Sayhibaby อยากรักต้องทักค่ะ

87.0K · จบแล้ว
นญาดา
43
บท
2.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

"พี่แทนจอดตรงนี้ก็ได้ค่ะ" ยังไม่ทันที่แทนจะตอบน้ำหอมก็พูดแทรกขึ้นมาเสียก่อนเพราะเห็นว่ารถขับมาเกือบถึงหน้าร้านแล้ว แทนเลี้ยวเข้าไปจอดตรงจุดที่นิ้วเรียวชี้บอก สายตาคมกวาดมองไปรอบๆ บริเวณถึงจะรู้จักร้านนี้แต่เขาก็ยังไม่เคยเข้าไปนั่งในร้านมาก่อน "คืนค่ะ ขอบคุณมากนะคะที่มาส่ง" น้ำหอมพูดพลางยื่นเสื้อช็อปคืนให้เจ้าของก่อนจะหยิบเสื้อแขนยาวตัวใหญ่ของตัวเองขึ้นมาใส่แทน "กลับยังไง" มือเรียวที่กำลังจะยกกระเป๋าเป้ขึ้นจากที่วางเท้าชะงัก ใบหน้าสวยหันไปมองเจ้าของคำถามก่อนจะระบายยิ้มหวานออกมา "กลับกับพี่ในร้านได้ค่ะ พี่เขาอยู่หอเดียวกับหอม" ตอนนี้น้ำหอมขอคิดเข้าข้างตัวเองว่าเขาต้องชอบเธอหนึ่งพันเปอร์เซ็นต์เพียงแต่เป็นคนที่พูดไม่เก่งอย่างที่พี่เฟิร์นเคยบอก ถึงจะพูดไม่เก่งแต่การแสดงออกของเขากลับทำให้เธอรู้สึกได้อย่างชัดเจน "อืม..." แทนตอบรับในลำคอเบาๆ ท่าทางของเขาเหมือนมีอะไรจะพูดต่อแต่ก็เงียบไป น้ำหอมจึงลังเลว่าเธอควรจะเปิดประตูลงจากรถไปเลยดีไหมก่อนจะสังเกตเห็นเม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นตรงขมับของแทน น้ำหอมเข้าใจทันทีว่าทำไมเขาถึงเปิดแอร์ในรถอุณหภูมิตั้งยี่สิบองศาเพราะปกติเขาต้องเป็นคนขี้ร้อนแน่ๆ แต่ก็ยังยอมปรับแอร์เพราะกลัวว่าเธอจะหนาว ทำไมน่ารักจัง แทนเป็นคนนิ่งๆ ขรึมๆ พูดไม่เก่งเท่าไหร่อ่ะถ้าแกชอบก็อ่อยๆ มันหน่อยแล้วกัน ประโยคของเฟิร์นที่ดังแทรกขึ้นมาในหัวทำให้น้ำหอมสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ก่อนจะหันไปมองหน้าแทนอีกครั้ง "ไลน์หอมพี่ก็มีแล้วนี่คะ อยากรู้ว่าหอมถึงบ้านหรือยังก็แค่ทักมาถามเอง" พูดจบก็ได้แต่รอลุ้นว่าแทนจะตอบกลับมาอย่างไรถ้าเขาบอกว่าไม่อยากรู้เธอจะได้รีบโกยเศษหน้าของตัวเองลงจากรถ "เธออ่อยฉัน?" แทนถามพลางเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ดวงตาคมกริบจ้องมองมาทางเธอ แขนข้างขวาพาดอยู่บนพวงมาลัยด้วยท่าทางสบายๆ แต่กลับส่งเสริมให้เขาดูหล่อขยี้ใจสุดๆ ในสายตาของน้ำหอม เอาวะไอ้หอม! ลองดูก็ไม่เสียหายอะไรนี่หว่า "ไม่ทักรักไม่เกิดนะคะ" น้ำหอมตอบพร้อมกับขยิบตาอย่างที่เธอชอบทำเวลาอยู่กับเพื่อนๆ ก่อนมือเรียวจะรีบเปิดประตูลงจากรถพร้อมกระเป๋าเป้ใบใหญ่ของตัวเอง ร่างบางกอดกระเป๋าเป้เดินเร็วๆ จนแทบจะวิ่งเข้าร้านด้วยความเขินอายในประโยคของตัวเอง งานพีอาร์ทำให้เธอพูดจาหยอกล้อกับลูกค้าในร้านบ่อยๆ แต่ก็ไม่เคยรู้สึกหัวใจเต้นแรงแบบนี้มาก่อน ส่วนคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยก็เผลอหลุดยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว ดวงตากลมโตที่มองมาทางเขาตาแป๋ว รอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าสวย ไหนจะเสียงหวานที่คอยถามเจื้อยแจ้วตลอดเวลาแต่เขากลับไม่รู้สึกรำคาญ รวมๆ แล้วมันทำให้เธอดูน่ารักน่าเอ็นดูจนเขาไม่อยากละสายตาไปไหนเลย บ้าเอ้ย! กูมานั่งยิ้มคนเดียวอะไรตรงนี้วะ

นิยายรักโรแมนติกนักศึกษาผู้ชายอบอุ่นรักวัยรุ่นโรงแรม/มหาลัยตลกรักหวานๆโรแมนติก18+

EP 1 | แรกพบสบตา

@RMU University

ร่างบางของนักศึกษาคณะบริหารธุรกิจ สาขาการตลาด ชั้นปีที่ 2 กำลังวิ่งสุดแรงเกิดเข้าไปในตึกคณะศิลปศาสตร์ซึ่งวันนี้เธอมีเรียนวิชาเสรีที่นี่และน้ำหอมรู้ตัวดีว่าตอนนี้เธอกำลังจะเข้าเรียนสาย กระโปรงทรงเอเข้ารูปที่สวมใส่อยู่ไม่ได้เป็นอุปสรรคในการก้าวขาด้วยความเร็วของเธอเลยสักนิด โชคดีที่วันนี้เธอตัดสินใจสวมรองเท้าผ้าใบเพราะถ้าเป็นรองเท้าส้นสูงละก็เธอคงได้ล้มหน้าคว่ำอยู่แถวนี้แน่ๆ

“เฮ้ออ เฮ้ออ~”

น้ำหอมหยุดยืนหอบหายใจอย่างหนักหน่วง มือเรียวยกขึ้นจัดทรงผมสีน้ำตาลช็อกโกแลตให้เข้าที่เข้าทางก่อนจะตัดสินใจย่อตัวลงเพื่อแอบเข้าห้องเรียนทางประตูหลัง

วิชานี้เป็นวิชาที่เรียนรวมกับคณะอื่นๆ จึงไม่แปลกที่จะมีนักศึกษานั่งกันอยู่เต็มห้อง ดวงตากลมโตพยายามมองหาอิ่มและแพทเพื่อนสาวคนสนิทของตัวเองเพื่อจะย่องไปยังเก้าอี้ว่างที่เพื่อนจองเอาไว้ให้

“วาสิตา บวรกิจ”

เสียงอาจารย์ประจำวิชาที่เอ่ยเรียกชื่อของน้ำหอมทำให้ร่างบางที่กำลังคลานอยู่บนพื้นสะดุ้งจนศีรษะชนกับขอบโต๊ะเลคเชอร์เข้าอย่างจังแต่ก็ยังโชคดีเพราะมีมือของใครบางคนกุมขอบโต๊ะเอาไว้เนื่องจากเขาคนนั้นกำลังนอนหนุนอยู่บนแขนของตัวเอง

แรงกระแทกทำให้แทนนักศึกษาคณะวิศวะฯ สาขาอิเล็กทรอนิกส์ ชั้นปีที่ 4 เงยหน้าขึ้นมามองสิ่งที่รบกวนการนอนของเขา

สายตาคมกริบกวาดมองไปยังใบหน้าสวยหวานของคนตรงหน้า ดวงตาคู่สวยภายใต้แพขนตางอนที่กำลังจ้องเขาไม่กระพริบ จมูกเชิดรั้นบ่งบอกถึงนิสัยดื้อดึงไม่น้อย ริมฝีปากแสนเย้ายวนที่ทำให้ใบหน้าหวานดูเซ็กซี่ในบางมุม

อาการของแทนไม่ต่างไปจากน้ำหอมที่กำลังจ้องคนตรงหน้าด้วยความตะลึง หน้าตาของเขาจะบอกว่าเป็นลูกรักของพระเจ้าก็คงไม่ผิด คิ้วสีดำคมเข้ม ดวงตาสีน้ำตาลที่ถูกฉาบไว้ด้วยความเย็นชา จมูกเป็นสันคม รูปปากคว่ำลงเล็กน้อยดูเหมือนคนบึ้งตึงหงุดหงิดตลอดเวลา

‘แต่รวมๆ แล้วหล่อมาก หล่อกระแทกใจฉิบหายไปเลย’

“อุ้ย!”

พลั่ก

“อ๊ะ!”

เมื่อตั้งสติได้ว่าเธอจ้องตากับเขานานเกินไปน้ำหอมจึงดีดตัวถอยจนศีรษะของเธอเกือบจะชนกับเก้าอี้อีกตัวข้างหลังถ้าไม่มีมือของใครยื่นมาบังเอาไว้ก่อน

การกระทำของแทนตกอยู่ท่ามกลางความตกตะลึงของเพื่อนร่วมแก๊ง ทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมากจนเขาเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกัน เมื่อเห็นว่าศีรษะของเธอกำลังจะชนกับเก้าอี้ตัวข้างหลังมือของเขาก็ยื่นออกไปบังให้อัตโนมัติเสียแล้ว

ดวงตากลมโตไล่มองไปตามท่อนแขนที่มีเส้นเลือดนูนเด่นมันช่างดูเซ็กซี่เร้าใจจนเธอลอบกลืนน้ำลาย

“ขะ...ขอบคุณค่ะ”

น้ำหอมเอ่ยขอบคุณด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เธอก็คิดไม่ถึงเหมือนกันว่าคนตรงหน้าจะยื่นมือมาบังให้

“วาสิตา บวรกิจ”

“มาค่ะอาจารย์”

น้ำหอมรีบลุกขึ้นยืนและขานรับชื่อของตัวเอง พลางกวาดสายตามองไปรอบห้องจนเจอสองสาวเพื่อนสนิทของตัวเองที่กำลังมองมาทางเธอด้วยความตกใจไม่ต่างกัน

จะไม่ให้ตกใจได้ยังไงก็เธอลุกขึ้นยื่นอยู่ท่ามกลางวงล้อมของนักศึกษาคณะวิศวะฯที่ล้วนแต่ใส่เสื้อช็อปสีกรมท่ากันทั้งนั้น

“แล้วเธอไปทำอะไรตรงนั้น”

อาจารย์ประจำวิชายกมือขึ้นจับแว่นพลางหรี่ตามองอย่างจับผิด ตอนนี้สายตาของนักศึกษาร่วมคลาสทุกคนกำลังจ้องมองมาทางเธอเป็นตาเดียว

“หนูเอาปากกามาคืนพี่เขาค่ะ”

น้ำหอมตอบกลับพลางรีบเปิดกระเป๋าหยิบปากกาสีชมพูหวานแหวววางลงบนโต๊ะของแทนแล้วเอ่ยขอบคุณอีกครั้ง

“ขอบคุณมากนะคะ”

“รีบกลับมานั่งที่”

“ค่ะอาจารย์”

ร่างบางแทบจะวาร์ปตัวไปยังเก้าอี้ว่างข้างเพื่อนสนิทของตัวเองก่อนจะถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก

‘เกือบไปแล้วมั้ยล่ะยัยหอม’

“มึงไปยืมปากกาพี่เขาตั้งแต่เมื่อไหร่”

แพท สาวเปรี้ยวซ่าประจำกลุ่มโน้มตัวเข้ามากระซิบถามด้วยความสงสัย ก็นี่มันเป็นคาบแรกที่เรามาเรียนวิชานี้แถมพวกเธอยังตัวติดกันตลอดเวลา มีหรือถ้าน้ำหอมรู้จักรุ่นพี่คนนั้นแล้วเธอไม่รู้

“ปากกากูนี่แหละ ก็คลานเข้าห้องมาทางนั้นเลยอ้างๆ ไปก่อน”

น้ำหอมตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจนัก มือเรียวหยิบอุปกรณ์การเรียนในกระเป๋าผ้าของตัวเองขึ้นมาวางบนโต๊ะเลคเชอร์

“เมื่อคืนเลิกดึกเหรอ วันนี้เลยมาสาย”

อิ่ม สาวหวานใจบุญอยู่ในศีลในธรรมขยับตัวเข้ามาถามเพื่อนสาวอีกคนเพราะเธอรู้ดีว่าน้ำหอมทำงานพิเศษทุกวันและเรียกได้ว่าทำแทบจะทุกอย่างจนแพทเคยบอกให้เธอไปเปลี่ยนนามสกุลจาก บวรกิจ เป็น ตามประสงค์

วาลิตาทำทุกอย่างได้ตามประสงค์!

“อือ เสร็จงานตีสองแล้วอ่ะกว่าจะได้นอนก็ตีสาม วันนี้อาจารย์ดันย้ายเวลามาเรียนแปดโมงอีก”

น้ำหอมกลอกตามองบนพลางบ่นกระปอดกระแปด วันนี้เธอคงมาไม่สายหรอกถ้าอาจารย์ไม่เลื่อนเวลาคาบเรียนให้เร็วขึ้นมากว่าเดิมหนึ่งชั่วโมง

ถึงจะต้องทำงานเยอะแต่เธอก็ไม่เคยละทิ้งเรื่องการเรียนเลยสักครั้งเพราะจุดประสงค์ของการทำงานคือหาเงินมาส่งตัวเองเรียนนั่นเอง เธอมีพี่ชายหนึ่งคนซึ่งนิสัยแตกต่างกับเธอโดยสิ้นเชิง

น้ำเหนือพี่ชายของเธอทำตัวเป็นคุณชายติดหรูดูแพงเลือกที่จะเข้าเรียนมหาวิทยาลัยเอกชนชื่อดังเพราะมีคณะที่ตัวเองใฝ่ฝันเอาไว้ โดยไม่ได้สนใจฐานะทางการเงินของที่บ้านเลยสักนิด ผู้เป็นพ่อทำงานเป็นช่างตัดชุดนักเรียนในโรงงานแห่งหนึ่งที่เดียวกับผู้เป็นแม่ซึ่งอยู่ในตำแหน่งช่างเย็บ

ไหนจะค่าเช่าบ้าน ค่าน้ำค่าไฟ ค่าอาหาร ค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันยังไม่รวมไปถึงค่าเทอมของลูกๆ ทำให้เงินเดือนทั้งสองคนรวมกันก็ยังชักหน้าไม่ถึงหลัง น้ำหอมจึงเลือกที่จะทำงานส่งตัวเองเรียนเพราะอยากแบ่งเบาภาระของพ่อและแม่

อีกอย่างที่พ่อและแม่ยอมให้พี่ชายเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยนั้นเพราะน้ำเหนือบอกว่ามันคือความฝันสูงสุดในชีวิตเขา เรียนจบมาทำงานได้เงินเดือนดีๆ เขาจะเป็นเสาหลักให้ครอบครัวเองแต่นี่ก็เรียนมาห้าปีแล้วไม่มีวี่แววว่าจะจบเสียที

“แต่พี่คนนั้นเขาหล่อมากเลยนะ”

แพทหันมากระซิบกระซาบอีกครั้งในขณะที่มือกำลังจดเลคเชอร์ตามอาจารย์และสายตาก็จดจ่ออยู่ตรงหน้าจอโปรเจคเตอร์

มือของน้ำหอมชะงักเล็กน้อยเมื่อเผลอนึกไปถึงใบหน้าหล่อเหลาของคนที่เพิ่งสบตากันมาแถมการกระทำยังดูสวนทางกับหน้าตาแสนเย็นชาของเขาอีกด้วย

“แหนะ! เงียบแบบนี้ชอบอ่ะดิ”

แพทละสายตาจากข้างหน้าหันมามองเพื่อนสนิทเมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบกลับมา เช่นเดียวกับอิ่มถึงเธอจะนั่งจดเลคเชอร์แบบเงียบๆ ไม่ได้เอ่ยถามอะไรแต่ก็อยากรู้คำตอบจากปากเพื่อนสาวเช่นกัน

“ก็ชอบนะ หล่อดี”

น้ำหอมยอมรับออกไปตามตรงพลางหันไปขยิบตาอย่างขี้เล่นส่งให้แพทแล้วหันกลับมาสนใจเนื้อหาการเรียนในหน้าจอโปรเจคเตอร์เหมือนเดิม เนื่องจากเธอทำงานเยอะจึงไม่ค่อยมีเวลาทบทวนบทเรียนทางเดียวที่ทำได้ดีที่สุดคือการทำความเข้าใจเนื้อหาในห้องเรียน

“คนนี้มาวะ”

แพทเอ่ยแซวด้วยใบหน้ากรุ้มกริ่มแล้วจบบทสนทนาลงเพราะรับรู้ได้ถึงสายตาพิฆาตที่ส่งมาจากอาจารย์ประจำวิชา

“อาทิตย์หน้าอาจารย์จะให้จับกลุ่มสมาชิกหกคนเพื่อทำรายงานนะคะ นักศึกษาสามารถจับกลุ่มกันก่อนได้เลยแล้วอาทิตย์หน้าก็เข้ามานั่งเรียนเป็นกลุ่มให้เรียบร้อย วันนี้เลิกคลาสได้ค่ะ”

“ขอบคุณค่ะอาจารย์/ขอบคุณครับอาจารย์”

นักศึกษาบางคนเริ่มจับกลุ่มกันเลยส่วนบางคนก็เดินออกจากห้องไปทันทีค่อยมาหากลุ่มในอาทิตย์หน้า

“เรามีสาม ต้องหาอีกสามอ่ะ”

อิ่มพูดขึ้นในขณะที่มือกำลังเก็บอุปกรณ์การเรียนของตัวเองใส่กระเป๋า เพื่อนในสาขาที่ยังเหลืออยู่ในห้องดูเหมือนจะได้กลุ่มกันหมดแล้วส่วนที่เหลือก็ทยอยเดินออกจากห้อง

น้ำหอมลุกขึ้นยืนพลางหันกลับไปมองโต๊ะแถวหลังสุดที่ตอนนี้พบเพียงแค่ความว่างเปล่า กลุ่มเสื้อช็อปที่เคยนั่งอยู่ก่อนหน้านี้ลุกขึ้นออกจากห้องไปหมดแล้ว

“อยากจับกลุ่มกับพี่เขาอ่ะดิ” แพทเอ่ยแซว

“บ้า! แค่หันมองเฉยๆ”

“ว่าแต่พี่เขาชื่อไร”

“จะเอาเวลาไหนไปถามล่ะ”