บท
ตั้งค่า

เรื่องนาสูร บทนำ นับพันสามร้อยปี

วิ้วๆๆ

เสียงลมพัดแรงกระทบผิวกายกำยำของชายที่ใส่เพียงกางเกงสแล็คตัวเดียวติดตัว ท่อนบนเปลือยเปล่า นี่ก็หนึ่งพันสามร้อยปีแล้ว ที่เขาอยู่บนโลกใบนี้ เขาเป็นยักษ์ที่จำแลงกายเป็นมนุษย์ ทำตัวกลมกลืนกับมนุษย์ จนเวลาผ่านมานานหนึ่งพันสามร้อยปี เขาก็ยังโดดเดี่ยว ดวงตาสีแดงเพลิงจ้องมองไปในความมืด ตอนนี้เขาอยู่บนยอดเขาในป่าลึกทางเหนือของประเทศไทย นามของเขาคือ “นาสูร” มนุษย์อ่อนแอมักขำชื่อเขา บอกว่าชื่อเหมือนยักษ์ในละครพื้นบ้าน เขาได้แต่ขำในลำคอ ก็เขาคือยักษ์จริงๆ แต่ไม่ใช่ยักษ์ไร้สกุลแบบในละครพื้นบ้านของไทย

วิ้วๆๆ

เสียงลมยังคงปะทะผิวอกและหน้าหล่อของเขาเรื่อยๆ ตอนนี้เป็นเวลาเที่ยงคืนกว่า ตลอดเวลาหนึ่งอาทิตย์ที่เขาอดข้าวอดน้ำ และตอนนี้เขาออกจากการบำเพ็ญเพียรแล้ว และพร้อมจะกลับไปใช้ชีวิตปกติกับมนุษย์อ่อนแอแล้ว เขามองไปยังความมืดมิดเบื้องหน้าที่ตอนนี้เขายืนอยู่บนยอดเขาแล้วก็ได้ยินเสียงย่ำเท้าของคนสนิทตัวเองเข้ามาใกล้เรื่อยๆ จากด้านหลังเลยเอี้ยวหน้าหันไปดูและถาม

“มาแล้วเหรอพาที”

“ครับท่าน”

“ได้อะไรมากิน ตอนนี้ข้าหิวมาก” คนที่อดมาตลอดหนึ่งอาทิตย์เอ่ยถามด้วยความหิวโหย

“ได้กวางป่ามาหนึ่งตัวครับ”

พาทีที่ออกไปหาอาหารมาให้นายที่จะออกจากการบำเพ็ญเพียรก็อุ้มกวางป่าตัวหนึ่งพาดไหล่มาหานายพร้อมกับโยนกวางที่ยกอุ้มมาไปกับพื้นตรงหน้าทันที

“อือ...นายกินรึยัง”

“กินกวางไปแล้วหนึ่งตัวครับ”

“อืม...นายกลับไปเตรียมทุกอย่างที่บ้านรอฉันเถอะ ฉันกินอิ่มก็จะกลับเหมือนกัน”

ด้วยความที่ยุคสมัยเปลี่ยนไป เขาต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย และตอนนี้เขาเป็นคนยุค ไม่สิ ยักษ์ยุคสองพันยี่สิบแล้ว และเขาอยู่มาได้ยังไงตั้งพันสามร้อยปี เขาเป็นอมตะและอยู่กับมนุษย์ใจทรามได้ยังไง เขาก็จำแลงแปลงกายเป็นมนุษย์เก็บเขี้ยวยักษ์ คิ้วของเขา และทุกคนจะรู้จักเขาในนามเจ้าของฟาร์ม และมีโรงฆ่าสัตว์แปรรูปขายส่งไปยังห้างสรรพสินค้า ในฟาร์มของนาสูรมีพื้นที่พันสามร้อยไร่เท่าอายุของเขา และมีเลี้ยงหมู ไก่ วัว ควาย ม้า เป็ด แกะ และแพะ

“ครับท่าน” พาทีเอ่ยรับคำแล้วก็เดินจากไป

นาสูรมองเจ้ากวางป่าที่โชคร้ายในวันนี้แล้วเม้มปากแน่น เขาไม่ได้ชอบกินเนื้อ แต่ก็ต้องกินพวกมันเพื่อความอยู่รอด ถึงแม้จะเป็นยักษ์ แต่เขาก็ไม่เคยกินมนุษย์เลยสักครั้ง ตั้งแต่เกิดมาไม่เคยได้ลิ้มลองเนื้อมนุษย์ บรรพบุรุษของเขาได้บอกไว้ว่าหากได้ลิ้มลองเนื้อมนุษย์ครั้งหนึ่งก็จะโหยหาตลอด และจะเป็นยักษ์ที่โหดร้าย ถึงแม้ว่าลึกๆ แล้วอยากจะลิ้มรสเนื้อมนุษย์ดูสักครั้ง เพราะกลิ่นตัวของพวกมนุษย์อ่อนแอนั้นหอมน่ากินเหลือเกิน

มือใหญ่คว้าหยิบกวางป่าที่น่าสงสารขึ้นมากัดกินเหมือนกับว่ามันเป็นอาหารเลิศรสก็มิปาน เพียงเวลาไม่นานเจ้ากวางตัวน้อยก็เหลือแต่ซากกระดูก

เออ!

เมื่อท้องอิ่มก็เรอออกมาพร้อมเช็ดคราบเลือดตามมุมปากของตัวเองแล้วก็เปลี่ยนแปลงร่างให้กลับไปเป็นมนุษย์เพื่อจะกลับไปอยู่กับความเป็นจริงว่าตอนนี้ตัวเองคือใคร ตัวเองคือเจ้าของฟาร์มที่ใหญ่ที่สุดของภาค

ร่างเล็กเดินผ่านมาทางบ้านพักของเจ้าของฟาร์ม ที่แม้แต่ใครก็ไม่กล้าเข้ามาใกล้ แปลกและสงสัยตลอดระยะเวลาสามเดือนที่มาทำงานที่ฟาร์มนาสูรแห่งนี้ยังไม่เคยเจอเจ้าของฟาร์ม เจอแต่พาทีคนสนิทของเขา แต่หลายๆ เสียงที่เคยเจอก็บอกว่าท่านหล่อราวเทพบุตรลงมาจุติ เธอก็อยากเห็นเหมือนกันว่าจะจริงอย่างที่ทุกคนเล่าลือกันไหม แต่แปลกที่ทำไมทุกคนเรียกว่า ‘ท่าน’ หรือว่าจะอายุมากแล้ว

“ทำไมดูน่ากลัวจัง” หล่อนพึมพำกับตัวเองเมื่อมองไปในบ้านหลังใหญ่แต่ดูวังเวงพิกล ก็แม้แต่ไฟก็ยังดูสลัวไม่สว่าง และที่รู้มาอีกคือในบ้านไม่มีเด็กรับใช้ ไม่มีแม่บ้านคอยดูแล ในบ้านหลังใหญ่ตรงหน้าที่เธอยืนมองมีเพียงเจ้าของบ้านและคนสนิทเท่านั้นที่อาศัยอยู่

พุดซ้อน กิ่งกาญจน์ หรือน้อง สัตวแพทย์สาววัย 24 ปี ที่เพิ่งมาเป็นสัตวแพทย์ประจำฟาร์มนาสูร ตอนที่สมัครงานมาทางอีเมลก็แปลกใจกับชื่อฟาร์ม เพราะชื่อฟาร์มแปลก แต่ก็เป็นฟาร์มที่ใหญ่โตและมีชื่อเสียง ที่สำคัญคือเงินเดือนค่าตอบแทนสูงมาก และทำไมจะต้องคิดอีกเมื่อทางฟาร์มเรียกตัวมาสัมภาษณ์ พอผ่านก็ตอบตกลงเซ็นสัญญาทันที ก็เงินเดือนสูงใครจะไม่อยากได้ ยิ่งเศรษฐกิจแบบนี้ ที่ไหนจะให้เงินเดือนเดือนละสามหมื่นห้าไม่รวมโอที และที่พักก็ฟรี แถมมีข้าวกินสามมื้อด้วย ทำงานหกวันหยุดหนึ่งวันคือวันอาทิตย์ให้พักผ่อน ก็ถือว่าดีมากทีเดียวสำหรับพุดซ้อน

ด้านเจ้าของบ้านหลังใหญ่ได้ยินเสียงพึมพำดังมาจากด้านนอก แม้จะเป็นเพียงเสียงพึมพำเบาๆ แต่คนไม่ธรรมดาอย่างเขาได้ยินชัดเจน นาสูรปิดหนังสือปรัชญาที่อ่านเป็นประจำทันทีพร้อมกับเคลื่อนตัวรวดเร็วมาโผล่ที่ด้านหลังของหญิงสาวร่างเล็ก

เสียงลมหายใจอุ่นร้อนเป่ารดต้นคอทำให้พุดซ้อนรู้สึกขนลุกขนพองยกแขนเรียวเล็กโอบกอดตัวเองแล้วก้าวถอยหลัง แล้วก็ต้องหยุดนิ่งเมื่อรู้สึกว่าชนกับอะไรสักอย่างทั้งๆ ที่ข้างหลังเธอเป็นพื้นที่โล่งไม่มีต้นไม้และกำแพง ร่างน้อยหดตัวยืนนิ่งเกร็งไม่กล้าขยับ

“กลัวเหรอ?” น้ำเสียงทุ้มห้าวดังขึ้นข้างแก้มยิ่งทำให้พุดซ้อนหวาดกลัวกับน้ำเสียงเย็นเยือกของคนที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวเอง

“ไม่ต้องกลัวฉัน เธอมาทางไหนก็กลับไปทางนั้น” เขาขยับตัวถอยห่างจากร่างเล็กที่สูงเพียงระดับอกตัวเองเล็กน้อยเพื่อให้หล่อนคลายความหวาดกลัว

“คะ...ค่ะ” แล้วพุดซ้อนก็รีบใส่เกียร์วิ่งซอยเท้าหนีจากตรงนี้ไปอย่างรวดเร็วทันที โดยไม่คิดจะหันมามองเจ้าของเสียงเย็นเยือก

หึหึ

นาสูรขำในลำคอพร้อมยกมือขึ้นลูบคลึงสันกรามตัวเองไปมา แล้วดวงตาสีดำสนิทก็แปรเปลี่ยนเป็นสีไฟลุกทันที

“เด็กสอดรู้สอดเห็น” แล้วเขาก็หลับตาเคลิ้มซึมซับกลิ่นกายหอมๆ ของคนที่เพิ่งวิ่งจากไป เมื่อกลิ่นหอมของหล่อนทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายแปลกๆ แถมไม่เคยได้กลิ่นแบบนี้มาก่อนด้วย มันหอมแบบไม่ปรุงแต่งเหมือนผู้หญิงหลายคนที่พยายามยัดเยียดตัวเองให้เขา

บ้านต้องห้ามจริงๆ กลางวันว่าน่ากลัวแล้ว กลางคืนยิ่งแล้วใหญ่ เป็นไปได้จะไม่เฉียดตัวไปใกล้อีกแล้ว จะไม่ไปแล้ว ไม่อยากรู้อยากเห็น ไม่อยากเจอเจ้าของฟาร์มแล้ว แต่ก็นั่นแหละ มันแปลกทำไมเธอจะอยากเจอเจ้าของฟาร์มเจ้านายโดยตรงไม่ได้ล่ะ

เฮ้อ!

พุดซ้อนถอนหายใจออกมาเมื่อนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเจ้าของเสียงทุ้มต่ำน่ากลัวนั้นคือใคร เพราะไม่กล้าจะหันไปมอง พอมาตอนนี้ก็อยากเห็นเจ้าของน้ำเสียงที่ดังขึ้นข้างแก้มเมื่อคืน ไม่น่าเลย ไม่น่ากลัวจนไม่สนใจอะไร ไม่น่ากลัวจนต้องรีบวิ่งหนีกลับที่พักเลย

“หมอน้องถอนหายใจมีอะไรรึเปล่าครับ” น้ำเสียงทุ้มสุภาพเอ่ยถามขึ้นจากด้านหลัง พลช สัตวแพทย์หนุ่มวัย 30 ปี รุ่นพี่ที่ทำงานที่ฟาร์มแห่งนี้มาแล้วสี่ปี

“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่หมอไม้”

“วันนี้พี่จะเข้าไปในเมืองนะ หมอน้องอยากได้อะไรไหม หรือจะไปด้วยกัน” รุ่นพี่เอ่ยถาม

“น้องไปด้วยดีกว่าค่ะ พอดีของที่จะฝากพี่หมอไม้ซื้อให้ไม่ได้” เธอบอกเขายิ้มๆ แล้วสลัดเรื่องที่รบกวนในหัวออกแล้วลุกขึ้นยืนเต็มความสูงร้อยห้าสิบสามเซนติเมตรของตัวเอง พอยืนขึ้นเทียบกับพลชแล้วก็ต่างกันเหลือเกิน เธอดูแล้วรุ่นพี่น่าจะสูงประมาณร้อยแปดสิบเซนติเมตร

“งั้นพี่เอาของไปเก็บในห้องก่อนนะ และจะเปลี่ยนเสื้อด้วย” พลชเอ่ยบอกรุ่นน้องสาว ในฟาร์มหนึ่งพันสามร้อยไร่แห่งนี้มีแพทย์ประจำฟาร์มทั้งหมด 25 คน แต่ละคนทำงานแยกกันไปอยู่ประจำจุด และเขากับพุดซ้อนนั้นทำงานด้วยกันจึงสนิทกันเป็นพิเศษ

“น้องก็จะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเหมือนกันค่ะพี่หมอไม้ เพราะชุดนี้เปื้อนขี้หมูตอนไปฉีดยาให้พวกน้องๆ โดนดีดสะบัดขี้ใส่ เหม็นมาก” พูดแล้วก็ก้มลงมองเสื้อตัวเองที่เปื้อน

“อือ...งั้นเจอกันที่รถพี่นะครับ”

“ค่ะพี่” แล้วทั้งสองก็แยกจากกันไปคนละทาง

มุมปากหนาของคนที่อายุพันสามร้อยปียกยิ้มเล็กน้อยเมื่อได้ยินบทสนทนาของสัตวแพทย์ของตนเอง ก่อนจะหันมาสั่งงานพาทีคนสนิทที่ยืนอยู่ด้านหลังตัวเอง

“คืนนี้เธอต้องอยู่บนเตียงของฉัน” น้ำเสียงเรียบตึงเอ่ยสั่งงานคนสนิท

“ครับท่าน” พาทีรับคำยิ้มกริ่ม เพราะนานแล้วที่เจ้านายไม่สนใจในสตรีคนไหน แต่กับสัตวแพทย์สาวคนนี้ทำไมถึงต้องการ ถึงอยากรู้เหตุผล แต่ก็ไม่กล้าซักถามผู้เป็นนาย

นาสูรยกยิ้มยกมือขึ้นคลึงกลีบปากตัวเองไปมาเมื่อนึกถึงกลิ่นกายหอมๆ ที่สูดดมเมื่อคืนแล้วก็หลับตาเคลิ้บถึงยามที่เจ้าหล่อนบิดกายดิ้นเร่าอยู่ใต้ร่างยามเขาสอดใส่กระแทกกายเนื้อหนักหน่วงเข้าออกเป็นจังหวะ แค่เพียงคิดถึงเขาก็ร้อนรุ่มขึ้นมาแล้ว และมันก็ทำให้นาสูรอดสงสัยความต้องการตัวเองเหมือนกัน ทำไมถึงได้รู้สึกอยากแนบกายสัมผัสสัตวแพทย์สาว ทั้งๆ ที่ปกติแล้วเขาไม่เคยสนใจพนักงานของตัวเองเลย ยามกระหายกามเขามักจะให้พาทีไปจัดเตรียมสาวๆ จากในเมืองมาให้ตลอด แต่ครั้งนี้เพียงได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของหล่อน เขาก็อยากแนบอิงชิดใกล้มากกว่าที่ได้สัมผัสมาเมื่อคืน

หึหึ

พาทีเหลือบตามองเจ้านายที่อยู่ๆ ก็ขำออกมา เขารู้สึกขนลุกหวาดกลัวแทนผู้หญิงคนเมื่อกี้ขึ้นมาทันที ด้วยรู้จักเจ้านายดี ภายใต้ใบหน้าแสนจะเย็นชานั้นมันซุกซ่อนเทพแห่งกามไว้ หากผู้หญิงคนไหนถูกหมายมาดไว้แล้วไม่มีทางจะรอด และถึงขั้นหมดแรงคลานลงจากเตียงเลยทีเดียว

คนที่ไม่รู้อนาคตกำลังหัวเราะคิกคักกับรุ่นพี่ที่แสนจะอบอุ่น บอกได้เลยว่าตลอดระยะเวลาสามเดือนที่ได้ร่วมงานกัน ทำงานด้วยกัน เธอรู้สึกดีมาก แต่บอกไม่ได้ว่ามากกว่ารุ่นพี่รุ่นน้องไหม พุดซ้อนแยกตัวออกไปรับโทรศัพท์เมื่อเพื่อนรักโทรมาหา ส่วนพลชก็เดินเลือกซื้อของรอหญิงสาวที่มาด้วย

“ไงแก” ทันทีที่กดรับสายก็ทักปลายสายทันที

“หายเงียบไปเลยนะแก เนี่ยทำงานหรือจีบรุ่นพี่ฮึ” ฟ้าใสเอ่ยแซวมาใส่สาย เพราะเพื่อนรักชอบเล่าเรื่องสัตวแพทย์รุ่นพี่ที่ทำงานคู่กันให้ฟังเป็นปะจำ

“บ้าแก ใครจะจีบ เราแค่พี่น้องกัน ว่าแต่แกเถอะ ที่ฟาร์มแกไม่ยุ่งเหรอถึงโทรมาหาได้วันนี้”

“ไม่อ่ะ ว่างทั้งวัน แล้วแกเถอะ ว่างคุยไหมหรือยุ่งกับวัว ควาย หมู หมา กา ไก่ อยู่”

“ว่าง ออกมาซื้อของกับพี่หมอไม้”

“แหม! ละบอกไม่จีบ แต่มาซื้อของด้วยกันเนี่ยนะ ฉันว่าพี่หมอไม้หน้าตาดีเลยนะ หล่อชะลูดก้นปอดเลยแก” ก็เพื่อนชอบแอบถ่ายรูปส่งมาให้ดูและเธอก็กรี๊ดทุกครั้งที่เห็นรูปที่เพื่อนแอบถ่ายชายหนุ่มส่งมาให้

“ก็ไม่ได้จีบ แค่มาซื้อของ แค่นี้ก่อนนะแก ค่อยคุยกันใหม่ ฉันเกรงใจพี่หมอไม้น่ะ ติดรถพี่เขามา”

“อือ...แล้วค่อยคุยกัน ว่าแต่ไม่จีบแน่นะ ถ้าไม่...ฉันขอนะแก”

“อือ...ไม่จีบ” เธอยืนยันไม่เต็มเสียงพร้อมกดวางสายจากเพื่อนแล้วเดินกลับไปหาคนที่เดินเลือกซื้อของในร้านรอท่าตัวเองอยู่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel