บท
ตั้งค่า

HURTS 6 | เด็กกำพร้า

“เลิกตีโพยตีพายแล้วไปนั่งรอที่โต๊ะอาหาร” ฟาริสเอ่ยสั่งเด็กสาวที่กำลังทำสีหน้าเว้าวอนด้วยน้ำเสียงราบเรียบ

“คะ?”

“หรือต้องให้ฉันอุ้มไป?” ไม่ว่าเปล่าฟาริสยังทำท่าจะช้อนตัวเธอขึ้นจากพื้น แต่ยาหยีกลับรีบเด้งตัวลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว แล้วก้าวถอยหลังออกห่างจากเขาสองสามก้าว

“ไม่เป็นไรค่ะ หยีเดินเองดะ…ว๊ายยย!” ยาหยีร้องออกมาด้วยความตกใจที่จู่ๆ ฟาริสก็กระชากเธอกลับไปนั่งอยู่บนตักเขาคร่อมบนตักเขา แล้วอุ้มกระเตงเธอลุกขึ้นยืน ส่งผลให้เรียวขาเล็กโอบรัดเอวสอบไว้แน่น บั้นท้ายกลมกลึงถูกช้อนไว้ด้วยมือหนาทั้งสองข้าง

“พูดรู้เรื่องตั้งแต่ทีแรกก็จบ”

“ยะ…หยีเดินเองได้”

“นึกว่าอยากให้อุ้มอีก” ฟาริสกระตุกยิ้มที่มุมปาก แล้วเหลือบสายตามองใบหน้าสะสวยที่ซบอยู่บนบ่าของเขาเล็กน้อย ก่อนจะก้าวเท้ายาวๆ มาที่โต๊ะรับประทานอาหารที่มีอาหารจัดวางไว้อย่างสวยงาม “ต้องให้ฉันป้อนด้วยไหม”

“มะ…ไม่ค่ะ” เมื่อได้ยินเสียงประหม่าของเด็กสาวปฏิเสธ เขาจึงวางเธอลงบนเก้าอี้แล้วเดินอ้อมมานั่งฝั่งตรงกันข้าม ก่อนที่เธอจะเอ่ยถามขึ้นมา “คุณฟาริสทำเองเหรอคะ”

“อืม”

“เก่งจังเลยนะคะ หยีเป็นผู้หญิงยังทำอาหารไม่เป็นเลย”

“ของแบบนี้ฝึกบ่อยๆ ก็ทำได้แล้ว มันไม่ได้ยากขนาดนั้นหรอก” เขาบอกด้วยน้ำเสียงราบเรียบแล้วลงมือกินอาหารฝีมือของตัวเอง ลอบมองเด็กสาวที่ทำสีหน้ายิ้มแย้มเมื่อได้กินอาหารรสชาติถูกปากไปด้วย…ตอนนี้เขาเหมือนกับเห็นหลานสาวนั่งอยู่ตรงหน้ายังไงยังงั้น ไม่ว่าจะเป็นอายุที่ใกล้เคียง สีผม ดวงตา หรือใบหน้าที่คล้ายคลึงกัน

“อร่อย…”

“อร่อยก็กินให้หมด”

“หยีกินนิดเดียวก็อิ่มแล้วค่ะ อีกอย่างมันไม่ใช่เวลาที่หยีจะกินอาหารด้วย” เธอใช้ส้อมจิ้มไส้กรอกใส่ปาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมาคลี่ยิ้มให้กับคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้มสดใส

“นี่แปดโมงเช้ามันเป็นเวลาอาหารเช้า”

“ปกติหยีตื่นบ่ายโมง เลยได้กินข้าวเช้าตอนนั้นค่ะ”

“ปกติเธอทำงานเลิกกี่โมง”

“ก็จนกว่าคลับจะปิดค่ะ น่าจะตีสองกว่าๆ”

“แล้วเรียนจบอะไรมา”

“บัญชีค่ะ”

“ทำไมไม่ไปหางานที่มันปกติทำล่ะ”

“หยีบอกเหตุผลไปแล้วนี่คะ หยีต้องหาเงิน”

“แต่มันทำให้การใช้ชีวิตของเธอมันไม่ปกติ”

“คุณฟาริสทำเสียงเหมือนดุหยีเลยนะคะ…” ยาหยีหลอกล้อ แล้วแค่นหัวเราะออกมาเบาๆ “…แต่หยีชินกับชีวิตแบบนี้ไปแล้วละค่ะ”

“ถ้าอยากเปลี่ยนงานก็ติดต่อหาฉัน ฉันสามารถฝากงานให้เธอได้”

“ขอบคุณค่ะ แต่หยีขอคิดดูก่อนแล้วกันนะคะ พอดีหยีเห็นแก่เงินนิดหน่อย” หญิงสาวรับรู้ได้ถึงความห่วงใยบางอย่างจากคนโตกว่า เขาดูอบอุ่นมากกว่าตอนอยู่ที่คลับเสียอีก ยิ่งได้นั่งมองเขากินข้าวแบบนี้ ยิ่งทำให้เธอเผลอยิ้มกว้างออกมาโดยไม่รู้ตัว “วันนี้คุณฟาริสไม่ไปทำงานเหรอคะ”

“ไม่ล่ะ ไม่มีงานสำคัญอะไร”

“งั้นหยีขอรบกวนอยู่ที่นี่อีกสักพักนะคะ หยีรอเสื้อผ้าแห้ง”

“มันไม่ได้รบกวนอะไรหรอก เธอจะอยู่ที่นี่ก่อนก็ได้”

“หยีรู้สึกประหลาดใจ…” ยาหยีพึมพำออกมาอย่างไม่รู้ตัว กว่าที่เธอจะได้สติว่าตัวเองพูดอะไรออกไป ก็เห็นคิ้วหนาขมวดเข้าหากันเสียแล้ว

“…”

“เอ่อ…หยีแค่รู้สึกประหลาดใจนิดหน่อยที่คุณฟาริสดูเป็นคนใจดีมากกว่าที่คิดน่ะค่ะ ไม่เหมือนมาเฟียที่หยีเคยเจอเลย”

“ฉันมีหลานสาวรุ่นราวคราวเดียวกับเธอ”

“ก็เลยเอ็นดูหยีเหรอคะ”

“อืม” จะพูดอย่างนั้นก็ไม่ผิด เพราะเขารู้สึกเอ็นดูเด็กสาวจริงๆ เธอมีอะไรบางอย่างที่ทำให้เขาถูกใจเหมือนกับใครคนหนึ่ง “เธอคล้ายกับหลานสาวของฉัน”

“หมายถึงหน้าคล้ายหรือนิสัยคล้ายกันคะ”

“ทั้งสองอย่าง” ยาหยีมองตามสายตาคมของฟาริสไปหยุดอยู่ที่กรอบรูปสวยงามบนฝาผนัง มันปรากฏรูปถ่ายระหว่างเขากับผู้หญิงคนหนึ่งที่มีใบหน้าคล้ายคลึงกับเธออย่างไม่น่าเชื่อ แต่สิ่งหนึ่งที่เธอสังเกตได้คือแววตาที่ฟาริสมองไปยังหลานสาวมันมีอะไรบางอย่างที่ไม่ใช่แค่ความเอ็นดู…แต่เป็นสายตาของความรักมากกว่า และเป็นความรักในเชิงชู้สาว

“หลานแท้ๆ เลยเหรอคะ เธอหน้าไม่คล้ายกับคุณฟาริสเลย”

“ลูกของเพื่อนสนิท” เมื่อได้รับคำตอบแบบนั้นยาหยีก็กระจ่างทันทีว่าทำไมสายตาของฟาริสถึงมองหลานสาวแบบนั้น เพราะเขากำลังแอบรักหลานสาวตัวเองสินะ “แต่หน้าคล้ายเธอนะ”

“ค่ะ คล้ายหยีเลย” ยาหยียิ้มตอบ แล้วก้มหน้ากินอาหารต่อเงียบๆ ในขณะที่ฟาริสช้อนสายตามองท่าทีเปลี่ยนไปของเด็กสาวด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่ได้เอ่ยปากถามอะไรออกไป จนกระทั่งทั้งสองคนกินอาหารกันจนเสร็จเรียบร้อย

“เธอจะอาบน้ำก่อนก็ได้นะ เดี๋ยวอีกสักพักลูกน้องฉันจะเอาเสื้อผ้ามาให้”

“เดี๋ยวหยีรอชุดของหยีดีกว่าค่ะ” ยาหยีหยัดตัวลุกจากเก้าอี้ จัดการเก็บจานอาหารบนโต๊ะเดินเข้ามาในห้องครัวเพื่อล้างทำความสะอาด

“เธอไม่ต้องทำก็ได้ ปล่อยไว้แบบนั้นแหละ เดี๋ยวฉันทำเอง”

“ไม่เป็นไรค่ะ หยีมารบกวนคุณฟาริสตั้งหนึ่งคืนให้หยีทำเถอะค่ะ”

“ตามใจ” ฟาริสไม่ได้โต้แย้งอะไรมากไปกว่านั้น เห็นว่าเธออยากทำก็ไม่คิดจะขัด ก่อนเปิดตู้เย็นหยิบเบียร์หนึ่งกระป๋องมาถือไว้ แล้วเดินมาหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาพลางหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบฆ่าเวลา

ไม่นานนักยาหยีก็เดินออกมาจากห้องครัว ทำให้ฟาริสละสายตาจากทีวีไปมองเธอ มันดูแปลกตาเล็กน้อยที่เธอรวบผมขึ้นเป็นหางม้า เพราะปกติเธอจะปล่อยผมยาวตลอดเวลาที่เจอกัน

“คุณฟาริสอยู่ที่นี่คนเดียวเหรอคะ”

“อืม”

“ไม่เหงาเหรอคะ หยีอยู่คอนโดเล็กๆ คนเดียวยังเหงาเลย”

“ฉันชินแล้ว” เขาอยู่คนเดียวแบบนี้มาเกือบทั้งชีวิต ถ้าไม่ชินเลยก็คงแปลกไปหน่อย แต่บางครั้งมันก็มีความเหงาแทรกเข้ามาในจิตใจ แต่ก็จางหายไปเพียงแค่เสี้ยววินาที

“…” น้ำเสียงของฟาริสที่พูดออกมามันดูราบเรียบ แต่กลับมีบางอย่างแอบแฝงจนทำให้ยาหยีเงียบไป หันสบตากับเขาเล็กน้อยในตอนที่กำลังหย่อนตัวนั่งลงบนโซฟาตัวเดียวกัน

“คิดว่าฉันโกหกเหรอ?”

“เปล่าค่ะ หยีเข้าใจความรู้สึกนั้นมากๆ เลย เพราะหยีอยู่คนเดียวมาตั้งแต่อายุสิบแปด…ถึงก่อนหน้านั้นจะมีเพื่อนในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า แต่มันก็ไม่เหมือนกัน หยีไม่เคยได้รับความอบอุ่นจากพ่อแม่ที่แท้จริงของตัวเองเลยสักครั้ง…หยีเคยรู้สึกอยากฆ่าตัวตายเพราะความแปลกแยก เพราะคำว่าเด็กไม่มีพ่อไม่มีแม่ที่คนอื่นชอบใช้เรียกหยี” เด็กสาวก้มหน้าลงระบายความรู้สึกออกมา ไม่รู้ว่าทำไมเธอถึงกล้าพูดแบบนั้นกับคนที่เพิ่งเจอกันแค่สองครั้ง แต่อาจจะเป็นเพราะว่าสายตาของเขาก็ดูเคว้งคว้างไม่ต่างจากเธอละมั้ง

“โตมาด้วยตัวเองได้ขนาดนี้ก็เก่งมากแล้ว” ฟาริสเอื้อมมือไปลูบศีรษะของเด็กสาวอย่างอ่อนโยนคล้ายกำลังปลอบประโลมจิตใจให้เธอ “อยากฟังเรื่องของฉันบ้างไหมล่ะ”

“ถ้าคุณฟาริสอยากเล่าหยีก็จะฟังค่ะ”

“ฉันก็เป็นเด็กกำพร้าเหมือนกัน เกิดมาจากครอบครัวที่สภาพแวดล้อมย่ำแย่…มันแย่มากถึงขั้นที่พ่อแม่ของฉันฆ่ากันเองจนตายในบ้าน สุดท้ายฉันก็ไม่เหลือใครนอกจากพี่ชายฝาแฝด…”

“…”

“…ฉันกับพี่เคยพากันกระโดดน้ำฆ่าตัวตายแต่สุดท้ายก็ไม่ตาย เพราะมีคนมาช่วยไว้ได้ทันและก็เป็นคนเดียวกับที่เก็บฉันเลี้ยงมาตั้งแต่เด็กๆ เขาเป็นผู้มีพระคุณที่ทำให้ฉันรู้ว่าตัวเองได้พบกับแสงสว่างอีกครั้ง” ฟาริสระบายยิ้มเมื่อเห็นแววตาวูบไหวของเด็กสาว “เห็นไหม ฉันกับเธอเหมือนกันอีกแล้วนะ”

—————————————————

###เหมือนกันไปหมดทุกอย่างแหละค่ะคุณสองคนน่ะ แด๊ดดี้เหมือนเห็นตัวเองตอนเด็กๆ สินะคะ ถึงเอ็นดูว่าที่เมียขนาดนี้ ? ผู้มีพระคุณคนนั้นก็คือแอลตันพ่อของเอริณงับ ?

**หากเจอคำผิดสามารถพิมพ์บอกให้คอมเมนต์ได้เลยนะคะ”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel