HURTS 7 | โดนแกล้ง
“เรื่องนี้ไม่เห็นอยากเหมือนเลย”
“แล้วเรื่องไหนอยากเหมือน” ฟาริสเลิกคิ้วถามเด็กสาวด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก พลางจิบเบียร์ในมือไปด้วย
“เรื่องที่บอกหน้าเหมือนแฟนในอนาคตมั้งคะ” เมื่ออีกฝ่ายอยากตั้งใจจะแกล้งเธอ เธอก็อยากลองสู้เขากลับดูสักตั้ง อยากให้เขาเสียอาการแบบที่ชอบแกล้งเธอบ้างสักนิดก็ยังดี
“หืม?”
“ถ้าหยีอยากให้แฟนในอนาคตหน้าเหมือนคุณฟาริสได้ไหมคะ” ยาหยีโน้มเข้าไปใกล้คนตัวสูง แล้วขยิบตาด้วยท่าทางน่ารัก ทำเอาฟาริสถึงกับชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นเจ้าเล่ห์ออกมา
“รู้ไหมว่าตอนนี้เธอนั่งอยู่ในห้องฉัน”
“รู้ค่ะ”
“ไม่กลัวเหรอ?”
“อืมมม…” หญิงสาวยกมือเกาคางตัวเองพลางทำหน้าครุ่นคิด ก่อนจะคลี่ยิ้มหวานแล้วตอบคำถามเมื่อสักครู่นี้ของคนตัวสูง “หยีไม่กลัวค่ะ”
“ไม่กลัวจริงเหรอ” ริมฝีปากหนาหยักยิ้ม แล้วเป็นฝ่ายโน้มเข้าไปใกล้อีกฝ่ายมากกว่าเดิม ยาหยีรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นเจือกลิ่นบุหรี่อ่อนๆ ก่อนที่ปลายนิ้วอุ่นเรียวยาวของเธอจะแตะลงบนปลายจมูกโด่งคม
“แบบนี้เรียกว่ากลัวไหมคะ”
“หึ กล้าขึ้นเยอะเลยนะ” เบียร์ในกระป๋องถูกกระดกดื่มจนหมด ก่อนจะถูกทิ้งร่วงหล่นลงบนพื้นจนเกิดเสียงเบาๆ เพียงแค่เสี้ยววินาทีสะโพกมนก็ถูกช้อนด้วยสองมือหนา แล้วอุ้มขึ้นมานั่งคร่อมบนตักแกร่ง แวบหนึ่งฟาริสเห็นแววตาตื่นกลัวของเด็กสาวแต่ก็ไม่ได้คิดจะสนใจมัน เพราะเขาอยากลองแกล้งเธอดูอีกสักหน่อย “ฉันไม่มีอะไรให้เธอกลัวเลยเหรอ”
“…” เธอเริ่มรู้สึกกลัวสายตาที่ลากไล้ไปทั่วใบหน้าเธอของเขาเสียแล้วสิ มันสามารถทำให้เธอร้อนวูบวาบจนเรือนร่างขาวอมชมพูเปลี่ยนเป็นสีแดงจัด
“ว่ายังไง จะไม่ตอบเหรอ” ไม่ว่าเปล่าฟาริสยังเลื่อนมือไปปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตของเด็กสาวอย่างไม่รีบร้อน…เมื่อเม็ดแรกหลุดไปและเม็ดที่สองก็หลุดตามในอีกไม่กี่วินาทีต่อมา เผยให้เห็นร่องอกขาวเนียนน่ามันเขี้ยว “ถ้าไม่ตอบฉันจะปลดทั้งหมดแล้วนะ”
“กะ…กลัวขึ้นมานิดหน่อยค่ะ”
“แค่นิดหน่อยเองเหรอ” ฟาริสแค่นเสียงหัวเราะกับคำบอกกล่าวของหญิงสาวที่ไม่ตรงกับสีหน้าและแววตาของเธอเลยสักนิด และในเมื่อเธอไม่ยอมตอบออกมาตามความจริง เขาจึงเลือกที่จะปลดกระดุมเม็ดต่อไปจนเกือบหมด
พรึ่บ! มือเล็กทั้งสองข้างจับมือหนาไว้แน่น ในตอนที่เขากำลังจะปลดกระดุมสองเม็ดสุดท้ายของเธอออก หากเธอยอมให้เขาปลดมันจนหมด มีหวังเธอได้แก้ผ้าต่อหน้าเขาอีกครั้งแน่นอน
“ยะ…หยีกลัวก็ได้ค่ะ”
“กลัวก็ได้? มันแปลว่ายังไม่กลัวนะ”
“หยีกลัวค่ะ หยีกลัวแล้ว” ยาหยีทำหน้ามุ่ย แล้วรีบจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ แล้วพยายามปีนลงจากตักแกร่งไปในนั่งที่โซฟาเหมือนเดิม เพราะรู้สึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่มันกำลังดุนดันอยู่กับใจกลางความเป็นสาว
“จะรีบลงไปไหนล่ะ”
“…”
“ไม่ต้องกลัวฉันหนักหรอกนะ เธอตัวเล็กนิดเดียวเอง…” ทั้งที่ฟาริสรู้ว่าเป็นเพราะอะไร แต่ก็ยังโอบเอวเล็กไว้หลวมๆ ไม่ยอมให้เธอลงไปนั่งที่เดิมตามต้องการ “…หรือว่าเธอกลัวอะไรบนตักฉัน?”
“…” ยาหยีกัดปากแน่น เมื่อถูกสะโพกของเธอถูกกดให้สัมผัสกับส่วนนั้นของเขาอย่างแนบชิด รับรู้ได้ถึงความใหญ่โตจนน่าใจหาย
“เธอเริ่มทำเหมือนคนเป็นใบ้แล้วนะ” มาเฟียหนุ่มเอื้อมมือไปด้านหลังดึงหนังยางมัดผมออก ส่งผลให้ผมสีน้ำตาลสุขภาพดีสยายไปทั่วแผ่นหลัง ก่อนที่เขาจะเกี่ยวมันขึ้นเล่นราวกับเป็นของเล่นชิ้นโปรด
“ก็คุณฟาริสชอบแกล้งหยีนี่คะ”
“แต่เมื่อกี้เธอตั้งใจเอาคืนฉันไม่ใช่เหรอ”
“หยีแค่หยอกเล่นนิดเดียวเอง”
“แต่ฉันไม่ได้คิดจะหยอกนะ” รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมคาย ก่อนที่จะเลื่อนมันเข้าไปใกล้ใบหูเล็ก “ฉันเอาจริง”
“ถะ…ถ้าแบบนั้นต้องป้องกันนะคะ” ฟาริสกลั้วหัวเราะกับคำพูดของเด็กสาว เขายกมือขยี้ผมเธออย่างเอ็นดู “คุณฟาริสขำอะไรคะ”
“คิดไปถึงไหน”
“…”
“เธออยากเสียครั้งแรกให้ฉันเหรอ?”
“ระ…รู้ได้ยังไงคะ”
“คิดว่าฉันเจอผู้หญิงมากี่คนถึงคิดว่าฉันจะไม่รู้ แค่เห็นท่าทางตื่นกลัวของเธอ ฉันก็ดูออกแล้ว” แค่โดนแตะเนื้อต้องตัวนิดหน่อยก็สั่นเป็นลูกหมาตกน้ำ ไหนจะแววตาสั่นระริกของเธออีก “แต่ถ้าเธออยากลองฉันก็ไม่ติดนะ”
“หยียังไม่อยากลองค่ะ หยีกลัว”
“กลัวไว้ก็ดี เพราะฉันเป็นผู้ชาย”
“ถ้าหยีอยากติดต่อกับคุณฟาริสอีกจะได้ไหมคะ” ยาหยีต้องรวบรวมความกล้าของตัวเองกว่าจะเปล่งคำนี้ออกมาได้ เพราะเธออยากรู้จักกับเขามากกว่าลูกค้ากับพนักงาน
“หมายถึง?”
“หมายถึงหยีขอเบอร์โทรศัพท์หรือไลน์ของคุณฟาริสเก็บไว้ได้ไหมคะ”
“อยากเอาไปทำไมล่ะ”
“…”
“ฉันจะให้ถ้าเธอบอกว่าอยากได้ไปทำไม”
“หยีอยากคุยกับคุณฟาริสมากกว่านี้…ให้หยีได้ไหมคะ” แววตาออดอ้อนของเด็กสาว ทำเอาฟาริสรู้สึกมันเขี้ยวเธอขึ้นมาเสียอย่างนั้น “เวลาคุณฟาริสจะมาที่คลับก็สามารถบอกหยีก่อนได้”
“เอาโทรศัพท์ของเธอมาสิ” เมื่อได้ยินแบบนั้นยาหยีก็รีบเอี้ยวตัวไปหยิบกระเป๋าสะพายที่วางอยู่บนโซฟาตั้งแต่เมื่อคืนเพื่อเอาโทรศัพท์ของตัวเองออกมาส่งให้กับคนโตกว่าทันที
“ขอบคุณค่ะ” ริมฝีปากเล็กคลี่ยิ้มกว้างอย่างดีใจ ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าเหมือนเดิม “ตอนนี้เสื้อผ้าหยีจะแห้งหรือยังคะ”
“น่าจะอีกสักพัก”
“หยีรบกวนเวลามากเกินไปหรือเปล่าคะ ถ้าหยีจะขอยืมเสื้อตัวนี้กลับบ้านก่อน แล้วหยีจะซักมาคืนให้ทีหลัง”
“แค่เสื้อตัวเดียวฉันไม่ได้หวงหรอก แต่เธอมีชุดชั้นในใส่กลับบ้านเหรอ”
“ไม่ค่ะ” เธอลืมไปเสียสนิทว่าตอนนี้นอกจากเสื้อเชิ้ตที่สวมใส่อยู่ก็ไม่มีอะไรปกปิดของสงวนด้านในเลย “งั้นหยีรอให้เสื้อผ้าแห้งก่อนก็ได้ค่ะ”
“อืม”
นานหลายนาทีที่ยาหยีลอบมองใบหน้าคมคายที่กำลังจดจ้องอยู่บนหน้าจอทีวีอย่างไม่ละสายตา เธอยังนั่งอยู่บนตักแกร่งของเขา ทั้งที่เธอสามารถลงไปนั่งที่เดิมได้ แต่กลับไม่อยากทำ…เธอรู้สึกอยากใกล้ชิดเขามากกว่านี้
“มองหน้าฉันทำไม”
“อ๊ะ! เปล่าค่ะ”
“เปล่าอะไร ก็เห็นอยู่ว่ามอง”
“ก็หน้าคุณฟาริสมันดึงดูดสายตาหยีนี่คะ” ทุกส่วนบนใบหน้าของเขามันเพอร์เฟกต์ไปเสียหมดทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นดวงตาสีเทาหม่น จมูกโด่งคมเป็นสัน หรือริมฝีปากหยักได้รูป…ที่เคยจูบเธอหลายต่อหลายครั้ง “คุณฟาริสเป็นลูกครึ่งเหรอคะ”
“เปล่า”
“แต่คุณฟาริสพูดภาษาไทยชัดกว่าหยีอีกนะ”
“ฉันอยู่ไทยตั้งแต่เจ็ดขวบ”
“อ๋อ~ เข้าใจแล้วค่ะ” ยาหยีเผลอยกมือขึ้นมาแตะจมูกเขาเบาๆ อย่างลืมตัว ทำให้ฟาริสละสายตาจากหน้าจอทีวีมามองเธออีกครั้ง
“?”
“?”
“ทำหน้างงอะไร เธอแตะจมูกฉันสองรอบแล้วนะ”
“ก็เหมือนกับที่คุณฟาริสชอบอุ้มหยีขึ้นมานั่งบนตักนี่คะ”
“ยอกย้อนผู้ใหญ่” ฟาริสว่าให้เด็กสาว ก่อนจะยกมือตีปลายจมูกเชิดรั้นเบาๆ ทำเอาคนโดนกระทำหัวเราะร่วน
“หยีเพิ่งเคยเจอมาเฟียใจดีแบบคุณฟาริสครั้งแรกเลย”
“ฉันไม่ได้ใจดีขนาดนั้น” อาจจะเป็นเพราะว่าเขาเริ่มอายุมากขึ้นเลยไม่ค่อยสนใจเรื่องราวรอบข้างมากมายนัก ซึ่งต่างจากเมื่อก่อนโดยสิ้นเชิง
“ปกติลูกค้าที่มาที่คลับมีแต่ดุๆ ทั้งนั้นเลย แต่หยีก็ต้องทำตามหน้าที่ตัวเอง แม้ว่าบางคนจะชอบดูถูกอาชีพของหยีก็เถอะ”
“อาชีพ?”
“พวกเขาชอบคิดว่าคนที่ทำงานกลางคืนมักจะเป็นผู้หญิงขายบริการด้วยมั้งคะ หยีเคยเกือบโดนลูกค้าซื้อตัวด้วยนะ แต่หยีไม่ยอม เพราะหยีให้ความสำคัญกับครั้งแรกของตัวเองมาก ต่อให้หยีจะจนตรอกยังไง หยีก็ไม่ยอมขายศักดิ์ศรีของตัวเองเด็ดขาด”
“แต่เมื่อกี้เธอเพิ่งจะบอกให้ฉันป้องกันอยู่เลยนะ”
“…” เพราะฟาริสเป็นคนที่เธอชอบละมั้ง ถึงอยากจะลองเสี่ยงดูสักครั้ง “แต่หยีก็ไม่ได้ขายนี่คะ หยีเลือกเอง”
“แปลว่าถ้าเป็นฉันเธอก็จะยอม?”
“ก็อาจจะค่ะ”
“เธอควรคิดให้ดีก่อนตอบนะ”
“แล้วถ้าหยีบอกว่าหยีคิดดีแล้วละคะ”
“งั้นก็ช่วยไม่ได้ละนะ” สิ้นเสียงพูด มาเฟียหนุ่มก็รั้งท้ายทอยเล็กเข้ามาประกบจูบแนบชิด มอบสัมผัสดูดดื่มให้กับคนตัวเล็กอย่างช่ำชอง ในขณะที่มืออีกข้างของเขาสอดเข้ามาลูบไล้สะโพกมนเปลือยเปล่า ลากไล้มาจนถึงใต้ราวนมเขาสัมผัสย้ำๆ ตรงนั้นอยู่ครู่ใหญ่ ก่อนจะเลื่อนขึ้นไปกอบกุมหน้าอกอวบแล้วบีบเคล้นมันเต็มแรง
“คะ…คุณฟาริส” สติที่กระเจิดกระเจิงถูกกระชากกลับมาเพราะความเจ็บที่อีกฝ่ายมอบให้ เธอยกมือดันแผงอกแกร่งของเขาไว้ “ยะ…หยีว่าหยีไม่พร้อมค่ะ”
“หึ ฉันบอกแล้วว่าให้คิดดีๆ ก่อน” ที่เขาทำเพราะต้องการเตือนเด็กสาวเอาไว้ว่าผู้ชายทุกคนสามารถทำเรื่องอย่างว่าได้โดยไม่ได้คิดอะไร แต่สำหรับผู้หญิงควรจะคิดไตร่ตรองให้ดีเสียก่อน
“หยีเข้าใจแล้วค่ะ”
“รีบไปอาบน้ำไป เดี๋ยวฉันไปส่งที่บ้าน”
“ค่ะ” ยาหยีรีบก้าวลงจากตักแกร่ง แล้ววิ่งเข้ามาในห้องนอนของฟาริสอย่างรวดเร็ว เธอยกมือทาบอกตัวเองเบาๆ เมื่อก้อนเนื้อในอกข้างซ้ายมันเต้นบ้าคลั่งยิ่งกว่าเมื่อวานเสียอีก
—————————————————
##ฟาริสอบอุ่นง่าาา~ จะอบอุ่นแบบนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกันนะ 55555555 แล้วน้องหยีอะไรคะลูก แม่จะตีให้นะ ทำไมชอบเล่นกับไฟ อยากสู้แด๊ดดี้ แต่แด๊ดดี้สู้กลับ ?
**หากเจอคำผิดสามารถพิมพ์บอกให้คอมเมนต์ได้เลยนะคะ”