LOVE 6 | น่าสนใจกว่าเมื่อก่อน
“เรารู้จักกันด้วยเหรอ” วีร่าเอ่ยถามพร้อมกับช้อนสายตามองเจ้าของส่วนสูงกว่าหนึ่งร้อยเก้าสิบเซนติเมตรด้วยแววตาเย็นชา แม้ว่าจะจำเขาได้ตั้งแต่วินาทีแรกที่สบตากันก็ตาม
“หือ? ผ่านไปแค่ไม่กี่ปีจำกันไม่ได้แล้วเหรอ” คนถูกถามแค่นหัวเราะในลำคอราวกับได้ยินเรื่องน่าขำขัน ลากไล้ดวงตามองใบหน้าสะสวยผ่านแววตาเจ้าเล่ห์ ก่อนจะยกมือขึ้นมาจับผมสีดำสนิทของเธออย่างถือวิสาสะ “คิดว่าทำผมสีดำแล้วพี่จะจำเราไม่ได้เหรอ”
“อย่ามาแตะต้องคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตสิคะ” หญิงสาวปัดมือหนาออกจากผมตัวเองอย่างแรง ชักสีหน้าไม่สบอารมณ์ใส่
“ยังดื้อเหมือนเดิมเลยนะ” ไมเคิลจ้องลึกเข้าไปในดวงตาคู่สวยสีน้ำตาลอ่อนซึ่งเขารู้ว่ามันไม่ใช่สีตาที่แท้จริงของเธอ แม้จะผ่านมานานหลายปีแต่ก็ยังจำสีของมันได้อย่างชัดเจน
“…” วีร่าถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างหงุดหงิดเมื่อคนตัวสูงโน้มหน้าลงมาใกล้กว่าเดิม “ทำเป็นไม่รู้จักกันมันจะตายเหรอคะ”
“ยังชอบทำร้ายจิตใจคนอื่นไม่เปลี่ยนเลยนะ”
“ช่วยไม่ได้…” วีร่าจ้องลึกเข้าไปในดวงตาสีอำพันพลางยิ้มเย้ยหยัน “…ก็พี่เป็นคนอยากเข้ามาเอง วีผิดเหรอ?”
“ไม่เห็นต้องทำท่าทางรังเกียจใส่พี่เลยนะ พี่แค่อยากมาทักทายก็เท่านั้นเอง”
“วีบอกแล้วไงคะว่าไม่อยากรู้จัก”
“น่าเสียดาย พี่อยากรู้จักเรามากกว่าเมื่อก่อนนะ” ไมเคิลพ่นควันบุหรี่ลอยขึ้นไปบนอากาศ โยนทิ้งมันลงบนพื้นแล้วดับขยี้มันด้วยรองเท้าหนังราคาแพง ก่อนจะยกมือเกี่ยวปลายผมของวีร่าขึ้นมาสูดดมเบาๆ
“พี่ไมค์” วีร่าเค้นเสียงลอดไรฟันเมื่ออีกฝ่ายกำลังทำท่าทีคุกคามเธอ แม้เธอจะไม่ได้หวาดกลัวกับท่าทางของเขา แค่รู้สึกไม่พอใจเพราะเธอไม่ได้ต้องการให้เขาทำแบบนี้
“ได้ยินเราเรียกชื่อพี่อีกครั้งแล้วรู้สึกดีจังเลยนะ อย่างน้อยก็ควรเรียกอดีตแฟนลับๆ ให้มันน่ารักกว่านี้หน่อย”
“…” หญิงสาวกัดปากเบาๆ เมื่ออีกฝ่ายพูดถึงอดีตที่ผ่านมาระหว่างเธอกับเขา หากไม่ใช่เพราะตอนนั้นเธออยากเล่นสนุกกับความรู้สึกของเขาก็คงไม่ยอมตอบตกลงคุยกับเขามากกว่าพี่น้องแบบลับๆ “วีไม่เห็นจำได้ว่าเราเคยเป็นอะไรแบบนั้นกันนะ พี่คงไม่ได้คลั่งวีจนคิดไปเองหรอกใช่ไหม?”
“คิดไปเองเหรอ พี่ว่าไม่น่าจะใช่นะ” ไมเคิลเลิกคิ้วเป็นเชิงถาม ก่อนจะตวัดแขนโอบรอบเอวเล็กดึงเข้ามาแนบชิดกับร่างกาย
“ปล่อย”
“ถ้าพี่ไม่ปล่อยล่ะ เราจะทำอะไรพี่เหรอ”
“ไมเคิล” วีร่าเค้นเสียงอย่างไม่สบอารมณ์ ยิ่งเธอแสดงท่าทีไม่พอใจ เขาก็ยิ่งกอดรัดเอวเธอแน่นกว่าเดิม
“ถ้าจำไม่ผิดนี่น่าจะเป็นครั้งแรกที่เราเรียกชื่อเต็มๆ ของพี่เลยนะ แต่ไม่ค่อยชอบเท่าไร มันห่างเหินไปสักหน่อย” ไมเคิลโน้มใบหน้าลงมาใกล้ใบหูเล็ก พ่นลมหายใจอุ่นๆ เจือกลิ่นบุหรี่เย็นๆ รดรินจนวีร่าหายใจไม่ทั่วท้อง
“ที่ทำแบบนี้ไม่ใช่เพราะโกรธที่วีเลิกคุยกับพี่ก่อนใช่ไหม? ถ้าเป็นแบบนั้นวีคงจะรู้สึกดีไม่น้อยเลย” วีร่ายกมือดันแผงอกแกร่ง แล้วเชิดหน้ามองเขาด้วยรอยยิ้มมุมปาก บ่งบอกถึงความเย้ยหยันได้เป็นอย่างดี
“พี่คิดว่าพี่ควรจะโกรธเรื่องนั้นนะ แต่พอเจอหน้าเราอีกครั้งก็รู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องรู้สึกอะไรกับมันสักเท่าไร” เพราะเขารู้ตั้งแต่แรกอยู่แล้วว่าวีร่าตั้งใจเล่นกับความรู้สึกของเขา ตอนนั้นเธอเป็นเด็กที่คาดเดายาก แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเขา
“งั้นวีว่าเราก็ไม่มีเหตุผลอะไรต้องมารู้จักกันอีกแล้วนะ”
“คิดว่างั้นเหรอ?”
“หรือพี่ยังชอบวีอยู่? ถ้าเป็นเรื่องจริงมันคงจะน่าขำมากเลยนะ” วีร่าแค่นหัวเราะอย่างสมเพช หากสิ่งที่เธอคิดมันเป็นความจริง ไมเคิลก็คงถูกเธอเล่นสนุกกับความรู้สึกอีกเหมือนเดิม
“หึ”
“ปล่อย! วีจะเข้าไปข้างในแล้ว”
“ไม่สนใจไปดื่มกับพี่สักหน่อยเหรอ?”
“วีว่าวีแสดงออกชัดเจนแล้วนะว่าไม่อยากรู้จักพี่ไมค์อีก ช่วยทำเหมือนเราไม่รู้จักกันจะดีมาก” หญิงสาวยกมือผลักแผงอกแกร่งอย่างแรงจนอีกฝ่ายก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว เธอมองเขาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนจะก้าวขาเดินกลับเข้ามาในโกดัง ทิ้งให้ไมเคิลยืนอยู่ที่เดิมเพียงคนเดียว
“น่าสนใจกว่าเมื่อก่อนอีกนะ” ริมฝีปากหนาแสยะยิ้มร้ายกาจพร้อมกับยกกระป๋องเบียร์ขึ้นมากระดกรวดเดียวจนหมด แล้วโยนมันทิ้งลงพื้นอย่างไม่ไยดี แลบลิ้นขึ้นมาเลียริมฝีปากพลางนึกถึงกลิ่นกายเย้ายวนของวีร่า ดูเหมือนจะถึงเวลาที่เขาจะเปลี่ยนมาเล่นสนุกกับเธอบ้างเสียแล้ว
“ไอ้คิงยังไม่ออกมาอีกเหรอ” วีร่าเอ่ยถามหาเพื่อนสนิททันทีที่เดินกลับเข้ามาในโกดัง จากนั้นจึงหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาที่เดิม “มันเข้าไปเช็กของหรือเขาไปผลิตของกันแน่”
“เบื่อแล้วเหรอ เพิ่งมาได้แป๊บเดียวเองนะ” เป็นเจคอปที่เปล่งเสียงถามวีร่าแทนการตอบคำถาม เขาเห็นสีหน้าหงุดหงิดของเธอได้อย่างชัดเจน
“นิดหน่อยค่ะ”
“คงมีคนทำให้หงุดหงิดใช่ไหม”
“ประมาณนั้นค่ะ” วีร่ากรีดยิ้มส่งให้กับเลวิสที่ถามเธออย่างรู้ทัน แน่นอนว่าวีร่าไม่ได้คิดจะปฏิเสธอยู่แล้ว เพราะหากพวกเขาดูไม่ออกก็คงไม่ถามคำถามเหล่านั้นออกมา
“อยากไปเล่นสนุกกับฉันไหม? ฉันช่วยทำให้หายหงุดหงิดได้นะ”
“ข้อเสนอดูน่าสนใจนะคะ แต่ปกติฉันมีที่ระบายอารมณ์อยู่แล้ว แต่ถ้าคุณเลวิสสนใจจะต่อคิวก็ได้” วีร่ายกมือเท้าคางแล้วส่งสายตายั่วยวนให้กับมาเฟียหนุ่มตรงหน้าอย่างนึกสนุก
“เลิกแรด” เอเรสว่าให้พี่สาวเสียงดังพลางถอนหายใจออกมาอย่างเอือมระอา
“ปีนเกลียวไอ้เด็กผี” หญิงสาวหยัดตัวลุกจากโซฟาอีกครั้งเมื่อหางตาเธอเหลือบไปเห็นเจ้าของดวงตาสีอำพันก้าวขาเดินกลับเข้ามาในโกดังอีกครั้ง
“จะไปไหน”
“ไปหาไอ้คิงในโกดะ…” ยังไม่ทันที่วีร่าจะพูดจบเสียงคิงก็ดังแทรกขึ้นมาเสียก่อน เขาเดินออกมาพร้อมกับมือขวาคนสนิทซึ่งวีร่ารู้จักเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
“คิดถึงฉันมากขนาดนั้นเลยเหรอวีร่า”
“ก็แกหายไปนาน ฉันก็ต้องคิดถึงสิ” วีร่าเดินนวยนาดเข้าไปกอดลำคอของคิงไว้หลวมๆ ทำเอาคนถูกกระทำถึงกับหรี่ตามองหน้าเธอด้วยความสงสัย เพราะนี่เป็นครั้งที่วีร่าพูดจาอะไรแบบนี้
“เป็นอะไรของเธอ” คิงกระซิบถามข้างใบหูเล็กให้ได้ยินกันเพียงสองคน ก่อนจะโอบเอวของวีร่าเดินมานั่งที่โซฟาหลังจากเธอส่ายหัวปฏิเสธ
“ฉันนั่งตักแกได้ไหม…” ร่างเล็กทิ้งศีรษะลงบนแผงอกของเพื่อนรักอย่างออดอ้อน ยิ่งทำให้คิงสงสัยในท่าทางของเธอมากเข้าไปใหญ่ วีร่าไม่รอให้เพื่อนได้ตอบหรือปฏิเสธอะไร เธอเขยิบตัวขึ้นไปนั่งตักของเขาอย่างถือวิสาสะ ทำเอามาเฟียทั้งสามคนแค่นหัวเราะอย่างชอบใจ เพราะรู้ว่าเธอทำแบบนี้เพื่ออะไร
“ผมเช็กของทั้งหมดแล้ว ทุกอย่างเรียบร้อย สามารถนัดส่งของล็อตแรกได้เลย” คิงเลือกที่จะไม่สนใจการกระทำของวีร่า เขาหันไปพูดกับหุ้นส่วนของตัวเองเสียงเรียบ แล้วยกมือขึ้นมากอดเอวเล็กไว้หลวมๆ
“แกเสร็จงานแล้วใช่ไหม”
“อยากกลับแล้ว?”
“นี่สี่ทุ่มกว่าแล้ว ฉันขอไปนอนห้องแกนะ”
“ตามใจ” คิงพยักหน้าเป็นเชิงตกลง ก่อนจะดันวีร่าให้ลุกขึ้นยืนแล้วจึงลุกตาม “งั้นผมขอกลับก่อนแล้วกัน”
“ดูเหมือนความสัมพันธ์ของมึงกับเด็กคนนั้นจะไม่ราบรื่นอย่างที่คิดนะไอ้ไมค์…” เมื่อคิงและวีร่าเดินลับสายตาไป เสียงกระแนะกระแหนของเจคอปก็ดังขึ้น
“หึ มันก็ไม่ได้ยากสำหรับกูหรอก” ไมเคิลแค่นเสียงเย้ยหยันในลำคอ สำหรับเขาถ้าอยากครอบครองอะไร ไม่ว่าจะต้องใช้วิธีไหน เขาก็ต้องเอามันมาอยู่ในกำมือให้ได้
####พี่ไมค์จะทำอะไรคะ คิดแผนอะไรชั่วๆ ไว้หรือเปล่า 555555555555 ปราบเด็กดื้อซะหน่อยยยยย ?
**หากเจอคำผิดสามารถพิมพ์บอกให้คอมเมนต์ได้เลยนะคะ ไรท์อ่านทุกคอมเมนต์งับบ***
แค่คนละหนึ่งคอมเมนท์ หนึ่งไลก์ไรท์จะได้มีกำลังใจเขียนมากขึ้นนะคะ?
????????