5 - ยักษ์กินดุ
“อ่า...อื้อ” เสียงครางทุ้มต่ำดังลอดออกมาจากริมฝีปากของทั้งสอง เรียวลิ้นสากระรัวแตะหยอกเย้ากับเม็ดเกสรกลางหว่างขาเล็กของพุดซ้อน นาสูรสอดเร่าลิ้นเข้าไปในโพรงสวาทคับแน่นแทนนิ้วแกร่งที่ทแยงเข้าออกก่อนหน้านี้แล้วถอดถอนลิ้นออกมาไล้เลียตามซอกกลีบอวบอูม
“อ่ะ...อื้อ มะ...ไม่ไหวแล้ว น้องร้อน อ่า...ได้โปรดเถอะ ได้โปรดชะ...ช่วยน้องให้หลุดจากความทรมานนี้ที อือ...”
เรียวขาเล็กที่รัดลำคอหนาก็คลายออกมาลูบไล้แผงอกกำยำของคนที่เคลื่อนหน้าออกจากหว่างขาตนเอง นาสูรจับเท้าเล็กที่ยังมีรองเท้าผ้าใบอยู่แล้วก็จูบเบาๆ ที่ขาของเธอ
“อ่ะ...อื้อ สกปรกค่ะ อ่า...”
“ฉันไม่นึกรังเกียจสิ่งที่เป็นเธอเด็กน้อย อ่า...ทำให้บ้างสิ สัมผัสฉันอย่างที่ฉันกินเธอเหมือนก่อนหน้านี้”
เขาบอกเสียงแหบพร่าพร้อมกับก้มลงไปหาความเป็นสาวกลางหว่างขาอีกครั้งเพื่อจะส่งเธอให้พบความสุขด้วยลิ้น
“อ่ะ...อุ๊ย คุณนาสูร อ่า...ไม่ไหวแล้ว อ่า...น้องไม่ไหวแล้ว ซี้ด อือ...”
พุดซ้อนจับขอบโต๊ะแน่นพร้อมแอ่นเด้งเร่ายกเอวเล็กตัวเองขึ้นหาแรงสวาทของปลายลิ้นสากที่สอดเร่าระรัวซอยถี่เข้าออกในความเป็นสาวตัวเองจนสองเข่านั้นยกเตะไปมาตามอากาศเมื่อถูกเรียวลิ้นสากกระแทกดุดันเข้าออกหนักหน่วง
“อ่ะ...อ่อย ไม่ไหวแล้ว น้อง...อ่า...กรี๊ด!”
แล้วสาวเจ้าก็กระตุกเกร็งปล่อยน้ำสวาทออกมาทันทีเมื่อได้พบความสุขที่โหยหา หล่อนสั่นไปทั้งร่างเปลือยเมื่อเขาถอดถอนเรียวลิ้นสากออกจากความเป็นสาวมาดูดไล้เลียกินน้ำสวาทขาวเข้มข้นเหนียวหนึบของตัวเอง
“อ่า...หวานเหลือเกิน ฉันชอบน้ำเสียวของเธอเด็กน้อย” นาสูรดูดเลียจนหมดทุกหยาดหยดแล้วเอ่ยต่อ... “ส่งฉันด้วยปากบ้างสิเด็กน้อยของฉัน ทำให้ฉันแบบที่ฉันทำให้เธอคนเก่ง” เขาไม่ต้องการคำปฏิเสธ เขาต้องการให้หล่อนปฏิบัติทันที นาสูรลุกขึ้นยืนเต็มความสูงแล้วขึ้นไปนั่งยังที่ว่างข้างๆ หล่อนแล้วผลักร่างเล็กลงไปคุกเข่ากับพื้นแทนที่ตัวเองก่อนหน้านี้
“นะ...น้องทำไม่เป็นนะคะ”
“เธอฉลาดเด็กดีของฉัน จัดการฉันแบบที่ใจปรารถนา ฉันรู้ว่าเธออยากลองและอยากใช้ปากกับฉัน จัดการสิ คิดว่าฉันเป็นอมยิ้มที่ใหญ่มากก็ได้” เขากดหัวทุยเล็กของคนที่นั่งคุกเข่ากลางหว่างขาให้ซุกซบลงไปหาท่อนเนื้ออวบใหญ่แข็งแรงของตัวเอง
“โอว์...อย่าชักช้าได้โปรด...จัดการฉัน ดูดเลียและครอบครองกลืนกินฉันน้อง อ่า...จัดการมันสิ” เพียงแค่หน้าของหล่อนและปากของหล่อนโน้มก้มมาเสียดสี เขาก็ร้อนรุ่มทรมานปวดร้าวหนึบๆ ที่ท่อนเนื้ออวบใหญ่แล้ว
“น้องจะพยายามค่ะ”
เธอมองความใหญ่โตที่เมื่อเทียบกับแขนแล้วมันใหญ่กว่าเห็นๆ ทำไมเขาใหญ่ขนาดนี้ และก็งงทุกครั้งว่ามันกระแทกเข้ามาในตัวเธอได้ยังไงกัน นี่สินะ ร่างกายมนุษย์ที่ถูกสร้างมาเพื่อกันและกันของชายหญิง มือน้อยจับท่อนเนื้ออวบใหญ่ที่ล้นมือตัวเองด้วยมือทั้งสองข้างพร้อมรูดคลึงไปมาแล้วก้มหน้าไปตวัดลิ้นเล็กตัวเองไล้เลียโคนเนื้อแล้วลากขึ้นมายังปลายท่อนเนื้ออวบใหญ่
“โอว์...นั่นแหละ ทำแบบที่เธอคิดเลยเด็กดีของฉัน อ่า...เสียว ดูดกินฉัน ครอบครองฉันทั้งตัว อ่ะ...อื้อ”
เมื่อสาวน้อยทำตามที่สั่ง นาสูรก็ได้แต่กำขอบโต๊ะทำงานแอ่นยกเด้งเอวสอบสวนกระแทกกายอวบใหญ่เข้าหาปากน้อยที่ตอนนี้ครอบครองดูดกลืนกินท่อนเนื้อตัวเอง แม้จะเข้าไปได้ไม่สุดลำ แต่แค่นี้มันก็สุขเร่าเสียวมากแล้วสำหรับนาสูร
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
เสียงท่อนเนื้ออวบใหญ่ยกไหวกระแทกเข้าไปในปากน้อย หล่อนทั้งจุกทั้งเจ็บจนน้ำตาเล็ดเลยตอนนี้ แต่ก็ตื่นเต้นอยู่ไม่น้อยที่ได้ทำให้เขา พุดซ้อนดูดเร่าเลียท่อนเนื้ออวบใหญ่ลากลิ้นถูไถไปตามลำกายอวบอุ่นร้อนแล้วดูดกลืนกินเต็มปาก ก่อนจะปล่อยออกมาลูบคลึงสองพวงไข่ที่แนบขนาบโคนเนื้อไปด้วย
“อ่า...เสียว อ่า...นั่นแหละเด็กน้อย อ่า...เสียวมาก อูว์...ฉันชอบแบบนี้เด็กดี อ่า...ดูดปากแรงๆ อ่ะ...อื้อ”
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
แม้หล่อนจะอ่อนเดียงสา แต่หล่อนก็เก่งมากแล้วสำหรับเขาในตอนนี้ นาสูรชื่นชมพร้อมกับแอ่นเด้งเร่ายกเอวหนากระแทกบดเบียดแก่นกายแข็งร้อนเสียดสีเร่าร้อนเข้าออกในปากน้อย ยิ่งสองมือกอบกุมบีบเคล้นคลึงพวงสวรรค์ทั้งสองลูกของเขาไปด้วยยิ่งเสียวสะท้านในทรวง
พุดซ้อนเร่งเร้าดูดปากตัวเองเมื่อเอวสอบแอ่นเด้งกระแทกท่อนเนื้ออัดแน่นในปากตัวเองพร้อมกับถอดถอนออกแล้วแอ่นเด้งกลับเข้ามาอีกครั้ง ทั้งจุกลิ้นไก่และเสียวสะท้านทรวงอกตอนนี้ และความเป็นสาวของหล่อนก็หลั่งน้ำสวาทออกมาตลอดการเสียดสีของท่อนเนื้อร้อนในปากตนเอง
“โอว์...ไม่ไหวแล้ว อ่า...ไม่ไหวแล้วเด็กดี อ่า...เก่งมาก เก่งมากน้องของฉัน อ่า...เสียว อูว์...”
นาสูรมองเห็นความสุขที่รอตรงหน้า เมื่อปากน้อยและเอวสอบของเขาสอดคล้องประสานจังหวะสวาทกันได้ดี เอวหนาเด้งเร่ากระแทกสวนขึ้นหาปากน้อยที่กำลังทำหน้าที่ตอดรัดคลึงท่อนเนื้อในตอนนี้ และมือน้อยหล่อนก็บีบเคล้นให้ความสุขเขาไปด้วยเช่นกัน และเพียงเวลาไม่นานความสุขที่เฝ้าปรารถนาก็ได้มาทักทายเขาเมื่อเอวหนากระตุกเกร็งแล้วปล่อยสายธารน้ำหลากแตกซ่านในปากน้อยจนเอ่อล้นออกมานอกปากน้อย
“อ่า...ดีมากทูนหัวของฉัน อ่า...”
เขาคำรามออกมาด้วยความสุข สุขที่ไม่เคยได้พบมาก่อน แม้จะไม่ใช่ครั้งแรกที่มีผู้หญิงมาทำให้เช่นนี้ แต่ตอนนี้มันคือปากน้อยๆ ของพุดซ้อนที่มอบความอุ่นร้อนซ่านสยิวให้เขา
“อ่ะ อื้อ”
ปากน้อยคายท่อนเนื้อออกมาแล้วมองน้ำสวาทของเขาที่เหนียวข้นราวนมข้นเปรอะเปื้อนตามท่อนเนื้อของเขาพร้อมแหงนเงยหน้าสบจ้องดวงตาสีเขียวมรกตที่ราวกับมนตร์สะกดคู่นั้น ก่อนจะยิ้มเขินอายเมื่อเขาสั่งให้เธอก้มหน้าไปดูดเลียทำความสะอาดท่อนเนื้อของเขา
“กินฉันสิ กินจนหมดเหมือนที่ฉันทำให้เธอเด็กดี” เขากดหัวทุยเล็กเธอลงไปหาความอวบใหญ่อีกครั้งพร้อมกับที่ลิ้นน้อยๆ ของพุดซ้อนค่อยๆ แตะเลียลากถูไถไปมาตามท่อนเนื้อของเขาอีกครั้ง
“ชูว์...เสียว อ่า...รีบหน่อยน้อง แล้วเรามาต่อกันอีก จัดการให้หมดแล้วฉันจะกระแทกมันในตัวเธอเด็กดี”
ได้ยินแบบนั้นพุดซ้อนก็หน้าเห่อร้อนขึ้นมาอีกครั้ง จากที่เห่อร้อนชื้นเหงื่ออยู่แล้วยิ่งร้อนไปใหญ่ เธอลากลิ้นถูไถไปมาตามเอ็นร้อนของเขาแล้วก็ถูกเขาฉุดดึงรั้งให้ยืนขึ้นพร้อมตัวเขาเองก็เคลื่อนตัวมายืนตรงหน้าแล้วเหวี่ยงเธอไปยืนพิงขอบโต๊ะทำงานแล้วจับเธอหมุนตัวให้หันหลังให้เขา
“อยากได้ท่านี้” เขาบอกสั้นๆ แล้วก็ยกขาของเธอขึ้นหนึ่งข้างไปพาดไว้กับโต๊ะทำงาน แล้วตัวเขาก็มายืนแนบเบียดท่อนเนื้อจากทางด้านหลังเธอ
“อ่ะ...เจ็บ!” ความเจ็บปวดแทรกแซงเข้ามาในร่าง แต่แค่ช่วงแรกเท่านั้นเมื่อเขาเริ่มขยับตัวโยกเร่าเข้าออกพร้อมตัวของนาสูรโน้มคร่อมทับโอบกอดหล่อนจากด้านหลังไว้
“อ่า...หายเจ็บรึยังทูนหัว” น้ำเสียงแหบพร่าดังราวกระซิบข้างหู
“อือ...มะ...ไม่แล้วค่ะ” เธอเอี้ยวหน้าชื้นเหงื่อหันมาตอบคนที่แนบแก้มกับซอกคอระหงตัวเอง
“อ่า...งั้นต่อนะ รู้อะไรไหม ฉันไม่เคยต้องการมนุษย์ผู้หญิงคนไหนเหมือนเธอมาก่อน ทุกคนที่ผ่านมาก็แค่ครั้งคราวเท่านั้น ไม่มีเรียกหาเป็นครั้งที่สอง แต่กับเธอ เธอคนเดียวที่ทำให้ฉันหิวโหยตลอดเวลา กินเท่าไหร่ก็ไม่อิ่ม อ่ะ...โอว์ อ่า...” นาสูรร้อนรุ่มยามเคลื่อนไหวเอวสอบกระแทกบั้นเอวเข้าออกในกายสาวคับแน่น ยิ่งหล่อนตอดรัดเขายิ่งต้องการปรารถนาจะสอดเข้าหาเธอลึกๆ
“อ่ะ...อ่อย ลึกเกินไปแล้ว อ่า...อื้อ” เธอบอกเขาเมื่อรับรู้ได้ว่าเขาสอดลึกกว่าทุกครั้ง
“อ่า...ฉันอยากให้เธอตอดรัดความใหญ่โตและยาวของฉันทูนหัว อ่า...เสียว พร้อมกันนะ” เขากอดรัดเธอแน่นจากด้านหลังพร้อมสองมือบีบเร่าเคล้นคลึงหน้าอกอวบอูมพอดีมือไปด้วย และเอวหนาก็กระแทกจังหวะดุดันไปด้วยเช่นกัน
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
หล่อนแอ่นเด้งก้นตอบสนองแรงกระแทกจากด้านหลัง สองมือเท้ายันยกร่างตัวเองกับโต๊ะทำงานเพื่อตอบสนองและไม่ให้ร่างตัวเองกระเด็นกระดอนไปตามแรงกระแทกดุดันจากทางด้านหลัง พุดซ้อนรู้สึกจุกทุกครั้งยามนาสูรกระแทกกายสอดลึก ครั้งนี้เขาสอดลึกกว่าทุกครั้ง แต่ความจุกก็มีความสุขซุกซ่อนอยู่ หล่อนครวญครางกระเส่าแหบแห้งไปตามจังหวะที่เขาปรนเปรอให้
“อ่า...ไม่ไหวแล้ว น้องไม่ไหวแล้วค่ะ อ่ะ...อ่อย อื้อ...”
พั่บ! พั่บ! พั่บ!
“อ่า...ไม่ไหวยังไงทูนหัว อ่า...ไม่ไหวยังไง เสียวไหม อ่า...แน่นดีเป็นบ้า น้องตอดรัดผัวแรงเป็นบ้า ชูว์...โอว์ เสียวเอ็น อ่า...”
“อ่า...สะ...เสียว น้องเสียวค่ะ อ่ะ...อุ๊ย อ่า...แรงมาก ลึก อ่ะ...โอว์ สอดลึกในท้องน้องมาก อ่า...ไม่ไหวแล้ว ไม่ไหวแล้วได้โปรด...ได้โปรดปลดปล่อยน้องที อูว์...โอว์”
หล่อนร้องครางตอบรับพร้อมกับนาสูรเร่งสาวเอวกระแทกคนที่คร่อมไปกับโต๊ะทำงาน สองมือก็บีบนวดคลึงเต้าอวบอิ่มพอดีมือไปด้วย
“อ่า...อื้อ”
เสียงครวญครางกระเส่าทุ้มต่ำดังลอดสลับกันขึ้นลงพร้อมเสียงเนินเนื้อกระทบกระทั่งกันในห้องทำงน สองร่างอาบชื้นไปด้วยเหงื่อไคลสวาทและเสียงโต๊ะทำงานก็ไหวโยกเร่าตามแรงกระแทกของยักษ์หนุ่มผู้แข็งแรง
“โอว์...เสียวดีเหลือเกิน อ่า ตอดรัดดีมากทูนหัว อ่า ซี๊ด อื้อ”
พุดซ้อนมาตื่นอีกทีก็ที่ห้องนอนส่วนตัวของตัวเอง ไม่รู้ว่าเผลอหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่ หรืออาจจะสลบคาท่อนเนื้อของเขาที่แช่กายอยู่ในตัวก็ได้ พอตื่นเต็มตาก็เห็นว่านาสูรนอนโอบกอดประคองตัวเอง เธอมองจ้องใบหน้าหล่อยามเขาหลับ ช่างตราตรึงเหลือเกิน รูปหน้าของเขามันเหมือนกับรูปปั้น เหมือนหลุดมาจากเทพนิยายก็มิปาน มือน้อยยกขึ้นมาลูบไล้แก้มของเขาแล้วเลื่อนมายังปลายจมูกโด่งเป็นสัน ก่อนจะมาลูบไล้กลีบปากหนาของเขาไปมา
“อืม...อยากจูบไหม” เขาถามเธอทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่
“บะ...บ้า ใครจะอยากจูบ” เธอตอบพร้อมชักมือกลับทันที แต่ก็ถูกเขากอดรั้งเข้าหาแนบแน่นกว่าเดิมพร้อมกับปากหนายื่นมาหมายจะจูบปากเธอ แต่เธอเบือนหน้าหนี
“มะ...ไม่นะ คุณกลับห้องคุณไปได้แล้วคุณนาสูร”
“ฉันจะนอนกับเธอจนกว่าจะเช้า” เขาพูดทั้งๆ ที่ยังหลับตาอยู่
“แน่ใจนะคะว่านอนไม่ใช่...”
“หรือเธอหิวฉันแล้วเด็กน้อย”
“หิวข้าวต่างหากค่ะ ฉันไม่ได้หิวคุณสักหน่อย”
“แต่ฉันหิวเธอ หิวทุกลมหายใจเข้าออก”
“ยักษ์บ้ากาม”
“ฉันบ้ากามแค่กับเธอคนเดียวสาวน้อย” เขาลืมตาตื่นขึ้นเต็มตาพร้อมสบจ้องดวงตากลมโตที่กำลังมีแววซุกซนของหล่อน
“ไม่กลัวฉันแล้วใช่ไหมทูนหัว”
“ค่ะ”
“แล้วรังเกียจตัวตนที่แท้จริงของฉันไหม”
“ไม่รู้เหมือนกัน งั้นลองเผยหน้าที่แท้จริงอีกครั้งได้ไหมคะ” เธออ้อนเขาพร้อมซุกหน้าไปกับอกแกร่งและกอดเขาแนบแน่น
“แน่ใจว่าจะไม่ตกใจจนเป็นลมอีก”
“ครั้งก่อนนึกไม่ถึง แต่ตอนนี้เตรียมพร้อมแล้วค่ะ จัดมาเลย น้องอยากเห็นยักษ์เป็นๆ เหมือนกัน ใครจะคิดว่าคนที่กอดตัวเองเป็นยักษ์จริงๆ และแถมยัง...”
“เป็นผัว” เขาต่อให้ในท้ายประโยคที่หล่อนเงียบไปเสียดื้อๆ
“คนบ้า!” เธอส่งค้อนน้อยๆ ให้เขาพร้อมซบหน้าไปกับอกแกร่งอีกครั้ง
หึหึ
เขาคาดหวังกับหล่อนได้ไหม เชื่อหล่อนได้ไหม แต่แล้วนาสูรก็ตัดสินใจแสดงร่างจริงของตนเองให้หล่อนเห็น
“มองหน้าฉันอีกครั้งสิ” เมื่อตอนนี้ใบหน้าของเขาเป็นยักษ์แล้วก็สั่งคนที่ซุกหน้ากับอกตัวเองให้แหงนเงยขึ้นมาดูหน้าจริงของตนให้ชัดๆ
“ยะ...ยักษ์ น้องจับเขี้ยวได้ไหมคะ?” เธอถามอย่างกลัวๆ แล้วเขาก็พยักหน้าอนุญาต
“เนี่ยของจริงใช่ไหมคะ” เธอจับเขี้ยวยักษ์ของเขาแล้วขยับโยกไปมาเพื่อดูว่ามันของจริงรึเปล่า
“อ่า...ฉันเจ็บนะเด็กน้อย เนี่ยเขี้ยวของจริง” เขาบอกดุไม่จริงจังนัก
“ก็มันเหมือนในละครและหนังสือที่เคยอ่านเลย คุณเป็นยักษ์ ให้ตายสิ ใครจะเชื่อว่าฉันนอนกับยักษ์”
เธอบอกเขา เธอเป็นเด็กกำพร้าไร้พ่อแม่ ส่วนคุณป้าที่เลี้ยงดูมาแต่เล็กก็เพิ่งมาจากไปเมื่อต้นปีที่แล้ว ตอนนี้จะว่าไปเธอไร้ญาติเหลือตัวคนเดียว แต่โชคดีมีเพื่อนที่น่ารักอย่างฟ้าใสคอยอยู่เคียงข้างตลอดเวลาที่ผ่านมาจึงผ่านความโหดร้ายของยุคนี้มาได้
“ยังกลัวฉันอยู่ไหม?” เขาถามด้วยความอยากรู้
“ยอมรับตอนแรกก็กลัวๆ แต่พอเห็นแบบนี้แล้วก็ไม่ค่ะ ดูน่ารักดีออก มีเขี้ยว มีคิ้วแบบในหนังละครที่เคยดูเลย และคุณอยู่มาได้ยังไงตั้งเท่าไหร่นะคะ” เธอถามเขา
“หนึ่งพันสามร้อยปี”
“นั่นแหละค่ะ คุณคงเหนื่อยลำบากมากสินะคะที่ต้องใช้ชีวิตมาหลายร้อยปีแบบนี้ คงโดดเดี่ยวมากสินะคะ” เธอสงสารเขาเมื่อเห็นแววตาของเขามันดูเศร้าหมองจากที่ก่อนหน้านี้เจ้าเล่ห์
“เธอคือคนที่เข้าใจฉันที่สุดเด็กน้อย ไม่เคยมีใครเข้าใจและมองฉันได้ลึกเท่าเธอเลย ขนาดพาทีคนสนิทยังไม่รู้เลยว่าลึกๆ ในใจของฉันมันเคว้งคว้างมากแค่ไหน” เขากดหัวทุยเล็กมาซบอกตัวเองพร้อมจุ๊บกระหม่อมเธอไปหนึ่งที
เงียบ!
พุดซ้อนไม่ตอบแต่กลับโอบกอดเขาแทน เธอกอดเขาแน่นเพื่อถ่ายเทความอบอุ่นให้เขา เธออยากปลอบโยน อยากให้เขารู้สึกอบอุ่นในอ้อมกอดของเธอบ้าง เหมือนที่เธอรู้สึกดียามเขากอดกระชับเธอแบบนี้ หญิงสาวปล่อยให้ความเงียบปลอบโยนความเคว้งคว้างของนาสูร และนาสูรก็รับรู้ได้ถึงความห่วงใยหวังดีของหล่อน เขายิ้มมุมปากน้อยๆ ให้กับความพยายามของหล่อน