราะแอลกอฮอล์แล้ว ตอนนี้เธอก็กำลังโดนเล่นงานคูณสองเพราะคนตรงหน้าด้วยเช่นกัน
จนลืมไปเลยว่าตอนนี้
มาทำอะไรที่นี่
เพราะมัวแต่จ้องใบหน้าหล่อตรงหน้า ที่อยู่ไม่ไกลกับใบหน้าเธอเท่าไหร่
ตึก ตัก ตึก ตัก
เสียงหัวใจลลินเต้นดังระรัวแทบอยากทะลุออกจากอกเมื่อสบตากับเขาอยู่เนิ่นนาน
“มีอะไรให้ช่วยไหมครับ” เสียงทุ้มเอ่ยถามอีกครั้งทำให้ลลินได้สติ สะบัดหน้าที่เห่อร้อนอยู่เบา ๆ
“คือฉันอยากจะไปเข้าห้องน้ำ ไม่ทราบว่าคุณพอจะรู้ทางไหมคะ” ตาหวานสบตากับคนตรงหน้าด้วยอาการประหม่าและเริ่มรู้สึกคุ้นหน้าเขาขึ้นมา
“มาครั้งแรกเหรอครับ” เสียงหล่อเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มที่เผยให้เห็นนิด ๆ ที่มุมปากอย่างมีเสน่ห์
พร้อมกับสายตาคมที่จ้องมองเธออย่างสนใจอย่างเปิดเผย
“ใช่ค่ะ” ลลินโดนสะกดด้วยเสน่ห์ร้ายที่ออกมาจากแววตาคม ทำให้เธอไม่อาจละสายตาไปจากใบหน้าหล่อของเขาได้
“ถึงว่า ผมไม่เคยเห็นคุณมาก่อน” ทุกครั้งที่เขาเอ่ยพูดรอยยิ้มร้ายที่มีเสน่ห์ก็เผยทีละนิดอย่างน่าหลงใหลให้ลลินได้ใจเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ
“ปกติฉันไม่เที่ยวที่แบบนี้...” เมื่อจบประโยคนี้ของลลิน ทำเอารอยยิ้มที่ค่อย ๆ เผยตรงหน้าหุบยิ้มเล็กน้อยอย่างที่เธอเห็นได้ชัด
ซึ่งการกระทำของเขาทำเอาลลินฉุกคิดว่าเผลอพูดอะไรผิดไปหรือเปล่า
“...คุณมาบ่อยเหรอคะ” กลับกลายเป็นว่าเธอต้องเป็นคนถามเขาต่อในประโยคถัดมา
ซึ่งนั่นเข้าทางแผนของเขา ที่ทำให้อีกคนเอ่ยถาม สนใจในตัวเขาบ้าง
“ผมเป็นเจ้าของที่นี่”