Chapter 3
Chapter 3
[3/1]
“อ่ะ อื้มม! พี่นาฟหยุดก่อนค่ะ ไปอาบน้ำก่อนเลย” หลังจากที่กลับมาจากทานอาหารร้านของธาดาแล้ว ทั้งสองก็กลับคอนโดของปิ่นหยก
“จ๊วบบ จ่วบ! อืมมมม” ทันทีที่ก้าวเข้ามาในห้องคนตัวโตกว่าก็เริ่มคลอเคลียอยู่กับซอกคอเรียวขาวลามไปถึงริมฝีปากบางเล็กได้รูป
“บอกให้ไปอาบน้ำไง นี่! ปล่อยหนูเดี๋ยวนี้นะ” ร่างบางพยายามดันอกคนตัวใหญ่ออกจากตัวเอง ก่อนที่เขาจะทำอะไรเกินเลยไปมากกว่านี้
“อ่าส์ ขัดใจชะมัด!” ภัทรกาฬเริ่มรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย แต่ก็ต้องยอมเดินถือผ้าเช็ดตัวเข้าไปในห้องน้ำก่อน
วันนี้วันทั้งวันตั้งแต่มาถึงที่คอนโดของปิ่นหยก ใจจริงภัทรกาฬนั้นอยากจะเข้าจู่โจมเธอตั้งแต่เปิดประตูเข้าห้องมาแล้วด้วยซ้ำ แปลกที่เขารู้สึกว่าตัวเองโหยหาสัมผัสอันหวานชื่นจากหญิงสาวมาตลอดเวลา
หรืออาจจะเป็นเพราะว่าความเคยชินที่มีปิ่นหยกเคยอยู่ข้างกายเขามาโดยตลอดยามที่เขาต้องการ
แกร่ก!!!
ร่างสูงเดินพันผ้าขนหนูรอบเอวเข้ามาด้านหน้าตู้เสื้อผ้า ก่อนจะเปิดออกเลือกชุดที่คิดว่าตัวเองพอจะใส่ได้ก่อน แต่แล้วก็แปลกใจที่เห็นเสื้อผ้าบางตัวมันยังคงถูกแขวนไว้ที่นี่อยู่ ทั้งที่ก็นานมากแล้วเธอควรจะทิ้งมันได้แล้ว
‘หนูเพิ่งรู้เลยนะเนี่ย ว่าพี่เกิดวันเดียวกันกับหนูอ่ะตอนวันเกิดหนูปีที่แล้วพี่ไม่เห็นบอกหนูบ้างเลย..... หู้ยย พรหมลิขิตอ่ะแบบนี้ต้องมีของขวัญมาแลกกันแล้ว’
‘ก็แค่ความบังเอิญ’
‘หึ! ไม่นะ มันคือโชคชะตาต่างหาก’
‘แล้วนี่ตกลงจะให้จอดตรงไหน?’
‘หนูจะไปห้างค่ะ ไปซื้อของขวัญให้พี่ ไปด้วยกันไหมคะ?’
‘ไม่ล่ะ มีนัดกับพลอยไว้แล้วเย็นนี้ก็ไม่ว่าง’
‘งั้น ไม่เป็นไรค่ะ พี่ไปเถอะ’
เขาจำได้ว่าวันเกิดปิ่นหยกและวันเกิดของเขาตรงกับตอนช่วงรับปริญญาจบการศึกษาบัณฑิตใหม่ และเขาเองก็เป็นบัณฑิตใหม่เพิ่งเรียนจบเพื่อนทุกคนต่างก็มีงานฉลองจัดเลี้ยงสังสรรค์กันยกใหญ่ตามสถานบันเทิงร้านต่างๆ หนึ่งในงานที่เขาจะไปร่วมวันนั้นมีแพรพลอยอยู่ด้วย
ภัทรกาฬไม่รอช้าที่จะไปร่วมงานนี้โอกาสที่จะได้เจอเธอมันมีไม่มากแล้วเขาเองก็ได้ข่าวว่าเธอจะบินไปเรียนต่อที่ต่างประเทศซึ่งเป็นบ้านเกิดของพ่อเลี้ยงของเธอ
ตั้งแต่เกิดเรื่องคราวก่อนที่คลับแห่งหนึ่งแล้วเธอบอกเลิกกับเขาไปแม้จะเรียนในคลาสเดียวกันแต่แพรพลอยกลับไม่มานั่งใกล้เขาเหมือนเดิมอย่างที่ผ่านมาแถมยังตีตัวออกห่างไม่ยอมพูดจากับเขาเลย
วันนั้นทั้งวันเขาก็เลยไม่ได้กลับไปฉลองวันเกิดกับปิ่นหยก ทั้งที่เจ้าหล่อนคาดหวังกับงานวันเกิดของเราทั้งสองคนมาก
“ยังเก็บไว้อยู่อีกหรอชุดนี้ คราวก่อนกลับมายังไม่เห็นว่ามันแขวนอยู่เลย” มือหนาหยิบเสื้อเชิ้ตสีน้ำเงินเข้มออกมาจากตู้เสื้อผ้า แล้ววางมันวางไว้ปลายเตียงนอนนุ่ม
“พี่จะถามทำไม?” หญิงสาวที่กำลังจะถือผ้าเช็ดตัวเข้าไปอาบน้ำบ้างหันหน้ามาถามภัทรกาฬ
ร่างสูงจำได้ว่ามันเคยอยู่ในกล่องนี้เมื่อ 4 ปีที่แล้วนี่ ปิ่นหยกเป็นคนซื้อเสื้อตัวนี้ให้เขาเองแต่หลังจากกลับมาจากปาร์ตี้ฉลองรับปริญญากับเพื่อนวันนั้น
เขากลับมาหาหญิงสาวที่คอนโดพร้อมกับกล่องของขวัญแต่กลับไม่ได้สนใจมันเลย พลางนึกถึงแต่เหตุการณ์ในงานเลี้ยงที่มีแพรพลอยอยู่ในนั้นด้วย
“ก็แค่ถามเฉยๆ ไม่ได้สำคัญอะไร ปกติเห็นมันอยู่ในกล่อง”
“อ่อ! งั้นหรอ พอดีว่ามาร์วินเขามาที่นี่แล้วไม่มีเสื้อใส่น่ะก็เลยต้องใส่ชุดนี้” คำตอบของภัทรกาฬทำให้คนที่ฟังแอบไม่พอใจอยู่บ้าง ไม่ได้สำคัญงั้นหรอ? ....ก็ใช่สิ มันไม่สำคัญอะไรเลย
“แล้วหนูก็ให้มันใส่!? ดีจังนะเป็นเพื่อนกันแต่เข้านอกออกในคอนโดได้อย่างกับเจ้าของห้อง แถมยังให้มันใส่เสื้อผัวตัวเองอีก” ภัทรกาฬเริ่มโมโห ก่อนจะกระชากแขนร่างบางดึงตัวเธอเข้ามาหาเขา
“พี่จะอะไรนักหนา พี่เองไม่ใช่หรอที่ไม่สนใจไอ้กล่องของขวัญนั้นเลย มันจะในตู้นานแค่ไหนก็ไม่ได้คิดจะหยิบมาดูหรือสนใจมันเลย”
“อ่ออ หนูก็เลยให้มันใส่ของของพี่งั้นหรอ!?”
“มันไม่ใช่ของพี่แล้ว มันไม่ใช่ของพี่ตั้งแต่วันที่พี่ไปหาพี่พลอยแล้ว อ๊ะ อื้มมม….!!” ร่างสูงไม่ได้สนใจคำพูดของหญิงสาวอีกต่อไป แขนแกร่งสอดเข้าโอบเอวร่างบางเข้าแนบชิดลำตัวแกร่ง ก่อนจะแนบริมฝีปากหยักลงบนปากของเธอ
“ปล่อยหนู! อื้ม อย่า! อื้มมม” ปิ่นหยกคงจะขัดขืนได้ยากแล้ว เพราะคนตัวสูงที่เอาแต่ใจเริ่มเลื่อนมือลงไปด้านล่างและสอดนิ้วแกร่งเข้าไปด้านในแกนกลางความเป็นสาวของคนร่างบางจนอดที่จะครางออกมาไม่ได้
“อย่าให้มันมาทับรอยพี่ จ๊วบ!!” ใบหน้าหล่อผละริมฝีปากของตัวเองออกก่อนจะหันมาพูดข่มหญิงสาว แล้วหลังจากนั้นริมฝีปากหยักจึงเข้าครอบครองดูดดื่มลำคอขาวหวังจะทำให้เกิดรอย
ผลั่ก!!! “ทำไม!? เราไม่ได้เป็นอะไรกันซักหน่อยนี่พี่ลืมแล้วหรอ อ่อ! หรือเป็นเพราะเรื่องแฟนเก่าพี่”
“อย่าพูดถึงพลอย พลอยไม่เกี่ยว!” เออ แตะต้องไม่ได้เลยนะเรื่องแฟนเก่าเนี่ย
“อื้มมม อ๊ะ! พี่นาฟ อ๊ะ อืมม”
“อ่าส์ หยก...จับมันออกมาสิ”
มือหนาอีกข้างจับมือเรียวบางของหญิงสาวเอาไว้ แล้วบังคับมันเข้าลูบไล้ตรงแก่นกายความเป็นชายผ่านกางเกงตัวโปรดที่ตอนนี้กำลังมีอะไรบางอย่างดุนดันอยู่ภายใต้กางเกงหนา
[3/2]
คนตัวสูงอุ้มร่างบางด้วยท่าเจ้าสาวขึ้นไปบนเตียงจัดท่าทางให้เรียบร้อย แม้หญิงสาวจะดิ้นไม่ยอมเขาง่ายๆ แต่พอใช้ไม้เด็ดกับเธอเท่านั้นแหละจะไปไหนรอด
“อื้ม ตรงนั้น อ๊ะ! ค่อยๆ ค่ะ” ปิ่นหยกรู้ดีว่าความต้องการของเขาทำให้เธอไปไหนไม่รอด เพียงแค่เขาเล้าโลมหยอกเย้าเข้ากับจุดอ่อนไหวบนเรือนร่างแค่นี้เธอก็แพ้เขาอีกแล้ว
นิ้วแกร่งสอดเข้าไปด้านเพนตี้ตัวจิ๋วลายลูกไม้สีดำมันยิ่งทำให้คนตัวโตมีความโหยหาหญิงสาวตรงหน้ามากยิ่งขึ้น มือหนาดึงเกี่ยวเอาเพนตี้ตัวนั้นออกจากร่างบางจนเผยให้เห็นกลีบดอกไม้งามเบ่งบานเป็นสีชมพูระเรื่อ พร้อมกันกับที่มีหยาดน้ำหวานหลั่งไหลออกมาจากใจกลางร่องสวยสวาทนั้น
“น้ำเยิ้มไวเชียว แล้วยังจะเล่นตัวทำไม หึ!”
ภัทรกาฬนึกคิดสนุกทันใดนั้นจึงเบียดถูแก่นกายที่กำลังตั้งผงาดคับกางเกงชั้นในสีขาวยี่ห้อดังของชายหนุ่มเข้ากับกลีบดอกไม้งามดอกนั้น
“อ่าส์ ไม่ได้เจอกันนานโหนกใหญ่ขึ้นนะ ......เพี๊ยะ!!! อื้มมม” มือหนาเข้าฟาดโหนกนูนอย่างหมั่นเขี่ยว
‘แม่งโคตรได้อารมณ์ดิบเถื่อน!’
“อื้มมม อ๊ะๆๆๆ โอ้วว โอ๊ยย! น่ะ..... หนูเสียว อ๊ะ เบาๆ ค่ะ อ่ะ อื้มมม” คนใต้ร่างแทบจะร้องไม่เป็นภาษาอยู่แล้ว ทั้งนิ้วหนาทั้งลิ้นสากเร่าร้อนปรนเปรอเข้าใส่ร่องเสียวในจังหวะเร็ว
“เสร็จเร็วจังนะ ยังไม่ทันจะได้เจอของจริงเลย หึ” ใบหน้าหล่อยื่นเข้ามากระซิบข้างหูเล็กจนคนได้ยินถึงกับเก็บอาการเขินอายไว้ไม่อยู่
“หนูไม่ไหวแล้ว อู้วว อะ...อ่าส์” ขณะที่ภัทรกาฬเร่งนิ้วแกร่งดันเข้าดันออกเข้าไปในร่องสวาทนั้นจากนิ้วแรกเพิ่มเป็นนิ้วสองก็ทำให้ร่างบางถึงกับเกิดอาการเกร็งกระตุกถี่ๆ
นานเท่าไหร่แล้วที่ร่างกายของสองเราห่างหายไปจากสัมผัสสวาทอันเร่าร้อนของกันและกัน ไม่ใช่แค่เพียงเขาเท่านั้นที่โหยหา หญิงสาวใต้ร่างนี้ก็เหมือนกันที่นับวันรอคอยเขากลับมาอย่างไม่เคยท้อ
ทั้งที่เอาเข้าจริงๆ แล้วไม่มีใครยอมโง่ได้ขนาดนี้หรอก สถานะไม่มี ตัวตนในสังคมของเขาก็ยังไม่ให้พื้นที่เธอได้ยืนเลย แล้วอะไรล่ะที่ทำให้เธอซื่อสัตย์กับชายหนุ่มได้ขนาดนี้
หลังจากร่างบางกระตุกเกร็งไปแตะของสวรรค์ชั้นไหนแล้วบ้างก็ไม่รู้
รู้แต่เพียงว่าตอนนี้คนตัวสูงเริ่มเข้าควบคุมเกมสวาทนี้อีกครั้ง โดยการปลดเปลื้องเสื้อผ้าทั้งเขาและของปิ่นหยกออกจนไม่เหลือปราการปิดบังสักชิ้น
“พรุ่งนี้วันจันทร์เข้างานกี่โมง?”
“เข้า 8 โมงค่ะ 0_0” ปากเอ่ยตอบคนคนถามแต่สายตากลมโตนั้นกลับเหล่มอง บางสิ่งบางอย่างที่ตั้งผงาดขึ้นเป็นลำใหญ่
“ไอ้เวรนั้นมันใช้หนูคุ้มจังนะ อึ๊บบ!” ร่างสูงจับขาเรียวสวยปรับตำแหน่งให้อยู่ระหว่างตรงหน้าของเขา แล้วค่อยๆ แยกขาเรียวออกเป็นรูปตัว M
ไม่เพียงคนตัวเล็กที่แอบลอบกลืนน้ำลายชายตาอ่านกินคนตัวโต แต่เขาเองยิ่งกว่าเธอเสียอีก ตอนนี้แทบจะปวดหนึบไปทั่วลำตัวแล้ว
อยากจับใส่แล้วกระแทกแรงๆ หลายๆ รอบให้หายอยากไปเลยด้วยซ้ำ
สวบบ!!!
“อ่ะ โอ๊ยย! จะ..... เจ็บบ! งื้ออ” กลีบดอกไม้บานอมชมพูถูกแก่นกายแกร่งสอดเข้าไปอย่างไม่บอกกล่าวใดๆ ให้คนที่ถูกกระทำอยู่เตรียมตัว หรืออาจเป็นเพราะสายตาหวานคู่นั้นกำลังจดจ้องอยู่กับลำปืนใหญ่อยู่ก็ไม่รู้
วินาทีแรกที่เข้าไปได้แค่ส่วนหัวของลำเท่านั้นก็ทำให้ชายหนุ่มรู้ทันทีว่าร่องสวาทนี้คงจะห่างหายจากเรื่องอย่างว่ามานาน คงจะนานพอกับตอนที่เขาจากไปหรือเปล่า หรือมีใครอื่นได้เชยชมดอกไม้งามดอกนี้บ้างไหม แต่เขาก็คิดว่าคงจะไม่มี
“อื้มมม แน่นว่ะ ฟิตอะไรขนาดนี้หยก อ่าส์”
“อ๊าส์ เบาๆ ค่ะหนูเจ็บ อู้ย! อื้มมม” พอหญิงสาวเริ่มผ่อนคลายร่างกายได้บ้างแล้ว ก็ได้จังหวะที่แก่นกายใหญ่สอดเข้าไปทีเดียวจนมิดด้าม
ระหว่างที่หายหน้าไปเขาใช้เวลาเรียนอย่างหนักเพื่อคว้าปริญญามาสองใบ จนแทบจะไม่มีเวลาหยิบจับโทรศัพท์และไม่ได้ตอบข้อความของหญิงสาวเลย
“อืมมมม....... คิดถึงพี่บ้างไหมคะ?”
“พะ ...พรุ่งนี้หนูทำงานนะ อื้มมม ......พี่นาฟ หนูจะทำงานไม่ไหว” มือเรียวบางดันอกแกร่งเป็นเชิงห้ามปราม แต่มีหรือที่คนอย่างภัทรกาฬจะยอมให้ค่ำคืนนี้จบลงเพียงแค่รอบเดียว
“หึ! งั้นก็ลาออกสิ”
“พูดเป็นเล่น อ๊าๆๆ อื้ออ” พูดเล่นที่ไหนล่ะคนอย่างเขาพูดจริง โดยเฉพาะเรื่องลาออกจากรีสอร์ทห่วยๆ นั่น รู้ทั้งรู้ว่าเขาไม่ถูกกันกับมันยังอยากจะไปทำอีก ‘แมร่งจับกระแทกแรงๆ มันซะเลย’
บทรักอันเร้าร้อนในค่ำคืนนี้ยังคงบรรเลงต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่เหน็ดเหนื่อย แต่ก็อาจจะมีแค่คนเดียวที่ไม่เหนื่อยและยังคงเอาแต่ใจตัวเองไม่เลิก ซ้ำยังประทับรอยรักสีกุหลาบช้ำไว้แนบเรือนร่างบางแทบทุกจุดที่อยู่นอกร่มผ้า
ความตั้งใจจะไปทำงานพรุ่งนี้คงกะจะทำให้พังทลายลงกับมือของคนตัวโต เอาแต่ใจตัวเองไม่พอยังจงใจมายุ่งกับเรื่องงานของหญิงสาวเกินหน้าที่คู่นอนอย่างที่เขาเคยพูด
แล้วแบบนี้ชีวิตของเธอจะวุ่นวายขนาดไหนหากเขากลับมาบงการชีวิตของเธออีกครั้ง เหมือนที่เขาบงการความสัมพันธ์ของเราให้เหมือนกับละครไทยหลังข่าว เรื่องเมียน้อยที่ต้องคอยหลบๆ ซ่อนๆ อยู่แบบนี้
หากวันไหนเมียหลวงกลับมาคืนดี เมียน้อยก็คงโดนเฉดหัวทิ้ง....... แบบนั้นหรือเปล่า หญิงสาวได้แต่คิดในใจ