หวงรักราคีร้าย บทที่ 5
ซ่า!
เสียงน้ำฝักบัวไหลอาบชโลมร่างกายกำยำของบุรุษเปลือยเปล่าที่ยืนอยู่ใต้ฝักบัวแหงนเงยหน้าขึ้นรับสายน้ำเพื่อดับความร้อนในกายของตนเอง ใจไม่อยากจะปล่อยให้หทัยกานต์ไป แต่เขาก็ไม่อยากบังคับหล่อนมากเกินไปจึงยอมให้เธอกลับไปแล้วตัวเองอยู่กับความทรมานแทน
“ชูว์! อ่า...ให้ตายสิไอ้เจตน์” เขาสบถว่าตัวเองเมื่อไม่อาจจะควบคุมความปรารถนาของตัวเองได้
“อดทนไว้ พรุ่งนี้ก็ถึงวันของมึงแล้วไอ้เจตน์ อ่า...” เขาบอกตัวเองเสียงพร่าพร้อมกับใช้มือหนาคลึงเคล้าท่อนเนื้ออวบบุรุษที่กำลังทรมานเร่าเพราะคนที่ออกไปจากห้อง
“โอว์...แค่วันนี้เท่านั้นไอ้เจตน์ พรุ่งนี้แกก็ไม่ต้องพึ่งมือสากกร้านของแกแล้ว อูว์...ซ่า!” แล้วมือหนาก็เร่งเร้าจังหวะหนักหน่วงเพื่อให้ตัวเองหลุดพ้นความทรมานในตอนนี้ท่ามกลางสายน้ำของฝักบัวที่เย็นฉ่ำไหลอาบท่วมตัว
หทัยกานต์เก็บเสื้อสี่ห้าชุดยัดใส่กระเป๋าเป้เดินทางใบเล็กใบเดียวที่มีติดบ้านแล้วก็มองไปทางน้องชายที่เดินเข้ามาหาตัวเอง เธอยังไม่ได้บอกหาญกล้าว่าตัวเองจะไปอยู่ข้างนอกสักพักเพื่อหาเงินมารักษาหาญกล้ากับจ่ายหนี้ที่พ่อไปติดที่บ่อน
“พี่หมิงจะไปไหนครับ” หาญกล้าถามพี่สาวพร้อมย่อตัวนั่งลงข้างๆ พี่สาว
“พี่จะไปทำงานที่ต่างจังหวัดสักพัก กล้าอยู่กับพ่อได้ใช่ไหม?” น้ำเสียงของเธอเต็มไปด้วยความเป็นห่วงและกังวล
“ได้ครับ แล้วพี่หมิงจะไปนานไหมครับ” หาญกล้าถามพี่สาว
“ไม่แน่ใจเหมือนกันกล้าว่านานแค่ไหน จนกว่าจะเสร็จงานนั่นแหละ แต่พี่จะโทรหากล้าทุกวันนะ และถ้าว่างจะกลับมาเยี่ยมกล้ากับพ่อ และเดือนหน้าที่หมอนัด พี่ก็จะกลับมาพากล้าไปหาหมอเหมือนเดิม อยู่ที่นี่ดูแลตัวเองดีๆ นะ อย่ายั่วโมโหพ่อนะกล้า” เธอบอกน้องชายพร้อมกับยกมือขึ้นลูบแก้มของน้องชาย ก่อนจะรั้งหาญกล้าเข้ามากอด
“ดูแลตัวเองดีๆ นะครับพี่” หาญกล้าบอกพี่สาวพร้อมผละออก
“กล้าก็ดูแลตัวเองดีๆ เหมือนกันนะ อย่ายั่วโมโหพ่อนะเดี๋ยวโดนพ่อตีอีก” เธอบอกน้องชาย
“กล้าจะพยายามครับ แล้วพี่หมิงบอกพ่อรึยังว่าจะไปทำงานต่างจังหวัด” หนุ่มน้อยถามพี่สาว
