บท
ตั้งค่า

Chapter 3 ลองอ้อนดูแล้วจะยอม

Chapter 3

ลองอ้อนดูแล้วจะยอม

“แต่กลิ่นน้ำหอมเธอนี่...หอมใช้ได้เลยนะ”

คำนี้ยังคงฝังอยู่ในใจของเอมิกา คำที่เจ้านายหนุ่มใช้ชมแต่ก็เหมือนแทะโลมเธอไปในตัว

เอมิกาทำไม่สนใจและดึงดันพาไบรอันลงมาทานอาหารที่ห้องอาหารด้านล่างคฤหาสน์จนสำเร็จ

“เก่งจริงนะเธอ...พาคุณไบรอันลงมาทานข้าวได้แบบนี้”

สาวใช้คนหนึ่งพูดกับเอมิกาที่เดินมาที่ห้องครัวเพื่อจะนำน้ำเปล่าไปเสิร์ฟให้กับไบรอัน ส่วนที่โต๊ะอาหารมีคนเตรียมอาหารเอาไว้ให้อยู่แล้ว

“ทำไมล่ะ ก็แค่พาลงมาทานข้าวมันยากขนาดนั้นเชียวเหรอ”

ดวงหน้าเล็กมองหน้าสาวใช้ตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจนักไบรอันจะเป็นอะไรนักหนากับอีแค่กินข้าวกินยาให้ตรงเวลา เพราะอีกไม่นานก็คงจะต้องเข้ารับการผ่าตัดเพื่อให้หายจากอาการเลือนลางทางสายตาสักที

“มันก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยากหรอก แต่คุณไบรอันค่อนข้างอยู่ในสภาวะจิตใจที่ย่ำแย่ พวกเรารู้กันดีจึงพยายามทำทุกวิถีทางให้เจ้านายมีกำลังใจจะอยู่ต่อ”

สาวใช้ว่าเสียงเศร้า เธอเองก็รับใช้ตระกูลเบอริอันต์มานานจึงไม่ต้องการเห็นเจ้านายหนุ่มเป็นอย่างนี้

“ถามจริง ดูไม่เป็นมิตรเอาซะเลยนะเจ้านายพวกเธอเนี่ย ทำไมต้องรักและเคารพขนาดนั้นด้วย?”

เธอสังเกตว่าทุกคนดูห่วงใยไบรอันจากจิตใจอันแท้จริงไม่ใช่เพียงเพราะเขาเป็นเจ้านายที่มอบเงินเดือนให้

“เพราะคุณไบรอันเป็นคนดีน่ะสิ ถึงภาพภายนอกจะดูเป็นมาเฟียโหดมีคู่อริมากมายแต่ความเป็นจริงแล้วเป็นเจ้านายที่ดีและใจดีกับลูกน้องมาก พร้อมช่วยเหลือทุกคน”

“ดูไม่ออกเลยนะว่าเป็นคนแบบนั้น...พอดีภาพที่ฉันเห็นกับภาพที่เธอเห็นคงจะเป็นคนละภาพกัน”

เอมิกาว่าอย่างนั้นพร้อมกับหยิบเหยือกน้ำและแก้วน้ำใส่ถาดถือเอาไว้เพื่อจะนำไปให้ไบรอัน

“เธอพึ่งมาทำงานใหม่จะไปรู้อะไรล่ะ มาตอนนี้ก็คงจะ เจอคุณไบรอันเล่นงาน เฮ้อ พูดแล้วก็เครียดไม่รู้ว่าเธอจะอยู่ได้นานสักแค่ไหน”

เอมิกาเอียงคอสงสัยอีกครั้งเมื่อสาวใช้พูดอย่างนั้น ทำไมจะต้องสบประมาทเธอด้วยว่าจะอยู่ได้ไม่นาน

“เธอหมายความว่ายังไงเหรอ?”

