-04- ท้าทาย
'ช่วยตากัณฐ์ด้วย อย่าให้เขาเป็นแบบฉัน'
'ช่วยลูกชายฉันด้วย'
'อย่าให้เขาเป็นแบบฉัน!!!'
"มะ...ไม่! ยะ...อย่ามายุ่งกับฉันนะ ฮึ่ก! ท่านรองชะ...ช่วยฉันด้วย" แว่นตาอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่เธอรู้สึกว่ามันห่างไกลเหลือเกิน ส่วนอีกหนึ่งชีวิตที่เธอร้องขอความช่วยเหลือเขาได้แค่ยืนมองเธออย่างไร้ความรู้สึกอยู่ที่เดิมนิ่งๆ
________________________
-04- ท้าทาย
"ตื่นแล้วก็ไสหัวกลับไปซะ อาพิทเข้าใจหาเลขาจอมมารยามาจริงๆ" ทศกัณฐ์เอ่ยดูถูกหญิงสาวที่เพิ่งฟื้นจากการเป็นลมอยู่บนพื้นข้างเตียงนอนเหยียดๆ
"ฉะ...ฉันขอแว่นตาด้วยค่ะ ท่านรองช่วยหยิบแว่นตาให้ฉันหน่อย ได้โปรด" รวิวรรณหลับหูหลับตาบอกอีกคนในห้องแล้วรีบคว้าแว่นตามาสวมทันทีที่ได้รับความเมตตาจากคนตรงหน้า เธอจำภาพสุดท้ายก็จะหมดสติได้ดี วิญญาณผู้หญิงหน้าตาสะสวยวิงวอนให้เธอช่วยเหลือใครบางคน ... ช่วยตากันด้วย ช่วยลูกฉันด้วย ผู้หญิงคนนั้นเรียกลูกชายว่า 'กัน'
"ฉันไม่หลงกลเธอหรอกนะ ฝากบอกอาพิทด้วยว่าไม่ต้องส่งใครมาอีก!" ทศกัณฐ์ตวาดเสียงดังแล้วเดินออกไปสูบบุหรี่ดับอารมณ์หงุดหงิดที่ระเบียงห้อง
"ฉันเองก็ไม่คิดว่าต้องมาเจอรองประธานเด็กน้อยเหมือนคุณหรอก เห้อออ!!!" หญิงสาวได้แต่นั่งคิดอย่างหนักอกหนักใจ เธอจะไม่คิดมากเลยสักนิดหากไม่ได้เซ็นสัญญาจ้างหนึ่งปีไว้กับพิทยา ในสัญญาระบุไว้อย่างชัดเจนว่า *หากลาออกก่อนครบกำหนดหกเดือนจะต้องจ่ายค่าปรับเป็นเงินสิบเท่าของเงินเดือน!* แน่นอนว่าคนมัธยัสถ์อดออมอย่างรวิวรรณจะไม่ยอมสูญเงินก้อนใหญ่ที่เก็บไว้จุนเจือชีวิตในยามคับขันเพราะเรื่องแค่นี้ เธอมีทางเดียวคือต้องทนกับชายหนุ่มไร้เหตุผลคนนั้นให้ได้!
แกร็ก~
"ทำไมยังไม่กลับ?" ทศกัณฐ์เลิกคิ้วถามเลขาสาวที่ถูกส่งมาโดยเลขาคนสนิทของมารดาที่ล่วงลับไปแล้วด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์
"ฉันชื่อรวิวรรณ หน้าที่ของฉันยังไม่เสร็จคงกลับไม่ได้ค่ะท่านรอง" รวิวรรณใช้ความใจกล้าหน้าด้านตอบกลับรองประธานหนุ่มพร้อมรอยยิ้มหวานสมวัย
"ฉันไม่อยากรู้เรื่องของเธอ ที่นี่ไม่ใช่โรงละครให้มาเล่นบทคนบ้า กลับไปซะ!"
"คนบ้า? ฉันเป็นเลขาค่ะไม่ใช่คนบ้า"
"เฮอะ! เมื่อกี๊ใครที่ไหนที่ลงไปชักดิ้นชักงออยู่บนพื้นห้องฉันละ" ทศกัณฐ์ปลายตามองรวิวรรณหัวจรดปลายเท้าอีกครั้ง
"เอ่อ มะ...เมื่อกี๊ฉันแค่หน้ามืดนิดหน่อยค่ะ ตอนนี้ท่านรองต้องรีบไปอาบน้ำแต่งตัวก่อนนะคะ ฉันจะไปเตรียมอาหารให้ เดี๋ยวเราต้องไปตรวจไซต์งานที่ชานเมืองค่ะ" เลขาหมาดๆรีบจัดแจงรายละเอียดเป็นลำดับแล้วปลีกตัวไปในครัวอย่างถือวิสาสะ โชคดีที่เธอหยิบข้อมูลของคนเรื่องมากติดมือมาด้วย ไม่งั้นงานนี้คงวุ่นวายไม่เบา
ทศกัณฐ์มองเลขาสาวอย่างหน่ายๆ ยัยนี่เป็นใครทำไมกล้าออกคำสั่งกับเขากันนะ นับวันพิทยายิ่งหาเลขาที่จุ้นจ้านและวุ่นวายความเป็นส่วนตัวเขาเพิ่มมากขึ้น เฮอะ! แต่ละคนนี่นึกว่าเป็นแม่ชีหลุดมาจากสำนักไหนสักแห่ง ไม่แว่นหนา ก็หน้าจืด เข้าใจเลือกจริงๆ สงสัยจะกลัวเหตุการณ์ไม่คาดฝันซ้ำรอยเดิมสิท่า ทศกัณฐ์เปลี่ยนเลขาพอๆกับกางเกงในเนื่องจากเลขาแต่ละคนขัดหูขัดตาเขาเหลือเกิน ช่วงแรกๆพิทยาเลือกพวกบรรดาลูกสาวของหุ้นส่วนในบริษัทให้มาทำหน้าที่นี้แต่เจ้าหล่อนทั้งหลายก็มุ่งมั่นขยันอ่อยและอยากขยับสถานะตัวเองเป็นมากกว่าเลขา พอช่วงหลังๆมานี้พิทยาคนเดิมอีกนั่นแหละที่เลือกสรรพวกเลขาคุณภาพต่ำทั้งหน้าตาและประสบการณ์ แต่!!! ยัยแว่นนี่เป็นคนแรกที่กล้าลอยหน้าลอยตาอยู่ต่อทั้งๆที่เขาไล่ตะเพิดถึงสองครั้ง
"อ้าว ท่านรองยังไม่อาบน้ำอีกหรอคะ ฉันเตรียมแซนวิชกับกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลไว้ให้แล้วค่ะ"
"อยากเป็นเลขาฉันมากหรอ?"
"ตอนแรกก็อยากเป็นมากค่ะ แต่ตอนนี้ เอ่อ ก็อยากเป็นเหมือนเดิมค่ะ" รวิวรรณส่งยิ้มเจื่อนๆให้คนตรงหน้า ใครจะกล้าบอกกันละว่าเธออยากจะลาออกตั้งแต่วินาทีแรกที่เห็นความเรื่องเยอะของท่านรองสุดหล่อ
"งั้นก็ดี ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอจะทนได้สักกี่น้ำ" ทศกัณฐ์พูดเหยียดๆแล้วคว้าผ้าเช็ดตัวเดินเข้าห้องน้ำไม่สนใจสีหน้าเหรอหราของคนที่ถูกสบประมาทสักนิด
"แล้วเราจะรู้กันค่ะท่านรอง เพราะฉันก็ไม่ยอมเสียค่าปรับแน่นอน" รวิวรรณมองสภาพห้องแล้วได้แต่ส่ายหน้าระอา พวกคนรวยๆนี่เขาเป็นง่อยกันรึไงนะ ขนาดเธอเคยเป็นคุณหนูมาก่อนยังไม่เคยมีนิสัยแบบนี้เลยด้วยซ้ำ
ผ้าห่มที่หลุดร่วงไม่เป็นทิศทางถูกพับไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อยโดยรวิวรรณ ตลกดีเหมือนกันที่เธอมีสปิริตการเป็นเลขาค่อนข้างสูงทั้งๆที่นี่คือการเริ่มงานวันแรกและเจ้านายของเธอก็ดูเหมือนคนจิตไม่ปกติ
"เอ๊ะ! ผะ...ผู้หญิงคนนั้น ยะ...อย่าบอกนะว่า ตากันคือ ...!!!..." รวิวรรณมองรูปถ่ายใต้หมอนของทศกัณฐ์อย่างอึ้งๆ
"ทำอะไร!" เสียงทุ้มของคนที่เข้าไปอาบน้ำเดินออกมาด้วยผ้าขนหนูผืนเดียวอย่างหมิ่นแหม่ทำเอาคนตัวเล็กต้องรีบเบือนหน้าหนี ...ให้ตายสิยัยรวิเอ้ยย!!!
"ฉะ...ฉันแค่ช่วยจัดที่นอนให้ท่านรองค่ะ"
"อย่ามายุ่งกับรูปนั้นอีก!" ทศกัณฐ์ขู่เสียงเข้มไม่พอใจ
"ผะ...ผู้หญิงคนนั้น คือคุณแม่ของท่านรองใช่ไหมคะ"
"ใช่ เธอมีปัญหาอะไรงั้นหรอ อ้อ งานเลขาไม่จำเป็นต้องมายุ่มย่ามกับเรื่องส่วนตัวของฉัน!" รวิวรรณพยักหน้ารัวๆแล้วรีบเดินออกไปรอที่โต๊ะอาหารทันที ตอนนี้เธอลนลานจนแทบไม่เป็นตัวของตัวเอง ทั้งเรื่องหุ่นล่ำๆของเขา และเรื่องวิญญาณผู้หญิงคนนั้น!
________________________
