PART_3 นางร้าย
ฉันมองหน้าจอด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ เพราะอะไรฉันถึงทำเหมือนไม่ชอบขี้หน้ายัยอายตาหน่ะเหรอ เพราะนางเป็นนางมารร้ายยังไงหล่ะ เห็นฉันร้ายแบบนี้นะ จริงๆแล้วฉันสู้ยัยอายไม่ได้เลย
(ไม่คิดจะชวนเลยเหรอ)อายตาพ่นเสียงน่ารำคาญออกมาทันทีที่ฉันกดรับสาย ฉันหล่ะเบื่อน้ำเสียงนี้จริงๆเลย
" ก็เห็นไปทานข้าวกับครอบครัว" ฉันตอบไปด้วยน้ำเสียงปกติ ที่ฉันรู้การเคลื่อนไหวของนาง ไม่ใช่ว่าตามติดชีวิตนางหรอกนะ แค่เลื่อนไปเจอโพสต์ที่นางเช็คอินที่ร้านอาหารกับครอบครัวพอดี
(ก็ไม่ได้ไปกินนานขนาดนั้นป่ะ?)นางกระแนะกระแหนด้วยน้ำเสียงน่ารำคาญ
" บาร์ร็อค จะมาก็รีบมา " ฉันบอกไปให้จบๆ จะมาก็มา ถ้าไม่มาก็ยิ่งดี
(เธอนั่นแหละมาหาฉัน เพราะฉันมีเรื่องให้เธอช่วย)
ช่วยอย่างนั้นเหรอ ฉันรู้สึกว่ามันเป็นคำสั่งมากกว่าขอความช่วยเหลือนะ
" จะให้ฉันทิ้งยัยพีชไปหรือไง "
(ทูไนท์ วีไอพี1 รีบมาหล่ะ)
นางตัดสายทันทีที่พูดจบ เหอะ! โคตรเอาแต่ใจ!
.
.
@ TWO NIGHT CLUB
ฉันเดินเข้ามาในทูไนท์ด้วยท่าทางไม่สบอารมณ์ เพราะฉันเป็นคนที่เกลียดการโดยบังคับเอามากๆ แต่ที่ฉันต้องมาตามคำสั่งของนาง เพราะนางกุมความลับบางอย่างของฉันไว้ จริงๆแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องของฉันโดยตรงหรอกนะ มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวฉันมากกว่า เล่าแบบง่ายๆ แต่ได้ใจความละกันนะ
ตอนนั้นครอบครัวของฉันมีปัญหาเรื่องเงิน พ่อของฉันเอาเงินบริษัทไปเล่นหุ้น และก็ขาดทุนจนไม่มีเงินหมุนบริษัท จนบริษัทเกือบจะโดนยึด แต่พอของฉันก็ยอมให้เป็นอย่างนั้นไม่ได้ ท่านจึงตัดสินใจไปขอยืมเงินเพื่อนสนิทที่เป็นพ่อของอายตา ซึ่งเป็นเงินจำนวนมาก มากจนท่านหาเงินไปคืนไม่ได้ และเป็นเหตุผลที่ทำให้ท่านหนีไป และเป็นเหตุผลที่ฉันต้องยอมให้อายตากดขี่ เพราะฉันไม่อยากโดนบลูลี่ ทุกคนคงจะรู้ว่ามหาลัยที่เรียนเป็นมหลัยชื่อดังที่มีแต่ลูกคนรวยไปเรียน และเป็นพวกที่ชอบกดขี่คนที่ด้อยกว่า ซึ่งฉันไม่ยอมโดนมองด้วยสายตารังเกียจแน่นอน
พรึบ!
ฉันนั่งลงที่ว่างตรงข้ามยัยอายที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว แล้วนางก็สั่งเครื่องดื่มมาแล้วด้วย ท่าจะให้เดาคงไม่พ้นมีปัญหากับว่าที่คู่หมั้นแน่ๆ ลืมบอกไปว่านางมีคู่หมั่นแล้ว แต่หมอนั่นเป็นผู้ชายที่โคตรจะไม่แคร์ใคร รวมถึงคู่หมั้นด้วย พูดแล้วก็สงสารนางอยู่เหมือนเดิมนะ
" ตกลงมีเรื่องอะไร " ฉันเข้าเรื่องทันที
" รีบเหรอ ดื่มก่อนสิ " แต่ยัยอายกลับสั่งเด็กเสริฟชงเหล้าให้ฉันแทน คงต้องดื่มสินะ!
เรานั่งดื่มสักพัก ก่อนที่ยัยอายจะเริ่มพูดเรื่องที่นางจะให้ช่วย ซึ่งเป็นเรื่องที่ฉันโคตรจะเบื่อเลย
" ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ " ฉันถามออกไปด้วยท่าทางไม่เห็นด้วยสักเท่าไหร่ ก็นางจะให้ฉันเอายาปลุกเซ็กส์ให้ยัยเด็กเรียนกิน แบบนี้มันฆ่ากันทางอ้อมชัดๆ เพราะถ้าเรื่องนี้ไปถึงหูพอตเตอร์ ที่เรียนมา4ปี คงศูนย์เปล่าแน่ๆ
ต้องบอกก่อนว่าพอตเตอร์คือคู่หมั้นของยัยอาย และเป็นว่าที่เจ้าของมหาลัยที่ฉันเรียนอยู่ เรียกง่ายๆว่าลูกชายเจ้าของมหาลัยนั่นแหละ ก็อย่างที่บอกว่าหมอนั่นเป็นคนที่ไม่แคร์ใคร แต่ก็น่าแปลกใจที่หมอนั่นแคร์ยัยเด็กเรียนมากๆ มากจนถอนหมั้นยัยอายที่โคตรจะเหมาะสมกัน (เรื่องฐานะอะนะ) แล้วถ้าหมอนั่นจับได้ว่าฉันวางยาผู้หญิงของเขา ฉันต้องโดนไล่ออกแน่ๆ
" จะไม่ช่วยเหรอ? "
" ก็อยากช่วย แต่เรื่องนี้มันร้ายแรงไป " ถึงขั้นวางยาปลุกเซ็กส์เพื่อให้นางคลั่งไปมีอะไรกับคนอื่น มันไม่เลวไปหน่อยเหรอ ถึงฉันจะร้าย แต่ฉันก็ไม่เคยคิดจะทำอะไรเลวๆแบบนั้นหรอกนะ ยอมในความร้ายกาจของนางจริงๆ
" ถือซะว่าเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะไม่ได้เจอกันอีกก็แล้วกัน เพื่อนรัก! "
หึ! ถ้าจะกระแนะกระแหนกันขนาดนี้ คงจะปฏิเสธไม่ได้แล้วสินะ เพราะฉันรู้ความร้ายกาจของนางดี
.
.
เวลาต่อมา...
" ปายยย..หายัยพีชที่บาร์ร็อกกัน ฉ้านนน..เลี้ยงเอง! " ยัยอายพูดออกมาเสียงยานตามสไตล์คนเมาที่ไม่ดูสภาพตัวเอง ขนาดเดินยังต้องให้ฉันช่วยประคองเลย ยังจะอวดเก่งไปต่ออีก เฮ้อ..ไม่รู้จะดื่มอะไรนักหนา
" เที่ยงคืนแล้ว จะไปทำไม " ฉันบอกไปพร้อมกับเปิดประตูรถของฉัน ดูสภาพนางแล้ว สงสัยต้องไปส่ง
ปัง!
ฉันปิดประตูรถก่อนจะเดินอ้อมไปยังฝั่งคนขับ บางคนอาจจะสงสัยว่าทำไมฉันต้องดูแลนาง ทั้งๆที่นางกดขี่ฉัน ไม่รู้สิ! คงเป็นเพราะฉันสงสารนางมั้ง ถ้าตัดเรื่องที่นางชอบเอาเรื่องนั้นมาขู่ฉันออกไป นางก็เป็นเพื่อนที่ดีนหนึ่งเลยหล่ะ แต่ก็ติดตรงเอาแต่ใจอยู่ดี งงป่ะ? ฉันก็งงเหมือนกัน หรือว่าฉันก็เมา เหอะ!
" ไปบ้านหรือคอนโด " ฉันหันไปถามคนเมาที่คอพับคอเหวี่ยงอยู่เบาะข้างๆ
" ปายยย..บาร์ร็อค "
เหอะ! สภาพนี้เหรอจะไปบาร์ร็อค ถ้าไปสภาพนี้ มีหวังโดนผู้ชายหิ้วไปสอยแน่ๆ
" ไปคอนโดละกัน! " ฉันสรุปให้เอง เพราะฉันขี้เกียจตอบคำถามของพ่อแม่นาง
...
" ม๊ายกลับคอนโด! " ยัยอายพรึมพรำออกมาตลอดทาง จนฉันต้องหอบนางกลับมาที่บ้านด้วย เพราะว่านอกจากจะไม่กลับคอนโดแล้ว นางยังไมากลับบ้านอีกด้วย อะไรก็ไม่รู้!
" ลงมาได้แล้ว " ฉันเหมือนคนรับใช้ขึ้นไปทุกวัน เพราะตอนนี้ฉันกำลังเปิดประตูรถให้นาง และดูท่าทางจะต้องประคองกันเข้าบ้านอีกด้วย
" ที่ไหนเหรอ? " ยัยอายถามขึ้นมาด้วยท่าทางสงสัย นี่เมาคนเพี้ยนเลยเหรอ
" บ้านฉันเอง ทำอย่างกับไม่เคยมา " ฉันมองบนกับสภาพของยัยอาย แล้วค่อยๆประคองกันมาตามทางเดิน อย่างทุลักทุเล เพราะฉันเองก็รู้สึกมึนๆหัวขึ้นมาแล้ว
" ให้ช่วยป่ะ? "
แต่แล้วก็มีเสียงใครบางคนดังขึ้นมา ฉันไม่ต้องมองดู ก็รู้ว่าเจ้าของเสียงคือใคร
" ถอยไปเลย! " ฉันบอกไปเมื่อรู้ว่าหมอนั่นกำลังคิดอะไรอยู่
" ใครเหรอ? หล่อจัง! " ยัยอายถามออกมาด้วยน้ำเสียงยั่วยวน เหอะ! หล่อแต่ร้าย ทางที่ดีไม่ควรเข้าใกล้
" ให้พี่ช่วยมั๊ยครับ พี่เป็นพี่ชายทิชา "
เหอะ! พี่ชายอย่างนั้นเหรอ ดูสายตาก็รู้ว่าหมอนี่กำลังมีแผนอะไรบางอย่าง
" ค่ะ " ยัยอายก็ร้ายไม่เบา เมาแล้วเป็นแบบนี้ตลอด เห็นผู้ชายหล่อไม่ได้
..ดูจากสายตาของทั้งคู่แล้ว ฉันคงพูดอะไรไม่ได้แล้วสินะ เพราะเสือกับสิงห์มันร้ายพอกัน