EP 2 จุดเริ่มต้น
เช้าวันรุ่งขึ้น
ฉันตื่นเช้ากว่าทุกวันเพราะมีงานเดินแบบ
“ลิซเสร็จยัง” ยังไม่ทันที่จะได้ออกจากห้องนอนก็มีเสียงเรียกมาจากข้างนอก นี่มันจะขยันไปไหน เป็นอลันที่มาเรียกฉันแต่เช้า ผู้จัดการส่วนตัวฉันนี่ดีจริงๆ ฉันกับมันไม่ได้อยู่ห้องเดียวกันนะแต่อยู่คอนโดเดียวกัน ห้องมันก็อยู่ติดห้องฉันนี่แหละ มันถึงมาไวแบบนี้ไง แล้วมันก็มีคีย์การ์ดเข้าห้องฉันด้วย ฉันเองก็มีของห้องมันเหมือนกัน เวลามีปัญหาอะไรจะได้ช่วยกันได้
“เสร็จแล้ว รีบไปไหน” ฉันบ่น
“ไม่รีบได้ไง จะต้องไปแต่งหน้าแต่งตัวอีก งานจะเริ่มตอนแปดโมง” มันบ่นออกมายาวเหยียด
“บ่นเป็นผู้หญิงไปได้” ฉันแขวะมัน นับวันนิสัยมันเริ่มจะเหมือนผู้หญิงขึ้นทุกวัน
“อลิซ ถ้าพูดแบบนี้อีกลันจะลาออก” มันพูดออกมาเสียงเย็น จนฉันขนลุกวาบไปหมด รีบเดินเข้าไปเกาะแขนมันแล้วทำท่าอ้อนทันที
“ลัน ลิซขอโทษสัญญาว่าจะไม่พูดแบบนั้นอีก” ฉันรีบขอโทษแล้วทำตัวน่ารักทันที ก็รู้อยู่หรอกว่ามันไม่ชอบให้ฉันว่ามันแบบนั้น มีบางคนที่เข้าใจว่ามันอาจจะเป็นเกย์แล้วก็มาพูดเข้าหูมันแต่มันก็ไม่สน มันเคยบอกฉันว่าคนอื่นจะว่ามันเป็นกะเทยเป็นตุดเป็นแต๋วเป็นเกย์ยังไงมันไม่สน แต่กับฉันที่เป็นเพื่อนกันย่อมรู้ว่ามันเป็นยังไง และมันก็ไม่ชอบให้ว่ามันเป็นแบบนั้น
ความคิดของแต่ละคนนี่ไม่เหมือนกันจริงๆ บางคนก็ว่าฉันเป็นแฟนกับมัน บางคนก็หาว่ามันเป็นเกย์ ฉันได้แต่ส่ายหัวกับความคิดของคนพวกนั้น
อย่าที่อลันบอกไม่ต้องไปสนใจความคิดของคนอื่นรู้ว่าตัวเองเป็นยังไงก็พอ
“อืม ไปเถอะ” มันไม่พูดอะไรอีก เดินนำฉันออกไปจากห้อง ดูก็รู้ว่ามันโกรธฉัน ยัยอลิซแกนี่ปากหมาจริงๆ อยู่กับมันมาตั้งนานก็รู้ว่ามันไม่ชอบ ยังจะพูด ฉันได้แต่ก่นด่าตัวเองอยู่ในใจ
เฮ้อ
“ลัน รอลิซด้วย” ฉันถอนหายใจแล้วรีบวิ่งตามไป เดินไปเกาะแขนออดอ้อนให้มันหายโกรธ
“หายโกรธนะ ลิซขอโทษนะ ลันจ๋า” ฉันอ้อนมันอย่างต่อเนื่อง มันเหลือบตามามองฉัน ฉันก็ยิ้มกว้างยิงฟันให้
“อืม” อลันพยักหน้าให้ฉัน ฉันก็ยิ้มกว้างยิ่งกว่าเดิม แค่นี้ฉันก็พอใจแล้วเพราะมันไม่โกรธฉันแล้วไง มันยอมหันมามองหน้าฉันแสดงว่ามันหายโกรธแล้ว
การทำงานของฉันวันนี้ผ่านพ้นไปด้วยดี ฉันกับอลันตกลงกันว่าจะซื้อของมาทำกับข้าวกินเองที่คอนโด กินเสร็จจะได้นอนพักผ่อนเลย เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว
และตอนนี้เป็นฉันที่กำลัง นั่งเล่น นอนเล่น กลิ้งไปกลิ้งมาอยู่บนโซฟาที่กว้างพอให้ฉันขยับตัวไปทางไหนก็ได้
“ลันเสร็จยังลิซหิวแล้ว” ฉันตะโกนร้องถามคนที่อยู่ในครัว เห็นหายเข้าไปนานไม่ออกมาสักที จนท้องฉันมันเริ่มที่จะประท้วงเพราะความหิว
ใช่พวกคุณคิดถูก คนที่ทำอาหารคืออลัน ไม่ใช่อลิซคนสวย เพราะอะไรคงรู้ดี ฉันทำไม่เป็น อยากกินอะไรอยากทำอะไรก็มีแต่อลันทำให้ ดีใช่ไหมล่ะเพื่อนสุดหล่อของฉัน ถ้าใครได้เป็นพ่อของลูกนี่คงโชคดีสุดๆ ไปเลย
“เสร็จแล้ว บ่น ทำเองก็ไม่ทำ” เมื่อฉันร้องเรียก มันก็ถือกับข้าวออกมาว่างบนโต๊ะ ฉันเลยกระโดดลงจากโซฟารีบไปดูทันทีว่ามีอะไรกินบ้าง
“โห ซื้อของมาตั้งหลายอย่าง ทำแค่สเต๊กกับสปาเกตตีเนี่ยนะ” พอเห็นของที่มันทำฉันก็หน้างอ ก่อนทำมันก็ไม่ให้ฉันเลือกว่าอยากกินอะไร
“หรือจะไม่กิน” มันพูดกับฉันอย่างเผด็จการ แล้วฉันจะทำไงได้ล่ะ หิวจนไส้จะขาดอยู่แล้ว
“กินสิ หิว” ฉันอมลมอยู่ในปากทำหน้างอนๆ ก่อนนั่งลง มันเองก็นั่งลงเช่นกัน
“คิดได้ยังจะไปที่ไหน” มันถามฉันที่กำลังจัดการม้วนเส้น สปาเกตตีเข้าปาก อร่อยจริงๆ ฝีมือมัน อลันทำอาหารอร่อยมากบอกเลย ทำไมมันได้กินสเต๊กแล้วฉันกินสปาเกตตี
“ยัยลิซ ฉันถามไม่ได้ยินเหรอ” เสียงร้องของมันทำให้ฉันสะดุ้ง
“ได้ยิน แต่กินอยู่เห็นไหม” ฉันร้องบอกมัน ที่จริงลืมตอบ มัวแต่เพลินกับของกินตรงหน้าเลยลืมตอบคำถามมันไง
“ยัยตกะ” มันด่าฉันแล้วก็ก้มหน้าก้มตากินต่อ แต่ฉันไม่สนใจ ส่งค้อนให้มันนิดหน่อย
“กินด้วยดิ ของแกอร่อยป่ะ” เมื่อฉันเห็นมันกำลังหันเนื้อเป็นชิ้นเล็กๆ ก็ยื่นซ้อมไปจิ้มของมัน
“ยัยนี่” มันเงยหน้าขึ้นมาว่าฉัน แต่ฉันก็ไม่สนลอยหน้าลอยตากินต่อ อร่อยอ่ะ ว่าแล้วฉันก็ขโมยของมันมากินอีก
“ลัน เปลี่ยนกัน” เมื่อเห็นว่าของมันอร่อยฉันเลยเสนอมัน
“ไม่”
“แต่ลิซอยากกินอ่ะ” ฉันหน้าง้อ
“ก็กินอยู่นั่นไง”
“ลันอ่ะ แล้วทำไมลันไม่ทำเหมือนกัน” ฉันแย้งมัน ใช่ ทำไมมันไม่ทำเหมือนกัน ทำคนล่ะอย่างทำไม
“ก็เห็นวันก่อนบ่นอยากกิน” มันพูดออกมาหน้าตาย นี่มันจำได้เหรอว่าฉันเคยบ่นว่าอยากกินอะไร ทำไมฉันจำไม่ได้ เพราะฉันก็อยากกินหมดนั่นแหละถ้านึกอะไรออกตอนที่หิวอ่ะ
“ก็นั่นมันวันก่อน แต่วันนี้อยากกินสปาเกตตีอ่ะ นะ” ฉันบอกมันอย่างเอาแต่ใจ นี่แค่เรื่องกินนะยัยลิซ
“ไม่ต้องมาทำหน้าอย่างนั้น อยากกินก็กิน” มันพูดแค่นั้นแล้วก็เลื่อนจานของมันมาให้ฉัน ฉันก็ยิ้มกว้างทันที อลันของฉันน่ารักที่สุด
“ลันน่ารักที่สุดอ่ะ อะๆ แบ่งกันกินเนอะ” ฉันพูดแล้วก็เอาจานของตัวเองไปไว้ต้องกลาง เห็นมันอมยิ้มนิดๆ ด้วย ฉันรู้ว่าลันไม่เคยโกรธฉันหรอก แต่บางเรื่องมันก็มีเตือนมีเอ็ดฉันบ้างเมื่อฉันดื้อเกินไป ฉันว่ามันก็ดี เพราะบางครั้งฉันชอบทำนิสัยเหมือนเด็กมีมันที่เป็นผู้ใหญ่ค่อยเตือนสติมันทำให้ชีวิตฉันดีขึ้นเยอะเลยล่ะ
หลังจากนั้นเราก็พากันกินอย่างเงียบๆ พอกินเสร็จเป็นฉันที่เป็นฝ่ายเก็บจานไปล้าง มันบอกว่ามันทำให้กินแล้วฉันต้องเป็นคนเก็บคนล้างเอง ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรเพราะก็คิดอย่างนั้นอยู่แล้วไม่อยากจะเอาเปรียบมัน ล้างจานเสร็จฉันก็เดินออกมาหามันที่ห้องนั่งเล่น
“ว่าไง จะไปที่ไหน” ก้นยังไม่ทันได้แตะถึงโซฟามันก็เอ่ยถามฉันขึ้นมาอีกครั้ง เรื่องการไปพักผ่อนของฉัน
“ยังคิดไม่ออกเลย ช่วยคิดหน่อยสิ” ฉันบอกมันไปตามตรง เพราะยังคิดไม่ออกเลยว่าจะไปที่ไหนดี
“ดีเลย ถ้าแกยังไม่มีที่ไป ฉันมีข้อเสนอ” มันพูดกับฉันอย่างมีเลศนัย ฉันก็ขมวดคิ้วนิดหน่อย
“ขอเสนออะไร” ฉันถาม
“ประเทศไทย คือที่ ที่แกจะต้องไป” อลันพูด
“ทำไม แล้วอะไรคือข้อเสนอ พูดให้เคลียร์ดิ” ฉันงงมาก ทำไมมันต้องให้ฉันไปประเทศไทย ถ้ามันไม่พูดถึงฉันก็ไม่คิดถึงประเทศนี้เลย เพราะฉันไปมาแล้วสองครั้ง แต่ละครั้งก็มีทั้งความทรงจำที่ดีและไม่ดีอยู่ในนั้นด้วย
“มีบริษัทโฆษณาที่นั่นเขาจ้างแกให้ไปเป็นพีเซนเตอร์ให้” แล้วสิ่งที่อลันพูด กับทำให้ฉันงงเข้าไปอีก พีเซนเตอร์เนี่ยนะ จริงอยู่ที่ฉันเป็นนางแบบ แต่ฉันก็ไม่ได้โด่งดังขนาดนั้น ฉันพอมีคนรู้จักแค่ในประเทศตัวเอง ต่างประเทศถึงจะมีคนรู้จักฉันแต่มันก็ไม่มาก ที่จะจ้างฉันไปเป็นพีเซนเตอร์
“โฆษณาอะไร แล้วทำไมต้องเป็นลิซ ลิซไม่ได้ดังขนาดนั้นนะลัน” ฉันพูดกับมันด้วยความงง
“ก็โฆษณาสินค้าธรรมดานี่แหละ แต่คอนเซ็บครั้งนี้เขาอยากได้นางแบบต่างชาติแล้วก็เป็นลูกครึ่งแบบลิซด้วย แล้วเขาก็เห็นลิซในข่าวเลยติดต่อมา” อลันอธิบายให้ฉันฟัง แต่ฉันว่าเรื่องนี้มันไม่ได้มีแค่นี้ มันเหมือนมีอะไรมากกว่านั้นแค่เห็นในข่าวก็อยากได้ฉันไปเป็นพีเซนเตอร์ให้แล้วงั้นเหรอ
“จริงเหรอ มันแปลกนะลัน” ฉันถามมันเพื่อขอความเห็น
“อืม ไปเหอะ อย่าเรื่องเยอะ ถือว่าไปเที่ยวด้วย” อลันมันคงขี้เกียจอธิบายให้ฉันฟัง
“ไว้ใจได้แน่นะ” แต่ฉันก็ยังถามมันต่อ มันถอนหายใจใส่ฉัน คืออะไร แค่สงสัยไม่ได้เลยรึไง
“อืม ได้ ลิซก็มีคนรู้จักอยู่ที่นั่นไม่ใช่เหรอ” ถามว่าอลันรู้ได้ยังไง อลันมันรู้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับฉัน ตอนฉันไปเที่ยวเมืองไทยมันก็รู้ แต่ตอนนั้นฉันยังเด็กอยากออกไปเปิดโลกคนเดียว ฉันเลยไม่ได้ชวนมันไปด้วย ที่นั่นมีทั้งความทรงจำที่ดีและไม่ดี มีบางเรื่องทำให้ฉันเสียความรู้สึก แต่ก็ไม่ถึงกลับไปเหยียบที่นั่นไม่ได้
“มันก็ใช่ แต่ลิซก็ไม่ได้ติดต่อเขานานแล้วนะ” ฉันพูดออกไปอย่างเซ็งๆ คนที่มันพูดถึงก็คือพี่เจสันกับพี่ลูกน้ำ พี่ชายกับพี่สาวที่น่ารักของฉัน ที่ครั้งก่อนฉันไปเที่ยวและไปงานแต่งของเขาสองคน แถมตอนนี้ยังมีลูกที่น่ารักๆ แถมยังเป็นลูกแฝดอีกด้วย
“ไปเถอะ อีกสามวันจะไปส่งที่สนามบิน เดี๋ยวทางโรงแรมจะให้คนมารับ”
“ลัน ทำไมมันเร็วอย่างนี้ล่ะ อีกอาทิตย์หนึ่งไม่ใช่เหรอลิซถึงจะได้พัก” ฉันร้องถามมันอย่างตกใจนี่มันเร็วไปไหม รายละเอียดอะไรฉันก็ยังไม่รู้เลย ทำไมมันบุบปับแบบนี้
“ก็ทางนั้นเขาอยากให้เราไปแคชงานก่อน”
“แต่ลิซยังไม่รู้รายละเอียดงานเลยนะ สัญญาก็ยังไม่ได้เซ็น เรื่องสำคัญแบบนี้ลันจะไม่ไปกับลิซจริงๆ เหรอ” ฉันว่าเรื่องนี้มันแปลกๆ นะ ทำไมอลันเหมือนไม่ค่อยใส่ใจกับงานครั้งนี้ของฉัน ซึ่งมันก็เป็นงานที่ไปทำที่ต่างประเทศ
“เรื่องนี้ลิซต้องเป็นคนจัดการเอง ลันไม่ว่างจริงๆ มันไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงหรอก ลันได้คุยกับทางนั้นไว้คราวๆ แล้ว” อลันพยายามอธิบายให้ฉันเข้าใจ ฉันก็พยักหน้าให้มัน ฉันเชื่อใจมันถ้ามันบอกว่าไม่มีอะไรฉันก็จะเชื่อ
“นี่แสดงว่าลันวางแผนเรื่องนี่ไว้แล้วเหรอ งานนี้ติดต่อมาตั้งแต่เมื่อไหร่ทำไมไม่เคยพูดให้ลิซฟัง แล้วพอมาวันนี้มาบอกแบบนี้ มันดูปุบปับเกินไป” ฉันพูดออกมายาวเหยียด ไม่ใช่ไม่ไว้ใจมันแต่มันเร็วไปฉันตั้งตัวไม่ทัน
“ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกลิซไม่มีแผนอะไรทั้งนั้น งานนี้เขาติดต่อมานานแล้วแต่ลันไม่คิดที่จะให้ลิซไปทำเลยไม่บอก แล้วเขาก็หายเงียบไป แล้วไม่กี่วันมานี้เขาติดต่อมาอีกเขาบอกว่าอยากได้ลิซมาก ลันเลยคิดว่าลิซอยากพักด้วยเลยให้ไปที่นั่นก็ดี แล้วมันก็มันโอกาสของลิซด้วยที่จะได้ทำงานอย่างอื่นที่ไม่ใช่เดินแบบ ได้ประสบการณ์ ถ้าลิซทำงานนั่นเสร็จลันให้พักยาวเลยตามที่ลิซต้องการ” มันอธิบายให้ฉันฟังยาวเหยียด ฉันก็ได้แต่หน้าง้อ แต่ข้อเสนอของมันก็น่าสน ฉันหยุดคิดสักพัก ในเมื่อมันพูดอย่างนี้ฉันก็คงต้องเอ่อออตามมัน
“ก็ได้ แต่ลันรีบทำงานให้เสร็จแล้วตามลิซไปนะ” ฉันหันมาอ้อนมันต่อ อยากให้มันไปด้วย
“อืม ถ้างานเสร็จจะรีบตามไป” เมื่อมันรับปากฉัน ฉันก็ยิ้มกว้าง ล้มตัวลงนอนตักมัน
“นี่ ทำไมชอบทำอะไรแบบนี้ ฉันเป็นเพื่อนแกนะไม่ใช่แฟน” มันเอ็ดฉัน ฉันพลิกตัวเงยหน้าขึ้นมองมันหน้ามุ่ย
“ก็ใครบอกให้ลันไม่มีแฟนล่ะ ตักนี่ก็เป็นของลิซคนเดียว ลันมีแฟนเมื่อไหร่ค่อยว่ากัน” ฉันพูด มันจริงอย่างที่ฉันพูดมันหน่ะไม่เคยมีแฟนเป็นตัวเป็นตนสักที มีแต่ควงเล่นๆ นักข่าวบางคนก็เอาไปทำข่าวว่าฉันกับมันเป็นแฟนกัน บางคนก็ว่ามันเป็นเก้งกวาง ความจริงมันก็ควงพูดหญิงออกจบ่อยไม่ยักจะไปทำข่าวแบบนั้นบ้าง ซึ่งฉันกับมันก็ไม่ได้สนใจ
“ยัยเบอะ จริงๆ เลย ถ้าลันมีแฟนแล้วใครจะดูแลลิซ” มันขยี้ผมฉันจนหัวฉันยุ่งมันหมด แต่คำพูดต่อจากนั้นของมัน มันพูดเบาจนฉันเกือบจะไม่ได้ยิน แต่ฉันได้ยิน
“นั้นสิ ใครจะดูแลลิซ” ฉันเองก็เศร้าไปด้วย ถ้าเกิดมันมีแฟนจริงๆ ใครจะดูแลฉัน
“ลิซก็มีแฟนก่อนลันสิ” มันก้มหน้าลงมาพูดกับฉัน ฉันยู่จมูกมัน
“ไม่เอาอ่ะ ผู้ชายเจ้าชู้ลิซไม่ชอบ อยู่คนเดียวดีกว่า” ไม่ใช่ว่าฉันไม่เคยมีแฟน แต่ฉันเจอแต่ผู้ชายเจ้าชู้ไม่รู้จักพอ พอเราไม่ให้นอนด้วยก็ไปนอนกับคนอื่น ซึ่งฉันรับไม่ได้ เลือกที่จะไม่มีแฟนดีกว่า เพราะผู้ชายพวกนั้นไม่หยุดอยู่ที่ผู้หญิงคนเดียว หลายครั้งที่ฉันลองครบผู้ชายแต่ไม่เคยมีคนไหนทำให้ใจเต้นแรงเลยสักครั้งหวังแต่จะฟันอย่างเดียว ไม่เหมือนกับเมื่อหลายปีก่อนที่ใจฉันเต้นไม่เป็นจังหวะเหมือนเห็นแค่หน้าหรือได้ยินแค่เสียงแต่ฉันถอนตัวออกมาก่อนที่ตัวเองจะถลำลึกไปมากกว่านั้น เพราะเขาเองไม่ได้คิดแบบเดียวกันกับฉัน ตอนนั้นมันเลยทำให้ฉันเสียใจอยู่พักหนึ่ง แต่มันก็แป๊บเดียวเพราะมีอลันคอยอยู่ข้างๆ
“อืม ไปนอนได้แล้วไป แล้วก็ทยอยจัดกระเป๋าเลยนะวันจริงจะได้ไม่รีบ” มันไล่ฉันไปนอน แต่ฉันยังไม่ยอมลุก จนมันเหนื่อยที่จะพูด เราสองคนเลยเงียบและไม่นานฉันก็หลับ และคงมันเป็นมันที่อุ้มฉันเข้าไปนอนเหมือนทุกครั้ง
มาแล้วจร้าาาา ฝากติดตามด้วยน๊าาาา สัญญาว่าจะมาอัพเรื่อยๆ มีคำผิดขอโทษด้วยนะคะ