บท
ตั้งค่า

EP : 6

“สวัสดีครับ” ผู้ชายคนนั้นทักทายตอบกลับยิ่งเป็นเครื่องยืนยันว่าคนที่ยืนข้างฉันชื่อ พอร์ช! แล้วเสี่ยลุงพอร์ชที่ฉันเจอคนนั้นคือใคร หรือชื่อเขาสองคนเหมือนกัน?

“คุณพอร์ชจะรับของที่สั่งเลยไหมคะหรือจะให้จูลี่ส่งไปที่คอนโด” พี่ผู้หญิงคนนั้นยิ้มถามเสียงใสก่อนที่จะหันมาก้มหัวให้ฉันพร้อมกับยิ้มให้เป็นการทักทาย

“ครับ เดี๋ยวผมขอเอาส่วนหนึ่งไปก่อนที่เหลือค่อยส่งไปแล้วกัน” อีตานั่นตอบพร้อมรอยยิ้มก่อนที่จะหยิบกระเป๋าเงินออกมาแล้วควักบัตรเครดิตยื่นให้พี่ผู้หญิงที่ชื่อจูลี่

“ได้ค่ะ เชิญคุณพอร์ชกับน้องรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวจูลี่จัดการให้ค่ะ” พี่จูลี่บอกแล้วก็เดินไปยื่นบัตรเครดิตให้พนักงานหน้าเคาน์เตอร์ส่วนไอ้ผู้ชายหน้าหล่อที่ตกลงว่าชื่อพอร์ชแต่ไม่รู้ว่าพอร์ชไหนก็เดินไปนั่งที่โซฟาสุดหรูมุมหนึ่งของร้าน ส่วนฉันน้องน้ำหวานคนงามก็ค่อย ๆ เดินตามไปนั่งลงที่โซฟาอีกตัว

“ตกลงว่า...” ฉันเอ่ยปากพูดขึ้นเบา ๆ แต่อีตานี่ก็ปรายตามามองด้วยหางตา คล้ายกับว่าจะบอกให้ฉันรู้ว่า อย่าเพิ่งพูดกูรำคานอะไรประมาณนั้น โอเคน้ำหวานจะไม่พูด

ฉันกับเขานั่งรอไม่นานพนักงานก็ทยอยเดินเอาถุงและกล่องที่น่าจะใส่เสื้อผ้าออกมา อื้อหือ เยอะมาก อย่าบอกนะว่าซื้อให้ฉันเพราะถ้าเป็นเรื่องจริงน้องหวานจะดีใจมาก เพราะแค่มองผ่านตาเสื้อผ้าที่นี่มันดีต่อใจมากจริง ๆ ไม่ใช่แค่เสื้อผ้านะ รองเท้า กระเป๋า เครื่องประดับ เลิศเลอถูกใจมากค่ะ

หลังจากนั้นฉันกับเขาก็นั่งรถออกมาจากร้านทันทีที่พนักงานขนของขึ้นรถให้เสร็จ

“ตกลงว่า” ฉันเอ่ยขึ้นอีกขึ้นครั้งเพราะความอึดอัดใจและอยากรู้เต็มอก

“ว่า...” เขาถามขึ้นแต่ตาก็ยังจ้องมองไปที่ถนน

“คนที่ฉันเจอตอนนั้น กับนาย...เอ่อกับคุณ ใครชื่อพอร์ชกันแน่” ฉันถามเสร็จก็แอบเป่าปากออกมาด้วยความโล่งใจ ได้พูดสิ่งที่อยากถามออกไปทำเอาฉันโล่งสุด ๆ

“แล้วเธออยากให้เป็นใคร” เออดีถามไปถามกลับ เล่นลิ้นเหรอ เล่นเพื่อ? น้องถามพี่เพราะต้องการให้พี่ตอบ ไม่ได้ให้มาถามน้องกลับค่ะพี่ชาย

“ก็ถ้าให้เลือกได้ก็ไม่อยากได้คนแก่คราวพ่อไหมล่ะคะ” ฉันตอบด้วยคำตอบกว้าง ๆ ใครจะกล้าตอบว่าถ้าเลือกได้ก็อยากเสียตัวให้คนหล่อแบบเขากันล่ะคะ

“หึ ๆ พวก Bully” เขากระตุกยิ้มแล้วก็หัวเราะเยาะแล้วก็พูดออกมา

“เปล่านะฉันไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ถ้าให้ฉันไปมีอะไรกับคนแก่คราวพ่อต่อให้หน้าตาหล่อแค่ไหนฉันก็ทุกข์ใจอยู่ดี” ฉันรีบปฏิเสธ เริ่มรู้สึกลดความเกร็งไปบ้างแล้ว

“อายุเท่าไหร่?”

“คะ? ยี่สิบค่ะทำไมเหรอ”

“คุยกับผู้ใหญ่แทนตัวว่าฉัน?”

“ไม่นะคะปกติพูดแทนตัวน่ารักมากแต่นี่กับคนไม่รู้จักเลยไม่ใช้คำนั้น เพราะขนาดชื่อของคุณคุณยังไม่บอกเลย” ฉันบอกเขาไปด้วยใบหน้านิ่งพร้อมกับยักคิ้วข้างเดียว ประมาณว่าตัวฉันมันเจ๋งมาก ฮ่า ๆๆ

“แค่พูดก็ได้ทำไมต้องทำหน้าตลก” เขามองเอือม ๆ แล้วก็หันหน้าไปสนใจถนนตรงหน้าต่อ ทำหน้าตลก? ตลกตรงไหนวะ!

“แล้วตกลงคุณชื่ออะไรกันแน่” ฉันถามเขาต่อพยายามวกกลับมาถามชื่อให้ได้จะได้รู้สักทีว่าสิ่งที่ลุ้นอยู่ในใจมันจะสมหวังหรือผิดหวัง

“หึ ๆๆ พูดให้เพราะ ๆ น่ารัก ๆ แล้วจะบอก” เขาหัวเราะเบา ๆ แล้วบอกสิ่งที่ต้องการ ให้พูดเพราะ ๆ น่ารัก ๆ เหรอหวานถนัดค่ะ ฉันก็เลยหันหน้าไปมองเขาแล้วก็ยิ้มหวานให้จนตาหยี

“พี่ชื่ออะไรคะบอกหวานหน่อยได้ไหม” ฉันถามเขาออกไปแต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเขาที่นิ่งไปพักหนึ่ง อย่าบอกนะว่าเขิน ไม่น่าจะใช่เพราะหน้าไม่เห็นแดง คนหล่อระดับนี้จะมาเขินอะไรกับคำพูดฉัน หรือเขาจะกำลังตะลึงกับเสียงหวานออดอ้อนที่มันอาจจะฟังดูน่ากลัวสำหรับเขา

“ไอ้เสี่ยที่เธอเห็นวันนั้นเป็นลูกน้องฉันเอง” หลังจากที่เงียบไปสักพักเขาก็ตอบออกมา ไม่ได้ตอบชื่อตรง ๆ หรอกนะแต่มันก็ทำให้ฉันเข้าใจได้อย่างกระจ่างแจ้งเลยล่ะ

ฉันอึ้งไปสักพักแล้วก็ค่อย ๆ หันไปมองเขา ผิวขาว คิ้วเข้ม จมูกโด่ง ปากกระจับ โครงหน้าเป๊ะ หุ่นล่ำ กล้ามโต บ้านน่าจะโคตรรวย เพอร์เฟ็คทุกอย่าง ...นี่คือคนที่ฉันต้องเสียตัวให้จริง ๆ ใช่ไหม

“พี่ไม่คิดว่าเราจะถึงขั้นสลบนะเนี่ย ปกติคนอื่นเขาเจอก็แค่สติหลุด”

คำพูดพี่นีน่าลอยเข้ามาในหัวฉันทันที ตอนนี้ฉันก็จะเหมือนคนอื่นแล้ว สติฉันเริ่มจะไม่อยู่กับเนื้อกับตัวแล้ว ช็อคยิ่งกว่ารู้ว่าต้องเสียตัวให้เสี่ยลุงพอร์ชตัวปลอมซะอีก

หลังจากที่เขาตอบและฉันนั่งอึ้งไปเหตุการณ์บนรถหลังจากนั้นก็คือไร้การพูดคุยใด ๆ ระหว่างสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าสุดหล่อรวยโคตรกับสุดสวยผู้ยากไร้

ฉันเดินตามเขาเข้ามาในคอนโดที่ดูดีมาก ตอนแรกคิดว่าจะเป็นแค่คอนโดห้องสตูดิโอธรรมดาซะอีก

“คุณจะให้ฉันอยู่ที่นี่จริง ๆ เหรอคะ” ฉันถามเขาหลังจากที่เราเข้ามาอยู่ในห้องกันแล้ว ห้องสวยมาก ตกแต่งพร้อมอยู่อย่างดี

“อื้ม”

“มันไม่มากเกินไปเหรอ นึกว่าแค่คอนโดเล็ก ๆ”

“ฉันไม่อยากมานอนค้างคอนโดเล็ก ๆ น่าอึดอัดหรอกนะ” เขาบอกฉันด้วยท่าทางหยิ่งมากแล้วก็นั่งลงที่โซฟา

ฉันเห็นเขานั่งลงก็เลยฉุกคิดได้ว่าควรมีมารยาทอะไรบ้างก็เลยเดินไปฝั่งที่น่าจะเป็นห้องครัวเผื่อจะมีน้ำดื่มอะไรเตรียมไว้ แล้วก็พบว่ามันมีอยู่จริงรวมถึงอาหารสดอาหารแห้งและเหล้าเบียร์ ฉันเลยจัดการรินน้ำเปล่าไปเสิร์ฟเขาซะ

“นั่งลงก่อนสิเรามีเรื่องต้องคุยกัน” พอฉันวางน้ำให้เขาก็บอกให้ฉันนั่งลงทันที

“คุณมีอะไรจะคุยกับฉันคะ”

“ข้อตกลงของเรา” เขาบอกแล้วก็มองหน้าฉัน โอเคถึงเวลาต้องทำงานแล้วสินะ

“ค่ะ มีอะไรที่ฉันต้องทำบ้างคะ”

“เธอมีหน้าที่แค่ทำให้ฉันมีความสุข ห้ามไประรานผู้หญิงคนอื่นของฉัน” เขาบอกและนั่นก็ทำให้ฉันพยักหน้ารับ

“ค่ะ”

“ระหว่างที่ฉันดูแลเธอห้ามเธอไปมีอะไรกับใคร หรือแม้แต่มีแฟนก็ห้ามเด็ดขาด” เขาเน้นข้อตกลงนี้เป็นพิเศษซึ่งฉันก็พอจะเข้าใจเพราะถ้าเด็กที่เลี้ยงไว้ไปมีคนอื่นคงรู้สึกแย่เนอะถ้าต้องซ้ำรอยคนอื่นทั้งที่อุตส่าห์เสียเงินไปตั้งเยอะ

“ค่ะ” ฉันพยักหน้ารับอีกครั้ง ใจก็เริ่มเต้นรัวเพราะไม่รู้ว่าต้องเริ่มต้นหน้าที่ตอนไหน ถึงคุณพอร์ชอะไรนี่จะหล่อบาดใจแต่ให้เสียตัวทั้งที่เพิ่งรู้จักกันฉันก็ยังรู้สึกหวิว ๆ นะคะ

เวอร์จิ้นมันไม่ใช่เรื่องตลกเข้าใจไหม มันเป็นเหมือนไส้ติ่งนั่นแหละ มีอันเดียวเสียแล้วเสียเลย

“เดี๋ยวจะให้คนไปช่วยขนของที่เหลือมาให้ เสื้อผ้าพวกนี้ก็จัดการซะ ส่วนนี่บัตรเครดิตอยากได้อะไรก็ซื้อเลย ฉันชอบผู้หญิงสวย สวยแล้วก็ต้องดูดีด้วยเข้าใจไหม” เขาบอกแล้วก็ยื่นบัตรเครดิตมาให้ฉันเลยเอื้อมมือไปรับมาทั้งที่ใจก็ไม่ได้อยากได้อะไร

“ดูดีของคุณคือต้องใส่เสื้อผ้าแพง ๆ แบบนั้นน่ะเหรอคะ” ฉันถามเขา ไม่ได้ตั้งใจกวนประสาทนะแต่คนเรามีทัศนคติในการมองคนให้ดูดีแตกต่างกัน ฉันเลยต้องถามเพื่อจะได้เข้าใจว่าควรดูดียังไง

“แพงไม่แพงก็ใส่ไปเถอะอย่าให้มันเป็นเด็กกะโปโลแบบตอนนี้ก็พอ พูดตรง ๆ เอาไม่ลงว่ะ” เขาบอกแล้วก็ทำหน้าสมเพชใส่ฉัน แต่คำพูดตรง ๆ ของเขามันทำให้ฉันหน้าแดงออกมาด้วยความอาย

แต่ทำไมเหรอเสื้อผ้าที่ฉันใส่ออกจะเป็นฮิตในหมู่วัยรุ่นออก ดีค่ะในเมื่อบอกแต่งตัวแบบนี้แล้วเอาไม่ลงอีน้ำหวานก็จะแต่งแบบนี้ไปเรื่อย ๆ คิดได้แบบนั้นรอยยิ้มแบบชั่วร้ายที่ฉันชอบยิ้มเสมอเวลาในหัวมีแผนชั่วก็เผยออกมาอย่างห้ามไม่อยู่

“อย่าคิดว่าฉันรู้ไม่ทันความคิดเธอ” อยู่ ๆ เขาก็พูดขึ้นมาฉันก็เลยเงยหน้ามองเขาด้วยความงง

“ถ้าเธอยังใส่เสื้อผ้าพวกนี้สัญญาว่าฉันจะฉีกมันทิ้งแล้วจับเธอโยนขึ้นเตียงทุกครั้งที่เห็นจำไว้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel