EP 3 หลานผู้น่ารัก
มาร์ค
“เป็นไงบ้าง” ผมเอ่ยถามปลายสาย
“อืม ขอบใจมาก” คุยจบผมก็วางสายไป เอนหลังพิงกับโต๊ะทำงาน มันคงถึงเวลาแล้วสินะ
ขอแนะนำตัวก่อนเลยนะครับ ไม่รู้ว่าทุกคนจะจำผมได้รึเปล่า ผมมาร์ค มาโคเวล ผมยังไม่เคยแนะนำอย่างเป็นทางการ ตอนนั้นเป็นได้แค่ตัวสำรอง แต่เรื่องนี้ผมจะเป็นพระเอก ฮ่าๆ ตอนนี้ผมก็เรียนจบแล้วแยกย้ายจากเพื่อนๆ มาได้สี่ปีแล้ว พวกนั้นก็แต่งงานมีลูกมีเมียหมดแล้ว เหลือแต่ผมนี่แหละที่ยังไม่พร้อมจะมีใคร แต่ในไม่ช้านี่ไม่แน่
ตอนนี้ผมมารับช่วงต่อจากบริษัทของครอบครัว เป็นบริษัทเกี่ยวกับการผลิตสื่อสิ่งพิมพ์ งานสื่อโฆษณาครบวงจร ผมได้มาอยู่ในตำแหน่งนี้ 4 ปีได้แล้วหลังจากเรียนจบ
“คิว เคน เตรียมรถหน่อยจะไปเยี่ยมหลาน” ผมกดโทรศัพท์ออกไปข้างนอก เพื่อบอกเลขาหน้าห้อง จะว่าเลขาก็ไม่ถูกเพราะทั้งสองคนเป็นเหมือนบอดี้การ์ด ที่ค่อยดูแลผม ถึงธุรกิจที่ผมทำจะไม่อันตรายมาก แด๊ดกับมัมก็ยังไม่วางใจเลยหาบอดี้การ์ดมาให้ เพราะว่าตระกูลผมก็เป็นตระกูลเก่าแก่ที่สืบเชื้อสายมาจากมาเฟีย แด๊ดผมพึ่งจะวางมือเมื่อไม่นานมานี่เอง แต่ศัตรูที่มันแค้นครอบครัวเรากลัวว่ามันจะไม่ยอมวางมือเราเลยกันไว้ก่อน ไปไหนมาไหนเลยมีคนคอยคุ้มครอง ตอนที่เรียนอยู่ใช่ว่าผมจะไม่มีคนคอยคุ้มครองนะ เพียงแต่พวกนั้นไม่แสดงตัวเพราะผมอยากมีชีวิตที่ปกติ
ผมจัดการเซ็นต์เอกสารอีกนิดหน่อยแล้วก็เดินออกมาจากห้องทำงาน
“ไปเลยไหม” เคนเอ่ยถามผมขึ้น
“อืม แวะซื้อของเล่นด้วยนะ” ผมบอกมัน พวกมันสองคนก็เดินตาม สองคนนี้อยู่กับผมมาตั้งแต่ผมเริ่มทำงาน เป็นคนที่ผมไว้ใจที่สุดเลยก็ว่าได้ เพราะอายุเราไล่เลี่ยกัน เคนจะเป็นคนอารมณ์ดี เฮฮา ขี้เล่น บางครั้งก็กวนตีน เหมือนผมนี่แหละ แต่ก่อนผมอาจจะเป็นอย่างนั้นแต่ตอนนี้ผมเป็นผู้ใหญ่ขึ้น เลยต้องสุขุมหน่อยเพื่อความน่าเชื่อถือในหน้าที่การงานให้ลูกน้องเกรงใจ แต่เวลาอยู่กับเพื่อนหรือครอบครัวผมก็ยังเป็นเหมือนเดิม ส่วน คิว จะเป็นคนเงียบๆ มีเหตุผล ใจเย็น เล่นบ้างเป็นบางครั้ง สองคนนี้เป็นที่ปรึกษาได้ดีเลยทีเดียว เรียกได้ว่าเป็นทั้งลูกน้องทั้งเพื่อนเลยก็ว่าได้
“ครับ” พอขึ้นมาบนรถ รถก็ทะยานออกไปสู่ห้างสรรพสินค้าชื่อดัง พอไปถึงผมก็เดินตรงไปยังแผนกของเล่น มันอาจจะแปลกหน่อยที่ผู้ชายจะไปเลือกของเล่น ยิ่งผู้ชายหน้าตาดีอย่างผมแล้วด้วยยิ่งเป็นจุดสนใจ
แต่ใครสน ผมอยากเลือกของเล่นให้หลานๆ ด้วยตัวเอง เลือกอยู่นานผมก็ได้ของเล่นที่คิดว่าหลานๆ จะชอบ
“อามาร์ค” ผมลงจากเล่นแล้วก็เดินเข้าไปในบ้าน ก็เจอกับเจ้าตัวแสบคนแรก
“ว่าไงสุดหล่อ สบายดีไหม” ผมทักทาย จีเดย์ นั่นล่ะครับชื่อลูกชายของเจสัน ปกติจะเรียกแค่จี แต่ชื่อเต็มๆ คือจีเดย์
“สบายดีครับ”
“อามาร์คขา” แล้วเสียงหวานๆ ของอีกคนก็ดังขึ้น พร้อมกับตัวเล็กๆ ป้อมๆ วิ่งเข้ามาหาผม ผมก็อ้าแขนรับทันที
“ว่าไงคะ สุดสวย”
“คิดถึงอามาร์คจังเลยค่ะ” เธอวิ่งเข้ามาหาผม แล้วกระโดดกอดคอผมที่นั่งย่องๆ อยู่ ผมก็ฟัดแก้มนุ่มๆ ไปสองที
“ไอ้มาร์คแกปล่อย น้องแจนเดี๋ยวนี้” เสียงเย็นๆ ของคนที่ห่วงลูกสาวก็ดังขึ้น ผมหันไปแล้วเลิกคิ้วมองมัน ไอ้นี่ขี้ห่วงไม่เลิก
“อะไรของแกวะ น้องแจนครับดูแด๊ดเราดิ” ผมหันไปถามมัน แล้วก็พูดกับน้องแจน ลูกคนเล็กของมันชื่อน้องแจน ไม่สิ จะว่าคนเล็กก็ไม่ถูกเพราะมันได้ลูกแฝดครับ น่ารักน่าหยิกมาก แต่ก็ซนมากเหมือนกัน
“แด๊ดอย่าดุอามาร์คสิคะ” น้องแจนนี่ปกป้องผมครับ เด็กๆ ทั้งสองคนเหมือนจะไม่ถูกกับพ่อสักเท่าไหร่ เหตุผลเพราะว่าพ่อชอบเอาตัวแม่ของพวกเขาไปเก็บไว้นานๆ ซึ่งไอ้เจสันมันก็ทำอย่างนั้น จนลูกพาลโกรธมันไปด้วย
“น้องแจนอ่ะ ไม่เข้าข้างแด๊ดเลย” มันทำท่าง้อแงเหมือนเด็กๆ ซึ่งมันก็ทำให้ผมหลุดหัวเราะออกมา หลังจากที่มันมีลูกแล้วมันก็ดูขี้เล่นอารมณ์ดีมากกว่าแต่ก่อนเยอะ
“ทุกคนมาทำอะไรตรงนี้คะ อ้าวพี่มาร์ค พี่คิว พี่เคน มาเยี่ยมเด็กๆ เหรอคะ” ลูกน้ำภรรยาสาวแสนสวยของไอ้เจสันที่เดินมาสมทบพูดขึ้น
“ใช่ครับ เด็กๆ อามีของเล่นมาให้ด้วยนะ เคนเอามาดิ” ผมบอกพร้อมกับเรียกเขาของเล่นที่เคนถืออยู่
“สวัสดีค่ะ อาเคน อาคิว”
“สวัสดีครับ อาเคน อาคิว” เด็กทั้งสองที่พึ่งจะเห็น เคนกับคิวก็หันไปสวัสดี ผมก็ยิ้มให้กับความน่ารักของเด็กๆ ถือว่าลูกน้ำเลี้ยงลูกได้ดีมาก
“สวัสดีครับ นึกว่าจะไม่เห็นอาเคนสุดหล่อซะแล้ว อ่ะนี่ครับของเล่น นี่ของน้องแจนสุดสวย ส่วนนี่ของน้องจีสุดหล่อครับ” เคนที่ได้โอกาสก็เล่นใหญ่ ไอ้นี่มันเข้ากับเด็กๆ ได้ดีไม่เหมือนกับไอ้คิวที่ไม่ค่อยพูดแต่เด็กก็ไม่ได้กลัวมันนะ
“ขอบคุณครับ/ขอบคุณค่ะ” เด็กรับของขวัญก็ยิ้มร่างเริงใหญ่
“ไหนล่ะครับรางวัลของอา” ตาผมบ้างที่จะขอรางวัลยื่นแก้มไปให้เด็กๆ ซึ่งก็รู้หน้าที่
“เยอะไปไอ้มาร์ค” ผมเหลือบตามองเจสันที่ห้ามผมและลูกๆ จะอะไรของมันนักหนา ก็แค่เด็กหอมแก้ม
“อะไรของมึง” ผมหันถามมัน
“ขอบคุณก็พอไม่ต้องหอม” นั้นไงว่าแล้ว
“เด็กๆ ว่าไงครับอยากให้รางวัลอาไหม” ผมไม่สนใจอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงของมันหันไปถามเด็กๆ แทน
“ให้ค่ะ แม่น้ำบอกว่าคนทำดีต้องได้รางวัล” ดีมากครับน้องแจน
“น้องแจนลูก”
“พี่เจ อย่าเยอะ” ผมยิ้มสะใจให้มันที่ทั้งเมียทั้งลูกไม่เข้าข้าง บางครั้งก็แอบสงสาร
“ชิ” มันได้แต่สบถได้คอแล้วก็หันหน้าไปมองทางอื่น
จุ๊บ จุ๊บๆ เด็กทั้งสองคนก็ยื่นปากเล็กนุ่มๆ มาจุ๊บที่แก้มผมคนล่ะข้าง ชื่นใจจริงๆ ปากเด็กนี่มันน่ารักจริงๆ ถึงผมจะชอบปากของสาวๆ มากกว่าก็เถอะ
“ครับ ไปเถอะเด็กๆ ปล่อยให้แด๊ดขี้น้อยใจอยู่ตรงนี้เถอะ” เมื่อได้รับรางวัลแล้วผมก็ชวนเด็กๆ เข้าบ้าน
“ครับ/คร๊าบ” ผมจูงมือเด็กๆ เดินที่ห้องรับแขก โดยมีไอ้เจสันยืนหน้าถมึงทึงอยู่ข้างหลัง มันมักเป็นแบบนี้แหละเวลาผมกับไอ้บีมมาหา เด็กๆ ก็จะไม่สนใจมัน เพราะหันมาสนใจพวกผมแทน โดยเฉพาะถ้าไอ้บีมมานะ มันหมดความสำคัญไปเลย เพราะไอ้บีมมันมีน้องหนูดีมาด้วย เจ้าจีเดย์มันก็พุ่งความสนใจไปที่เมียของไอ้บีมทันที ถึงสองคนนั้นจะไม่มีลูกเพราะอยากใช้ชีวิตด้วยกันให้มันคุ้มก่อนแต่ก็รักเด็กมาก ช่วงนี้ผมก็ได้ยินไอ้บีมบ่นๆ แล้วว่าอยากมีลูกแล้วเหมือนกันไม่รู้ว่าตกลงกับเมียได้รึยัง
“นั่งก่อนเลยค่ะ เดี๋ยวน้ำไปเอาน้ำมาให้” ผมเดินไปนั่งโดยมีเด็กๆ นั่งกันคนล่ะฝั่ง ไอ้เคนกับคิวก็มานั่งด้วยกัน โดยมีคนหน้าบูดบึ้งเดินตามหลังมา
“ไอ้มาร์คถ้ามึงรักเด็กขนาดนั้นทำไมไม่มีเองเลยวะ” พอเดินมาถึงมันก็พูดเรื่องเดิมๆ กับผมไล่ให้ผมไปมีลูกเอง ตะกะของมันคือไม่อยากให้ผมมาแย่งความรักของเด็กๆ ไป
“อามาร์คจะมีลูกเหรอครับ” นั่นไงไอ้ตัวแสบก็เอากับพ่อด้วย ผมหันไปมองหน้าจีเดย์
“แล้วจีอยากได้น้องไหมล่ะครับ” เด็กน้อยทำหน้างง ผมก็ได้แต่ยกมือขึ้นลูบหัวแก
“อยากได้ค่ะ น้องแจนอยากได้น้อง” เสียงหวานใสพูดขึ้นอย่างตื่นเต้น
“อยากได้น้องก็มาบอกแด๊ดสิครับไปบอกไอ้มาร์คมันทำไม โอ๊ย น้ำตีพี่ทำไมครับ” ลูกน้ำที่เดินถือถาดน้ำกับขนมมาวางก็ตีมัน
“ก็พี่เจพูดไม่เพราะต่อหน้าลูกนิค่ะ ไปเรียกพี่มาร์คอย่างนั่นได้ยังไง” ลูกน้ำดุมัน มันก็ได้แต่ทำหน้าง้อ
“แด๊ดจะให้น้องเราเหรอคะ” เสียงใสเอ่ยถามขึ้น แทนที่จะถามว่ามีน้องให้เราเหรอครับ แต่กลับถามว่าให้ เด็กหนอเด็ก
“ถามแม่เราสิครับว่าให้น้องเราได้รึเปล่า” คนที่โดนถามโบ้ยไปให้เมียที่ยืนหน้าแดงก่ำกัดปากตัวเองแน่น
“เอ่อ แม่ว่าเอาไว้ก่อนดีไหมลูก ให้หนูทั้งสองคนโตกว่านี้ก่อนนะ”
“จริงเหรอน้ำ จะมีลูกให้พี่อีกคนเหรอ” คนที่อยากได้ลูกอีกคนร้องถามขึ้นด้วยความดีใจ
“น้ำอยากให้น้องแจนกับน้องจีโตกว่านี้ก่อนค่ะ เราค่อยคุยกันอีกที”
“จริงนะครับ”
“นี่มึงอยากมีลูกอีกขนาดนั้นเลยเหรอวะไอ้เจ แค่สองคนที่ไม่สนใจมึงยังไม่พอใจอีกเหรอ” มันแอบแขวะมันเบาๆ หมั่นไส้มัน รู้อยู่หรอกว่าเด็กๆ นั้นรักมันเหมือนกัน แต่อยากพูดให้มันเจ็บใจเล่น
“ไอ้..” มันกำลังจะด่าผมแต่โดนสายดุๆ ของลูกน้ำมองซะก่อนก็เลยเงียบปากไปทันที ไอ้คนกลัวเมีย
“เอาล่ะเด็กๆ กินขนมกัน นี่ค่ะของพี่ๆ” ลูกน้ำที่จัดแจงวางขนมเรียบร้อยตั้งแต่เริ่มบทสนทนาพูดเชิญช่วยพวกเรากัน
พอกินเสร็จเด็กๆ ก็แยกตัวไปเล่นของเล่นอีกมุงโดยลูกน้ำไปดูแล ตรงนี้ก็เหลือแต่หนุ่มๆ
“มาหากูมีธุระอะไร” ไอ้เจสันเปิดประเด็น
“กูมาหาเด็กๆ ไม่ได้มาหามึง อย่าสำคัญตัวผิด” ผมกวนประสาทมันนิดหน่อยส่งยิ้มกวนๆ ไปให้มัน
“มึงจะไม่กวนประสาทกูสักครั้งจะได้ไหม” ดูเหมือนมันจะเหลืออดกับผมพูดขึ้นมาสะสีหน้าจริงจัง
“เออ ไอ้นี่กวนนิดหน่อยก็ไม่ได้ ก็แค่แวะมาคิดถึงเด็กๆ” ผมเลิกกวนมัน มานี่ไม่ได้มีธุระอะไร ที่จริงผมก็มาที่นี่เป็นประจำอยู่แล้วถ้าว่าง แล้วมันยังจะถามอีก
“มีเองก็สิ้นเรื่อง” นั่นไงมันยังไม่จบเรื่องนี้
“ยังหาแม่ไม่ได้โว้ย” ผมโว้ยขึ้น
“ผู้หญิงในสต๊อกมึงเยอะแยะเลือกสักคนสิ”
“นั่นแค่เล่นๆ ไม่เหมาะจะเป็นแม่ของลูกหรอก” จริงอย่างที่มันบอกผู้หญิงในสต๊อกผมเยอะแยะ แต่มันก็ไม่ใช่ แค่ครั้งคราวเบื่อก็เลิก
“ระวังจะไม่ทันใช้”
“หึ ไม่นานหรอก” ผมพูดขึ้นเบาๆ แล้วเผลอคิดถึงหน้าผู้หญิงคนหนึ่งลอยเข้ามา คนที่อยู่ในความคิดผมตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมา
“อะไรนะ”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า” นี่ผมว่าตัวเองพูดเบาแล้วนะ มันยังได้ยินอีกเหรอ
“กูไม่เชื่อ ว่าไงเคน คิว เจ้านายพวกมึงไปล่อลวงผู้หญิงที่ไหน” ผมตวัดสายตาไปมองทั้งสองคนที่โดนถาม ไอ้เจนี่มันจะอะไรกับผม
“เด็กที่ไหนไม่รู้ครับ ผมรู้แต่ว่า วางแผนอย่างดี” นั่นไง ไอ้เคนไอ้ปากสว่าง ผมมองหน้ามันเขม็ง แต่มันไม่กลัวผมสักนิด นี่ผมยังเป็นเจ้านายอยู่ใช่ไหม อุตส่าห์ส่งซิกทางสายตาแล้วว่าไม่ให้พูดมันก็ยังจะพูด
“ไอ้มาร์ค”
“ไม่มีอะไรหรอกน่า ไอ้เคนมันมั่ว”
“เออ จะคอยดู กลับไปได้แล้วไป จะอยู่กับครอบครัว” ผมมองมันหน้าเหวอที่ไล่เพื่อนอย่างผม
“นี่มึงไล่กูเลยเหรอวะ”
“เออ ไปได้แล้ว” พูดเสร็จมันก็เดินไปหาลูกๆ กับเมียมันที่เล่นกันอยู่ ผมก็ได้แต่หันไปมองไอ้สองคนที่คนหนึ่งยิ้มอยู่ส่วนอีกคนหน้านิ่ง
“หักเงินเดือนมันดีไหม” ผมพูดขึ้นลอยๆ
“ไม่ดีครับ” ไอ้เจ้าตัวมันก็รู้ตัวซะด้วย