EP 7 | งานใหม่
“ถ้าแล้วแต่พี่...ไปห้องพี่มั้ยคะ”
“กลับบ้านเลยดีกว่าค่ะ”
ฉันรีบปฏิเสธกลับไปทันที คุณธีโอหัวเราะเล็กน้อยกับท่าทางของฉันแต่เขาไม่ได้แสดงอาการหงุดหงิดอะไรออกมาเลย เขากลับมองฉันด้วยสายตาเอ็นดูด้วยซ้ำ
ระหว่างทางที่นั่งรถกลับเราคุยเล่นกันไปเรื่อย ฉันไม่ได้รู้สึกประหม่าเวลาที่อยู่กับเขาแล้วแถมเขายังจับมือฉันตลอดเวลาและหมุนพวงมาลัยด้วยมือข้างเดียวแทน คนอะไรติดสกินชิพสุดๆ
“หนูอยู่บ้านกับใครเหรอคะ”
คุณธีโอเอ่ยถามเมื่อเขาจอดรถที่หน้ารั้วบ้านแต่ตอนนี้ในบ้านไม่มีใครอยู่หรอกนะคะพี่สาวของฉันออกไปทำงานส่วนพี่เขยก็เพิ่งเจอที่บริษัทนั่นแหละ
“อยู่กับพี่สาวและพี่เขยค่ะ”
“อ๋อ ก็เลยหาห้องเช่าเพราะอยากออกไปอยู่คนเดียวใช่มั้ยคะ”
“ใช่ค่ะ”
ฉันไม่อยากเล่าปัญหาในครอบครัวให้เขาฟัง พอมันเป็นเรื่องที่ไม่ดีก็เลยไม่อยากทำให้คนที่รับฟังรู้สึกไม่ดีไปด้วย
“ขอบคุณมากนะคะที่มาส่งแล้วก็ขอบคุณสำหรับไอติมด้วยค่ะ”
“พี่ไม่ได้ให้กินฟรีๆ สักหน่อยค่ะ”
เอาอีกแล้ว น้ำเสียงกับสายตาเจ้าเล่ห์แบบนี้ไม่น่าไว้วางใจเลยจริงๆ ฉันหรี่ตามองเขาอย่างจับผิดทำให้เจ้าตัวหัวเราะออกมาเบาๆ
“พี่ขอจีบหนูได้มั้ยคะ”
“O_O”
แวบหนึ่งที่สีหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นมาก่อนจะส่งรอยยิ้มหวานให้จนฉันเดาไม่ถูกว่าตอนนี้เขากำลังพูดจริงหรือพูดเล่น
“คุณธีโอชอบฉันเหรอคะ”
“ค่ะ พี่ชอบหนู”
“เราเพิ่งรู้จักกันแค่สองวันเองนะคะ”
“พี่ชอบหนูตั้งแต่วินาทีแรกที่เราเจอกันเลยค่ะ”
คำตอบตรงไปตรงมาของเขายิ่งทำให้ฉันอึ้งเข้าไปใหญ่ ก่อนที่จะตั้งสติได้ว่าเขาเป็นคาสโนว่านี่คงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะชอบใครได้ง่ายๆ และฉันก็คงไม่ใช่คนแรกที่เขาจะชอบตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ
“หนูไม่ต้องให้คำตอบพี่ตอนนี้ก็ได้ค่ะ ลองดูๆ พี่ไปก่อน^^”
อึ้งค่ะ!
ไม่คิดว่าคนที่หล่อ รวยเพียบพร้อมอย่างเขาจะมาขอจีบผู้หญิงธรรมดาๆ อย่างฉัน
“ฉันขอคิดดูก่อนแล้วกันค่ะ”
“แค่หนูบอกว่าจะเก็บไปคิดพี่ก็ดีใจแล้วค่ะ”
ดูเขาพูดสิ!
แบบนี้ฉันก็ใจอ่อนยวบน่ะสิ คนอะไรทำไมถึงได้มีเสน่ห์แพรวพราวขนาดนี้นะ ท่องไว้เจนิส! อย่าเป็นเหยื่อ อย่าเป็นเหยื่อ อย่าเป็นเหยื่อ
“งั้นฉันขอตัวก่อนนะคะ”
“ค่ะ เดี๋ยวพี่กลับถึงบริษัทแล้วจะไลน์หานะคะ”
ฉันเปิดประตูลงจากรถก่อนจะโบกมือตอบกลับคนในรถที่กำลังโบกมือมาให้แล้วขับรถกลับออกไป
“เฮ้อออ~ จะรอดมั้ยวะเนี้ย”
เอี๊ยดด!
ทันทีที่รถคุณธีโอขับออกไปจนลับสายตา รถสปอรต์สีแดงเพลิงก็ขับมาจอดที่หน้าบ้านของฉันแทน ใครวะ?
ผู้หญิงคนหนึ่งเปิดประตูลงมาจากรถ เธอสวมชุดมินิเดรสสีดำ ผมยาวสลวยสีน้ำตาลพัดปลิวไปตามแรงลมในขณะที่ขาเรียวกำลังก้าวเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าฉันก่อนจะถอดแว่นกันแดดออก
เธอเป็นคนที่สวยแซ่บคนหนึ่งเลยล่ะแต่ประเด็นคือฉันไม่รู้จักเธอและมั่นใจว่าเราไม่เคยคุยกันมาก่อน
“มาหาใครคะ”
“ฉันมีธุระจะคุยกับเธอ”
“เรารู้จักกันด้วยเหรอคะ”
ดวงตาคู่สวยกลอกตามองบนเล็กน้อยราวกับกำลังรำคาญกับคำถามของฉัน เป็นพฤติกรรมที่ไม่น่ารักเลยนะที่แสดงต่อหน้าคนเพิ่งเจอกันครั้งแรก
“เธอชื่อเจนิส แม็กซ์ วัลดัสเป็นคนที่ธีโอกำลังให้ความสนใจอยู่ใช่มั้ยล่ะ”
ประโยคของเธอทำให้ฉันเข้าใจสถานการณ์ตรงหน้าทันที เธอคงจะเป็นหนึ่งในผู้หญิงสักคนของคุณธีโอแล้วก็ตามสืบเรื่องฉันสินะ
แต่นี่แค่สองวันเองนะ ทำไมผู้หญิงสมัยนี้ถึงได้สืบกันเก่งขนาดนี้ล่ะเนี้ย
“ฉันคือเจนิสค่ะ แต่ไม่ใช่คนที่คุณธีโอกำลังสนใจหรอกค่ะ เขาก็สนใจผู้หญิงทุกคน”
ฉันตอบกลับพลางส่งยิ้มไปให้ ยังไม่ทันไรเลยมีผู้หญิงตามมาหาฉันถึงที่บ้านแล้วถ้าไม่ติดเรื่องค่าจ้างสอนพิเศษที่สูงลิ่วล่ะก็ ฉันคิดว่าฉันควรถอยห่างออกจากความอันตรายแบบนี้
“หึ! ฉันรู้จักธีโอดีฉันรู้ว่าการกระทำแบบไหนที่บ่งบอกว่าเขากำลังสนใจเธออยู่เพราะฉะนั้นฉันมีข้อเสนอจะยื่นให้เธอ”
คงจะเอาเงินฟาดหัวฉันแล้วก็บอกว่า ‘ออกไปจากชีวิตของเขาซะ’ นี่มันพล๊อตละครน้ำเน่าหรือเปล่า
“สิบล้าน”
“ฉันไม่...”
“ทำให้เค้าหลงรักเธอ”
“ห๊ะ?”
ฉันแทบจะยกมือขึ้นมาแคะหูเผื่อว่าฉันจะหูฝาดแล้วฟังผิดไป เมื่อกี้ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้บอกให้ฉันเลิกยุ่งกับคุณธีโอแต่เธอบอกให้ฉันทำให้คุณธีโอหลงรักเนี้ยนะ
“และฉันจะจ่ายให้อีกสิบล้านเมื่อเธอเฉดหัวเขาทิ้งได้อย่างไม่ไยดี”
จู่ๆ ดวงตาของเธอก็แดงก่ำขึ้นมาแต่เธอไม่ได้จะร้องไห้ ดูจากมือทั้งสองข้างที่กำลังกำแน่น ร่างบางสั่นเล็กน้อยด้วยแรงโทสะ เธอน่าจะกำลังแค้นอยู่มากกว่า
“ทำไมถึงต้องทำแบบนั้นด้วยคะ”
“ฉันต้องการให้เขาลิ้มลองรสชาติของความเจ็บปวดจากการถูกคนที่รักหักหลัง ฉันอยากเห็นเขาจะเป็นจะตายเวลาเจ็บจนใจจะขาดบ้าง”
หัวใจของฉันกระตุกวูบกับประโยคที่เธอพูดออกมา ฉันกำลังรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้อยากให้สิ่งที่เธอพูดเกิดขึ้น ฉันไม่อยากเห็นเขาเสียใจอีกอย่างฉันคงรู้สึกไม่ดีมากแน่ๆ ถ้าฉันเป็นคนที่ทำให้รอยยิ้มสดใสของเขาหายไป
“ฉันไม่...”
“ตกลงค่ะ!”
เสียงพูดที่ดังขึ้นข้างหลังของผู้หญิงคนนั้นทำให้เราทั้งคู่รีบหันกลับไปมองและคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเธอก็ทำให้ฉันตาโตขึ้นมาทันที
“แม่!”
แม่ของฉันตอนนี้อยู่ในสภาพที่แทบจะดูไม่ได้เลย ร่างกายผอมโซ เผ้าผมรุงรังแถมตามใบหน้ายังมีรอยช้ำจากการถูกทำร้ายเต็มไปหมด
เกิดอะไรขึ้น!
ทำไมแม่ถึงได้กลายเป็นแบบนี้!
“ลูกสาวฉันจะทำตามข้อเสนอของคุณแน่นอนค่ะ แต่เรื่องเงินสิบล้านฉันขอเป็นเงินสดและนำมาให้ก่อนเริ่มงานนะคะ”
“แม่!”
“เงียบไปเลยแกอ่ะ!”
แม่เดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ข้างผู้หญิงคนนั้นก่อนจะรับปากเองเสร็จสรรพไม่เว้นช่องว่างให้ฉันได้ปฏิเสธอะไรออกไปเลย
“หึ! พูดง่ายๆ แบบนี้ก็ดี พรุ่งนี้ฉันจะเอาเงินสดและเอกสารสัญญามาให้หวังว่าคงจะไม่เบี้ยวนัดนะ”
“ฉันก็หวังว่าคุณจะไม่เบี้ยวนัดเหมือนกันค่ะ”
ผู้หญิงคนนั้นขับรถออกไปแล้วและแม่ก็ลากแขนฉันเดินเข้าไปในบ้าน จนเราเดินมาถึงห้องนั่งเล่นฉันก็สะบัดมือของแม่ออกทันที
“แม่ทำอะไรลงไป! ไปรับปากเธอแบบนั้นได้ยังไง”
ฉันไม่เข้าใจเลยว่าแม่ไปรับปากส่งๆ แบบนั้นได้ยังไงหรือเห็นแค่ว่าเงินดีก็รีบรับปากไปทันที
“เงินตั้งยี่สิบล้านนะโว้ย! แกทำงานทั้งชาติก็ไม่มีทางได้เงินก้อนขนาดนี้หรอก”
“แต่สิ่งที่เธอให้ทำมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ นะ แม่รู้มั้ยว่าผู้ชายที่เธอจะให้หนูไปหลอกนะคือเจ้าของบริษัทแคสเซียนแอร์ไลน์ เขาคือหัวหน้ากลุ่มแคสเซียนกลุ่มมาเฟียที่ใหญ่ที่สุดในเมืองบาเลนเซีย!”
“จริงเหรอ...แบบนี้ก็ดีน่ะสิ”
ค่ะ! คำอธิบายของฉันไม่ได้ทำให้แม่รู้สึกกลัวขึ้นมาเลยสักนิด ท่านกลับทำตาเป็นประกายราวกับกำลังมีไอเดียใหม่
“งั้นเราก็รับเงินจากนังนั่นมาก่อนสิบล้าน แล้วแกก็ไปเข้าหาผู้ชายคนนั้นหลอกเงินมันมาอีกสักหน่อยแล้วค่อยเขี่ยทิ้ง”
“แม่!”
นี่คือคนที่ฉันเรียกว่าแม่มาทั้งชีวิตจริงๆ เหรอ
ไม่อยากจะเชื่อเลย!
“หรือแกอยากเห็นฉันตาย! แกดูสภาพฉันตอนนี้สิเจ้าหนี้มันตามทวงหนี้ฉันยิกๆ ถ้าไม่มีเงินไปให้มันแม่แกได้กลายเป็นศพข้างถนนแน่ๆ!”
“ก็เรื่องของแม่สิ!”
เพียะ!
“อิลูกทรพี!”