ตอนที่ ๕ 550 บาท
ห้องชั่วคราวของสาวที่ตนคบหาด้วยข้อตกลงบางอย่าง เขาได้นอนกับเธอ แล้วเธอได้เงิน แค่นี้สบาย ๆ แฟร์ ๆ ต่อกัน ตอนนี้เป็นห้องของเขากับสาวแหม่มผมทอง หลายชั่วโมงที่เขาใช้เวลากับร่างหอมหวานของแม่สาวลูกผสม เขาขยับตัวลุกนั่งพิงหัวเตียง ปากหนาคาบบุหรี่ ทอดสายตามองร่างเล็กหมดแรงขดตัวในผ้าห่มที่กำลังหันหลังให้ตนเอง
“อ่า! อิ่มมาก ถึงจะไม่เป็นงานแต่ของสด ฉันให้เธอห้าร้อยห้าสิบบาทนะซาน่า”
เขาลุกไปหยิบกางเกงที่ถอดทิ้งไว้แล้วล้วงเอากระเป๋าสตางค์ออกมาเพื่อหาเงินสดให้สาวเจ้า โชคดีมีเงินแบงก์ห้าร้อยและแบงก์ห้าสิบติดกระเป๋าสตางค์มาด้วย เขาจึงเดินกลับมายัดเงินในมือน้อยที่กำผ้าห่มแน่น แล้วเอาบุหรี่ที่คีบในมือขึ้นมาดูดต่อ
“เก็บเงินของแกไว้ยัดปากตอนนอนในหลุมเถอะ” หล่อนโยนเงินนั่นใส่เขา แล้วฝืนความเจ็บกลางร่างลุกขึ้นยืน
“ปากดี! แต่ช่างเถอะ เพราะยังไงเธอก็ได้ฉันเป็นผัวแล้ว หึหึ อ่า!" พูดจบก็เอาบุหรี่มาดูดต่อแล้วพ่นบุหรี่ใส่หน้าคนตัวเล็ก
“เลว ไร้สกุล! สถุล!"
“พูดไปเถอะ ฉันเป็นแบบนั้นจริง แล้วเสื้อผ้าไปหยิบของเจนใส่เลยนะ เลือกเอาสักชุด เพราะฉันเองก็จะกลับเหมือนกัน” พูดจบก็เดินเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำชำระร่างกาย
ซาน่ามองตามแผ่นหลังใหญ่ด้วยความเจ็บแค้น และหวังว่าฝันร้ายในครั้งนี้จะจบเพียงเท่านี้ แต่แล้วเสียงประตูห้องก็เปิดออก พร้อมกับเสียงร้องเรียกหาชื่อเธอ
“ซาน่าลูกอยู่ไหน”
ภาวิการ้องเรียกหาลูกสาวทันทีเมื่อพนักงานของโรงแรมเปิดประตูห้องเข้ามา สมิธเองก็เช่นกัน ทั้งสองไปขอดูกล้องวงจรปิด ด้วยอำนาจทางเงินของสมิธทำให้ทุกอย่างง่ายดาย และเห็นว่าลูกสาวถูกฉุดเข้ามาในห้องนี้ จนตอนนี้ยังไม่ออกจากห้อง เลยให้พนักงานมาเปิดห้องนี้ให้เพื่อตามหาลูกสาว
“แม่วิ ซาน่าอยู่นี่ค่ะ” หล่อนดึงผ้าห่มมาห่มพร้อมร้องขานตอบผู้เป็นแม่
“เอะอะเสียงดังอะไรวะ!"
คนเพิ่งเดินเข้าไปในห้องน้ำเดินออกมาดูโดยมีผ้าเช็ดตัวพันรอบเอวหมิ่นเหม่ มองไปยังเตียงที่มีผู้หญิงอีกคนวิ่งไปกอดเธอพร้อมกับเรียกเธอว่าลูกสาว และตามหลังไปติด ๆ ผู้ชายร่างใหญ่ และพนักงานโรงแรมอีกสองคน
“อุวะ! ซวยแล้วกู” หรรมใหญ่สบถมองไปยังพ่อแม่ลูกกอดกันบนเตียง แล้วปรายตามองไปทางพนักงานของโรงแรมที่ยืนก้มหน้า ด้วยเพราะพวกเขาไม่กล้าสู้หน้าเขา
“ซาน่าเป็นอะไรรึเปล่าลูก” สมิธถามลูกสาวด้วยความเป็นห่วง ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าซาน่าเจอกับอะไรมาเมื่อดูจากสภาพแล้ว ก่อนจะมองไปยังผู้ชายถ่อยคนหนึ่ง แล้วลุกขึ้นเดินมาประจันหน้าชายหนุ่ม
“มึงกล้าทำลูกกู” สมิธถามเสียงกร้าว แม้ว่าภาษาไทยของเขาจะไม่แข็งแรง แต่ทุกถ้อยคำชัดเจน
“แล้วทำไมครับคุณพ่อตา ผมก็แค่ให้ความสุขลูกคุณพ่อ” หรรมใหญ่ตอบยียวนกวนบาทาของคนตรงหน้าโดยไม่เคารพยำเกรง
“คุณหรรมใหญ่ครับ...” หนึ่งในพนักงานเอ่ยเรียกชื่อเขา
“อะไรของมึงอีกวะ! ออกไปจากห้องได้แล้ว เรื่องนี้ฉันจัดการเอง แล้วอย่าบอกพ่อกับแม่ฉันล่ะ ฉันไม่อยากให้พวกท่านตกใจ” ใช่ โรงแรมนี้ก็เป็นของเขาเหมือนกัน เป็นของครอบครัวใจเกินร้อย นอกจากทำไร่ตะไคร้กับไร่ข่าเป็นพันไร่แล้วยังมีโรงแรมระดับห้าดาวชื่อดังในจังหวัดอีก และนี่ก็คือของเขาเช่นกัน
“ครับ” พนักงานพากันออกจากห้องพักไปโดยทิ้งเหลือแต่ลูกชายเจ้าของโรงแรมกับแขกที่มาพัก
“ว่ายังไงครับคุณพ่อตา อยากให้ผมทำให้ดูไหมครับว่าให้ความสุขยังไงกับซาน่า”
เรียกชื่อหญิงสาวอย่างสนิทสนม แล้วเดินย่างสามขุมไปหาคนที่อยู่ในอ้อมกอดของแม่เธอบนเตียง พอเดินไปถึงเขาก็ทำในสิ่งที่ทุกคนคาดไม่ถึงกระชากซาน่าออกจากอกของแม่มาบดขยี้จูบต่อหน้าของพ่อกับแม่เธอ
“อ่ะ! อื้อ!” มือเล็กทุบตีไหล่กว้างแรง ๆ ด้วยความรังเกียจ
ภาพของลูกสาวโดยปล้ำจูบต่อหน้าต่อตาทำให้สมิธกัดกรามแน่นก้าวเท้ายาว ๆ ไปกระชากชายเถื่อนออกมาพร้อมกับหมัดหนัก ๆ กระแทกใส่อีกฝ่าย
ผลั่ก!
"หึหึ"
หรรมใหญ่หันหน้ากลับมาพร้อมกับบีบคางตัวเองไปมา แล้วถุยน้ำลายทิ้ง ไม่บอกก็รู้ว่าปากเขาแตกเพราะหมัดของพ่อของซาน่า
“มีแรงแค่นี้เองเหรอครับคุณพ่อ ผมไม่ได้เอาซาน่าฟรีสักหน่อย เงินก็ให้ ให้พิเศษด้วยห้าร้อยห้าสิบบาท” วาจาโอหังยังคงหลุดลอดออกมาจากปากของเขา
“เลว! ฉันจะเอาเรื่องคุณให้ถึงที่สุด และโรงแรมนี้ด้วยที่ปล่อยให้โจรถ่อยแบบคุณเข้ามาในโรงแรม” เป็นภาวิกาเองที่พูดขึ้น แล้วนางก็เดินไปโอบกอดลูกสาวประคองเดินออกจากห้องไป “สมิธกลับห้องของเราค่ะ”
“มึงต้องกล้ามากที่มาทำร้ายลูกมาเฟียอย่างกู”
สมิธขู่เสียงแข็งก่อนจะเดินตามภรรยาและลูกสาวที่มีผ้าห่มห่อตัวออกไปจากห้อง ใช่เขาเป็นมาเฟียใหญ่ แต่ที่ไม่มีใครติดตามเพราะลูกสาวและภรรยาขอไว้อยากมาเป็นการส่วนตัว ส่วนตัวจนเกิดเรื่อง
"หึหึ แล้วไงล่ะ ไอ้คนถ่อยอาจจะเป็นพ่อของหลานพวกคุณก็ได้ใครจะไปรู้ ฮ่า ๆ เพราะผมไม่ใส่ถุงผมเล่นสด หึหึ”
ตะโกนตอบไล่หลังพร้อมกับหัวเราะเยาะทั้งสาม โดยไม่สะทกสะท้านอะไรกับคำขู่ของอีกฝ่าย ชายหนุ่มเดินกลับเข้าไปอาบน้ำเหมือนเดิม เพื่อจะกลับไปนอนพักผ่อนที่บ้านไร่ของตน เพราะเขาไม่ชินกับการนอนค้างที่โรงแรม แม้จะเป็นโรงแรมของตัวเองก็ตาม
พอพาลูกสาวกลับมาห้องพักของตัวเอง สมิธก็ต่อสายเรียกลูกน้องมายังเมืองไทยและมาจังหวัดอุบลราชธานีด่วน ส่วนภาวิกาก็พาซาน่าไปอาบน้ำแต่งตัว เมื่อเห็นลูกสาวเจ็บปวดจึงไม่อยากซักถามอะไรให้มากความ เพราะทุกอย่างมันชัดเจนอยู่แล้ว สมิธเลยปล่อยให้แม่ลูกเขาพูดคุยกัน ผู้หญิงด้วยกันท่าจะคุยกันสะดวกกว่า
“เป็นยังไงบ้างลูก” หลังจากอาบน้ำให้ลูกสาวและแต่งตัวให้เธอเสร็จเช็ดผมให้แห้งภาวิกาก็พาลูกสาวคนเดียวของตนมานอนพักผ่อน
“ไม่เป็นไรค่ะแม่วิ ซาน่าโอเค” เธอบอกเจือยิ้ม แต่ใบหน้าเศร้าหมองเหลือเกิน ทำให้คนมองถอนหายใจยาวด้วยความเป็นห่วง
“พักผ่อนนะลูก พรุ่งนี้พ่อกับแม่จะจัดการผู้ชายเลวระยำคนนั้นให้เอง”
“ซาน่าจัดการเองค่ะแม่วิ บอกพ่อสมิธด้วย แค่ตามคนของเรามาก็พอค่ะ” เธอบอกเสียงแข็ง เมื่อนึกถึงใบหน้ารกเคราที่แสนเกลียด
“ได้จ้ะ ตามแต่ลูกจะจัดการ พักผ่อนนะจ๊ะ”
“ค่ะแม่วิ”
แล้วเธอก็ห่มผ้าข่มตาหลับ ไม่นานความอ่อนเพลียของเธอก็ทำให้หลับลงได้สนิท สมิธเดินเข้ามาในห้องนอนของลูกสาวเห็นว่าซาน่าหลับไปแล้ว จึงเรียกภรรยาออกไปคุยกันข้างนอก เพื่อจะได้ไม่รบกวนคนนอนหลับ