“แล้วพ่อนอนตื่นรึยังกล้า” ตอนนี้จะเที่ยงแล้ว พ่อยังไม่ออกมาจากห้อง
“เดี๋ยวก็ตื่นแล้วครับ” หาญกล้าที่นอนห้องเดียวกับพ่อเอ่ย
“อือ...เดี๋ยวพี่ไปทำมื้อเที่ยงให้นะ พ่อตื่นมาจะได้กินข้าวเที่ยงด้วยกัน”
“ครับ พี่หมิง แล้วพี่หมิงจะไปตอนไหนครับ”
“กินข้าวเที่ยงกับกล้าและพ่ออิ่ม พี่ก็จะไปจ้ะ”
“กล้าช่วยนะครับ”
อือ
แล้วสองพี่น้องก็พากันลุกเดินออกจากห้องนอนแคบๆ ไปยังครัวเล็กๆ ที่อยู่หลังบ้านเพื่อทำมื้อเที่ยงทานกันก่อนเธอจะออกไปอยู่ที่อื่นสักพัก
ด้านเจตน์ไม่มีสมาธิทำงานเมื่อในหัวคิดถึงแต่คนตัวเล็กที่ตัวเองจับเซ็นสัญญาเมื่อคืน ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายโมงแล้ว เขาจึงกดโทรศัพท์ต่อสายหาเตชัสที่อยู่หน้าห้องเพื่อสอบถามตารางงานของตัวเองในตอนบ่าย
“ตารางงานในบ่ายมีอะไรมั่งเตชัส” เสียงเข้มส่งผ่านสาย
“มีไปตรวจดูคอลเลกชันใหม่ที่จะวางขายที่ร้านพรุ่งนี้ที่ห้าง...ครับคุณเจตน์”
“อืม...แค่นี้ใช่ไหม งั้นก็ไปตอนนี้เลยแล้วกัน” แล้วเขาก็กดตัดวางสายลุกขึ้นหยิบเสื้อสูทที่ถอดพาดไว้หลังเก้าอี้ทำงานมาใส่ให้เรียบร้อย ก่อนจะหยิบโทรศัพท์พร้อมกับกุญแจรถยนต์ส่วนตัว และก็นึกหงุดหงิดที่เมื่อวานลืมแลกเบอร์โทรศัพท์ของหทัยกานต์ไว้ด้วย แต่เขาก็มั่นใจว่าเธอไม่หนีแน่นอน เพราะเธอต้องการเงินจากเขาไปรักษาน้องชายและใช้หนี้ให้พ่อ
หลังจากทานมื้อเที่ยงอิ่ม หทัยกานต์ก็บอกกับพ่อว่าตัวเองจะไปทำงานที่ต่างจังหวัดสักพัก และก็เหมือนเดิมที่พ่อโวยวายว่าเธอจะทิ้งตัวเองกับหาญกล้าไปสบายคนเดียวข้างนอก พอเธอส่งเงินให้ท่านไปหนึ่งหมื่นห้าพันบาท ท่านก็ยิ้มและพูดจาดีกับเธอทันที
“ดูแลตัวเองด้วยล่ะ เงินเดือนออกแล้วก็อย่าลืมโอนมาล่ะ ไปไหนก็ไปเถอะ ไปนานแค่ไหนก็ได้ขอแค่อย่าขาดส่งเงินมาให้กูก็พออีหมิง” พอนับเงินปึกเล็กๆ ที่ลูกสาวส่งให้ก็ยิ้มร่าทันที คืนนี้มีเงินไปต่อทุนที่บ่อนอีกแล้ว ส่วนหนี้ก็ช่างมัน “อ้อ...อย่าลืมหาเงินมาใช้หนี้ที่บ่อนให้กูด้วยล่ะ หกหมื่นบาท เข้าใจไหมอีหมิง”
“เงินหมื่นห้าเนี่ยหนูให้พ่อไปใช้หนี้ที่บ่อน แล้วที่เหลือหนูจะหามาใช้ให้เร็วที่สุด” เธอบอกพ่อ
“อุวะ! เงินนี้กูจะเอาไปลงทุนต่อ ส่วนหนี้มึงก็หามาใช้เอง เงินนี้ไม่เกี่ยวกับหกหมื่น เข้าใจไหม”
“พ่อเอาไปลงทุนในบ่อนน่ะสิ” หาญกล้าเอ่ยแทรก
“แล้วไง กูจะลงทุนในบ่อนหรือที่ไหนมันก็เรื่องของกู พี่มึงให้กูแล้ว ไปล่ะ มึงจะไปไหนก็ไปเถอะ แต่ต้องส่งเงินมาให้กูทุกเดือนห้ามขาด เข้าใจไหมอีหมิง” แล้ววิทย์ก็กำเงินปึกเล็กหมื่นห้าเดินออกจากบ้านเช่าหลังเล็กไปทันทีด้วยอารมณ์เดือดดาล
“พี่หมิงทำไมให้พ่อเยอะขนาดนั้น” หาญกล้าเอ่ยเมื่อเหลือกันสองคน
“ช่างเถอะกล้า และกล้าก็อย่าพูดแบบนี้กับพ่ออีกเข้าใจไหม เดี๋ยวเขาโกรธทำร้ายกล้าอีกจะทำยังไง ยิ่งพี่ไม่อยู่ด้วยแล้วใครจะช่วยกล้า และนี่ของกล้านะ” เธอหยิบเงินที่แบ่งไว้อีกหนึ่งก้อนให้น้องชาย
“พี่หมิง มันเยอะ กล้าใช้ไม่หมด” กล้ารับเงินมาจากพี่สาวเมื่อนับแล้วมันเยอะเกินกว่าความจำเป็นในการใช้ของตนเอง
“กล้าเอาไว้ใช้ส่วนตัว ส่วนค่าเช่าบ้านไม่ต้องห่วง พี่จะจัดการเอง”
“ไม่เอาหรอก มันเยอะไป กล้าเอาสองพันพอ อีกสามพันพี่หมิงเอาไว้ใช้และไว้จ่ายค่าห้อง” เขาหยิบแบงก์สีเทาไว้สองใบแล้วอีกสามใบส่งคืนพี่สาว
“พี่มีเหลือติดตัวห้าพัน กล้าไม่ต้องคืนพี่” ตอนนี้เธอมีติดบัญชีห้าพันบาท เพราะที่มีก็แบ่งให้พ่อกับน้องชายแล้ว
“กล้า...”
“เก็บไว้เถอะกล้า ไว้ใช้เผื่อมีเรื่องฉุกเฉิน” เธอพูดแทรกไม่รอให้น้องชายพูดจบ
“งั้นกล้าจะเก็บไว้ พี่หมิงดูแลตัวเองดีๆ นะครับ อย่าลืมโทรหากล้าทุกวันนะครับ ไม่ต้องเก็บเดี๋ยวกล้าเก็บล้างเอง พี่หมิงไปทำงานเถอะครับ เดี๋ยวจะถึงที่ทำงานค่ำ”
“ไม่เป็นไร พี่ทำเอง กล้าไปกินยาแล้วนอนกลางวันเถอะ” หทัยกานต์บอกน้องชาย
“พี่หมิงไปเถอะครับ เดี๋ยวไปถึงที่ทำงานค่ำนะครับ ว่าแต่ไปทำงานที่จังหวัดไหนครับ?”
“งั้นช่วยกันเก็บกันล้างนะจะได้เสร็จเร็ว ไปทำงานที่จังหวัด...” เธอนิ่งไปครู่หนึ่งก็โกหกต่อ “ที่ประจวบน่ะ”
“ครับ งั้นช่วยกัน พี่จะได้ไปถึงที่พักไม่ค่ำ” แล้วสองพี่น้องก็พากันช่วยเก็บโต๊ะทานข้าวขนาดเล็กนำถ้วยจานไปล้างช่วยกัน