บท
ตั้งค่า

1 - ข้ามมิติ

ร่างเล็กขยับพลิกตัวไล่ความขี้เกียจในยามเช้าเหมือนทุกครั้ง ก่อนจะค่อยๆ ลืมตาตื่นขึ้นพร้อมกับปรับระดับการมองเห็นของสายตาให้คุ้นชินกับความสว่างในยามเช้า เมื่อตื่นขึ้นมาเธอก็ลุกขึ้นนั่งพิงหัวเตียงโดยไม่ได้สังเกตเลยว่าตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวของตัวเองเปลี่ยนไปแล้ว

ส่วนคนที่นอนร่วมเตียงเดียวกับหญิงสาวก็ตื่นตั้งแต่เช้าแล้ว และก็ตกใจมากเมื่อตื่นขึ้นมาก็มีหญิงสาวที่เจอในกระจกเมื่อคืนมานอนอิงแอบซุกอกตัวเอง จ้าวซ่านลู่มองสำรวจใบหน้าจิ้มลิ้มและเสื้อผ้าที่นางแต่งแล้วก็เกิดความสงสัย และที่สำคัญนางมาได้ยังไงกัน แล้วนางมาจากไหน แต่จะมาจากไหนไม่สำคัญ สิ่งสำคัญตอนนี้คือเขาชอบแม่นางคนนี้แล้วสิ ปากนิด จมูกหน่อย ผิวแก้มนวลเนียนสีระเรื่อเหมือนลูกท้อมิมีผิดเพี้ยน

“วันนี้ต้องไปเปิดร้าน” ซู่หลิงเถียนพึมพำกับตัวเองแล้วลุกก้าวลงจากเตียงโดยไม่สนใจสิ่งรอบตัวของตัวเองที่เปลี่ยนไปเลยสักนิด

“เอ๊ะ! กระจกทำไมมาตั้งตรงนี้ แล้วห้องน้ำ แล้ว...ที่นี่ที่ไหนเนี่ย” เธอเพิ่งมองไปรอบๆ ห้องที่ตัวเองตื่นมาในเช้านี้ว่ามันเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ห้องของตัวเอง แล้วก็ต้องร้องตกใจอีกครั้งเมื่อมองไปเห็นผู้ชายอยู่บนเตียงที่ตัวเองเพิ่งตื่นนอนลุกมา

กรี๊ด!

“นะ...นายเป็นใคร” เธอกอดตัวเองวิ่งไปหลบที่หลังกระจกโบราณที่เหมือนกับที่ห้องนอนของตัวเอง

“ข้าต่างหากที่ต้องถามแม่นาง ว่าแม่นางเป็นใคร ทำไมถึงมานอนบนเตียงของข้าได้” เขายิ้มกริ่มให้นางพร้อมลุกเดินก้าวยาวๆ ไปหาคนที่ซ่อนตัวเองอยู่หลังกระจก

“ยะ...หยุดเดี๋ยวนี้นะ อย่าเข้ามานะ ไอ้โจรลักพาตัว” ซู่หลิงเถียนชี้มือให้อีกฝ่ายหยุด เธอมองสำรวจร่างสูงตรงหน้าที่แต่งตัวเหมือนคนยุคโบราณแล้วก็มองไปรอบๆ ห้องอีกครั้ง ซึ่งเตียงมันเหมือนเตียงที่เห็นก่อนนอนเมื่อวานตอนเย็นและบนเตียงก็มีเขา ใช่...เธอจำหน้าของเขาได้

“ไอ้หื่น!” เธอร้องออกมาเสียงดังแล้ววิ่งหนีออกจากหลังกระจกวิ่งไปดึงดาบออกจากฝักออกมาชี้ไปยังคนตรงหน้า

หึหึ

“เจ้าจะทำอะไรข้าได้แม่นาง ที่นี่คือจวนสิบสี่ เป็นจวนของข้า เจ้ามาของเจ้าเอง ข้าไม่ได้พาเจ้ามาสักหน่อย” จ้าวซ่านลู่เอ่ยอย่างใจเย็นพร้อมกับมืออีกข้างขัดไขว้หลัง แล้วเสียงหน้าห้องก็ดังขึ้น

“ท่านอ๋องเกิดอะไรขึ้นขอรับ”

“ไม่มีอะไรหรอกเสี่ยวถัง เจ้าจะไปไหนก็ไปเลยไป” เขาตะโกนตอบทหารคู่ใจหน้าห้องที่กำลังทุบประตูอยู่ และเสียงก็เงียบไปเมื่อจ้าวซ่านลู่บอกไปเช่นนั้น

“ท่านอ๋อง...ดะ...เดี๋ยวนะ นายเป็นใครกันแน่ไอ้หื่น” มือที่จับดาบสั่นเทาพร้อมมองจ้องคนที่กำลังก้าวเดินมาหาตัวเอง

“ข้าคืออ๋องใหญ่จวนสิบสี่ ชื่อของข้าคือจ้าวซ่านลู่ แล้วเจ้าล่ะ แม่นางมีชื่อว่าอะไรฮึ และดาบก็วางลงได้แล้ว คนสวยอย่างแม่นางไม่เหมาะกับดาบในมือหรอกเจ้า” เขาเอ่ยเสียงพร่าอย่างใจเย็นและมองชุดที่แม่นางใส่แล้วก็อดขำไม่ได้ มันคือชุดอะไร เขามิรู้ แต่มันดูเหมาะกับตัวเธอมาก

ซู่หลิงเถียนมองตามสายตาของคนที่อ้างตัวเองเป็นอ๋องใหญ่กับตัวเองแล้วก็อดขำไม่ได้ มันจะเป็นไปได้ยังไง ท่านอ๋องมันมีแต่ในซีรีส์และในยุคสมัยโบราณเท่านั้นแหละ และเธอมองตาของเขาที่จดจ้องมาทางตัวเองแล้วก็รู้สึกเขินอายเมื่อคนที่มองนั้นหน้าหล่อแบบขึ้นปกนิตยสารได้เลย ใบหน้าสวยได้รูปตอบรับกับคิ้วสวยและริมฝีปากเป็นกระจับ จมูกโด่งเป็นสัน ผิวขาวผุดผ่องยามใส่ชุดโบราณสีดำและผมที่ยาวรัดขึ้นพร้อมมีปิ่นปักผม นี่มันเหมือนฉากในละครชัดๆ แต่ความรู้สึกอีกเสียงบอกว่ามันคือเรื่องจริงไม่ใช่ฉากในละครหรือซีรีส์ที่เคยดูมา

ระหว่างที่แม่นางแปลกหน้าแสนงามกำลังขบคิดอะไรอยู่นั้น จ้าวซ่านลู่ก็อาศัยจังหวะนี้ใช้วรยุทธของตัวเองเคลื่อนไหวรวดเร็วแย่งดาบมาถือไว้ อีกมือคว้าเอวเล็กกอดรั้งเข้ามาแนบอกตัวเอง

กรี๊ด!

“ไอ้หื่น นะ...นายอย่าทำอะไรฉันนะ มาคุยกันดีๆ ก่อน ใช่สิ ท่านอ๋องใช่ไหม ท่านอ๋องใหญ่ปะ...ปล่อยฉัน...ข้า...ก่อนได้ไหม” ตอนนี้ซู่หลิงเถียนคิดอย่างเดียวว่าต้องหนีรอดออกไปจากที่นี่ให้ได้ก่อน แต่แรงกอดที่เอวช่างแน่นเหลือเกิน จะขยับหนีก็ไม่ได้และมือเล็กก็ยกมือเท้าดันหน้าอกของอีกฝ่ายเพื่อไม่ให้อกตัวเองแนบถูไถไปกับอกของชายที่อ้างตัวว่าเป็นอ๋องใหญ่

“แม่นางพูดแปลกๆ แต่ก็พอเข้าใจได้ คุยกันแบบนี้แหละ เดี๋ยวปล่อยแม่นางก็หนีและหาของมาจะทำร้ายข้าอีกหรอก ว่าแต่แม่นางคนงามชื่ออะไร มาจากไหน บอกข้ามาเถิด” เขาโน้มหน้าลงมาชิดแก้มนวลที่แดงระเรื่อ และจ้าวซ่านลู่ก็มองออกว่าตอนนี้แม่นางคนงามกำลังขวยเขินตัวเอง

“คะ...คือฉัน...ข้าชื่อซู่หลิงเถียน หรือจะเรียกเถียนเถียนก็ได้ ปะ...ปล่อยได้แล้ว ส่วนมาได้ยังไง ข้าไม่รู้เหมือนกัน ข้านอนอยู่ดีๆ ตื่นมาก็มาโผล่ที่นี่ ว่าแต่ที่นี่ที่ไหน” เธอแหงนเงยหน้าขึ้นถามเขา แล้วจังหวะนั้นเองปลายจมูกของเธอก็ชนกับปลายจมูกโด่งของเขาที่ก้มโน้มลงมาพอดีทันที

อุ๊ย!

“เจ้าช่างสวยยิ่งนักแม่นาง ที่นี่แคว้นหยวน แล้วแม่นางเล่ามาจากที่ใด”

“ขะ...ข้ามาจากตุนหวง” เธอตอบเขาสั้นๆ และประมวลความคิดตามสิ่งที่ได้รับรู้มาแล้วก็เบิกตากว้างเมื่อแคว้นหยวนนั้นล่มสลายไปเมื่อสามร้อยปีที่แล้ว ‘อย่าบอกนะเถียนเถียน เธอย้อนกลับมาในอดีต’ เธอคิดในใจและดิ้นรนขัดขืนในวงแขนแข็งแรงเพื่อหาอิสระให้ตัวเอง

“ตุนหวงคือที่ใดรึ ข้ามิเคยได้ยินเลยเถียนเถียน” ยิ่งได้ฟังแม่นางคนสวยพูดยิ่งงงและคำพูดของนางช่างประหลาดนัก

“นะ...เอ้ย! ท่านชื่ออะไรนะ ข้าลืมแล้วที่บอกเมื่อกี้” เธอดิ้นยังไงก็ดิ้นไม่หลุด ยิ่งดิ้นวงแขนแข็งแรงยิ่งกอดรัดแน่น

“จ้าวซ่านลู่ ข้าชื่อจ้าวซ่านลู่” เขาบอกย้ำนางอีกครั้งพร้อมกับอีกมือที่ถือดาบอยู่ก็ยื่นไปเสียบไว้ในฝักของมันเหมือนเดิม แล้วนำมือมากอดรัดเอวเล็กบางเหมือนมืออีกข้าง

“อือ...นั่นแหละ ท่านปล่อยข้าก่อนได้ไหม เรามาคุยกันก่อนจ้าวซ่านลู่”

“โอเค ฉันรู้แล้วว่านายชื่อจ้าวซ่านลู่ งั้นปล่อยฉันก่อนได้ไหม” ซู่หลิงเถียนเผลอพูดแบบปกติออกมาอีกครั้ง และทำให้คนที่โอบกอดอยู่ด้านหลังมึนงงแม้จะเข้าใจบางคำ แต่ก็ไม่เข้าใจว่าหมายความว่าอย่างไร

“โอเคคืออะไร?” เขาถามนาง เพราะไม่เคยได้ยินมาก่อน

“คือ...ยังไงดีล่ะ หมายความว่าเข้าใจน่ะ นายปล่อยฉันก่อนได้ไหมจ้าวซ่านลู่”

“คุยกันแบบนี้แหละ ข้าชอบกลิ่นตัวเจ้าเถียนเถียน หอมไม่เหมือนหญิงใดที่ข้าเคยได้สูดดม” เขาพูดพร้อมโน้มลงมาแนบปลายจมูกกับซอกคอระหงของนาง

“อือ ยะ...อย่ามาทำแบบนี้นะ ถ้าไม่ปล่อยจะคุยกันได้ยังไง เป็นถึงอ๋องใหญ่ ใช่ไหม อ๋องใหญ่”

“อือ...ข้าเป็นอ๋องใหญ่ จวนสิบสี่ และที่นี่ก็จวนข้า และเจ้าก็มาโผล่ที่นี่ ฉะนั้นต่อไปนี้เจ้าคือของข้า เป็นสมบัติของข้า”

ว้าย!

“ปล่อยนะ ไอ้อ๋องใหญ่จอมหื่น” ซู่หลิงเถียนดิ้นเมื่อถูกยกอุ้มขึ้นแบบไม่ทันได้ตั้งตัว แต่ด้วยความกลัวตกก็กอดรั้งไหล่หนาของเขาไว้

หึหึ

อ๋องใหญ่ทำเพียงแค่ยิ้มขำในลำคอแล้วก้าวเดินยาวๆ กลับไปยังเตียงที่นอนก่อนหน้านี้พร้อมกับเหวี่ยงร่างเล็กที่ยกอุ้มลงไปกับเตียง

ตุ้บ!

“โอ๊ย! ฉันเจ็บนะจ้าวซ่านลู่” เธอบอกเขาพร้อมกับดีดตัวลุกขึ้นเมื่อตั้งตัวได้ก็มองหาทางเอาตัวรอดอีก แต่พอได้มองสบสายตาดุดันเด็ดเดี่ยวของชายตรงหน้าแล้วก็ได้แต่กลืนน้ำลาย เมื่อรู้แล้วว่าตอนนี้ตัวเองข้ามมาอยู่อีกภพอีกมิติหนึ่งของโลก แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง หรือนี่คือความฝัน เมื่อคิดได้ดังนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเคลื่อนตัวไปหาคนที่ยืนอยู่ปลายเตียงแล้วยกมือขึ้นตวัดเต็มแรงใส่หน้าของอีกฝ่าย

เผียะ!

หน้าอ๋องใหญ่หันไปตามแรงตบแบบไม่ทันได้ตั้งตัว เขากัดกรามแกร่งแน่นแล้วหันมาเอาเรื่องกับแม่นางแสนงาม แต่ยังไม่ทันได้พูดอะไร นางก็ถามเขาก่อน

“นะ...นายเจ็บไหม”

“เจ็บ” เขาตอบสั้นๆ ส่วนซู่หลิงเถียนก็ไม่ได้ซักถามต่อ เพราะดูสีหน้าแล้วคงเจ็บจริงนั่นแหละ แสดงว่าไม่ได้ฝัน นี่คือความจริง

“แล้วเจ้าตบหน้าข้าทำไมเถียนเถียน”

“ก็ฉันนึกว่าตัวเองฝันเลยตบหน้าท่านดู”

“ฝันงั้นเหรอ เจ้าโง่รึเปล่าเถียนเถียน จะฝันได้ยังไง และเจ้าแทนตัวเองแปลกๆ จนข้างงหมดแล้วว่าเจ้าพูดอะไรกันแน่เถียนเถียน ว่าแต่ตุนหวงของเจ้าอยู่แห่งหนใด อยู่ไกลจากแคว้นหยวนของข้ารึไม่” แม้จะรู้สึกโกรธและขุ่นเคืองที่หญิงงามตบหน้า เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าลงไม้ลงมือกับเขาเลยสักครั้ง แต่ก็เก็บความขุ่นเคืองไว้ในอกเมื่อหน้าตาใสซื่อเหมือนคนหลงทางของซู่หลิงเถียนทำให้เขาโต้ตอบไม่ลง

“ไกลมาก ตอนนี้ฉัน...ข้ายังไม่รู้เลยว่าจะกลับไปที่นั่นได้ยังไง แต่กระจกนั่น...กระจกนั่นมันเหมือนกระจกที่ห้องของข้าเลย” เธอชี้มือไปยังกระจกที่ตัวเองไปยืนหลบซ่อนอยู่ข้างหลังก่อนหน้านี้

“กระจกนั่นเหรอ ข้าเพิ่งได้มาเมื่อวานนี้ แล้วมันจะเหมือนของเจ้าได้ยังไงเถียนเถียน” อ๋องใหญ่มองตามแล้วก็หันมาถามอย่างสงสัย แล้วก็นึกถึงเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นมา เพราะเขาเองก็เห็นนางในกระจกก่อนที่นางจะมานอนอยู่บนเตียงเขาเหมือนกัน

“จริงๆ นะ มันเหมือนกระจกของฉัน และ...” เธอเงียบไปเมื่อไม่รู้ว่าจะพูดดีไหมว่าเมื่อวานเธอเองก็เห็นเขาสะท้อนในกระจกเหมือนกัน

“เจ้าเงียบทำไมเถียนเถียน” อ๋องใหญ่ถามคนงามตรงหน้าที่ขมวดคิ้วใช้ความคิดอยู่

“คือว่า...”

“ว่าอะไรเถียนเถียน”

“ก็เมื่อวานฉัน ข้าเห็นท่านในกระจกก่อนจะนอน และภาพที่เห็นก็เป็นภาพของท่านกับผู้หญิงคนหนึ่งบนเตียงนี้ และกำลัง...” เธอหยุดพูดก้มหน้าม้วนอาย

“หืม! เจ้าเห็นข้ากับสนมของข้าสินะ” เขารู้เลยว่านางเห็นตัวเองตอนไหน

อือ!

เธอพยักหน้าตอบ แม้ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร แต่น่าจะใช่สนมของเขา

“และรู้อะไรไหมเถียนเถียน เมื่อวานข้าก็เห็นเจ้าในกระจกเหมือนกัน เจ้านอนหลับบนเตียงและในห้องก็ไม่คุ้นตา มันเหมือนไม่ใช่ที่นี่”

“ก็แน่ล่ะ ก็นั่นปัจจุบัน แต่ที่นี่คืออดีต” เธอรีบตอบสวนเขาทันที

“เจ้าพูดอะไร ข้าไม่เข้าใจ”

“ไม่เข้าใจก็ช่างเถอะ ตอนนี้ฉัน ข้าออกไปจากที่นี่ได้ไหม?”

“เจ้าจะไปไหน และชุดของเจ้าคงไม่เหมาะจะออกไปจากที่นี่แน่ เดี๋ยวข้าจะให้เด็กรับใช้มาดูแลเจ้า และห้ามดื้อห้ามหนี เพราะทหารของข้าจะเฝ้าประตูไว้”

“แล้วท่านจะไปไหนจ้าวซ่านลู่”

“ข้าจะไปพบเสด็จพ่อในวัง”

เขาตอบสั้นๆ แล้วก็เดินจากไปทันที ส่วนซู่หลิงเถียนก็ได้แต่มองตามแผ่นหลังของชายที่เพิ่งรู้จักจนเขาหายลับไปจากการมองเห็น ก่อนจะล้มตัวลงนอนบนเตียงแล้วถอนหายใจแรงๆ กลิ้งไปมา ก่อนจะลุกขึ้นไปดูกระจกโบราณอีกครั้ง มันต้องมีอะไรแน่ เพราะเมื่อวานมันมีแสงออกมา และเมื่อวานเป็นเทศกาลไหว้พระจันทร์ หรือจะเกิดการหักเหของแสงทำให้เธอฝันแบบนี้ หรือไม่ก็ทะลุมาอีกมิติหนึ่ง

“โอ๊ย! ปวดหัว! อะไรกันเนี่ย เถียนเถียน” เธอยกมือกุมขมับตัวเองพร้อมกับมีคนเดินเข้ามาหา และก็ไม่ต้องเดาอะไร เมื่ออีกฝ่ายเรียกเธอว่า ‘คุณหนู’ คงเป็นคนที่จ้าวซ่านลู่ให้มาดูแลเธอแน่นอน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel