เมียผมดุ - 4
หลักจากความจริงเรื่องคืนวันเกิดชานนท์ที่อิตาลีกระจ่าง รู้ไหมว่าเกิดอะไรขึ้น?
กลางดึกของคืนนั้น ผู้ชายที่ก่อเรื่องรีบบินตรงกลับจากอิตาลีมาหาฉันที่คอนโด แต่ฉันไม่อยากเจอหน้าเขา เลยแจ้งพี่ รปภ. ที่หน้าคอนโดไว้ล่วงหน้าถ้ามีผู้ชายที่ชื่อชาน หรือ ชานนท์มาหาฉัน ห้ามให้เข้ามาเด็ดขาดและต้องรีบโทรมาบอกฉันทันที
ปรากฏว่าคืนนั้นทั้งคืน ชานนท์ไม่ยอมไปจากหน้าคอนโดฉันเลย เขานั่งอยู่เป็นเพื่อนพี่ รปภ. คนนั้น ทำตัวเหมือนตัวเองกลายเป็น รปภ. ไปเสียเอง เวลามีใครเข้าใครออกเขาจะต้องหันมาดูเผื่อเป็นฉัน
หึ! ไม่ได้เจอยาหยีง่ายๆ หรอกชานเอ๊ย!
ในเมื่อฉันมีสายสืบแบบพี่ รปภ. คอยรายงานความเคลื่อนไหวตลอดเวลา มีหรือฉันจะยอมออกไปเสนอหน้าให้เขาเห็น
อ้อ! ไม่ใช่สิ ต้องบอกว่า มีครั้งหนึ่งฉันสั่งข้าวจากแอพฯ ตัวสีเขียวมากิน แล้วก็เดินลงไปเอาของที่สั่งที่ชั้นล่าง ก็จงใจให้เขาเห็นหน้าฉันนั่นแหละ เลยแกล้งกระแซะเบียดพี่คนมาส่งข้าวนิดๆ ให้ใครบางคนที่มองจากด้านนอกหัวร้อนเล่นๆ
แล้วรู้อะไรไหม ชานนท์วิ่งไล่เตะลมเตะฝุ่นตามหลังรถที่มาส่งข้าวจนฉันหวั่นใจว่าพี่คนขับจะได้รับอันตราย เฮ้อ! ห่ามจริงๆ แฟนใครก็ไม่รู้
"พี่หยีๆ ดูนั่นสิ" ชีเนมกระซิบพร้อมส่งซิกให้ฉันหันไปดูด้านหลังเบาๆ
ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่ามีคนกำลังเดินตามฉันเข้ามาในมหาลัย
"เนม อย่าโกรธพี่นะ" ฉันคิดแผนดีๆ ออกเลยกระซิบบอกรุ่นน้องข้างๆ
เธอเลิกคิ้วงงนิดหนึ่ง ส่วนฉันไม่ได้สนใจคำตอบอะไรเดินไปหาลุงยามที่มีหน้าที่เฝ้าความปลอดภัยที่หน้าประตูมหาลัย
"ลุงคะ ๆ ! " ฉันวิ่งไปเรียกลุงยามเสียงตื่น ลุงแกเองก็หันมาทำหน้าตกใจตามฉันไปด้วย "มีอะไรเหรอครับนักศึกษา!" ลุงยามถามเสียงรัว
"หนูรู้สึกว่ากำลังถูกโรคจิตเดินตามค่ะ" ฉันก้มลงไปกระซิบให้เราได้ยินกันสองคน พร้อมกับพยักเพยิดหน้าไปทางด้านหลังที่คิดว่ามีร่างสูงผมสีดำอมน้ำเงินเข้มยืนอยู่
"ใช่เหรอหนู เขาดูหน้าตาดี ไม่น่าจะเป็นโรคจิตนะ"
นี่ลุง! ลุงอย่าไปหลงกลใบหน้าหล่อเหลานั่นสิ
แล้วใครบอกคนหล่อเป็นโรคจิตไม่ได้กันล่ะ
"ไม่รู้สิลุง แต่เขาเดินตามหนูกับน้องมานานแล้วนะ ลุงช่วยดูไว้หน่อยนะคะ อย่าให้เขาเข้าไปข้างในล่ะ ถ้าเกิดเรื่องไม่ดีในมหาลัย อย่าหาว่าหนูไม่บอกไม่กล่าวนะ"
มีขู่นิดๆ สีหน้าลุงยามดูเหมือนเพิ่งคิดได้ถึงผลลัพธ์ที่ตามมา ลุงแกเลยพยักหน้าตกลงในสิ่งที่ฉันขอ ฉันแอบหันไปมองคนด้านหลังที่สวมเสื้อยืดคอกลมสีขาวสะอาดตา กางเกงยีนส์เซอร์ขาดเข่า รองเท้าผ้าใบสีแดงเลือดหมู
เฮ้อ! ขนาดแต่งตัวธรรมดาขนาดนี้ แต่ทำไม ออร่าความหล่อถึงได้ยิ่งทะลุทะลวง บาดตาบาดใจสาวๆ ขนาดนี้นะชาน วันหลังหัดเก็บความหล่อไว้ที่บ้านบ้างก็ได้นะ ไม่ต้องพกมาหมดแบบนี้!
"พี่หยีแสบใช่เล่นนะเนี่ย!" เมื่อเข้ามาในรั้วมหาลัยอย่างไร้เงาติดตามของอีกคน ชีเนมก็ยกนิ้วโป้งทั้งสองข้างชมฉัน
"เราไม่โกรธพี่เหรอ?" ฉันเอียงคอถามคนข้างๆ
"ไม่อะ เฮียโดนแค่นี้ยังน้อยไป เป็นผู้ชายซะเปล่า โดนผู้หญิงมอมเหล้าจนเกือบได้เสียกัน น่าขายหน้าที่สุด!" ชีเนมบ่นให้พี่เธอ
ฉันไม่ผิดสัญญากับเฮียไอน้ำใช่ไหมที่เล่าเรื่องคลิปนั้นให้ชีเนมฟัง ก็เฮียไอน้ำกำชับแค่ว่าห้ามให้ชานนท์เพื่อนเขารู้นี่นะ
อ้อ! แล้วอีกเรื่อง ทำไมชานนท์ถึงเข้ามามหาลัยนี้ไม่ได้ เพราะเขาไม่ได้เรียนที่นี่ยังไงล่ะ เขาเรียนจบปริญญาตรีไปแล้ว กำลังจะต่อ ป.โท แต่ยังไม่ตัดสินใจเลือกสักทีจะเรียนที่ไทยหรือบินไปเรียนที่อังกฤษ
ติ๊ง!
เสียงข้อความฉันเด้งขึ้น ชีเนมยังไม่ขึ้นเรียน ฉันเองก็ยังไม่ถึงเวลาเราเลยนั่งเล่นกันที่หน้าสวนหย่อมตึกการโรงแรม
"เฮียเหรอ?" เธอคงมองเห็นมั้งเลยถาม
"อืม สงสัยส่งมาบ่น" ก็เล่นกีดกันไม่ให้เขาเข้ามา งานนี้คนที่มักเอาแต่ใจอย่างเขาต้องบ่นเป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว
"งั้นพี่หยีก็เปิดอ่านไปเลย แต่ไม่ต้องตอบ" คนน้องนี่ยังไง เสี้ยมฉันให้เอาคืนพี่ตัวเองเก่งเหลือเกิน
แต่เรื่องนั้นฉันก็คิดไว้อยู่แล้ว งานนี้ชานนท์ต้องรับบทเรียนเยอะๆ ง้อฉันให้หนักๆ หน่อย เขาจะได้รู้ว่า ฉันไม่ใช่แม่ชี ที่จะอภัยให้ได้ทุกเรื่อง
"งื้อ น่ารักอะ" ฉันกรีดร้องเสียงหลงเมื่อเปิดข้อความของชานนท์เสร็จ
"อะไรพี่หยี ไหนๆขอเนมดูบ้าง" ชีเนมที่นั่งถัดไปจากฉันรีบขยับก้นเข้ามาชิดก่อนจะดึงมือฉันที่จับมือถืออยู่ไปดู
"โหย แบบนี้พี่หยีต้องยกโทษให้เฮียแน่ๆ เลย" หลังจากชีเนมเห็นรูปที่พี่ชายเธอส่งมาให้ดูถึงกับทำหน้ายู่ ปากยื่นปากยาว
"พี่บอกแค่ว่าน่ารัก ไม่ได้จะยกโทษให้เขาสักหน่อย" ฉันดึงมือออกจากมือชีเนมที่จับไว้ ยกโทรศัพท์ขึ้นมาขยายรูปที่ชานนท์ส่งมา
น้องหมาขนสีน้ำตาลอ่อนกำลังทำตาบ๊องแบ๊วใส่ฉัน แถมยังเป็นพันธุ์เดียวกับเจ้าชานมอีก
ติ๊ง!
ข้อความเด้งเข้ามาอีกฉบับ
My darling : พี่ยาหยีคนสวย
My darling : สนใจรับน้องชาไข่มุกไปอยู่เป็นเพื่อนชานมอีกตัวไหมครับ
เป็นข้อความออดอ้อนที่ใช้น้องหมาสี่ขามาหลอกให้ฉันใจอ่อนสินะ
Me : ชาไข่มุกครับ ฝากบอกคนแถวนั้นด้วยนะ อย่าใช้หมามาง้อซะให้ยาก!!
ข้อความฉันขึ้นอ่านแล้ว ก่อนจะมีข้อความอื่นๆ เด้งตามมารัวๆ ส่วนมากจะเป็นรูปถ่ายทั้งนั้น
"เนม พี่ไม่ไหวแล้ว มันน่ารักเกินไปแล้วจริงๆ" ฉันโอดครวญกัดปากแน่น
กลัวจะใจอ่อน ชานนท์ร้ายจริงๆ เขารู้ว่าจุดอ่อนฉันคืออะไร เลยใช้น้องหมาที่ฉันชอบมาขอคืนดี
"โห ถ้าเฮียเหมามาห้าตัวสงสัยเฮียจะตายเอง" ชีเนมกลืนน้ำลายฝืดๆ ตาโต
ใช่ ถ้าชานนท์ซื้อเจ้าสี่ขาทั้งห้าตัวมาง้อฉันจริง เขานั่นแหละจะตายก่อน ไม่ใช่ว่าจนตายนะ แต่จะแพ้ขนมันตายแทนน่ะสิ
"แล้วป่านนี้ไม่นั่งไอนั่งจามที่ร้านจนแย่แล้วเหรอ" ฉันพึมพำเบาๆ
ชานนท์แพ้ขนหมา แต่ดันไม่แพ้ขนแมว เขามีแมวพันธุ์เปอร์เซียสีขาวตัวอ้วนหนึ่งตัวเป็นลูกรัก แล้วนี่อะไร ไปขลุกอยู่กับหมาตั้งห้าตัวเพื่อเอาใจฉัน มันใช่เหรอ?
เขากำลังทรมานตัวเองและคนรอบข้างอย่างฉันชัดๆ
"พี่หยีห้ามใจอ่อนเด็ดขาด!" เสียงชีเนมทำให้ฉันได้สติ
ฉันไม่ได้ใจอ่อนจะยกโทษให้เขา แค่เป็นห่วงนิดนึงแค่นั้นเอง
"ไม่ต้องห่วงน่าเนม พี่ยังแกล้งไม่สะใจเลย" ฉันยืนยันเสียงแข็ง
บ๊ายบายเจ้าหมาน้อยทั้งห้า ถ้าเรามีวาสนาต่อกันสักวันแม่จะไปรับพวกแกมาเลี้ยงเป็นเพื่อนเจ้าชานมนะ บอกลาหมาน้อยในใจเสร็จฉันก็รีบกดปิดหน้าจอมือถือและเปลี่ยนเป็นแบบสั่นแทน เพื่อป้องกันการใจอ่อนของตัวเองน่ะ
"เออเกือบลืมไปเลย" จู่ๆ ชีเนมที่นั่งเงียบก็โพล่งขึ้นเสียงลั่น
"มีอะไร พี่ตกใจหมด" ยกมือลูบหน้าอกตัวเองเรียกขวัญให้กลับมา
"ก็เรื่องอินวาไง"
คิ้วฉันขมวดมุ่น ใครคืออินวา แต่พอจะเอ่ยปากถามชีเนมกลับเฉลยขึ้น
"คนที่อยู่บนเตียงกับเฮียชานคืนนั้น" ชีเนมไม่กล้าสบตาฉัน เธอยังรู้สึกผิดแทนญาติเธอแม้จะรู้ความจริงแล้วก็ตามว่าเรื่องนั้นเป็นการจัดฉาก
"เนมคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ทำไมยัยอินวาถึงกล้าทำเรื่องผิดศีลธรรมแบบนั้นด้วย!"
ชีเนมทุบกำปั้นลงบนโต๊ะม้าหิน ฉันเห็นท่าทางฉุนเฉียวเธอเลยรีบเอื้อมมือไปกุมกำปั้นเล็กๆ นั้นไว้ ลูบไล้เบาๆ เพื่อเรียกสติ
"ช่างมันเถอะเนม เรื่องจริงมันเป็นยังไงพวกเรารู้กันหมดแล้วนี่" ฉันฝืนยิ้มให้เธอ
แม้จะบอกว่าชานนท์ไม่ผิด ผู้หญิงคนนั้นต่างหากที่ทำเรื่องทั้งหมดเองแต่ฉันก็ยังไม่สบายใจอยู่ดี
ใครจะเห็นแฟนตัวเองโดนผู้หญิงคนอื่นที่เปลือยกายขึ้นคร่อมแล้วไม่เสียใจบ้าง ถึงแม้เรื่องมันจะจบลงที่พวกเขาไม่มีอะไรกันฉันก็พูดได้ไม่เต็มปากอยู่ดีว่าไม่เสียใจ