ตอนที่ 4(รีไรท์)
" ลูกหมายความว่ายังไงนะสโนว์ " แม่ของสโนว์หันมาถามลูกชายของตัวเองด้วยความไม่เข้าใจ เพราะสิ่งที่ลูกชายของเขากำลังพูดอยู่นั้น มันไม่ได้ไขความกระจ่างให้กับเขาหรือคนอื่นๆเลยทั้งสิ้น
" ก็ที่โนพูดไปนั่นแหละครับแม่ ยังไงพี่กานต์เขาก็ต้องแต่งงานกับโนไม่ว่าจะเต็มใจหรือไม่ก็ตาม เพราะโนจะทำทุกอย่างให้พี่กานต์..ยินยอมจนได้ พ่อกับแม่แล้วก็คุณอารอดูได้เลยครับ งานแต่งงานของพวกเรา..จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน! “ สโนว์กระตุกยิ้มมุมปาก แล้วมองใบหน้าของกานต์อย่างท้าทาย
กานต์ที่ได้ยินแบบนั้นก็เลือดขึ้นหน้าด้วยความโมโห เพราะไม่คิดว่าอีกฝ่ายจะกล้าพูดกับเขาแบบนี้
" มึงกล้ามากนะที่มาท้ายทายคนอย่างกู หึ! คนอย่างมึงน่ะหรอจะมีปัญญามาทำให้กูยอมแต่งงานกับมึงด้วย..ไม่มีทาง! " กานต์จ้องมองร่างบางเขม็ง
" ลองดูมั้ยล่ะครับ ถ้าภายในหนึ่งปีผมทำให้พี่ชอบผมไม่ได้ เรื่องการแต่งงานของเราก็ถือว่าไม่เคยเกิดขึ้นเลย ผมกับพี่ก็จะต่างคนต่างอยู่และไม่มีอะไรที่จะต้องเกี่ยวข้องกันอีก แต่ถ้าผมทำให้พี่รู้สึกชอบผมหรือรักผม พี่จะต้องแต่งงานกับผมโดยไม่มีข้อแม้ใดๆทั้งสิ้น พี่กล้ารับคำท้าของผมมั้ยละ “ สโนว์เลิกคิ้วมองใบหน้าคมของกานต์อย่างท้าทาย ริมฝีปากของสโนว์ยกยิ้มด้วยความพึงใจและมั่นใจไม่น้อยในสิ่งที่ตัวเองพูดออกไป
" มึงดูมั่นใจเหลือเกินนะว่าจะมีปัญญาทำให้กูชอบมึงได้ มั่นใจมากไปหรือเปล่า หึ๊!? " กานต์ถามด้วยความสงสัยเพราะรอยยิ้มที่ดูเหมือนสนุกของคนตรงหน้าและความมั่นใจของร่างบางมันทำให้กานต์นึกแปลกใจไม่น้อย เพราะเขาไม่เคยเจอคนแบบนี้มาก่อน เพราะคนส่วนมากที่เขาเคยเจอก็ไม่เคยมีใครกล้าต่อปากต่อคำกับเขาแบบนี้ และยิ่งมาเถียงคนอย่างกานต์แบบที่สโนว์ทำนั้นยิ่งไม่มีเด็ดขาด เพราะเพียงแค่เขาปลายตาไปมองที่ใคร คนคนนั้นก็แทบจะมุดหน้าลงไปที่พื้น และไม่มีใครกล้าเงยหน้ามองมาที่เขาเลยแม้แต่น้อย แต่กับสโนว์มันไม่ใช่แบบนั้น เพราะนอกจากอีกฝ่ายจะไม่เกรงกลัวเขาแล้ว ยังจะมาท้าทายคนอย่างเขาอีกต่างหาก
" ถ้าผมไม่มั่นใจ..ผมคงไม่กล้าพูดแบบนั้นกับพี่กานต์ไปหรอกนะครับ " สโนว์ตอบกานต์กลับไปด้วยรอยยิ้ม ซึ่งรอยยิ้มของเขาก็แฝงไปด้วยความมั่นใจที่เต็มเปี่ยม
การเดิมพันของเขาทั้งคู่ในครั้งนี้มันช่างท้าทายทั้งกานต์และสโนว์มากเสียเหลือเกิน เพราะมันคือการเล่นเกมส์ทางความรู้สึก เหมือนกับวลีที่ว่า ใครเป็นฝ่ายรู้สึกก่อน คนนั้นแพ้อย่างนั้นแหละ
" เอ่อ...เอาเป็นว่านี่เราปล่อยให้เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของเด็กๆแล้วกันเนอะ พ่อกับแม่อย่างเราๆคง..เข้าไปยุ่งไม่ได้ “ แม่ของสโนว์ส่งยิ้มแห้งๆให้กับทุกคน เพราะตัวของเธอนั้นก็รู้สึกเขินอายไม่น้อยที่ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนคนนี้ พูดจาก๋ากั่นเกินไปแบบนี้ แต่ถึงยังไงเธอก็แอบดีใจอยู่ลึกๆที่ลูกชายคนนี้พยายามกู้ศักดิ์ศรีของตัวเองคืนมา
และถึงแม้ว่าการเดิมพันของเด็กทั้งสอง เธอจะไม่ค่อยเห็นด้วยมากแค่ไหนก็ตาม แต่ถ้าจุดหมายของทางที่ลูกชายของเธอเลือกมันทำให้ลูกของเธอมีความสุข เธอเองก็พร้อมที่จะลองเสี่ยงไปพร้อมกับลูกชายของเธอ ไม่ว่าจะเจออะไรก็ตาม เธอก็ขอที่จะอยู่เคียงข้างลูกชายของเธอต่อไป
" เอ่อ..เอางั้นแล้วกันเนอะ ว่าแต่..หนูสโนว์คะ ถ้าหนูว่างๆก็เข้ามาหาแม่บ้างนะลูก บ้านหลังนี้ยินดีต้อนรับหนูเสมอนะจ๊ะ " แม่ของกานต์หันไปพูดกับสโนว์เสียงนุ่มพร้อมกับจับใบหน้าของสโนว์ด้วยความถนุถนอม สโนว์เองก็ส่งยิ้มหวานไปให้เช่นกัน เพราะเขาเองก็รู้สึกดีไม่น้อยที่ครอบครัวของร่างสูงต้อนรับเขาแบบนี้
ในตอนแรกที่เขาเข้ามาที่นี่ เขานึกว่าจะมีคนใดคนนึงคัดค้านเขาเสียอีก เพราะลักษณะและท่าทางของเขามันก็ไม่ได้ดูเรียบร้อยสักเท่าไหร่ และเขาก็ทำใจในเรื่องนี้มาพอสมควรเหมือนกัน แต่พอมาเจอจริงๆก็พบว่ามันไม่เป็นอย่างที่เขาคิดเลยสักนิด ซึ่งมันก็ทำให้เขาเข้าหาร่างสูงได้ง่ายขึ้นและมันอาจจะง่ายมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ เพราะเขาดันมีแบ็กดีที่คอยช่วยเหลืออยู่ข้างๆ
" ครับ คุณ แม่ " สโนว์พูดย้ำกับสรรพนามที่เรียกแม่ของกานต์ใหม่พร้อมมองหน้าร่างสูงที่ขมวดคิ้วมองมาทางตนเองด้วยความไม่พอใจ นับตั้งแต่พรุ่งนี้้เป็นต้นไปกานต์เริ่มรู้สึกแล้วว่าชีวิตของตนเองน่าจะไม่มีความสุขอีกต่อไปและเขาจะต้องหาทางรับมือกับคนที่ทั้งดื้อและเอาแต่ใจอย่างสโนว์ให้ได้ ซึ่งมันก็ถือว่าเป็นเรื่องที่หนักสำหรับเขามากพอสมควร เพราะนอกจากหน้าตาที่หวานของคนตรงหน้าแล้วก็ไม่มีอะไรที่เขาชอบเลยสักนิด ทั้งปากที่จัดจ้านและท่าทางที่หยิ่งทะนงจนเกินไปของอีกฝ่าย มันยิ่งทำให้กานต์รู้สึกไม่ชอบใจและไม่อยากเกี่ยวข้องเป็นที่สุด
งานในบริษัททุกๆอย่างเขาสามารถดูแลได้ คนจำนวนหลายร้อนพันคนเขาสามารถควบคุมได้ตลอด แต่พอเขาได้มาเจอกับสโนว์..มันทำให้เขารู้เลยว่าการจัดการของเขาในครั้งนี้มันช่างยากมากกว่าแต่ก่อนมากโข
หลังจากที่สโนวกลับมาจากบ้านของกานต์แล้ว สโนว์เองก็มีแผนในหัวว่าวันรุ่งขึ้นตอนสิบโมงเขาก็กลับไปที่บ้านของกานต์อีกเพราะเขาจะเริ่มภารกิจในการตามตื้อว่าที่สามีในอนาคตของเขา ซึ่งตัวของสโนว์นั้นมีคติที่ท่องอยู่ในใจเป็นประจำ นั่นก็คือ..ตื้อเท่านั้นที่ครองโลก! และเขาเองนี่แหละที่จะครองโลกของร่างสูงให้ได้
วันต่อมา
" มาหากานต์หรอจ๊ะ " แม่ของกานต์ทักขึ้นเมื่อเห็นว่าที่ลูกสะใภ้เดินตรงเข้ามาในบ้าน
" ใช่ครับคุณแม่ ว่าแต่พี่กานต์อยู่มั้ยครับ " สโนว์พูดพร้อมมองหาร่างสูงไปด้วย
" ตากานต์ไม่อยู่หรอกลูก ออกไปบริษัทตั้งแต่เช้าแล้วเห็นบอกมีประชุมกับผู้ถือหุ้นรายใหญ่น่ะ " แม่ของกานต์ส่งยิ้มหวานให้กับว่าที่ลูกสะใภ้ของเธอ
" อ่อ..แล้วเอ่อ... " สโนว์กัดปากอย่างลังเลว่าควรขอตามไปหากานต์ที่นั่นดีมั้ย
" ตามไปเลยจ้ะ แม่ไม่ว่าอะไรหรอก " แม่ของกานต์พูดพร้อมกับขยิบตาให้กับสโนว์อย่างเจ้าเล่ห์ นั่นมันก็ยิ่งทำให้สโนว์มีกำลังใจในการตามตื้ออีกฝ่ายตลอดปีนี้
" งั้น ผมขออนุญาตนะครับแม่ " สโนว์ก้มหัวทำความเคารพแม่ของสามีในอนาคต และเดินหันหลังไปนั่งรถของตัวเองเพื่อตรงไปยังบริษัทของกานต์