“ก็ไม่ว่าจะมากันสักกี่คนก็อยู่ดูแลคุณไบรอันได้ไม่นาน เป็นอันจะต้องไล่ออกหรือโดนแผลงฤทธิ์โหดใส่ซะทุกที”

“งั้นพวกเธอก็สบายใจได้เลย ฉันจะอยู่ที่นี่กับคุณไบรอันจนกว่าเค้าจะเข้ารับการรักษาผ่าตัด หลังจากคุณไบรอันมองเห็นตามปกติแล้วฉันถึงจะไปจากที่นี่ได้”

พูดอย่างเต็มปากเต็มคำเพราะนี่คือสิ่งที่เธอจะต้องทำ มันเป็นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมาจากเจ้าหนี้ของผู้เป็นพ่อ หากทำไม่ได้พ่อของเธอคงจะต้องตกระกำลำบากอย่างแน่นอน

“ดูมั่นใจจังเลยนะ แต่ช่างเถอะถ้าทำได้มันก็ดี พวกเราเองก็จะได้โล่งใจที่คุณไบรอันหายกลับมาเป็นปกติ”

“จะพยายามทำให้ดีที่สุดแล้วกัน ฉันคงต้องมาอยู่ที่คฤหาสน์นี้อีกหลายเดือนยังไงก็ขอฝากตัวด้วยนะ”

ได้ทีก็ผูกมิตรกับสาวใช้ที่รุ่นราวคราวเดียวกับเธอ

“อื้ม ฉันชื่อเจสซี่ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะคุณผู้ดูแลคนใหม่”

“จ้ะ ฉันชื่อเอมี่ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะเจสซี่ หวังว่าจะมีโอกาสได้คุยกันนะเดี๋ยวขอตัวเอาน้ำไปเสิร์ฟให้คุณไบรอันก่อน”

“โอเค”

สองสาวร่ำรากัน เอมิกาถือถาดน้ำที่ใส่แก้วกับเหยือกออกมาที่โต๊ะอาหาร

ร่างสูงกว่าร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรนั่งบึ้งตึงไม่แตะอาหารในจานเลยแม้แต่ชิ้นเดียว สปาเกตตี้ซอสกุ้งยังคงอยู่ในจานไม่มีร่องรอยของการทานหรือแม้แต่จับช้อนขึ้นมา

“คุณไบรอันคะ...บอกแล้วใช่ไหมว่าให้ทานข้าวทำไมไม่ทาน”

ถามอย่างไม่พอใจเมื่อเห็นว่าไม่มีอะไรในจานที่ลดลงเลย กุ้งสามตัวถูกจัดวางอยู่บนเส้นสปาเกตตี้อย่างไรก็อยู่อย่างนั้น

“ก็บอกว่าไม่กิน แล้วนี่หายไปไหนทำไมนานจัง?”

เสียงแหบเอ่ยถามอย่างไม่พอใจและไม่ชอบให้ใครมาออกคำสั่ง

“ก็ไปเอาน้ำมาให้คุณดื่มน่ะสิคะ คิดว่ากลับมาจะทานจนเกือบหมดแล้ว แต่นี่อะไรกันไม่แตะเลยสักนิดเดียว”

“ก็บอกแล้วว่าไม่หิว ยังจะบังคับให้ลงมาอยู่นั่น”

“ไม่หิวก็ต้องทานค่ะ...ถ้าไม่ทาน เดี๋ยวฉันจะป้อนคุณเอง”

เอมิกาวางถาดที่ใส่เหยือกน้ำลงกับโต๊ะแล้วเดินเข้ามาประชิดตัวไบรอันที่นั่งอยู่ที่หัวโต๊ะอาหารซึ่งเป็นโต๊ะอาหารขนาดยาวนั่งได้หลายสิบคน

“ไม่ต้อง”

“ไม่ต้องมาปฏิเสธเลยค่ะ ในเมื่อไม่ทานก็ต้องทำแบบนี้แหละ”

เอมิกาหยิบส้อมขึ้นมาม้วนเส้นสปาเกตตี้ใส่ช้อนและเตรียมจะป้อนคนโตแต่เค้าก็ไม่อ้าปากออกแม้แต่นิด

“คุณไบรอัน...อย่าดื้อสิคะ อาหารมื้อนี้ก็น่าทานดีออก ยังมีอีกหลายคนนะที่ไม่ได้มีโอกาสทานอาหารดีๆแบบนี้”

พยายามหว่านล้อมทุกทางแม้ว่าคนตัวใหญ่จะไม่หลงกลเลยสักนิด

“ถ้าฉันกิน เธอมีอะไรจะให้เป็นรางวัล?”

“เอ๋? ฉันจะมีรางวัลอะไรให้คุณกันล่ะคะ...มาสมัครเป็นคนรับใช้ดูแลคุณได้คุณก็คงจะรู้อยู่แล้วว่าฉันไม่ได้มีเงินทองมากมายอะไร”

“ก็ไม่ได้หมายถึงเงินทอง”

“แล้วถ้าอย่างนั้นหมายถึงอะไรเหรอคะ”

“พูดจาอ้อนๆสิ”

“หืม คุณหมายความว่ายังไง?”

เอมิกาขมวดคิ้วมุ่น มือยังคงถือช้อนที่ใส่เส้นสปาเกตตี้ม้วนกับซอสที่คลุกเคล้าเส้นคาอยู่อย่างนั้น

“ทำตัวพูดจาให้มันน่ารัก ฉันอาจจะใจอ่อนยอมทานสปาเกตตี้ที่เธอป้อนอยู่ก็ได้”

“คุณรู้ได้ยังไงว่าอาหารจานนี้คือเส้นสปาเกตตี้”

เธอเองก็ลืมคิดจุดนี้ไป ลืมไปว่าเขามองไม่เห็นจะให้นั่งทานเองก็คงจะเลอะเทอะและที่สำคัญเธอก็ไม่ได้บอกด้วยว่าเมนูที่เสิร์ฟในวันนี้คือเมนูอะไร แล้วเขารู้ได้ยังไงกันนะ?

“แม่ครัวทำอาหารก็คนเดิมซ้ำๆ อาหารมันก็มีไม่กี่เมนูหรอกแค่ได้กลิ่นก็รู้แล้วว่าเป็นสปาเกตตี้ซอสกุ้ง”

“เก่งจังเลยนะคะ จมูกดีเป็นที่หนึ่ง”

อดที่จะชมออกมาจากใจจริงไม่ได้เพราะตัวเธอเองก็ไม่ได้จมูกดีขนาดจะแยกแยะว่าอะไรเป็นอะไรได้เท่ากับไบรอันหรอก

“จะบอกว่าฉันเป็นหมา?”

ใบหน้าหล่อของชายหนุ่มขมวดคิ้วมุ่นเป็นปม เหมือนโดนสาวใช้หลอกด่าอย่างไรอย่างนั้น สาบานเลยว่าถ้าอยู่ในสภาวะปกติเขาคงให้บอดี้การ์ดจับเธอไปโยนลงบ่อจระเข้แล้วข้อหาพูดจาไม่เข้าหู

“ก็ไม่ได้ว่าอย่างนั้นหรอกค่ะ...ใครจะไปกล้าว่าคุณไบรอันเป็นหมากันล่ะ”

พูดไปอย่างนั้นทั้งที่ในใจก็แอบคิด คนบ้าอะไรจมูกดีเป็นเลิศ

“หึ ลองพูดจาดีๆดูแล้วฉันจะยอมกิน“

ฮึ้บบ เอาไว้เอมี่ ขืนใจพูดออกไปสักหน่อยตอนนี้จะได้ยอมกินให้มันจบๆไป แล้วเขาจะได้กินยาหลังอาหารสักที!

สูดหายใจเข้าลึกๆแล้วพูดกับตัวเองในใจ ยังไงก็ต้องทำหน้าที่นี้ให้ดีที่สุด

”คุณไบรอันขา ช่วยทานสปาเกตตี้ซอสกุ้งจานนี้ให้หมดหน่อยเถอะนะคะจะได้ทานยา เดี๋ยวฉันจะป้อนคุณด้วยตัวเองไม่ให้คุณต้องเหนื่อยหยิบช้อนขึ้นมาม้วนเส้นเองเลยค่ะ”

“อันนี้ไม่ได้อ้อน...เรียกประชด”

คุณนี่มันเอาใจยากจริงๆ!! ได้แต่คิดในใจแต่ไม่พูดออกไป...สิ่งที่พูดออกไปคือ

“ไม่ได้ประชดสักหน่อย...ลองทานสักคำเถอะนะคะคุณไบรอันขา ฉันได้กลิ่นยังอยากจะทานเองเลยหอมกรุ่นจากฝีมือแม่ครัวสดๆร้อนๆแบบนี้”

“ก็ถ้าอยากกินก็กินเองสิ”

อืมม ทนไว้นังเอมี่ ต้องทนเอาไว้ ท่องเอาไว้ปลดหนี้ ปลดหนี้ สิบล้านบาท สิบล้านบาท!!

“ให้ฉันป้อนนะคะ”

กัดฟันพูดพร้อมแสร้งยิ้มหวาน

และในที่สุดคนตัวเล็กก็ป้อนเส้นสปาเกตตี้ให้กับไบรอันได้ทานจนหมดจาน พร้อมกับให้ทานยาหลังอาหารเรียบร้อยครบจบ

“ขอบคุณนะคะที่ทำตาม เก่งมากค่ะ”

เมื่อเห็นว่าเขาทำดีก็เอ่ยชม นี่ชักจะเริ่มคิดแล้วว่ามาดูแลมาเฟียหรือมาดูแลเด็กกันแน่

“หึ...ไป ฉันอยากขึ้นห้องแล้ว”

เวลาต่อมา

หลังจากดูแลไบรอันจนเสร็จเรียบร้อยก็ถึงเวลาเลิกงาน จากนั้นต้องมาเตรียมตัวไปทำงานต่อที่คฤหาสน์ของลูคัส

“สวัสดีสวัสดีค่ะคุณลูคัส”

เมื่อมาถึงคฤหาสน์ก็ทักทายผู้เป็นเจ้านายในทันที ตอนกลางวันก็ต้องไปดูแลไบรอันส่วนตอนกลางคืนก็ต้องมาดูแลคฤหาสน์ของลูคัสมาเฟียหล่อร้ายซึ่งเป็นพี่ชายของเพื่อนสนิทเธอ

“ได้ข่าวว่าย้ายงานแล้วนี่ ย้ายไปทำงานที่ไหนล่ะ?”

เจอคำถามนี้เข้าไปเอมิกาก็เอียงคอสงสัยเล็กน้อย ปกติลูคัสจะไม่ค่อยมายุ่งกับเธอสักเท่าไหร่ แต่วันนี้จู่จู่ก็มาถาม

“ย้ายไปทำงานอยู่ไม่ไกลจากบริษัทเก่านักหรอกค่ะ คุณลูคัสมีอะไรอยากจะให้ฉันรับใช้เหรอคะ?”

“มี”

“อยากจะได้อะไรล่ะคะ กาแฟร้อนสักแก้วหรือว่าโกโก้ดี เดี๋ยวฉันจะนำไปส่งให้ที่ห้องทำงานนะคะ คุณลูคัสไม่จำเป็นต้องลงมาหาฉันก็ได้แค่กดกริ่งเรียกก็พอแล้วค่ะ”

เอมิกาว่าไปอย่างนั้น ส่วนลูคัสก็ได้แต่กระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจในความไร้เดียงสาของหญิงสาว

“งั้นก็ขอชาร้อนสักแก้วแล้วกัน แต่เอาไปเสิร์ฟที่ห้องนอนฉันนะ”

“ห้องนอน? กำลังจะนอนอยู่แล้วแต่มาทานชาร้อนไม่น่าจะดีมั้งคะ รับเป็นน้ำเปล่าสักแก้วแทนดีกว่าไหม”

“หึ เอาชานั่นแหละถูกแล้วเพราะฉันยังไม่ได้จะนอน”

“งั้นเหรอคะ...งั้นยังไงคุณลูคัสเข้าไปนอนในห้องก่อนดีกว่า เดี๋ยวฉันเอาชาร้อนเข้าไปเสิร์ฟค่ะ”

“โอเค.... ตามมาเร็วๆล่ะ”

ลูคัสว่าทิ้งท้ายไว้อย่างนั้นก่อนที่จะเดินขึ้นชั้นสองของคฤหาสน์ไป ส่วนเอมิกาก็เดินไปที่ห้องครัวเพื่อจะเตรียมชงชาร้อนขึ้นเสิร์ฟให้กับผู้เป็นเจ้านาย

“เฮ้อ จะต้องเหนื่อยไปอีกสักเท่าไหร่เนี่ยตัวฉัน ทำงานตัวเป็นเกลียวก็ยังไม่สบายสักที มีทางลัดไหนมั้ยนะที่จะทำให้ฉันสบายมากกว่านี้!”

คนตัวเล็กได้แต่บ่นกับตัวเองพร้อมทั้งยังชงชาในแก้วไปด้วย หวังว่าสักวันคงจะมีวันที่เอมิกาไม่ต้องลำบากอีกต่อไป...

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel