บท
ตั้งค่า

1 - บรรณาการพรหมจรรย์ 1

นาสูรมองไปยังเตียงนุ่มของตัวเองที่ตอนนี้มีร่างเล็กเปราะบางนอนบนเตียง กลิ่นตัวหอมอ่อนๆ ของเจ้าหล่อนกำจายไปทั่วห้อง และนี่แหละที่เขาปรารถนาที่สุดในตอนนี้ ก่อนจะมองไปยังพาทีแล้วพยักหน้าให้พาทีออกไป เพราะเวลานี้เป็นเวลาส่วนตัวของเขาและเจ้าหล่อน เมื่อประตูห้องปิดสนิทพร้อมพาทีออกไปจากห้อง เขาก็เดินสาวเท้ายาวๆ ไปหาคนที่นอนไร้สติบนเตียงทันที ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นเตียงประคองหัวเธอขึ้นมาซบอกตัวเองแล้วคลายมนตร์สะกดที่พาทีสะกดหล่อนก่อนจะพาตัวมาหาตนเองทันที

อือ!

พุดซ้อนสะลึมสะลือปรือตาตื่นขึ้นมาด้วยความมึนงง และก็ยกมือขึ้นลูบไล้ใบหน้าราวรูปปั้นของคนที่จ้องมองตัวเอง ‘ฝันเหรอเนี่ย ทำไมหล่อจัง’ มือเล็กลูบไล้ใบหน้าหล่อที่กำลังจ้องมองตัวเอง ดวงตาของเขามันช่างน่าค้นหา พุดซ้อนยังคงลูบไล้มือไปมากับหน้าหล่อราวเทพบุตรแล้วเคลื่อนมายังลำคอหนาด้วยคิดว่ามันคือความฝันของตนเอง

หึหึ

นาสูรยกยิ้มขำปนเอ็นดูความคิดของหญิงสาวที่โอบประคองในตอนนี้ หล่อนช่างประหลาดคนเหลือเกิน มือใหญ่จับมือเล็กนุ่มนิ่มที่ลูบไล้หน้าตัวเองให้หยุดแล้วดึงมากดปลายจมูกโด่งกับมือนุ่มนิ่มหล่อน

“ฝันดีจัง หล่อ...” เธอพึมพำกับตัวเองด้วยยังคิดว่าเป็นฝันแล้วก็หัวเราะคิกคักด้วยความจั๊กจี้เมื่อปลายจมูกโด่งได้รูปของชายหนุ่มกดแนบลงมาที่หน้าผากมนของเธอ

“ไร้เดียงสา”

นาสูรพึมพำกับคนที่ยังคงคิดว่าตัวเองฝัน แต่มือใหญ่อีกข้างที่ไม่ได้โอบอุ้มหัวทุยเล็กก็เริ่มรุกเร่าร่างเล็กน่าค้นหาของเจ้าหล่อน มือใหญ่สอดเร่าเข้าไปในชายเสื้อยืดสีขาวตัวเล็กเข้ารูปของหล่อนแล้วขยุ้มขยำสองเต้าอวบอูมนุ่มนิ่มที่มียกทรงปกปิดอยู่อีกชั้นข้างใน

“อ่ะ...อื้อ” พุดซ้อนเบิกตากว้างตื่นเต็มตาพร้อมสติทันที เธอรับรู้ได้ว่าตอนนี้มันคือความจริงไม่ใช่ฝัน หากฝันจะไม่เป็นแบบนี้ ร่างเล็กดิ้นขัดขืนทันทีเมื่อตื่นเต็มสติ

“อือ...อย่าดิ้นสิเด็กน้อย”

น้ำเสียงทุ้มห้าวเปล่งลอดออกมาจากริมฝีปากหนา ทำให้หล่อนหยุดดิ้นราวกับต้องมนตร์สะกดก็มิปาน รูปปาก รูปหน้าของเขาราวสวรรค์ปั้นแต่งจริงๆ และเขาคือใครกันล่ะ เอ๊ะ! เสียงนี้มันเหมือนเสียงของคนเมื่อคืน เสียงที่ดังก้องในหูรบกวนตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา

“คุณคนเมื่อคืน”

เธอถามทันทีพร้อมกับหันหน้าราวรูปปั้นของเขาออกห่างจากแก้มตัวเอง

หึหึ

นาสูรทำเพียงแค่ยิ้มขำแล้วเริ่มรุกเร่าเจ้าหล่อนต่อ และเหมือนเธอจะไม่ง่ายแบบที่คิด เจ้าหล่อนดิ้นขัดขืนแรงขึ้น ต่อต้านไม่ให้เขารุกเร่า มือน้อยจับมือของเขาให้หยุดพร้อมกับดิ้นออกจากวงแขนของเขาเช่นกัน แต่มีหรือเขาจะยอมให้หล่อนดิ้นหลุดไปได้ นาสูรผลักเธอให้นอนไปกับเตียงแล้วเคลื่อนตัวรวดเร็วไปนอนกดคร่อมทับร่างน้อยไม่ให้ดิ้นหนีตนเองได้

“อ่ะ...ปะ...ปล่อยฉันนะคุณ”

เธอบอกสั่งเขาไม่เต็มเสียงพร้อมหลบสายตาของเขาด้วยไม่กล้าจ้องสบตาคนเหนือร่าง ดวงตาของเขามันเหมือนมีมนตร์สะกดอยู่ตลอดเวลา และใจสาวน้อยก็เต้นไหววูบวาบรุนแรงเมื่อคนเหนือร่างไม่ยอมทำตามที่สั่ง แต่เขากลับทำตรงกันข้ามโดยการขยุ้มมือบีบเคล้นเต้าของเธอที่มือใหญ่ของเขาสอดอยู่ด้านในเสื้อเธอ

“เวลาพูด สบตาฉันสิเด็กน้อย”

เขาบอกดุเธอไม่จริงจังนัก ยิ่งได้สัมผัสยิ่งตื่นตัว เขาอยากสอดแทรกกระแทกตัวแรงๆ ในความเป็นสาวที่ฉ่ำน้ำของเจ้าหล่อนใจแทบขาดตอนนี้ แต่เหมือนว่าหล่อนจะยังคงเป็นสาวพรหมจรรย์ เพราะกลิ่นตัวของหล่อนมันแปลกต่างจากสตรีที่เคยเสพสวาทด้วย กลิ่นของหล่อนมันหอมยั่วยวนจนเขานอนไม่หลับตลอดค่ำคืนที่ผ่านมา เพราะเฝ้าคิดถึงแต่กลิ่นกายเจ้าหล่อน

พอถูกสั่งก็รีบสบจ้องตาคนตัวโตเหนือร่างทันที และใจสาวน้อยก็สั่นไหวเต้นผิดจังหวะเมื่อได้สบจ้องกับดวงตาทรงอำนาจของเขา มันหวิวๆ ในใจ และทำให้หลงไปกับสายตาที่น่าค้นหา พอมองเลื่อนมายังริมฝีปากหนาที่เอ่ยกับตนก็ยิ่งใจสั่นไหว

“อ่ะ...อื้อ” เธอเผลอหลุดร้องครางออกมาเมื่อมือหนาของเขาขยุ้มขยำเคล้นเต้าตัวเอง และยิ่งทำให้มึนงงราวต้องมนตร์สะกดยามสบตาของเขา แม้พยายามจะเบือนหน้ามองไปทางอื่น แต่สายตาก็อยากจ้องมองดวงตาทรงเสน่ห์และหน้าราวรูปปั้นของบุรุษเหนือร่าง ‘หล่อจัง’ เธอพึมพำในใจยามมองเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบของคนเหนือร่าง และนึกสงสัยว่าเขาคือใคร ทำไมไม่เคยเจอมาก่อน และที่นี่ที่ไหนกันล่ะ?

“ฉันรู้ว่าฉันหล่อ” เขาตอบความคิดในใจเธอ และนั่นทำให้พุดซ้อนตกใจดิ้นหนีแรงกว่าเดิม

“คะ...คุณตอบได้ยังไง ฉันพูดในใจ”

“ฉันรู้หมดแหละว่าใครคิดอะไรกับฉัน และตอนนี้เธอก็กำลังอยากรู้จักฉันมากกว่านี้สาวน้อย” เขาพูดพร้อมกับโน้มจมูกลงไปซุกซอกคอระหงของหล่อน พุดซ้อนอ่อนระทวยเมื่อถูกเขาซุกซอกคอระหงของตนเอง ได้แต่หดคอเล็กน้อย แต่ก็ยิ้มเขิน เพราะเกิดมาไม่เคยมีผู้ชายคนไหนมาทำแบบนี้ด้วย

“คะ...คุณเป็นใคร” เธอถามทั้งๆ ที่รู้สึกปั่นป่วนในท้องน้อย ก็ไม่รู้ว่าหิวหรือเพราะอะไรถึงได้รู้สึกปั่นป่วนในท้องแบบนี้ เธอถามต่อไปอีก... “ที่นี่ที่ไหน และคุณคือใคร?”

หึหึ

นาสูรขำในลำคอเมื่อเจอคำถามของหล่อนแล้วก็ตอบกลับไป

“ฉันเป็นใคร เธอน่าจะรู้จักนะเด็กน้อย อยากรู้จักฉันไม่ใช่เหรอ อยากเจอไม่ใช่เหรอ นี่ไง...ฉันก็มาให้เจอและมาให้สัมผัสอยู่นี่ไง”

พอจบประโยค สมองอันน้อยๆ ที่แสนจะฉลาดของพุดซ้อนก็ประมวลตามทันที และก็ตกใจอีกครั้งเมื่อคนที่ทุกคนเรียกว่า ‘ท่าน’ มาตลอดยังคงหนุ่มแน่นและหล่อราวเทพบุตรสมคำร่ำลือจริงๆ และเขารู้ได้ยังไงว่าเธออยากรู้จักและอยากเห็นเขา ผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา ไม่เหมือนคนทั่วไป มันเหมือนมีอำนาจบางอย่างแผ่รังสีออกมาจากร่างกายของเขา และมันก็ดูขลัง

“คงแปลกใจสินะที่ฉันไม่ได้แก่อย่างที่คิด” นาสูรเอ่ยตอบความสงสัยของหล่อน

“คะ...คือฉันนึกว่าคุณจะแก่ เพราะทุกคนเรียกคุณว่าท่าน” เธอตอบกลับเสียงสั่นแผ่ว

“หึหึ...ผิดหวังไหม” เขาถามกลับพร้อมกับบีบเต้าอวบอูมเธอด้วย

“อ่ะ...อื้อ ยะ...อย่าทำแบบนี้ ฉันเจ็บ” เธอดิ้นตัวถอยออกจากอุ้งมือหนา แต่เขาก็ตามมากอบกุมเช่นเดิม

“ฉันถามว่าผิดหวังไหมเด็กน้อย ที่ฉันยังไม่แก่อย่างที่คิด”

‘ดีใจ หล่อมาก หล่อสมคำร่ำลือ’ เธอตอบเขาในใจและลืมนึกไปว่าเขาอ่านความคิดเธอออก

หึหึ

“งั้นคืนนี้ก็เป็นของฉันสาวน้อย ถ้าดีใจที่ได้เจอฉัน” เขาตอบความคิดในใจของหล่อนทันทีเมื่อได้ฟังจบ

“ไม่นะ ปล่อยฉันเถอะ ฉันไม่ต้องการแบบนี้ ฉันเป็นแค่สัตวแพทย์ตัวเล็กๆ เอง อย่าเลยนะคุณนาสูร”

เมื่อรู้แล้วว่าเขาเป็นใครก็ขอร้องให้เขาปล่อยตัวเองไป และรู้ด้วยว่าไม่ควรพูดหรือคิดในใจ เพราะเขารู้ทุกอย่างที่เธอคิดในใจ

“เธอไม่อยากไปจากเตียงฉันหรอกสาวน้อย ฉันรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังสับสนและอยากรู้จักฉันมากกว่านี้พุดซ้อน”

“น้องค่ะ เรียกฉันว่าน้อง”

ความปากไวของเธอทำให้เธอบอกชื่อเล่นตัวเองไปทันทีเมื่อเขาเรียกชื่อจริงตัวเอง พอมารู้ตัวว่าเผลอไปก็ไม่ทันแล้ว เมื่อได้ยินเสียงขำในลำคอและเขาส่งยิ้มเย้ยหยันมาให้ก็ทำให้รู้แล้วว่าตัวเองแพ้มาก แพ้ความหล่อราวเทพบุตรของคนเหนือร่าง ‘นี่มันคนหรือเทพบุตรองค์ใดกันแน่ ยิ่งมองยิ่งแพ้ ยิ่งมองยิ่งเหมือนฝัน’ แม้จะรู้ว่าคนตัวโตอ่านความคิดตัวเองได้ แต่ก็อดพูดในใจไม่ได้อยู่ดี

“สัมผัสดูสิว่าเป็นเทพบุตรหรือว่าคนธรรมดาน้อง”

เขาตอบความคิดในใจเธอทันทีพร้อมกับยกยิ้มมุมปากส่งให้คนตัวเล็กช่างสงสัยใต้ร่าง นาสูรอาศัยจังหวะมึนงงของสาวเจ้าใต้ร่างปลดเปลื้องเสื้อผ้าของเธอออกไปจากร่างเล็กทันที เขาไม่สนใจหรอกว่าหล่อนจะรู้สึกยังไงตอนนี้ สิ่งที่เขาสนใจคือความหอมความสาวของเธอมากกว่า

“อ่ะ...อื้อ” พุดซ้อนมารู้ตัวอีกทีก็ตอนมือใหญ่หยาบกร้านสัมผัสสองเต้าของตนเองที่เปลือยเปล่า เธอดิ้นกายถอยหนีออกจากใต้ร่างใหญ่ แต่เหมือนยิ่งดิ้นก็ยิ่งทรมานและรู้ว่าไม่รอด เธอรู้แล้วว่าเขาไม่ใช่คนธรรมดาแน่นอน อ่านอะไร คิดอะไรในหัว เขาตอบได้หมดทั้งๆ ที่ไม่ได้ปริปากพูดออกมาสักคำ

“อ่า...ยะ...อย่านะคุณนาสูร” เธอจับมือใหญ่ที่ขยุ้มขยำเต้าเปลือยตัวเองให้หยุดเมื่อรู้สึกว่ามันเจ็บและร้อนไหวแปลกๆ ที่เต้ากับความรู้สึกทรมานในท้องน้อย มันกำลังเล่นงานเธออยู่ในตอนนี้

หึหึ

มีเพียงเสียงขำเอ็นดูในลำคอดังลอดออกมาจากริมฝีปากหนาของชายร่างใหญ่เหนือร่าง นาสูรชอบเหลือเกินความไร้เดียงสาของเจ้าหล่อนใต้ร่าง เพียงเวลารวดเร็วเขาก็สามารถปลุกเร่าความต้องการให้พุดซ้อนได้ ตอนนี้เขาจัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองบ้าง เพียงเวลาอึดใจเดียวร่างใหญ่ก็คร่อมทับร่างเล็กเปลือยด้วยกายเปลือยเช่นกัน

ทันทีที่ร่างใหญ่ทาบทับมาอีกครั้งด้วยกายที่เปลือยไม่ต่างจากตนเอง เธอก็รับรู้ได้ถึงความร้อนรุ่มของเขา เหงื่อไคลเม็ดโตๆ ผุดขึ้นตามใบหน้าเธอและเขา พุดซ้อนอยากจะหนีแต่ก็อ่อนแรง อยากจะผลักไสก็เช่นกัน ร่างกายที่เคยมีพลังเยอะมากมายกลับไร้เรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน ที่ทำได้ตอนนี้มีเพียงแค่ดิ้นถอยหนีเบาๆ แต่ยิ่งดิ้นยิ่งร้อนในทรวงกาย

“อ่า...อยู่กับฉันคืนนี้สาวน้อย”

น้ำเสียงแหบแห้งเปล่งพร่ารดใบหน้าชื้นเหงื่อของพุดซ้อนทำให้เธอหลงไปกับน้ำเสียงพร่าห้าวทรงเสน่ห์ราวกับต้องมนตร์สะกดอีกครา

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel