บท
ตั้งค่า

Chapter 2

Chapter 2

[2/1]

“ตื่นได้แล้วมั้งจะ 2 ทุ่มแล้วนะ นี่ๆ” ร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากห้องน้ำในสภาพผ้าขนหนูผืนเดียวพันรอบเอวแกร่งอัดแน่นไปด้วยกล้ามท้องเป็นรอนสวย ภัทรกาฬเดินอ้อมไปข้างเตียงอีกฝั่งแล้วเขย่าร่างบางที่นอนขี้เซาอยู่จนตื่น

“อื้มมม คนจะนอน!” ปิ่นหยกลืมตาขึ้นมาได้ไม่กี่วินาทีเมื่อเห็นคนตรงหน้าที่มัวแต่เขย่าแขนของเธออยู่ ก็พลิกตัวหันหน้าเข้ากับอีกฝั่งก่อนจะหลับตาลงอีกครั้ง

“งั้นก็แล้วแต่นะ นี่อุตส่าห์โทรจองโอมากาเสะร้านโปรดไว้เลยเชียวไปคนเดียวก็ได้วะ”

“รอแปบ! ขอเวลา 10 นาที”

คนนอนหลับอยู่บนเตียงได้ยินคำพูดของภัทรกาฬอย่างนั้นแล้ว ก็รีบดีดตัวลุกออกจากที่นอนทันที เรื่องกินขอให้บอกหยกคนนี้เลยอาหารแพงขนาดนั้นจะพลาดได้ไง

“เหอะ” ภัทรกาฬได้แต่กลั้นขำกับท่าทีกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เอาอะไรมาล่อได้เท่าของกินบ้างล่ะ

เดิมทีตั้งแต่สมัยแอบคุยกันแรกๆ หากมีเวลาว่างหรือโดนคนตัวเล็กคะยั้นคะยออยากออกไปข้างนอกบ้าง เขามีตัวเลือกสถานที่ให้ปิ่นหยกไม่มากนัก

หนึ่งในร้านลับมีความเป็นส่วนตัวก็คงจะเป็นร้านของธาดาเพื่อนสนิทของภัทรกาฬคนนี้แหละ ที่รู้เรื่องของเขากับปิ่นหยกดีกว่าใครและยังอุตส่าห์เป็นธุระให้เขาตลอดมา

“10 9 8 7 6 ………”

“เรียบร้อย ป่ะ!” คนตัวสูงที่ยืนนับเวลาตามเข็มนาฬิการาคาเรือนละล้านกว่าบาทของตัวเอง ทว่าหญิงสาวในชุดเดรสสีดำเข้มกลับเอ่ยปากบอกเสร็จก่อน

“ชวนไปกินข้าวนะ ไม่ได้จะชวนไปล่าเหยื่อที่ไหน เผื่อลืม”

ลำพังชุดเดรสยาวเลยเข่ารัดรูปตัวนี้ไม่เท่าไหร่หรอก แต่พอเธอหันหลังให้เขาเตรียมก้าวออกจากห้องนี่แหละ ถึงได้รู้เลยว่าความแหวกของชุดนี้ที่แหวกลึกลงไปถึงเอวให้เห็นแผ่นหลังขาวบางนั้นทำให้ภัทรกาฬถึงกับเบะปาก

“ก็ถ้ามีให้ล่าอ่ะนะ” หญิงสาวหันหน้ามาพูดทิ้งท้าย ก่อนจะเดินออกไปรอหน้าห้อง ทิ้งให้ภัทรกาฬที่ได้ฟังคำพูดจากปากของเธอถึงกับไปไม่เป็นเลยทีเดียว

“ปากดี ฮึ่ยย!” สบถกับตัวเองอยู่ในห้องเสร็จก็เดินออกไป ไม่รู้ว่าเขาจะหัวเสียให้ได้อะไรในเมื่อเขาเองก็ให้สถานะแค่คู่นอนกับเธอไปแล้ว

@Thada Omakase

บรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยแสงไฟระหยิบระยับสองข้างทางเดินเข้าไปในตัวร้าน เสียงเพลงแจ๊สคลอเบาๆ บวกกับวิวทะเลติดกับร้านอาหารแห่งนี้เพิ่มความโรแมนติกดีจริงๆ

“ไงเพื่อน กุนึกว่ามึงจะตายห่าอยู่บอสตันจนไม่ยอมกลับไทยซะแล้ว” หนุ่มหล่อผิวสีแทนร่างสูงโปร่งเกือบเท่าความสูงของภัทรกาฬทักทายเพื่อนซี้ที่ไม่ได้เจอกันนาน

“เจ้าของร้านออกมาต้อนรับเองเลยหรอวะ รู้สึกเป็นเกียรติเป็นศรีของกุมากวันนี้”

“เออ มึงต้องขอบคุณกุเลยล่ะไอ้นาฟ” ธาดายิ้มและตบไหล่เพื่อนเบาๆ จริงๆ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่ได้เจอหน้ากันนานหรอก

หากวันไหนเดือนไหนว่างธาดาก็จะบินไปบอสตัน ชวนภัทรกาฬเที่ยวอยู่บ่อยครั้ง ขนาดแค่นาฟบ่นไม่มีเพื่อนกินเหล้าเขายังอุตส่าห์บินไปหามันเลย นี่ถ้าไม่รวยจริงทำไม่ได้นะ

“สวัสดีค่ะพี่ธาดาไม่ได้เจอกันนานเลยนะคะ”

สาวสวยในค่ำคืนนี้ที่ยืนฟังบทสนทนาระหว่างเพื่อนสนิทสองตนนี้สักพักจึงขอขัดจังหวะทั้งคู่สักนิดนึง ใส่ชุดสวยมาขนาดนี้หนุ่มๆ อย่าเพิ่งหลุดโฟกัสจากเธอไป

“อ้าวไงสาวน้อย เอ๊ย! วันนี้คงไม่ใช่สาวน้อยแล้วสินะ นี่กะจะให้ไอ้นาฟมันลุกจากเตียงไม่ขึ้นเลยหรือไง ฮ่าๆๆ” ด้วยความที่ทั้งคู่รู้จักกันมานานธาดาจึงอดแซวเล่นไม่ได้

ปิ่นหยกนี่ก็ยังไงกัน ทนคนอย่างไอ้เพื่อนเวรของเขามาได้ตั้งนานโคตรอึดเลยว่ะ

ตอนรู้เรื่องแรกๆ เขาแทบจะเข้าไปซัดหน้าไอ้เพื่อนเวรนี้แล้ว กล้าทำกับน้องรหัสของเขาอย่างกับคนไม่มีความรู้สึกได้ไงทั้งที่มันก็รู้ว่าน้องหยกชอบมันอยากจริงจังกับมัน

แต่ไอ้เวรนี่ก็จะเก็บไว้นานแค่ไหนไอ้ความเห็นแก่ตัวเนี่ย ต่อให้มันโสดตอนนี้แล้วยังไงล่ะ? คิดหรอว่าแพรพลอยจะกลับมาหามัน ฝังใจจังนะกับอิแค่แฟนเก่านิสัยเห็นแก่ตัวคนนั้นอ่ะ เออ.... แต่แม่งก็เห็นแก่ตัวเหมือนกันนั่นแหละ

ดูน้องรหัสเขาตอนนี้สิเหมือนจะเจ็บแต่ก็ไม่เคยจำก็คนมันรักไปแล้วอ่ะเนอะเขาเข้าใจแหละ เฮ้อ! โบ้น้อยของไอ้นาฟ

“แหม พี่ธาดาก็ อื้ม! จริงสิ! หนูเกือบลืมไปเลย .....อ่ะ! นี่ค่ะ”

“หื้ม อะไรหรอ” หญิงสาวรุ่นน้องยื่นซองเอกสารสีน้ำตาลส่งให้รุ่นพี่ตรงหน้า

“พอดีว่ามาร์วินเค้าฝากเอกสารมาให้พี่ด้วยค่ะ ส่วนเรื่องรายละเอียดเมนูเดี๋ยวเค้าจะเข้ามาคุยกับพี่เองค่ะ”

เอกสารที่ว่าก็คือสัญญาระหว่างร้านอาหารของธาดาที่กำลังจะไปรับงานจัดเลี้ยงในรีสอร์ทสุดหรูของมาร์วินเพื่อนสนิทของปิ่นหยก

“อ่อ ขอบคุณครับ แล้วนี่ทำงานกับมาร์วินเป็นยังไงบ้างหยก ไม่คิดจะลองพิจารณาใหม่บ้างหรอ? พี่เชียร์คนนี้อยู่นะ ฮ่าๆๆๆ”

ธาดารู้ว่ามาร์วินเพื่อนชายคนสนิทของน้องสาวแสนสวยคนนี้แอบชอบเธอมานาน คงจะนานเท่ากันกับที่เธอแอบชอบภัทรกาฬนี่แหละมั้ง

ยิ่งในช่วงที่เพื่อนซี้ของเขาอยู่บอสตัน รุ่นน้องอย่างมาร์วินทำคะแนนนำเพื่อนเขาไปแล้วหลายยกเท่าที่ทราบมาจากการที่เขาค่อนข้างได้มีโอกาสได้ร่วมจัดงานเลี้ยงที่รีสอร์ทของมาร์วิน ทั้งเอาใจใส่ เอาอกเอาใจ ไปรับไปส่ง ล่าสุดวาเลนไทน์ที่ผ่านมาได้ข่าวมาว่าทำเซอร์ไพส์ปิ่นหยกด้วยหนิ

ดอกไม้ช่อใหญ่พร้อมกล่องนาฬิกา BVLGARI SERPENTI SEDUTTORI WATCH นาฬิกาสุดหรูราคาราวๆ 3 แสนกว่าบาท ที่เขารู้เพราะเห็นในไอจีสตอรี่ของมาร์วินพร้อมแฮชแท็ก @pinyok.kkaa_ แม่งใจถึงจริงๆว่ะมาร์วิน

“พี่ธาดาอ่ะ”

“เขินหรอ หน้าแดงเชียวแสดงว่าก็แอบหวั่นๆ บ้างแล้วใช่ป้ะ ฮ่าๆๆๆ” หน้าน้องไม่ได้แดงหรอกแต่แค่พูดใส่ไฟ แกล้งๆคนแถวนี้ดูก็แค่นั้น

“มึงจะให้กุยืนอยู่นี่อีกนานไหม? ถ้ามีเรื่องคุยกันมากขนาดนั้นกุเข้าไปรอด้านในก่อนก็ได้นะ” คนที่หายไปจากบทสนทนาสักพักใหญ่พูดขึ้นมาด้วยสีหน้าไม่พอใจ

ไม่รู้ว่าที่ทำหน้าแบบนั้นเพราะไม่พอใจที่ยืนนานจนเมื่อย หรือเป็นเพราะว่าได้ยินชื่อของเพื่อนสนิทของปิ่นหยกคนนั้น

[2/2]

“งั้นเราเข้าข้างในกันเถอะจ้ะหยก เกรงว่าคนแถวนี้เขาจะเริ่มหงุดหงิดเอาได้”

“ค่ะ พี่ธาดาเรารีบเข้าไปกันดีกว่าค่ะ หนูเองก็เริ่มหนาวๆ แล้วเหมือน ป่ะ!” เพราะอากาศที่ติดกับทะเล ทำให้ตอนกลางคืนเริ่มหนาวเย็นบ้างแล้ว

หญิงสาวร่างบางหันหน้ามาพร้อมยื่นมือไปควงแขนชายหนุ่มรุ่นพี่เข้าไปในร้านพร้อมกัน

ปิ่นหยกไม่รู้ว่าเขามีเรื่องไม่พอใจอะไรตั้งแต่เธอคุยกับเพื่อนสนิทของเขา ชายหนุ่มก็เอาแต่ทำหน้าบึ่งตึงใส่พนักงานต้อนรับหลายคนจนกระทั่งเดินมานั่งที่โต๊ะโซนห้องวีไอพีด้านบน

“รับเครื่องดื่มอะไรคะหนูจะได้สั่งให้”

“หนูยังทำงานกับไอ้หน้าตี๋นั่นอยู่อีกหรอ? นึกว่าธุรกิจของมันจะเจ๊งไปแล้วซะอีก” ภัทรกาฬยื่นรับเมนูเครื่องดื่มจากพนักงานมาแล้วและยังไม่ได้เปิดดู คนตัวโตไม่ได้ตอบคำถามอะไรของปิ่นหยกแต่ถามหญิงสาวกลับด้วยสีหน้าขุ่นเคือง

“เขาชื่อมาร์วินไม่ใช่ไอ้หน้าตี๋” คือจะจะชวนทะเลาะกันให้ได้ว่างั้น บรรยากาศร้านออกจะดูผ่อนคลายแต่ทำไมมันเริ่มอึดอัดขึ้นมาแล้วก็ไม่รู้

ปิ่นหยกรู้ดีว่าเพื่อนสนิทของเธอกับคนที่นั่งกอดอกทำหน้าๆ มีพอใจตรงหน้าเคยมีเรื่องในอดีตที่บาดหมางกันมาก่อนถึงขั้นต้องขึ้นโรงพักกันมาแล้ว ก็จะเป็นเรื่องอะไรได้อีกล่ะถ้าไม่ใช่เป็นเพราะแฟนเก่าของเขาคนนี้ยังไงล่ะ

“แล้วก็เผื่อไม่รู้อีกนะ ว่าวันนั้นวินไม่ได้ทำอะไรพี่พลอยเลย”

“หึ! เข้าข้างมันจังเลยนะ หรือว่าเกิดอยากจะเปลี่ยนใจจากพี่แล้วไปคบกับมันเหมือนอย่างที่ไอ้ธาดาพูด” มันก็ใช่ที่เขากับไอ้หน้าตี๋นั่นไม่ลงรอยกัน

เพราะว่าตอนนั้นเป็นงานวันเกิดของพลอยแฟนเก่าเขาเอง แล้วเรื่องมันก็เกิดขึ้นไม่รู้ว่าเพราะความเมาหรืออะไรที่ทำให้แพรพลอยกับไอ้มาร์วินอะไรนั่น นอนกอดนัวเนียกันอยู่ห้องชั้นบนของคลับแห่งหนึ่ง

“แล้วพี่ไม่คิดบ้างหรอ ว่ามันอาจจะเป็นแผนของแฟนเก่าพี่ที่อาจจะอยากได้เพื่อนหนูอยู่ก็ได้นะ”

“ก็ไม่แน่หรอก มันอาจจะเป็นแผนร่วมมือกันของเพื่อนสนิทที่อยากจะแยกแฟนเค้าออกจากกันอยู่ก็ได้”

คนตัวโตเปลี่ยนสีหน้าพูดพร้อมกระตุกรอยยิ้มร้าย ทั้งที่เขาและพลอยก็ยังคบกันอยู่เพียงแต่ตอนนั้นก็ยังระหองระแหงกันอยู่

และวันนั้นเขาเองก็บอกกับเธอว่าจะตามไปฉลองวันเกิดกับเธอทีหลัง ขอเคลียร์งานส่งอาจารย์ก่อนแล้วจะตามไป แต่แล้วพอไปถึงสถานบันเทิงแห่งนั้นก็ใกล้จะปิดแล้ว เขาตามหาแพรพลอยทุกที่ทั่วร้านแต่กลับไปพบเธออยู่ด้านบนของคลับและในห้องนั้นก็ไม่ได้มีเธอเพียงแค่คนเดียว นั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของความแตกหัก

“พี่จะคิดยังไงก็ช่างพี่เหอะ ถึงหนูจะชอบพี่มากแต่ก็ไม่ได้แปลว่าตอนนั้นหนูอยากจะให้พี่เลิกกันหรอกนะ หนูรู้สถานะตัวเองดีว่าเป็นยังไง” ใครมันจะอยากทำแบบนั้น ถึงเธอจะชอบเขามากขนาดไหนแต่ก็รู้ถูกรู้ผิดอยู่บ้างไหมล่ะ

“ถ้าหนูรู้แบบนั้นก็ดีแล้ว พี่จะได้ไม่ต้องย้ำกันให้มากความ”

ภัทรกาฬหันหน้ามาเปิดเมนูเครื่องดื่มบนโต๊ะบ้าง ทั้งที่ก็ไม่ได้สนใจมันเลยสักนิดเพียงแต่ในใจกลับคิดวนๆ อยู่กับเรื่องคืนนั้นที่ทำให้เขาเลิกกันกับแพรพลอยทั้งที่เขาเห็นว่าเธอนอนอยู่กับผู้ชายคนอื่นแท้ๆ

เขาแค่เสียใจแต่ไม่ได้คิดจะบอกเลิกเธอเลย ทว่าเป็นเธอเองที่เป็นฝ่ายบอกเลิกเขาด้วยเหตุผลที่ว่าเธอทำผิดกับเขาเธอนอนกับผู้ชายคนอื่นเธอไม่กล้าสู้หน้าเขาแล้ว

หลังจากเรียนจบและเลิกกันไปชายหนุ่มพยายามติดต่อกับเธอทุกช่องทางแต่แพรพลอยไม่ยอมตอบกลับข้อความของเขาเลยแม้แต่น้อย ทั้งที่เกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นเขาควรจะเป็นฝ่ายโกรธเธอไม่ใช่หรอ

“กลับมาไทยคราวนี้ จะมาหลอกอะไรหนูอีกล่ะ หรือโสดอีกแล้ว เหอะ! คราวนี้จะกี่เดือน?”

จบโทรอบที่แล้วก็กลับมาอยู่ไทยได้แค่ปีเดียวแถมยังบอกกับเธอว่าจะเปิดตัวคบกันแบบจริงจัง จะพาไปเปิดตัวให้ทุกคนรู้และจะไม่รอแพรพลอยอีกแล้ว

แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรก็โดนพ่อสั่งกลับไปเรียนต่อเอกที่บอสตันอีกรอบ เขาไม่ติดต่อเธอมาอีกเลยทั้งที่ก็เห็นอัพสตอรี่ไอจีบ่อยครั้งแถมยังมียัยแหม่มอกอึ๋มที่ไหนไม่รู้ในสตอรี่นั่นอีก

“ข่าวไวจังนะ ไอ้ธาราเป็นคนมารายงานล่ะสิ หนูก็รู้ว่าพี่ทนใครได้ไม่นานหรอกถ้าไม่ใช่หนูน่ะ”

อยู่เมืองนอกเขาใช้ชีวิตหลังเลิกเรียนตามประสาผู้ชายที่ยังมีความต้องการอยู่เรื่อยๆ ก็เท่านั้น ไม่ได้คิดจะจริงจังอะไรกับใครหรอก

“แล้วแหม่มคนนั้นไม่เด็ดสู้แฟนเก่าพี่ได้เลยหรอ ถึงต้องกลับมาหาหนูอีก”

“ไม่มีใครสู้พลอยได้หรอก” ว่าพลางนั่งเขี่ยโทรศัพท์อยู่ไปเรื่อยๆ จนเลื่อนมาเจอโพสล่าสุดจากอินสตาแกรมของ Ployly_Ployy ‘อากาศหนาว คนหนาวก็เหงาแย่ ปล.กลับไทยเดือนหน้าแล้วงับ’ พร้อมแนบรูปถ่ายหน้าระเบียงห้องที่มีหิมะตกลงมาปอยๆ… จะกลับไทยงั้นหรอ?

“น้องเดี๋ยวพี่สั่งเครื่องดื่มเลยละกัน พี่เอา Penfolds Grange Hermitage 1951 อันนี้ค่ะ แค่นี้จ้ะ” เออ! ก็ไม่มีใครสู้ได้หรอก ดีไปหมดแหละคนนั้นอ่ะ ขนาดเห็นตำตาว่านัวเนียกันอยู่ในห้องกับคนอื่นยังโทษว่าเพื่อนเขาวางยาได้เลย

อวยยศแฟนเก่าดีนักใช่ไหมเดี๋ยวแม่จะสั่งของมากินให้จ่ายไม่ไหวเลยคอยดู!

“เฮ้ยๆ สั่งอะไรขนาดนั้นรู้ไหมว่าไวน์นั่นมันราคาเท่าไหร่” คนที่เอาแต่ก้มหน้ามองโทรศัพท์พอได้ยินชื่อยี่ห้อไวน์ยุโรปราคาแพงนั่นถึงกับเงยหน้าขึ้นถาม

“จะเป็นถึงท่านรองประธานบริษัทอสังหาฯ ยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ ถ้าไม่มีปัญญาจ่ายก็ไม่เป็นไรนะคะหนูสั่งไปแล้ว แต่จะโทรให้วินมาเคลียร์ค่าใช้จ่ายให้ก่อนก็ได้ค่ะ”

ปิ่นหยกพูดแบบนี้เพราะรู้ดีว่ายังไงเขาก็ต้องจ่ายได้อยู่แล้วก็แค่มื้อนี้ราคาแรงไปหน่อยกว่าที่ผ่านๆ มา

โดยเฉพาะการหยิบเอาชื่อคนที่เป็นคู่อริของเขามาพูดนั่นหมายความว่าภัทรกาฬจะยอมน้อยหน้าไม่ได้เด็ดขาด

“หยุดเลยนะ เป็นแค่เพื่อนมันไม่ใช่หรอแล้วทำไมมันต้องมาจ่ายไวน์ขวดละเป็นล้านแบบนั้นให้เธอด้วย แล้วอีกอย่างพี่ก็ยังไม่ได้บอกว่า ‘ไม่มีปัญญาจ่าย’ เลยสักหน่อย ก็แค่ไวน์ไม่กี่ขวดอย่าคิดว่าเจ้านายเธอมันจะเหนือกว่าพี่สิ เป็นแค่เจ้าของรีสอร์ทเล็กแค่ไม่กี่แห่งจะมาสู้เจ้าของโรงแรมห้าดาวได้ยังไง”

คนตัวสูงถึงกับดีดตัวนั่งหลังตรงทันทีหลังจากได้ยินชื่อของไอ้หน้าตี๋นั่นอีกครั้ง คอนเซ็ปของเขาน่ะหรอ เสียเงินไม่ว่าแต่จะเสียหน้าให้ไอ้หน้าตี๋นั่นไม่ได้!

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel