ตอน แผนแรก..เริ่ม
เวลา 20:50น.
Night Club
ทั้งหมดได้เปลี่ยนสถานที่มากินเลี้ยงที่Night Clubแทน เพราะเต้นั้นดันมีปัญหากับแฟนของตัวเองขึ้นมาเนื่องจากความหึงหวง ทำให้แฟนของเต้นั้นสั่งห้ามอย่างเด็ดขาดไม่ให้เต้มาที่นี่ ซึ่งทั้งหมดก็เข้าใจดีเพราะในบางครั้งเต้ก็ผิดนัดแบบนี้อยู่บ่อยๆ แต่ก็ไม่มีใครคิดโกรธเคืองเพื่อนคนนี้เลยสักนิด
“เอ้าชนนนนนน” เสียงของถิงถิงเพื่อนหนุ่มลูกครึ่งไทย-จีนพูดเสียงดังแข่งกับเพลงที่เปิดอยู่ และสาเหตุที่ไอ้หนุ่มผมยาวสุดเซอร์ของเขามันชื่อถิงถิง เพราะตอนที่แม่ของถิงถิงท้องได้สองเดือน เธออยากได้ลูกผู้หญิงมากจนตั้งชื่อนี้ขึ้นมา เพราะหวังว่าลูกจะเกิดเป็นหญิงให้สมกับชื่อที่เธอเรียกขาน แต่พอเวลาผ่านไปจวบจนคลอด เธอก็รู้ว่าถิงถิงน้อยของเธอนั้นมีเจ้ามังกรยักษ์โผล่ออกมาด้วย แต่ด้วยความชินปากแล้วก็เลยไม่มีใครคิดจะเปลี่ยนชื่อนี้เลย ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่สามีหรือแม้กระทั่งพ่อแม่ของเธอเอง รวมไปถึงสามีก็ตามใจเธอเช่นกัน
“กูนี่อย่างเซ็งเลย” วายุใช้ลิ้นดันกระพุ้งแก้มของตัวเองนิดๆ ก่อนจะกระกดเหล้าเพียวๆเข้าปาก
“เป็นเหี้ยอะไรของมึง” เจเนสเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม
“ก็พ่อกูอ่ะดิแม่งบังคับให้ดูไปดูตัวพรุ่งนี้”
“ที่มึงพูดนั่นพ่อมึงใช่ไหม เรียกอย่างกับเพื่อนเลยไอ้ห่า” กิ่งส่ายหน้าไปมายิ้มๆ
“โหแม่ ถ้ามึงมาเป็นกูนะแม่ มึงจะรู้ว่าชีวิตของลูกมึงเจ็บปวดจากการถูกคลุมถุงชนขนาดไหน” วายุว่าพลางถอนหายใจออกมาหนักๆอีกครั้ง กิ่งได้แต่มองเพื่อนสนิทด้วยแววตาขบขัน เพราะวายุมันชอบมีอาการแบบนี้ทุกครั้งที่พ่อแม่จับมันไปดูตัว และสาเหตุที่วายุเรียกเธอว่าแม่ นั่นก็เพราะเธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวในกลุ่ม แถมนิสัยขี้บ่นชอบเตือน ชอบสั่งสอนของกิ่งนั้นเปรียบเสมือนแม่คนที่สองของพวกชายโฉดทั้งหลาย ทุกคนในกลุ่มจึงลงมติให้กิ่งเป็นแม่โดยปริยาย
“มึงก็ยอมแต่งๆไปให้มันจบๆดิ แม่มึงจะได้ไม่บังคับมึงอีกไง” พริกเสนอ
“ถ้ามันง่ายแบบนี้กูก็ทำไปตั้งนานแล้วไหม นี่กูยังหวงชีวิตความโสดของกูอยู่เว้ย”
“อย่างนั้นมึงก็ต้องเจอแบบนี้ไปเรื่อยๆนั่นแหละ”
วายุกรอกตามองบนนิดๆแล้วนั่งเครียดนิ่งๆโดยไม่สนใจอะไรอีก ซึ่งทุกคนในกลุ่มต่างก็รู้ดีว่าถ้าเพื่อนคนนี้เครียดเมื่อไหร่ก็ห้ามมีใครไปยุ่งกับมันโดยเด็ดขาด ถ้าไม่อยากเจอพายุลูกใหญ่สวนกลับมา
พริกนั่งมองนั่นมองนี่ไปเรื่อย มีสาวๆหนุ่มๆหลายคนหันมามองเขาด้วยความสนใจ แต่เขาเองไม่คิดอะไรกับใครเลยเพราะในใจของเขาตอนนี้มีเพียงแค่แมนเท่านั้น และจะเป็นแมนคนเดียวที่ได้สายตาหวานๆจากเขาไปครอบครอง
จนสายตาของพริกนั้นไปหยุดอยู่ที่มุมหนึ่งตรงใกล้ๆทางเข้าห้องน้ำ เขาขมวดคิ้วแล้วเพ่งพิจารณามองผู้ชายที่ที่เขารู้สึกคุ้นตามากเหลือเกิน
“ไอ้นิค” พริกพูดชื่อแฟนของแมนทันที เพราะเขาจำอีกฝ่ายได้ดี ถึงแม้จะเคยเห็นหน้าแค่สองครั้งก็ตาม
“อะไรวะ” กิ่งที่อยู่ใกล้พริกมากที่สุดถามขึ้นด้วยความสงสัย พร้อมกับมองสายตาของพริก
“นั่นไอ้เหี้ยนิค” พริกบอกเพื่อนเสียงแข็ง ซึ่งน้ำเสียงของพริกนั้นทำให้ทุกคนในกลุ่มเริ่มหันมามองด้วยความสนใจ
“ผัวของซ้ออ่ะนะ!?” กิ่งเลิกตากว้างด้วยความตกใจ เพราะเคยได้ยินชื่อของนิคจากปากของพริกมาบ้าง
“เออ”
“เหี้ยไรกันวะ” เจเนสขมวดคิ้วมองหน้าเพื่อนสนิท สายตาของเจเนสและคนอื่นๆเต็มไปด้วยคำถาม เมื่อเห็นสีหน้าที่จริงจังของเพื่อน
“ผัวของว่าที่ผัวไอ้พริก” กิ่งป้องปากบอกเพื่อน นั่นก็ทำให้ทั้งหมดเข้าใจได้ในทันที
พริกจ้องหน้านิคเขม็ง เพราะอีกฝ่ายไม่ได้นั่งอยู่คนเดียว ข้างกายของนิคยังมีสาวสวยหุ่นดีแต่งตัววาบหวิวนั่งอยู่ข้างๆ เหมือนทั้งคู่กำลังเอาใจกันโดยไม่สนใจสายตาของคนรอบข้างที่มองมาในด้วยซ้ำ
“อีกนิดแม่งจะเอากันละนะ” ถิงถิงว่าพลางดื่มเหล้าในมือไปด้วย พวกเขาทุกคนที่นี่ล้วนแต่ไม่ชอบหน้าของนิคทั้งนั้น เพราะมันคือมารหัวใจของเพื่อนเขา
พริกกัดฟันกรอดและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายทั้งรูปและวีดีโอของสองคนนั้นเอาไว้
“มึงจะเอาไปให้พี่เขาดูเหรอวะ”
“ยังก่อน แต่กูจะบอกแมนว่าไอ้เหี้ยนั่นมันกลับมาแล้ว แถมยังมาที่คลับวันนี้อีก”
“แล้วเขาจะเชื่อมึงเหรอวะ เขาเป็นแฟนกันนะเว้ย” เจเนสถามด้วยความสงสัย และเลือกที่จะเลี่ยงคำว่าผัวเมียให้เพื่อนได้ยิน เพราะกลัวว่าพริกจะปวดใจอีกครั้ง
“เชื่อไม่เชื่อกูไม่สน แต่อย่างน้อยกูก็ไม่ยอมให้แมนโดนสวมเขาแบบนี้แน่ๆ” พริกพูดอย่างหมายมั่น เขายกแก้วในมือดื่มจนหมด สายตาก็เอาแต่มองทั้งคู่ไม่ละไปไหน
“ไอ้กิ่ง” พริกหันไปมองทางกิ่งเมื่อนึกอะไรบางอย่างขึ้นมาได้
“อะไร?”
“มึงช่วยอะไรกูอย่างดิ”
กิ่งหรี่ตาลงเล็กน้อย เพราะเธอมองเห็นความเจ้าเล่ห์ในแววตาของเพื่อนที่กำลังมองเธออยู่
“มึงเอาจริงดิ” กิ่งถามขึ้นทันทีเพราะรู้ว่าเพื่อนคนนี้กำลังจะทำอะไร
“อืม”
“รอบนี้เอาเบาๆพอนะ พรุ่งนี้กูมีนัดกับหมอปีสาม”
“เออ แค่นิดๆหน่อยๆพอ”
“เฮ้ออออ เออๆๆ”
“กูว่ากูพอจะรู้นะว่าไอ้เหี้ยพริกมันกำลังจะทำอะไรอ่ะ” เจเนสยักคิ้วใส่พริกนิดๆ พริกเองก็ยกยิ้มมุมปากมองเพื่อนทั้งสองกลับไป โดยมีสายตาของความใคร่รู้จากเพื่อนที่เหลือ
ถิงถิงสะกิดเจเนสเพื่อขอให้เล่าถึงสิ่งที่ตัวเองรู้ออกมา โดยมีวายุเอียงหน้ามาฟังด้วย
“ถ้ามึงรู้ก็ดี แล้วถ้ามันสำเร็จ มึงจะขออะไรจากกูก็ได้ กูให้มึงได้ทุกอย่าง”
“งานเสี่ยงขนาดนี้มึงอาจจะต้องจ่ายหนักหน่อยนะคะเพื่อน”
“มึงก็รู้ว่าบ้านมันรวย แถมเงินปันผลที่มันเข้าไปช่วยงานพ่อแม่ในบริษัทของมันก็ใช่ว่าจะน้อย มึงอยากได้อะไรจากมันให้มึงได้อยู่แล้วแหละ” ถิงถิงบอกยิ้มๆ
“ก็ดี อย่างน้อยๆกีของกูจะได้รีแพร์ใหม่สักที” กิ่งอมยิ้มเมื่อรู้ว่าน้องสาวของเธอจะกลับมาฟิตแน่นปั๋งอีกครั้ง โดยมีสปอนเซอร์ใหญ่อย่างพลิกเป็นคนออกค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด
“ถ้าภายในสองวันมึงสามารถทำให้เขาสองคนมีปัญหากันได้ อย่าว่าแต่กีใหม่ที่มึงจะได้เลย..ต่อให้มึงอยากจะทำหน้าหรือทำนมใหม่เอาให้ใหญ่ สด ดูอวบอิ่มมากแค่ไหน..กูนี่แหละจะเป็นสปอนเซอร์หลักให้มึงเอง”
“สายเปย์สัตว์ๆ” วายุแกล้งแบะปากมองพริกด้วยความหมั่นไส้
“แหมมป๋าขาา ป๋ารอชมการแสดงจากฝีมืออีกิ่งคนนี้ได้เลยค่ะ ถึงมันจะอยู่คณะที่มีผู้ชายเถื่อนแสนเถื่อน แต่ดีกรีความเป็นกระหรี่ในตัวไม่หายไปไหนอย่างแน่นอน รอดูนะคะที่รัก” กิ่งแกล้งซบไปที่อกของพริก ก่อนจะทำทีเดินเข้าไปใกล้โต๊ะของนิค พร้อมทำท่าทียั่วยวน
“มึงว่ามันจะทำสำเร็จไหมวะ” วายุถามพริกด้วยความอยากรู้ เพราะมุมตรงที่พวกเขานั่งอยู่ สามารถมองเห็นโต๊ะที่นิคนั่งได้อย่างชัดเจน
“เงินถึงแบบนี้ มึงคิดว่ามันจะไม่สำเร็จหรือไง มึงก็รู้ว่าช่วงนี้อีแม่มันอยากทำสวยมากแค่ไหน ยิ่งเป็นงานอ่อยผู้ที่มันถนัดอยู่แล้วด้วย มันก็ยิ่งง่ายสำหรับมันเข้าไปใหญ่” เจเนสตอบกลับ เพราะรู้นิสัยของกิ่งดี
“เพื่อเงินหรือเพื่ออะไรกันแน่” วายุพูดขึ้นลอยๆ ทั้งหมดหันไปมองนิดๆ ซึ่งวายุเองก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ เลยไม่มีใครสนใจอะไรมากนัก เพราะคิดว่าเพื่อนพูดเล่นๆ
“แล้วถ้ามันไม่สำเร็จล่ะ” ถิงถิงเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม นั่นทำให้พริกปลายตามองเพื่อนนิดๆ
“สันดานบ้ากามอย่างมัน ไม่มีทางที่แม่ของพวกมึงจะทำไม่สำเร็จหรอก แต่จะออกมาหมู่หรือจ่าก็แค่นั้นแหละ” พริกตอบไปอย่างมั่นใจ และนั่นมันก็จริง..เพราะหลังจากที่กิ่งเดินผ่านไปที่โต๊ะของนิคแล้วก้มลงไปกระซิบบางอย่างกับคนตรงหน้า ก่อนที่อีกฝ่ายจะทิ้งผู้หญิงที่นั่งด้วยแล้วเดินตามกิ่งไปทางด้านนอกของร้านทันที โดยที่พริกเองก็ไม่มั่นใจนักว่ากิ่งได้ไปพูดคุยอะไรกับนิคหรือเปล่า ถึงทำให้นิคเดินตามไปง่ายๆแบบนั้น แต่มันก็เข้าทางเขาอยู่เหมือนกัน พริกจึงลุกขึ้นแล้วเดินตามทั้งสองออกจากร้านไป
“อ้าวเฮ้ย แล้วนี่มึงจะกลับมาที่นี่ไหมเนี่ย” เจเนสถามด้วยความสงสัย
“กูจะเลยไปหาแมนเลย พวกมึงก็แดกกันไปแล้วกันแต่อย่าลืมว่าพรุ่งนี้มีสอบย่อย” พูดจบพริกก็เดินออกไปทันที
“อ้าวเฮ้ยแล้วเงินอ่ะไอ้พริก! เชี้ยพริก!!” เจเนสตะโกนตามหลังของพริกไป แต่ด้วยเสียงเพลงที่มันดังจนกลบเสียงเขาไปหมด มันเลยทำให้พริกไม่ได้ยินเสียงของเจนเนสที่พูดขึ้น
“เดี๋ยวมันก็โอนให้มึงทีหลังเองแหละหน่า มึงอย่าเพิ่งไปยุ่งกับมัน” ถิงถิงบอกยิ้มๆอย่างคนไม่คิดอะไรมาก เพราะเป็นเรื่องปกติของคนอย่างพริกที่จะทำแบบนี้
ถึงแม้ทุกคนอาจจะกำลังสนุกอยู่กับเครื่องดื่มและเพลงที่ชวนให้เต้นกระจายมากแค่ไหน แต่กลับแค่คนคนเดียวที่นั่งทำหน้าไม่สบอารมณ์อยู่ พร้อมกับสายตาที่เอาแต่จ้องมองไปยังประตูทางเข้าไม่วางตา จนเจเนสเริ่มสังเกตเห็น เขาขมวดคิ้วแล้วถามวายุออกไป
“เป็นอะไรของมึงวะ ไม่หนุกเหรอ”
“เฮ้อ! พวกมึงแดกกันไปเลย เดี๋ยวกูไปดูไอ้กิ่งก่อน” วายุพูดจบ ก็ดื่มแก้วเหล้าในมืออึกสุดท้ายก่อนจะลุกขึ้น
“มึงจะไปหามันทำไม มันดูแลตัวเองได้”
“แดกกันไปเหอะ แดกเสร็จก็รีบกลับล่ะ กูกลับแล้ว” วายุเดินออกไปทันทีโดยไม่อยู่รอฟังอะไรทั้งนั้น
“อ้าวเฮ้ย ไอ้ยุเฮ้ย!!” เจเนสตะโกนเรียกเสียงดังลั่น แต่วายุก็ไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับมาสนใจเลยแม้แต่น้อย
..
..
“อื้มมม..ใจเย็นสิคะนิค” กิ่งแอ่นตัวขึ้นเล็กน้อยเมื่ออีกฝ่ายซุกไซร้ที่ซอกคอของเธอ ในขณะที่ทั้งสองอยู่ในรถและประตูรถก็ยังไม่ถูกปิดดี โดยที่บริเวณนั้นไม่มีใครเดินผ่าน เพราะนิคได้ทำการจอดรถไว้ค่อนข้างไกลจากด้านหน้าของคลับ
พริกเดินมาตามทางเรื่อยๆ ก่อนที่เขาจะได้ยินเสียงของเพื่อนตัวเอง มุมปากของพริกกระตุกยิ้มนิดๆ แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายวีดีโอเอาไว้ รวมทั้งรูปภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งสายตาของพริกก็เห็นว่ากิ่งกำลังมองมาที่เขาอยู่ พริกจึงพยักหน้านิดๆเพื่อส่งสัญญาณบางอย่างให้เพื่อนได้รู้ และยกโทรศัพท์ขึ้นเพื่อถ่ายรูปอีกครั้ง ซึ่งกิ่งนั้นก็ให้ความร่วมมือโดยการหันหน้าหลบกล้องแล้วใช้ตัวของนิคบังเธอเอาไว้
“หึ..เท่านี้ก็เรียบร้อย” พริกพึมพำพูดกับตัวเองเบาๆ แล้วเงยหน้ามองเพื่อนอีกครั้ง กิ่งเองก็เหมือนจะรู้ เธอหันมองหน้าพริกแล้วถลึงตาเพื่อถามถามว่าเสร็จแล้วเหรอ พริกจึงไหวไหล่เล็กน้อยเป็นการตอบกลับไป ว่าทุกอย่างเป็นไปตามแผน ก่อนที่พริกจะหันหลังแล้วเดินกลับไปที่รถของตัวเอง โดยไม่ห่วงอะไรกิ่งอีก เพราะรู้ดีว่ากิ่งนั่นเอาตัวรอดได้
กิ่งยิ้มเล็กน้อย ขณะที่มองไอ้บ้ากามที่มันซุกไซร้ซอกคอของเธออย่างเมามันด้วยสายตาที่รังเกียจ
“อื้มมม..นิคขา” กิ่งดันใบหน้าของนิคออกห่างเล็กน้อย สายตาหวานเชื่อมของนิคจ้องมองกิ่งอย่างหื่นกระหาย
“คนสวย..เรามาต่อกันในรถเลยดีกว่านะ ผมไม่ไหวแล้ว..” นิคพูดเสียงแหบพร่า กิ่งเองก็นึกขยะแขยงน้ำเสียงของอีกฝ่ายอยู่ไม่น้อย แต่เธอไม่สามารถจะแสดงออกได้มากกว่านี้ จึงทำได้เพียงยิ้มหวานตอบกลับไปแทน
“แต่ว่าแตงกวารู้สึกแปลกๆค่ะ เหมือนว่า.. ประจำเดือนจะมา” กิ่งพูดบอก ก่อนจะเอ่ยถึงชื่อเล่นปลอมๆของเธอกับอีกฝ่ายไป
“ห๊ะ!?” นิคหน้าเหว่อไปเล็กน้อย ซึ่งมันก็ทำให้กิ่งได้จังหวะผลักนิคออกไปนอกรถ ส่วนตัวเธอก็ลุกขึ้นยืนห่างจากกระโปรงที่สั้นจิ๋วให้ยาวลง
“ขอโทษทีนะคะสุดหล่อ แต่..วันนี้แตงกวายังไม่พร้อมอ่ะ เอาไว้วันหลังนะคะ” กิ่งพูดรัวๆเร็วๆแล้วกึ่งเดินกึ่งวิ่งออกจากที่นี่ไปทันที ซึ่งพอดีกับที่มีรถBMWคันใหม่ล่าสุดมาจอดเทียบด้านข้างของเธอ คราแรกกิ่งนึกว่าเป็นรถของลูกค้าทั่วไปจึงพยายามหลบเพื่อให้รถได้ขับผ่านเธอ แต่กระจกที่เปิดออกทางด้านคนนั่งมันทำให้กิ่งรับรู้ทันทีที่ว่านี่คือรถของวายุ เพื่อนสนิทเธอเอง
“ขึ้นรถ” วายุพยักหน้านิดๆ กิ่งเองไม่รอช้ารีบเปิดประตูแล้วเข้าไปนั่งทันที
“เฮ้อออ เกือบไปแล้วไหมล่ะ” กิ่งถอนหายใจออกมาหนักๆเมื่อหันไปมองนอกรถอีกครั้งแล้วพบว่านิคกำลังหัวเสียเดินขึ้นรถของตัวเองไป
กิ่งใช้มือถูไปที่คอของตัวเองข้างที่นิคดูดเม้มเมื่อกี้อย่างรังเกียจและขยะแขยงเต็มที สายตาก็มองหาทิชชู่ในรถของวายุ เพราะเธอจำได้ว่าเธอเพิ่งเอามาวางไว้
“ที่พื้น มันเพิ่งหล่นเมื่อเย็น กูลืมเก็บ” วายุบอก เมื่อสังเกตเห็นว่ากิ่งกำลังหาอะไร กิ่งที่ได้ยินแบบนั้นก็ก้มมองทันที ก่อนจะเห็นกล่องทิชชู่ที่เธอตามหาอยู่ แล้วรีบนำมาเช็ดตามบริเวณที่เธอถูกนิคสัมผัส
“อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องให้ตัวเองเจ็บตัว” วายุพูดขึ้นหลังจากขับออกห่างจากคลับมาได้สักพัก
“ก็ใครมันจะไปรู้ล่ะวะว่ามันเล่นจะเอากูกลางลานจอดขนาดนั้นอ่ะ” กิ่งได้ทีบ่นอุบออกมาเล็กน้อย
วายุปลายตามองคนข้างๆเล็กน้อย ชุดเดรสสั้นสีแดงสดที่ปิดช่วงล่างเพียงแค่คืบแบบนั้น เขาเองก็ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมไอ้บ้านั่นมันถึงอดใจไม่ไหว เพราะถ้าเป็นเขา..เขาคงไม่อดใจรอให้ถึงลานจอดรถแน่ๆ แต่คงเริ่มทำตั้งแต่ในห้องน้ำของคลับแล้ว
“วันหลังมึงก็แต่งตัวให้มันดีๆหน่อย ใส่เหมือนจ้องจะหาผัวอยู่ตลอดเวลาแบบนี้ มันก็ไม่แปลกหรอกที่ไอ้เหี้ยนั่นอยากจะแดกมึงบนรถ”
“ก็กูน่าแดกอ่ะ” กิ่งเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย แล้ววางทิชชู่ที่เช็ดเสร็จไว้ด้านล่าง
“ฝากทิ้งด้วย”
วายุที่ได้ยินก็หันมองนิดๆแต่ก็ไม่ได้ว่าอะไร
“ถ้าจะแต่งโชว์แบบนี้ มึงก็หัดเอาเสื้อคลุมติดเอาไว้ด้วย ไม่ใช่เปิดโชว์จนเห็นไปถึงไหนต่อไหนแบบนี้”
“เอ้าอียุ กูมาเที่ยวนะคะไม่ใช่มาจำศีลกินเจ มึงจะให้กูแต่งเรียบร้อยขนาดไหน” กิ่งว่าออกมาอย่างไม่ยอม ถึงแม้เธอจะเป็นผู้หญิงที่ดูแรดๆบ้าผู้ชาย แต่นิสัยอีกอย่างนึงของเธอที่ทำให้คบกับพวกของพริกได้ นั่นก็คือนิสัยที่ไม่ยอมคนและมีมุมห้าวเหมือนกับพวกมัน
“ก็ให้มันเรียบร้อยกว่าตอนนี้แล้วกัน”
“จิ๊! กูมากับพวกมึงนะ กูไม่เห็นต้องกลัวอะไรเลย” กิ่งลอยหน้าลอยตาตอบกลับไป แต่มือเรียวก็พยายามจับกระโปรงที่มันเลิกขึ้นให้ปิดลงกว่านี้ วายุเองก็หันไปเห็นพอดี จึงส่ายหน้าไปมาเล็กน้อยแล้วพูดขึ้น
“เอาเสื้อกูไปคลุม อยู่ด้านหลัง” วายุพยักหน้าไปทางด้านหลังของตน กิ่งเองก็หันไปมองแล้วพบว่ามันเป็นเสื้อยี่ห้อดังตัวโปรดของเพื่อนชายคนนี้
“นั่นเสื้อตัวโปรดมึงไม่ใช่เหรอ?”
“มึงก็ใส่ๆไปเถอะหน่า นั่งพูดมากอยู่นั่นแหละ”
“เอ้า แต่ถ้าเสื้อมึงมีกลิ่นน้ำหอมของกูติดอยู่ เดี๋ยวมึงก็มาบ่นให้กูฟังอีกอ่ะ” กิ่งขมวดคิ้วมองหน้าวายุอย่างเหนื่อยใจ เพราะอีกฝ่ายเคยเอาเสื้อของตัวเองมาให้เธอใส่แล้ว และก็ชอบบ่นว่ากินน้ำหอมของเธอมันติดเสื้อ ทำให้เวลาใส่แล้วมันได้กลิ่นอยู่ตลอดเวลา
“ถ้ากูจะบ่น กูจะให้มึงใส่ไหม”
“แล้วบรรดาเมียๆของมึงจะไม่มาแหกอกกูทีหลังใช่ไหม ถ้าพวกนั้นได้กลิ่นน้ำหอมของกูบนเสื้อมึงเนี่ย” กิ่งว่าพลางเอื้อมไปหยิบเสื้อด้านหลังเพื่อที่จะคุมทับขาตัวเองเอาไว้อย่างที่อีกฝ่ายบอก วายุใช้หางตามองเรียวขาขาวของสาวข้างกายนิดๆ ยามที่อีกฝ่ายเอี้ยวตัวไปด้านหลัง มันยิ่งทำให้กระโปรงที่ใส่มันเลื่อนขึ้นไปอีก จนสายตาของวายุดันไปเห็นชั้นในสีดำตัวจิ๋วของกิ่งที่ใส่มา
“แฮ่ม!” วายุกระแอมเล็กน้อยแล้วรีบหันหน้ากลับไปมองถนนดังเดิม
“อะไรของมึง” กิ่งมองหน้าวายุด้วยความสงสัย เพราะอยู่ดีๆไอ้เพื่อนเจ้ากรรมก็ดันกะแอมขึ้นมา
“ไม่มีอะไร..แล้วมึงก็ไม่ต้องห่วงเรื่องจะมีคนมาว่ามึงหรอก ไม่มีใครกล้าพูดอะไรแบบนี้ทั้งนั้นแหละ”
“มั่นใจเหลือเกินนะว่ามึงจะควบคุมคนของมึงได้เนี่ย”
วายุหันไปมองทางกิ่งนิ่งๆ
“กูไม่ยอมให้ใครเขามาทำอะไรมึงได้หรอก” น้ำเสียงจริงจังของวายุที่พูดออกมา มันทำให้กิ่งที่กำลังจ้องหน้าอีกฝ่ายอยู่ชะงักไป ความหวั่นไหวเกิดขึ้นมาในใจของเธอเล็กน้อย แต่รู้สึกแบบนั้นได้ไม่เท่าไหร่ กิ่งก็ต้องเลือดขึ้นหน้าอีกครั้งเพราะประโยคต่อมาของวายุที่พูดกับเธอ
“เพราะถึงต่อให้ใครจะต่อว่ามึง แต่หมาในปากของมึงก็คงไม่ยอมแน่ๆที่เจ้าของโดนขู่แบบนี้”
“อะ..ไอ้เหี้ยวายุ! นี่มึงด่ากูเหรอ!?”
“กูชมมึงมั้งแม่ แก่แล้วหูตึงอ๋อ”
“ไอ้สัตว์นี่ ว่าแต่กู มึงเองก็มีหมาเหมือนกันนั่นแหละ”
“หึ เหรอ”
“กูล่ะอยากรู้จริงๆว่าสาวๆพวกนั้นทนหมาในปากของมึงได้ยังไง หรือว่ามึงใส่ตะกร้อให้มันไว้ มันเลยไม่เพ่นพ่านออกมาเห่าตอนมึงอยู่กับพวกนาง”
“หึหึหึ กูเลือกต่างหากว่ากูจะปล่อยหมาไปที่ใคร แต่มึงเสือกโชคดีนะที่..กูเลือกมึง” วายุกระตุกยิ้มมุมปากนิดๆ กิ่งได้แต่มองขวางโดยไม่โต้ตอบอะไรกลับไป เพราะไม่อย่างนั้นคืนนี้ทั้งคืน เธอคงเถียงกับไอ้หมาบ้านี่ไม่จบง่ายๆแน่
“ไปส่งกูที่คอนโดด้วย”
“แล้วทำไมมึงไม่บอกกูให้เร็วกว่านี้ นี่มันทางไปคอนโดกูแล้ว”
“เอ้า! แล้วมึงจะให้กูไปนอนคอนโดมึงอีกแล้วเหรอ? ทำไมมึงไม่ถามความเห็นกูก่อนเนี่ย กูไปนอนคอนโดมึงบ่อยแล้วนะเว้ย ไปจนแทบจะเป็นคอนโดกูอีกที่แล้วเนี่ย”
“แล้วไง”
“เอ้าอียุ เฮ้ออ กูล่ะเบื่อกับความหน้ามึนของมึงจริงๆ แทนที่จะไปส่งกู แต่เสือกไปคอนโดตัวเองเนี่ยนะ”
“มึงมาพูดมากตอนนี้มันก็ไม่ทันแล้วไหม อีกนิดเดียวจะถึงแล้วเนี่ย”
“แม่ง..เสื้อผ้ากูก็ไม่มี แล้วกูจะใส่อะไรไปเรียนพรุ่งนี้ล่ะเนี่ย”
“เดี๋ยวกูซักแล้วรีดให้แหละหน่า อย่ามาทำเหมือนไม่เคยไปหน่อยเลย”
“มึงนะมึง ถ้าไม่คิดว่ามึงเป็นลูกกูอีกคนนะไอ้วายุ กูถีบมึงติดประตูรถไปแล้วเนี่ย นึกจะทำเหี้ยอะไรก็ทำไม่ถามกูสักคำเลย”
“กูจะเป็นลูกมึงได้ไง..กูยังไม่เคยดูดนมมึงเลย”
“ไอ้เหี้ยวายุ!!” กิ่งฟาดฝ่ามือไปที่ไหล่แกร่งของวายุทันที
เพียะ!
“โอ๊ย! หึหึหึ แม่มึงมันเจ็บนะเว้ย” วายุว่าพลางยิ้มขำ
“กวนตีน แม่ง!” เธอกอดอกแล้วหันหน้าไปมองนอกรถทันที
+++++++++++++